ตอนที่ 1145 ผลตอบรับจากผู้ชม
……….
ตอนที่ 1145 ผลตอบรับจากผู้ชม
ก่อนเปิดตัวลูกชิ้นเนื้อเด้งผลิตภัณฑ์ใหม่ของหลินม่าย ดูเหมือนว่าอาหารอื่น ๆ เช่น ถั่วเขียวและถั่วเหลืองจะได้รับความนิยมเป็นอันดับแรก
เนื่องจากการปรุงลูกชิ้นเด้งต้องใช้ถั่วงอกหรือต้นอ่อนถั่วเหลือง ซึ่งทำมาจากถั่วเขียวและถั่วเหลือง
ผู้ชมชาวตะวันตกสนใจรายการอาหารของหลินม่ายต่างก็หาซื้อถั่วเขียวและถั่วเหลืองมาเพื่อปลูกถั่วงอก จนอุปทานของถั่วเขียวหรือถั่วเหลืองในซูเปอร์มาร์เก็ตมีมากเกินไปในขณะหนึ่ง
หลินม่ายถอนหายใจอย่างเศร้า ๆ เธอควรจะเตรียมการก่อนหน้านี้และขอให้ใครสักคนนำถั่วเขียวหรือถั่วเหลืองจากประเทศจีนมาขายในสหรัฐอเมริกา เพื่อทำรายได้อย่างรวดเร็ว
เสียดายที่ไม่ได้รับโอกาสนี้
เมื่อนำถั่วเหลืองและถั่วเขียวออกจำหน่ายในขณะนี้ ผู้ชมชาวตะวันตกได้หมดความสนใจในการปลูกถั่วงอกแล้ว และมีคนไม่มากที่ซื้อมัน
หลินม่ายไม่ได้คาดคิดว่า รายการอาหารของเธอจะมีประสิทธิภาพเท่ากับการถ่ายทอดสดในชีวิตก่อนของเธอ
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ครั้งหนึ่งเคยมีคนทำยอดขายทะลุ 700 ล้านใน 14 ชั่วโมงระหว่างการถ่ายทอดสด
ในชีวิตที่แล้ว หลินม่ายคิดว่ามันไม่น่าเชื่อ แต่กลับกลายเป็นว่ามันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด
จากนั้นเธอก็ต้องคิดให้รอบคอบว่าจะใช้งานรายการอาหารให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร
ตัวอย่างเช่น เมื่อถ่ายทำเทปรายการ เธอสามารถใช้รายการอาหารเป็นเวทีในการโปรโมตแบรนด์เครื่องประดับไป๋เหอของเธอเอง
หลังจากจัดรายการอาหารสามรายการติดต่อกันและเพิ่มเนื้อหาม็อกบังห้าถึงสิบนาทีในช่วงท้าย จำนวนผู้ชมรายการของหลินม่ายก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีฐานแฟนคลับเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่า อาหารใดก็ตามที่เธอทำในรายการล้วนได้รับความนิยม
เธอไม่ได้ขายอาหารอันโอชะทุกอย่างในร้านอาหารของตัวเอง สำหรับอาหารที่ทำด้วยมือและมีความท้าทายทางเทคนิค เธอเลือกที่จะไม่นำมาขายที่ร้าน
เช่น พายไส้ไข่ เธอจะหาผู้เชี่ยวชาญการทำพายไส้ไข่ได้มากมายขนาดนั้นจากที่ไหน!
แม้เธอจะไม่ได้ขายพายไส้ไข่ของตัวเอง แต่ร้านขนมที่ขายพายไส้ไข่ต่างก็ได้รับผลประโยชน์จากอิทธิพลของเธอ และรู้สึกขอบคุณเธอมาก
เมื่อเห็นว่าถึงเวลาแล้ว หลินม่ายวางแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์หลู่ไช่รสเข้มข้น
ทีมงานทุกคนของรายการอาหารแนะนำเธอว่าอย่าหุนหันพลันแล่น เพราะเกรงว่าเธอจะทำเรตติ้งให้ร่วงกลับมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
แต่หลินม่ายยืนกรานที่จะทำตามแผนการตัวเอง ทีมงานทุกคนจึงต้องยอม ท้ายที่สุดเธอก็เป็นราชินีแห่งเรตติ้ง
มันเป็นช่วงกลางเดือนธันวาคมแล้ว ซึ่งใกล้จะถึงงานแต่งงานของเหมยซือและอาผู่มากขึ้นเรื่อย ๆ
อาผู่ยังคงเป็นปกติเมื่อมาทำงานที่บริษัท แต่เมื่อกลับถึงบ้าน เขามักจะหงุดหงิดและโกรธง่ายเสมอ
เขารู้ว่านี่เป็นสิ่งไม่ดี แต่เขาควบคุมตัวเองไม่ได้
ในการถ่ายทำรายการครั้งนี้ หลินม่ายจะแนะนำผลิตภัณฑ์หลู่ไช่ เช่น ตีนหมู หางหมู หูหมู เครื่องในหมู และผ้าขี้ริ้ว เพื่อหวังให้เป็นที่ยอมรับในชาวตะวันตกมากขึ้น
ขณะที่หลินม่ายกำลังเตรียมการ เชฟผิวขาวสองคนจากครอบครัวก็เข้ามาดู
นอกจากนี้เขายังแสดงความคิดเห็นของตัวเองเป็นครั้งคราว “คุณทำอาหารอร่อย ๆ โดยใช้วัตถุดิบที่แม้แต่สุนัขก็ไม่กินได้จริงหรือ?”
