ตอนที่ 1144 พูดคุยกันกลางดึก
……….
ตอนที่ 1144 พูดคุยกันกลางดึก
หลินม่ายบอกลาทุกคนและกำลังจะแยกตัวออกไป
ทันใดนั้นเหมยซือก็เข้ามาหยุดเธอและถามด้วยความเขินอาย “คุณหนูหลิน คุณช่วยเซ็นชื่อให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?”
หลินม่ายยิ้มอย่างเป็นมิตร “ได้สิคะ”
เหมยซือเผยท่าทางกังวลอย่างแฟนคลับที่พบกับคนที่ตนเองชื่นชม
หล่อนยื่นกล่องอาหารของอาผู่ แล้วรีบค้นกระเป๋าเพื่อหาปากกาและสมุดบันทึก
อาผู่มองเธอจากด้านข้างด้วยความรังเกียจและแทบทนไม่ได้ เมื่อเห็นว่าหล่อนไม่สามารถหาสมุดบันทึกและปากกาเป็นเวลานาน เขาจึงหยิบปากกาและสมุดบันทึกออกจากกระเป๋าเอกสารของตัวเอง แล้วขอให้หลินม่ายเซ็น
เขายังขอโทษเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยบอกว่าเหมยซือก่อปัญหาให้เธอแล้ว
เหมยซือหน้าแดงและรู้สึกเขินอายมาก
หลินม่ายกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แต่ฉันชอบนะคะ”
เหมยซือยิ้มอย่างเขินอาย
ขณะที่คนกลุ่มหนึ่งเดินออกจากสถานีโทรทัศน์ พวกเขาถูกลมหนาวผสมกับฝนและหิมะพัดใส่ จนทำให้รู้สึกหนาวสั่น
ตอนมาก็ยังอากาศดี แต่เมื่อถึงเวลากลับ ฝนผสมหิมะก็เริ่มเทลงมา
หลินม่ายคิดว่าลานจอดรถอยู่ไม่ไกล และเธอคงจะไม่เปียกถ้ารีบวิ่งไปที่นั่น
เธอถอดผ้าพันคอผ้าไหมที่พันรอบคอออก และนำมาพันหัวเหมือนไก่ และกำลังจะรีบฝ่าสายฝนและหิมะไปยังลานจอดรถเพื่อขับรถกลับบ้าน
อาผู่คว้าแขนเสื้อของเธอ ก่อนหยิบร่มออกจากมือเหมยซือและพูดว่า “รีบไปสิครับ อย่าให้โดนฝนเลย ไม่งั้นคุณจะป่วย”
หลินม่ายพลันไม่พอใจ “คุณกลัวว่าฉันจะป่วย แต่ไม่กลัวว่าแฟนตัวเองจะป่วยบ้างเลยหรือไง!”
แม้จะไม่มีใครบอกหลินม่ายว่าเหมยซือคือแฟนสาวของอาผู่ แต่หลินม่ายก็ไม่ได้ตาบอดและสามารถบอกได้ทันที
เธอสะบัดมือของอาผู่ออกด้วยความโกรธและกำลังจะจากไป ทันทีที่เธอหันกลับ เธอก็ชนเข้ากับอ้อมแขนของฟางจั๋วหรานที่มารับเธอหลังเลิกงาน
ฟางจั๋วหรานพูดกับอาผู่อย่างเย็นชา “ผมไม่จำเป็นให้คุณมาดูแลภรรยาของผมหรอก”
หลังจากนั้นเขาก็คลี่ร่มในมือ แล้วจากไปพร้อมกับหลินม่ายในอ้อมแขน
เหมยซือและอาผู่ถือร่มเดินมาที่ลานจอดรถ ก่อนขึ้นไปนั่งบนรถเงียบงัน
ระหว่างทางไม่มีใครพูดสิ่งใด กระทั่งถึงบ้าน ชายหนุ่มจึงเป็นฝ่ายเปิดปากก่อน “เหมยซือ ผมขอโทษ ผมไม่ควรปฏิบัติต่อคุณแบบนั้นเลย”
เหมยซือตอบกลับเสียงสะอื้น “ฉันไม่ตำหนิคุณค่ะ”
ไม่รู้ว่าทำไม แต่สมองส่วนเหตุผลบอกกับเขาว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาและหลินม่ายจะอยู่ด้วยกัน
หากไม่เห็นหน้าอีกฝ่ายคงไม่เป็นไร แต่ทุกครั้งที่เขาเห็นใบหน้าเล็กของหลินม่าย เขาก็หลงใหลมัวเมาในความงามนั้นเสมอ
ค่ำคืนนั้น เขาจึงพยายามกับเรื่องบนเตียงอย่างเต็มที่เพื่อชดเชยให้เหมยซือ
