ตอนที่ 1143 กลับมาอย่างเฉิดฉาย
……….
ตอนที่ 1143 กลับมาอย่างเฉิดฉาย
ภาพของหลินม่ายสวมเพชรสีชมพูเท่าไข่ห่านปรากฏขึ้นในใจของอาผู่
เขาแตะจมูกของแฟนสาวเบา ๆ และพูดว่า “คุณอยากจัดเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณต้องการเลย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณ”
เหมยซือดีใจมาก หล่อนกอดและจูบเขา “ถ้าอย่างนั้นเราจะจัดงานแต่งในวันคริสต์มาสนะ คุณเห็นด้วยไหม?”
ดวงตาของอาผู่เผยความอ่อนโยน “ตราบใดที่คุณมีความสุข ไม่ต้องสนใจความคิดเห็นของผมหรอก”
“คุณใจดีจัง!” เหมยซือกอดอาผู่อีกครั้งและหอมแก้มของเขา
ขณะที่พวกเขาทั้งสองนอนอยู่บนเตียงตอนกลางคืน เหมยซือก็อยากร่วมหลับนอนกับเขา
หล่อนเริ่มสัมผัสและถูไถร่างกายของตนเองไปบนร่างกายอาผู่ เพื่อแสดงความปรารถนาของหล่อน
อาผู่ดึงมือของหล่อนออกจากคอแล้วพูดว่า “นี่ ทำตัวดี ๆ หน่อย วันนี้ผมเหนื่อยมาก”
เหมยซือปล่อยเขาด้วยความผิดหวัง หล่อนพลิกตัวไปอีกทางและหลับตาลง สักพักชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอจากหล่อน
อาผู่รู้ว่าเหมยซือหลับไปแล้ว แต่เขานอนไม่หลับตลอดทั้งคืน ขณะที่ยังคงนึกถึงใบหน้าเปื้อนยิ้มสดใสของหลินม่าย
หลินม่ายดูรายการอาหารที่จัดโดยพิธีกรทั้งสองซึ่งเลียนแบบเธอตลอดทั้งวันขณะอยู่บ้าน และใช้เวลาทั้งวันครุ่นคิดว่าเธอจะทำอาหารชนิดไหนหลังจากกลับไปทำงาน
หลังจากคิดได้แล้ว เธอก็ตัดสินใจทำพายไส้ไข่และบัวลอยสุราดอกกุ้ย
เหตุผลที่เธอเลือกทั้งสองเมนูนี้ก็คือ บัวลอยสุราดอกกุ้ยที่มีกลิ่นหอมหวานนั้นทำง่ายและรสชาติหวาน ซึ่งเหมาะมากสำหรับรสนิยมชาวตะวันตก
การกรอกพายไส้ไข่ต้องใช้ทักษะมาก เนื่องจากคุณต้องเทของเหลวที่เป็นไข่ลงในถุงพายที่ปรุงสุกแล้ว
นี่ต้องเป็นทักษะเฉพาะตัวในสายตาผู้ชมชาวตะวันตก ซึ่งมันวิเศษพอ ๆ กับเมนูบะหมี่และสามารถเพิ่มเรตติ้งได้
ผู้ชมชาวตะวันตกชื่นชมกระบวนการผลิตอาหารจีน บางครั้งมันก็ดูเหมือนใช้เวทมนตร์ไม่ใช่หรือ?
