เมื่อประกอบเข้าด้วยกันกับบทสนทนาระหว่างฉินเฟิงกับไป๋หลีก่อนหน้านี้ ที่คงโบะได้ยินชัดทุกประโยคทุกถ้อยคำ ผ่านสองหูของเขา
เมื่อกี้ … ฉินเฟิงกับไป๋หลีพูดว่า พวกเขาเพิ่งฆ่าชินระไป …
และชื่อนี้ คงโบะไม่มีทางฟังผิดไปแน่ๆ!
เพราะนั่นคือชื่อของฝันร้ายในลุ่มน้ำตู่ซาน เป็นตัวตนทรงพลังในเลเวล A ผู้นำกองกำลังมืดที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่ง
“เรื่องราวมันจะเป็นยังไงก็ช่าง ขอแค่ไปตรวจสอบในภายหลัง เดี๋ยวก็รู้เอง”
คงโบะบ่นพึมพำ กวาดตามองหลุมลึกเบื้องหน้า ก่อนจะหันหลังกลับไป
…
ทางฝั่งฉินเฟิง เขาไม่ได้ค้นพบการดำรงอยู่ของคงโบะ ช่วงเวลาที่ปลดปล่อยพลังสมาธิ ฉินเฟิงกวาดมันไปยังทิศทางของไป๋หลี มิได้มุ่งไปทางคงโบะที่อยู่เบื้องหลัง
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่คงโบะจะกลายเป็นตัวตนทรงพลังเลเวล A ในอนาคต ดังนั้นครอบครองทักษะลับที่สามารถกลบซ่อนกลิ่นอาย บวกกับเรื่องที่ฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บ ในใจของไป๋หลีเลยไม่มีเวลาไปสนใจสิ่งอื่น
เฝ้ารอจนกระทั่งไป๋หลีกับฉินเฟิงจากไป คงโบะจึงค่อยตามกลับไปยังเมืองกลางตู่ซาน บุกป่าฝ่าดงแมลงสัตว์ร้ายนับไม่ถ้วน กว่าจะมาถึงอีกที จากช่วงฟ้าสาง ปัจจุบันดวงอาทิตย์ลอยอยู่เหนือหัวพอดี เป็นช่วงเวลาเที่ยงวันแล้ว
ซื่อฉิงเห็นอีกฝ่ายกลับมา ก็เร่งสอบถาม “ในพื้นที่เตือนภัยมันเกิดอะไรขึ้น? หลายวันมานี้ฉินเฟิงเก็บกวาดเขตรอบๆเมืองกลางตู่ซาน ทำให้พวกแมลงเชื่องลงมาก แต่วันนี้จู่ๆโดรนสังเกตการณ์ก็ถ่ายภาพฝูงกองทัพแมลงกำลังอพยพเข้ามา เหตุการณ์นี้ใช่เกี่ยวข้องกับสัญญาณเตือนภัยรึเปล่า?”