หลังจากสนุกกันสุดเหวี่ยง อาผู่ก็ผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว แต่เหมยซือยังคงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
ในช่วงเวลานี้ หล่อนกับอาผู่มักรู้สึกอึดอัดเมื่ออยู่ด้วยกัน และไม่ได้มีความสุขอย่างสุดเหวี่ยงแบบนี้มานานแล้ว
หล่อนรู้สึกตื่นเต้นอยู่พักหนึ่งก่อนจะหลับไป
แต่ทันใดนั้นหล่อนได้ยินเสียงของอาผู่ที่นอนอยู่ด้านข้างพึมพำ “หลิน ผมชอบคุณ~”
เหมยซือตกตะลึงจนสมองขาวโพลน
หล่อนอึ้งงันไปครู่ใหญ่ กว่าจะกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง
“หลิน” ที่ออกจากปากอาผู่อาจหมายถึงหลินม่ายหรือเปล่า?
หล่อนอยากปลุกอาผู่ขึ้นมาและถามให้ชัดเจน แต่ก็กลัวที่จะได้ยินความจริง
สองวันต่อมา หลินม่ายมาที่สถานีโทรทัศน์เพื่อหารือเกี่ยวกับรายการอาหารครั้งต่อไปกับทีมงานรายการ
หลังจากตัดสินใจเลือกเมนูได้แล้ว หลินม่ายกำลังจะเดินทางออกไป
จู่ ๆ อาผู่ฉุกคิดบางอย่างได้จึงถามว่า “หลิน สามี สามีของคุณจะมีวันหยุดเมื่อไหร่?”
หลินม่ายเข้าใจได้ทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร
เรตติ้งตอนสุดท้ายของรายการสูงมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากฟางจั๋วหราน
รูปลักษณ์ที่หล่อเหลาของเขาดึงดูดผู้ชมผู้หญิงจำนวนมาก
หลังจากการแสดงจบลง ผู้ชมผู้หญิงจำนวนมากโทรติดต่อทีมงานรายการเพื่อถามว่า ฟางจั๋วหรานจะปรากฏในตอนต่อไปอีกหรือไม่
หากฟางจั๋วหรานยังคงปรากฏตัวในรายการ พวกหล่อนจะรอดูรายการอย่างแน่นอน
หลินม่ายไม่อยากให้คนของเธอโด่งดัง เธอจึงปฏิเสธไปอย่างเถรตรง “คุณอยากให้สามีของฉันมาออกรายการอีกหรือคะ? แต่สามีของฉันบอกว่าเขาจะไม่ปรากฏตัวในเทปของรายการอีก”
อาผู่เปิดปากคิดกล่าวคำ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
หากฟางจั๋วหรานเป็นเพียงคนธรรมดา เขาคงสามารถโน้มน้าวอีกฝ่ายด้วยค่าตัวที่สูงลิ่ว
แต่ฟางจั๋วหรานไม่ใช่คนธรรมดา และสิ่งที่เรียกว่าค่าตัวสูงลิ่วอาจไม่คุ้มค่าที่จะพูดถึงในสายตาของชายคนนี้ด้วยซ้ำ
หลินม่ายยังนึกบางอย่างออกและพูดกับอาผู่ว่า “ฉันมีเรื่องเล็กน้อยที่อยากจะคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว”
อาผู่ค่อนข้างประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่หลินม่ายเสนอจะพูดคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว
แต่เมื่อเขาได้ยินเนื้อหาการสนทนาของหลินม่ายที่พูดกับเขาตามลำพัง เขาก็รู้สึกเหมือนกับถูกสายฟ้าฟาดผ่ากลางตัว
หลินม่ายบอกเขาว่า อย่ามาที่บ้านของเธออีกไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม รวมถึงตอนที่บันทึกเทปรายการด้วย
หลังจากนั้นไม่นาน อาผู่กลับมาได้สติอีกครั้งและถามด้วยความกระตือรือร้นว่า “ทำไมถึงห้ามผมไม่ให้ไปที่บ้านของคุณล่ะ? ผมได้ทำเรื่องหยาบคายอะไรในบ้านคุณหรือเปล่า?”