ทันทีที่พวกเขาพูดจบ อาหวงและหวางไฉก็เห่าใส่พวกเขา เพื่อบ่งบอกว่าพวกมันหิวแล้ว
ผู้กำกับขอให้ช่างภาพบันทึกฉากทั้งหมดที่เกิดขึ้น ต่อให้เวทีของหลินม่ายพังทลาย แต่มันก็สามารถเพิ่มเรตติ้งให้สูงขึ้น
ผู้กำกับยังทำงานอย่างหนักเพื่อเรตติ้งอีกด้วย
แต่เมื่อส่วนผสมเข้าสู่ขั้นตอนการหมัก ยิ่งเวลาผ่านไป ทีมงานที่อยู่ในปัจจุบันก็เริ่มอยู่ไม่สุข
ผลิตภัณฑ์หลู่ไช่มีกลิ่นหอมมากจนทำให้น้ำลายไหล
ต่อมาได้ยินเสียงกลืนน้ำลายทีละคน
ในที่สุดหลังจากที่ได้ยินหลินม่ายประกาศว่าน้ำตุ๋นพร้อมแล้ว ทีมงานทุกคนก็เริ่มตื่นเต้น
นั่นหมายความว่าจะได้ลิ้มลองอาหารเร็ว ๆ นี้
ก่อนที่หลินม่ายจะสับตีนเป็ดตุ๋นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทันใดนั้นใครบางคนก็หยิบตีนเป็ดตุ๋นขึ้นมาแล้วแทะมันอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่สนใจว่าจะถูกลวกหรือไม่
คนอื่น ๆ ต่างลังเลในตอนแรก แต่เมื่อเห็นชายคนนั้นกำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย พวกเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปและรีบคว้าหลู่ไช่มาแทะกิน ก่อนพบว่ามันอร่อยมาก!
หลินม่ายไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากหั่นเครื่องในหมู เครื่องในเนื้อ และหูหมูเป็นชิ้นๆ
ใส่ผักชี กระเทียมสับ ผสมให้เข้ากันเพื่อชูกลิ่นหอมให้มากขึ้น
หลังกินตีนเป็ดเสร็จ ทีมงานของรายการก็กินหลู่ไช่ชนิดอื่นเช่นกระเพาะหมูอย่างเอร็ดอร่อย มันน่าแปลกใจมากที่ไม่มีใครคิดว่าของเหล่านี้น่าขยะแขยง
เชฟผิวขาวสองคนในครอบครัวของหลินม่ายมีท่าทางแข็งทื่อในตอนแรก พวกเขาพูดด้วยสีหน้าเหยียดหยาม “ไม่ว่าอาหารที่ทำด้วยวัตถุดิบคุณภาพต่ำจะมีกลิ่นหอมและอร่อยแค่ไหน ผมก็ไม่มีทางกิน แม้คุณจะทุบตีผมให้ตายก็ตาม”
แต่หลังจากเห็นคนอื่นกินมันด้วยสีหน้ามีความสุข ในที่สุดพวกเขาก็ลองตักขึ้นมากิน ก่อนจะลงมือกินอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าใคร ๆ!
ในช่วงครึ่งแรกของรายการอาหาร ผู้ชมจำนวนมากโทรมาบอกว่า คนจีนกินทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหูหมูหรือตีนหมู ซึ่งพวกเขาไม่กล้ากิน และยังแสดงความเหยียดหยามในคำพูดอย่างชัดเจน
หลินม่ายตอบสายเหล่านั้นเป็นการส่วนตัวว่า เพราะคุณปรุงและกินกันไม่เป็นต่างหาก
ในช่วงครึ่งหลังของรายการ ผู้ชมเห็นทุกคนจ้องมองหลู่ไช่ของหลินม่ายด้วยความกระตือรือร้น มันทำให้ผู้คนสงสัยว่า เมื่อตุ๋นแล้วของเหล่านั้นจะอร่อยได้จริงเหรอ?