นี่ไม่ต่างจากวลี ดึงผมเส้นเดียวสะเทือนทั้งร่าง กระทั่งตัวคงโบะเองยังสัมผัสได้ถึงพลังงานอันน่าหวาดกลัว รวมไปถึงแรงกดดันมหาศาล ปล่องลึกที่เห็นกับตาเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ ดังนั้นรังแมลงรอบๆจะเกิดความตื่นตระหนกก็ไม่แปลก บางจำพวกถึงขั้นย้ายรัง จึงรวมตัวกันเป็นกองทัพแมลง จากเดิมอาศัยอยู่รอบนอก ผลักดันลึกเข้ามาในเขตใกล้ๆกับตู่ซาน จนเกิดความวุ่นวายขึ้นโดยรอบ
คงโบะพอได้ยินคำพูดของซื่อฉิง ก็คล้ายนึกอะไรบางอย่างออกในหัวใจ อ้าปากเอ่ยถามว่า “แล้วฉินเฟิงล่ะ? วันนี้เขาไม่ออกไปล่าสัตว์ร้ายหรอ”
ฉินเฟิงออกล่าแมลงสัตว์ร้ายทุกวัน จากนั้นก็ส่งบันทึกการต่อสู้ในรุ่งเช้าวันถัดไป นี่กลายเป็นฉากที่ทุกคนเห็นจนชินชาแล้ว ทุกครั้งที่เขาเข้ามา เขตอันตรายบนแผนที่จะลดลง กระทั่งตอนนี้ ก็ยังมีบางคนเฝ้ารอให้ฉินเฟิงมาส่งภารกิจก่อนออกเดินทาง พวกเขาเตรียมไปเก็บซากเหลือๆจากผลงานของฉินเฟิง มีหลายคนเก็บกู้ซากแมลงที่ฉินเฟิงไม่ได้รวบรวมมา หรือออกล่าสัตว์ร้ายที่บาดเจ็บอ่อนแอจากฝีมือฉินเฟิง ได้รับสินสงครามมาอย่างง่ายดาย ฯลฯ
กล่าวได้ว่าหากฉินเฟิงได้กินเนื้อ เช่นนั้นพวกเขาก็ได้กินซุป คนเหล่านี้เฝ้ารอคอยฉินเฟิงมาจากการล่าด้วยความใจจดใจ่อ
ซื่อฉิงพอถูกถามก็ตอบกลับไป “วันนี้ฉินเฟิงไม่ได้ออกล่านะ แต่เมื่อวานฉันคุยกับเขาแล้ว เขาบอกว่าวันนี้จะหยุดพัก ไม่มีแผนออกไปไหน”
สีหน้าของคงโบะกลายเป็นซับซ้อน ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งมั่นใจในความคิดก่อนหน้านี้ของตัวเอง
“อืม นั่นสินะ คนเรามันก็ต้องการวันพักผ่อนบ้าง งั้นวันนี้พวกเราก็ช่วยกันพยายามเผื่อในส่วนของเขาด้วยก็แล้วกัน ไปออกล่ากันดีกว่า ฤดูหนาวกำลังจะหมดลงแล้ว อาศัยประโยชน์จากช่วงเวลานี้ รีบฆ่าสัตว์ร้าย ไม่ให้คนในเมืองกลางตู่ซานต้องตายเพิ่มขึ้น”
คงโบะเอ่ยออกมาเช่นนั้น ดูเหมือนว่าเขากำลังคิดช่วยฉินเฟิงปกปิดความจริง
เพราะเห็นได้ชัดว่าฉินเฟิงไม่ต้องการให้คนอื่นทราบว่าตนทำอะไร
แต่เรื่องนี้คงโบะก็พอเข้าใจ
เพราะความทรงจำที่คงโบะมีต่อฉินเฟิง กระทั่งตัวเขายังรู้สึกว่าฉินเฟิงเป็นคนที่น่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง
เป็นเลเวล C แต่กล้าท้าทายเลเวล A ? เหตุการณ์ที่กระทั่งในเทพนิยายก็ยังไม่เคยบอกเล่าเรื่องราวมาก่อน
คงโบะเองก็บังเกิดความสงสัยเช่นกัน ว่าฉินเฟิงน่าจะปิดซ่อนความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้
สำหรับฉินเฟิง หากต้องการสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง เขาคงบอกว่าตัวเองสังหารชินระไปแล้ว แต่หากต้องการปกปิดตัวเอง เขาจะไม่เอ่ยถึงเรื่องนั้น อย่างไรก็ตาม คงโบะมิได้เอ่ยเรื่องเหล่านี้ออกไป
ตอนนี้เขาตัดสินใจที่จะเงียบ
…
หลังพักผ่อนเป็นเวลาหนึ่งวันเต็ม ฉินเฟิงก็เข้าร่วมภารกิจอีกครั้ง และไม่มีใครเลยที่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของฉินเฟิง
พื้นที่อันตรายสีม่วงบนแผนที่ ก็ค่อยๆเปลี่ยนสีไป สำหรับพื้นที่เหล่านี้ ยิ่งมีขนาดใหญ่มากก็อันตรายมาก บางทีในเขตเดียว อาจมีรังแมลงถึงหลายรัง ดังนั้นจำเป็นต้องกวาดล้างซ้ำๆ เป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างซับซ้อน
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การออกล่าแมลงสัตว์ร้ายของฉินเฟิง รังแมลงยังคงถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่อง
วันเวลาผ่านไปราวกับชั่วพริบตา ฉินเฟิงอยู่ในเมืองกลางตู่ซานมาครบหนึ่งเดือนแล้ว!