“เปล่าค่ะ” หลินม่ายส่ายหัว “สามีของฉันไม่ชอบคุณ”
อาผู่มองเธออย่างไม่เชื่อสายตา “นั่นคือเหตุผลหรือครับ?”
“ใช่ค่ะ” หลินม่ายพยักหน้ารับ “ฉันใส่ใจความรู้สึกของสามีเป็นอย่างมาก สิ่งใดที่ทำให้เขาไม่มีความสุข ตราบใดที่มันไม่ไร้เหตุผลเกินไป ฉันจะไม่ทำค่ะ”
อาผู่รู้สึกไม่สบายใจ
เขารู้ว่าฟางจั๋วหรานมองออกถึงความคิดไม่ซื่อเวลาที่เขามองหลินม่าย
เมื่อหลินม่ายหันหลังจากไป เหมยซือที่ซ่อนตัวอยู่มุมห้องและแอบฟังอยู่ก็จากไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อทั้งสองเจอกันที่บ้านในตอนเย็น อาผู่จงใจสร้างปัญหาให้เหมยซือ แต่เหมยซือก็กัดฟันอดทน
หล่อนแค่หวังว่าอาผู่จะยอมแพ้ต่อหลินม่าย และกลับมาใช้ชีวิตที่มีความสุขกับหล่อน
ไม่กี่วันต่อมา มันเป็นวันออกอากาศเทปที่สองหลังจากการกลับมาของหลินม่าย
เรตติ้งของรายการอาหารครั้งนี้แข็งแกร่งมากเมื่อเริ่มออกอากาศ
มันคงมาจากอิทธิพลของผู้ชมผู้หญิงที่หมกมุ่นอยู่กับฟางจั๋วหราน แต่เมื่อเห็นว่าฟางจั๋วหรานไม่ได้ปรากฏตัวในรายการ เรตติ้งก็ลดลงอย่างมากหลังการออกอากาศผ่านไปได้เพียงครึ่งทางเท่านั้น
แต่เมื่อเทียบกับรายการอาหารครั้งก่อน ๆ ของเธอ เรตติ้งกลับลดลงจนน่าตกใจมาก
อาผู่กังวลมากจนอยากจับคู่หลินม่ายกับหนุ่มหล่อเพื่อเพิ่มเรตติ้งรายการ แต่เมื่อทดลองออกอากาศ มันกลับไม่มีประโยชน์เลย
ในวันนี้ อาผู่โทรหาหลินม่ายและบอกความต้องการว่า เขาหวังว่าฟางจั๋วหรานจะปรากฏบนหน้าจอเพื่อเพิ่มเรตติ้งของรายการ
หลินม่ายบอกว่าเธอมีวิธี
เมื่ออาผู่ถามว่าวิธีแก้ปัญหาคืออะไร หลินม่ายจึงบอกความคิดของเธอให้เขาฟัง
อาผู่ถามอย่างสงสัย “ม็อกบังเพียงไม่กี่นาทีจะได้ผลเหรอครับ?”