พอออกอากาศถึงช่วงม็อกบัง แม้คนดูจะโทรเข้ามาน้อยลง แต่เรตติ้งก็เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม
ทีมงานรายการทุกคนต่างก็มีความสุข ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม หากเรตติ้งสูงขึ้นล้วนเป็นเรื่องดี
สีแดงอมดำ สุดท้ายก็เป็นสีแดงอยู่ดี
เช้าวันรุ่งขึ้น มีข่าวดีมาจากร้านหลู่ไช่ทั้งหมด
การโปรโมตอาหารตะวันออกที่เรียกว่าหลู่ไช่รสเข้มข้นของหลินม่ายกลายเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ลูกค้าชาวตะวันตก
โชคดีที่หลินม่ายได้เตรียมอาหารไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดี ดังนั้นหลู่ไช่เหล่านี้จึงมีเพียงพอต่ออุปทาน
ก่อนวันคริสต์มาส หลินม่ายไม่ทำหลู่ไช่ชนิดอื่นให้ผู้ชมชาวตะวันตกชมอีก
เรื่องค่อยเป็นค่อยไป เพราะกลัวว่าจะเกิดปฏิกิริยาเชิงลบ
การส่งออกอาหารจีนไม่สามารถทำได้ภายในหนึ่งหรือสองวัน คุณต้องใช้เวลา
เมื่อเห็นว่าคริสต์มาสกำลังจะมาถึง หลินม่ายจึงคิดว่าจะสอนวิธีทำลูกชิ้นไข่มุกให้ทุกคน
ลูกชิ้นไข่มุกทำง่าย กินอร่อย และได้รับการยอมรับจากชาวตะวันตกอย่างง่ายดาย
หลินม่ายทำลูกชิ้นไข่มุกสองแบบ แบบไส้หมู และแบบไส้เนื้อ
ในวันคริสต์มาส อาผู่และเหมยซือก็เข้าพิธีวิวาห์ พวกเขาส่งคำเชิญไปยังเพื่อนร่วมงานทุกคน รวมถึงหลินม่าย
หลิน่มายและฟางจั๋วหรานไปร่วมงานแต่งงานของพวกเขาด้วยกัน
หลินม่ายมอบต่างหูมุกแก่เจ้าสาว ซึ่งทำให้เจ้าสาวมีความสุขมาก
ขณะที่รับชมพิธีการ หลินม่ายได้ยินบาทหลวงถามคู่บ่าวสาวทั้งสองว่ายินดีเป็นสามีภรรยากันหรือไม่ สัญญาว่าจะรัก เคารพ ปกป้องซึ่งกันและกัน และจะภักดีต่อกันจนวาระสุดท้ายของชีวิต ไม่ว่าพวกเขาจะป่วยหรือสุขภาพดี รวยหรือจน
หลินม่ายถามฟางจั๋วหรานเสียงเบา “คุณยินดีไหมคะ?”
ฟางจั๋วหรานจับมือของเธอขึ้นมาจูบและตอบกลับเสียงเบา “ผมยินดี”
หลังจากเทศกาลคริสต์มาสอันสนุกสนาน ข่าวร้ายก็มาถึงสถานีโทรทัศน์ที่หลินม่ายทำงานอยู่ นั่นก็คือสถานีโทรทัศน์เล็ก ๆ ของพวกเขาถูกซื้อกิจการโดยสถานีโทรทัศน์ขนาดใหญ่
ผู้อำนวยการสถานีกล่าวว่า ผู้ที่ยินดีอยู่ทำงานก็สามารถอยู่ต่อได้ และผู้ที่ต้องการออกก็จะได้รับสวัสดิการการว่างงาน
หลินม่ายบอกว่า ตราบใดที่รายการของเธอยังคงอยู่ เธอจะไม่ออก หากรายการถูกยกเลิก เธอจะหาสถานีโทรทัศน์อื่นที่ต้องการร่วมมือและส่งออกอาหารจีน
สองวันต่อมา ผู้อำนวยการคนใหม่โทรหาหลินม่ายและบอกว่ารายการของเธอจะไม่ถูกยกเลิก ทว่าขณะนี้มีเรื่องให้ปวดหัวที่ต้องขอความร่วมมือจากเธอ
หลินม่ายถามว่าอยากให้เธอร่วมมือเรื่องอะไร
ผู้อำนวยการสถานีคนใหม่กล่าวว่า “คุณหลิน คุณก็รู้ว่าสถานีโทรทัศน์ที่คุณเคยทำงานมีคุณเป็นพิธีกรรายการอาหาร ส่วนสถานีโทรทัศน์ของเรามีพิธีกรรายการอาหารชื่อกู่อีอวิ๋น หล่อนเป็นคนทำงานเก่งมากเช่นกัน มันยากสำหรับผมมากที่จะต้องเลือกระหว่างคุณสองคน”
เขาหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างลังเล “เอางี้ คุณแข่งขันกับคุณกู่ในรายการเรา โดยแข่งขันกันทั้งหมดสามรายการ ใครชนะจะได้เป็นพิธีกรรายการต่อดีไหม?”
หลินม่ายแอบหัวเราะเยาะในใจ
นายทุนก็คือนายทุน หากพวกเขาต้องการไล่หนึ่งในนั้นออก พวกเขายังต้องมีเกมการแข่งขันสักสองถึงสามเกมเพื่อบีบเอามูลค่าสุดท้ายมาใช้
แต่หลินม่ายไม่ได้รังเกียจ เธอชอบความท้าทาย จึงตอบตกลงทันที
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ในที่สุดก็ขายได้ ของพวกนี้มันต้องรอเวลาที่เหมาะสมน่ะถึงจะปัง
จะให้แข่งขันทำอาหารกันเหรอ
ไหหม่า(海馬)