ภายในตึกผู้ใช้พลัง เช้าวันถัดมา
【ติ๊งต่อง! สถานการณ์รบในพื้นที่เขต 21 เกิดการเปลี่ยนแปลง】
【ภารกิจปราบปรามรังแมลงประสบผลสำเร็จ : ผู้บรรลุภารกิจ ผู้ใช้พลังเลเวล C ฉินเฟิง】
【ภารกิจปราบปราบมังกรดินระดับจักรพรรดิสัตว์ร้าย เลเวล C8 ประสบผลสำเร็จ : ผู้บรรลุภารกิจ ผู้ใช้พลังเลเวล C ไป๋หลี!】
เสียงประกาศดังก้อง สะท้อนในห้องโถงผู้ใช้พลัง แม้เสียงนี้จะดังทุกวันต่อเนื่องเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือน แต่สำหรับหลายๆคน ทุกครั้งที่ได้ยินมัน ยังอดทอดถอนหายใจไม่ได้
“พวกเขาล่ามาได้อีกหนึ่งแล้ว”
“แถมคราวนี้ยังเป็นเลเวล C8 เด็กที่ชื่อไป๋หลีนั่น ทรงพลังถึงขนาดนี้ได้ยังไงกัน”
“แข็งแกร่งแบบนี้ ทำไมถึงยังติดตราผู้ใช้พลังเลเวล C อยู่อีก? นี่เธอใช่กำลังเยาะเย้ยพวกเรารึเปล่า?”
ผู้คนบังเกิดความสงสัยเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของไป๋หลี ต่างพากันถอนหายใจ
ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงในตอนนี้ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ยังไม่ได้จากไป พนักงานหญิงที่เคยตรวจบันทึกสงครามแก่เขาในวันแรก คนที่คิดทิ้งเบอร์ติดต่อให้ฉินเฟิง ขณะนี้หญิงสาวกำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยความรักและชื่นชมอย่างแท้จริง
แต่น่าเสียดายที่มีไป๋หลียืนอยู่ข้างๆ เธอเลยไม่กล้าแสดงออกมากจนเกินไป
ยังไงก็ตาม คำพูดต่อมาของฉินเฟิง ทำให้เธอต้องร้องอุทานอย่างไม่ตั้งใจ
“อะไรนะ? มิสเตอร์ฉิน คุณต้องการถอนตัวภารกิจกำลังเสริมงั้นหรอ? คุณจะจากไปแล้ว?”