หลินม่ายพูดอย่างใจเย็น “ลองดูก็ไม่เสียหาย”
ในชีวิตชาติก่อน ม็อกบังเป็นที่นิยมมาก และชาตินี้ก็ควรจะโด่งดังไม่ต่างกัน
รายการอาหารครั้งต่อไปเกี่ยวกับการทำลูกชิ้นด้วยวัตถุดิบต่าง ๆ
ในระหว่างการบันทึกเทป หลินม่ายไปที่สวนผักเพื่อเก็บผัก โดยไม่มีฟางจั๋วหรานช่วยเข็นรถเข็นให้
โชคดีที่กระโปรงยาวถึงพื้นปกปิดท่าเดินที่แข็งทื่อของเธอ และไม่สงผลต่อภาพลักษณ์ดั่งนางฟ้าของเธอ
เธอเลือกผัก ล้างให้สะอาด และพักไว้
หลินม่ายเริ่มทำลูกชิ้นเนื้อเด้ง
เรตติ้งตั้งแต่ต้นจนจบถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง และมีการปรับปรุงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามเมื่อหลินม่ายใช้แท่งเหล็กพิเศษทุบเนื้อวัวให้เละ เรตติ้งผู้ชมก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
หลังจากที่ลูกชิ้นปรุงในหม้อเสร็จแล้ว หลินม่ายหยิบลูกชิ้นขึ้นมาหนึ่งลูกแล้วโยนลงบนโต๊ะ จากนั้นทุกคนก็ต้องประหลาดใจที่ลูกชิ้นเนื้อเด้งขึ้นมาจริง ๆ
ผู้ชมชาวตะวันตกที่นั่งหน้าทีวีต่างตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นลูกชิ้นเด้งได้เหมือนกับลูกปิงปอง ซึ่งน่าทึ่งมาก
หลินม่ายทำลูกชิ้นเนื้อเด้งหม้อใหญ่และตักใส่ชามมอบให้กับทีมงานทุกคน
ทีมงานรายการและเชฟผิวขาวสองคนจากครอบครัวของหลินม่ายที่เฝ้าดูอยู่ต่างก็น้ำลายไหลจากข้างสนาม
ในเทปบันทึกภาพ ทุกคนรับถ้วยลูกชิ้นเนื้อเด้งของหลินม่ายและแทบไม่ได้ไหวที่จะลิ้มลอง
ไม่เพียงแค่เด้งได้เท่านั้น แต่พวกมันยังระเบิดน้ำซุปข้างในออกมาราวกับปัสสาวะ
ลูกชิ้นเนื้อเด้งอร่อยมากจนทุกคนกินด้วยสีหน้ามีความสุข
มีคนตะโกนด้วยความประหลาดใจ “พุ่งแล้ว เรตติ้งพุ่งขึ้นอีกแล้ว!”
ผู้คนที่รับชมรายการอยู่หน้าจอโทรทัศน์ต่างก็น้ำลายสอขณะดูม็อกบัง และนั่นเป็นเหตุผลที่เรตติ้งพุ่งสูงขึ้น
มันไม่ได้เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่เป็นการเพิ่มแบบก้าวกระโดดจาก 27% ขึ้นเป็น 37%
ในเวลาเดียวกัน สายด่วนจากผู้ชมติดต่อเข้ามาทางรายการอย่างล้นหลาม
ผู้ชมหลายคนถามว่ากินลูกชิ้นเนื้อเด้งที่ไหนจึงจะมีน้ำซุปพุ่งออกมาเหมือนปัสสาวะ
แม้ว่าลูกชิ้นจะทำด้วยมือ แต่ก็ต้องใช้แรงทำค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามลูกชิ้นชนิดนี้สามารถทำได้โดยใช้เครื่องจักร และมีรสชาติไม่ด้อยไปกว่ามือทำ
เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ยืดหยุ่นตามที่ต้องการในลูกชิ้นที่เสร็จแล้ว คุณสามารถเพิ่มไข่ขาวลงในเนื้อสับได้
ซึ่งนี่สามารถนำมาเพิ่มความหลากหลายให้กับเมนูร้านอาหาร และยังสามารถผลิตเป็นผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปเพื่อจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตได้อีกด้วย
หลินม่ายสั่งให้เพื่อนร่วมงานผู้รับผิดชอบในการรับสายเพื่อแจ้งให้ผู้ชมทราบว่า ภายในหนึ่งสัปดาห์ ร้านอาหารทั้งหมดของเธอจะเปิดตัวเมนูลูกชิ้นเนื้อเด้ง และจะมีวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
จัดการความสัมพันธ์คลุมเครือนี้ให้ดี ไม่งั้นเอ็งไม่เหลือใครแน่พ่อหนุ่ม
ลูกชิ้นน่ากินจังค่ะ อืม ผู้แปลน่าจะหิวแหละ
ไหหม่า(海馬)
……….