‘ภารกิจกำลังเสริม’ หากยังจำกันได้ มันคือภารกิจที่ซางฮันส่งฉินเฟิงมาสนับสนุนการต่อสู้ในลุ่มน้ำตู่ซานเป็นเวลาหนึ่งเดือน และวันนี้มันได้ครบกำหนดเวลาแล้ว
ตามข้อตกลง หลังถอนตัวจากภารกิจกำลังเสริม ทางพันธมิตรมนุษย์จะมอบรางวัลจำนวนหนึ่งให้แก่ฉินเฟิง ซึ่งคำนวณจากเวลาปฏิบัติภารกิจ เช่นเดียวกับในตอนที่ซื่อฉิงไปเป็นกำลังเสริมที่หลงฉวน
แน่นอน ว่าเงินรางวัลของฉินเฟิงไม่มากนัก เนื่องจากวิธีการคำนวณมันจะแบ่งชั้นตามระดับความแข็งแกร่ง ฉินเฟิงลงทะเบียนในเลเวล C ดังนั้นจะได้รับเงินตามมาตรฐานของเลเวล C
อย่างไรก็ตาม ซางฮันได้ตั้งมาตรฐานใหม่ ว่าหากฉินเฟิงสามารถทำลายสองรังสัตว์ร้ายได้ภายในหนึ่งเดือน เขาจะได้รับความดีความชอบเช่นเดียวกับมาตรฐานของพวกเลเวล B
ซึ่งผลงานปัจจุบันของฉินเฟิงในตอนนี้ มันมากกว่าที่กล่าวมาข้างต้นถึงสิบเท่า
ดังนั้นจึงได้รับรางวัลอย่างงาม
แต่สำหรับฉินเฟิง เม็ดเงินพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสนใจ การที่เขามารายงานภารกิจทุกวัน ก็เพื่อมีหลักฐานไปอธิบายให้ซางฮันฟัง ว่าตนทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายจริงๆ
ฝั่งพนักงานตรวจสอบ เมื่อได้ยินจากปากว่าฉินเฟิงคิดถอนตัว ก็ย่อมทราบว่าฉินเฟิงกำลังจะจากไป เพราะตราบใดที่คุณไม่เอ่ยปากว่าถอนตัว ต่อให้วันนั้นไม่ทำอะไรแต่ก็ยังได้เงินรางวัลจากทางพันธมิตรมนุษย์อยู่ดี
แต่ตอนนี้ มันได้สิ้นสุดลงแล้ว
ฉินเฟิงไม่คิดปกปิด “อ่า ภารกิจกำลังเสริมที่จ้าวพรมแดนมอบหมายให้ผม มันครบกำหนดเวลาแล้ว”
ประโยคนี้ ดั่งหินก้อนใหญ่ถูกขว้างลงในทะเลสาบ บทสนทนาระหว่างทั้งสองดึงดูดผู้คนรอบข้าง ทั้งหมดหูผึ่งตั้งใจฟัง พอได้ยินคำตอบของฉินเฟิง ทุกคนหันมามองเขาโดยไม่รู้ตัว บางคนที่เดิมกำลังคิดออกล่า ต่างหยุดฝีเท้าลง
พวกเขาทั้งหมดต้องการจะถามฉินเฟิงว่าทำไมเขาถึงต้องจากไปตอนนี้
ท่ามกลางฝูงชน เจียงป๋อซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นคนออกไปรับฉินเฟิง พอได้ยินข่าว ก็เร่งวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองทันที ไม่นาน เลเวล B ที่ทั้งรู้จักและไม่รู้จักกับฉินเฟิงเป็นการส่วนตัวก็ทยอยกันลงมา
เมื่อฉินเฟิงยืนกรานหนักแน่น พนักงานหญิงก็ไม่กล้าฝืนยื้อไว้อีก กดถอนตัวจากภารกิจ และมอบรางวัลเพิ่มเติมให้เขา
“ฉินเฟิง นายจะไปแล้วหรอ? แต่ฤดูหนาวยังเหลืออีกตั้งครึ่งเดือนนะ” ซื่อฉิงเร่งถาม
ฉินเฟิงเองก็คิดว่าที่นี่ก็ดี เต็มไปด้วยแมลงให้สังหาร เหมาะสำหรับการล่า ปัจจุบันเขาใกล้ยกระดับสู่เลเวล C7 แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในหัวใจของฉินเฟิงทราบดี ว่ามีสถานที่และโอกาสที่ดียิ่งกว่านี้ กำลังเฝ้ารอเขาอยู่!