ในไม่ช้าก็ถึงวันบันทึกเทปเพื่อนำไปออกอากาศ วันนั้นฟางจั๋วหรานหยุดงานหนึ่งวัน
หลินม่ายต้องการเดินไปตามทุ่งดอกไม้และผักในสวนหลังบ้าน แต่เธอเดินด้วยท่าทางแข็งทื่อ ฟางจั๋วหรานจึงใช้รถเข็นพาเธอไปตามทางที่ปูด้วยหิน
หลินม่ายขอให้ฟางจั๋วหรานเลือกผักอะไรก็ได้ที่เขาชอบ
แม้ว่าหลินม่ายจะนั่งรถเข็น แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความงดงามดั่งเทพเซียนของเธอเลย
อาผู่จ้องมองเธอด้วยความตกตะลึง ดวงตาของเขาเลื่อนตามร่างของหลินม่ายแทบจะตลอดเวลา
เขาไม่ได้สังเกตเห็นสายตาอันเฉียบคมของฟางจั๋วหรานที่มองมาหลายครั้งด้วยซ้ำ
หลังจากถ่ายทำรายการเสร็จ ฟางจั๋วหรานออกคำสั่งไล่ทีมงานออกไป เนื่องจากภรรยาของเขาเหนื่อยและต้องการพักผ่อน
ในรายการ หลินม่ายไม่ได้นั่งบนรถเข็นเฉย ๆ โดยสั่งให้ฟางจั๋วหรานเก็บผักและสิ่งของอื่น ๆ
เธอยังคงต้องยืนขึ้นเพื่อทำบัวลอยสุราดอกกุ้ยและพายไส้ไข่ นอกจากนี้เธอยังต้องผสมแป้งและนวดเอง ซึ่งต้องใช้กำลังพอสมควร
ฟางจั๋วหรานบอกว่าหลินม่ายเหนื่อยและต้องการพักผ่อน ซึ่งก็เป็นความจริง
เดิมทีพวกเขาวางแผนที่จะรอจนกว่าจะได้กินบัวลอยสุราดอกกุ้ยและพายไส้ไข่ก่อนออกเดินทาง แต่วันนี้พวกเขากลับกินไม่ได้
ในอดีตทุกครั้งที่หลินม่ายถ่ายทำวิธีการทำอาหาร ทุกคนจะได้ลองลิ้มลองอาหารของเธอ
เพื่อนร่วมงานของเธอทั้งหมดจากไปแล้ว ขณะที่หลินม่ายกำลังขอให้คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางมารับประทานอาหารทั้งสองจานที่เธอทำ เชฟชาวผิวขาวสองคนของครอบครัวก็เข้ามา
พวกเขาถูมือและถามอย่างเขินอายว่า ขอแบ่งบัวลอยสุราดอกกุ้ยใส่ชามเล็กให้พวกเขาได้ไหม? มันดูน่ารับประทานมาก กลิ่นของดอกไม้และกลิ่นหอมหวานของข้าวหมากทำให้ท้องของพวกเขาหิว
หลินม่ายปรุงบัวลอยสุราดอกกุ้ยหม้อใหญ่ ลำพังครอบครัวของเธอคงกินไม่หมด มันจึงไม่เป็นปัญหาที่จะแบ่งให้เชฟชาวผิวขาวสองคนได้ลิ้มลอง
หลินม่ายตอบตกลงทันที
เชฟสองคนลองทานบัวลอยสุราดอกกุ้ย สีหน้าของพวกเขามีความสุขมากจนสามารถถ่ายทำรายการม็อกบัง*ได้
*การไลฟ์สดกินอาหารต่อหน้าผู้ชมทางออนไลน์
ทั้งครอบครัวกินบัวลอยสุราดอกกุ้ยอย่างมีความสุข แต่ฟางจั๋วหรานเป็นคนเดียวที่มีสีหน้ากังวล ราวกับเขาถูกบังคับให้กินบัวลอยสุราดอกกุ้ยที่จักรพรรดิมอบให้
หลินม่ายโน้มตัวไปถามเขา “ที่รัก ทำไมคุณถึงดูอมทุกข์จังเลย?”
เมื่อผู้หญิงคนอื่นใช้เสียงเล็กคุยกับเขา ฟางจั๋วหรานนึกอยากส่งผู้หญิงเหล่านั้นออกไปนอกโลก
แต่เมื่อภรรยาของเขาพูดด้วยน้ำเสียงเล็กเช่นนั้นบ้าง เหตุใดจึงฟังดูดีน่าพิศวง?
ฟางจั๋วหรานวางชามเปล่าลงหลังจากกินบัวลอยสุราดอกกุ้ย “ผมไม่ชอบอาผู่”
ดวงตาของหลินม่ายเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ “ไม่มีใครอยากให้คุณชอบเขานะคะ คุณแค่ชอบคุณปู่ คุณย่า ลุงฝู ตัวฉัน และลูก ๆ ก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปชอบคนอื่นเลย”
เขามองเธอโดยที่พูดสิ่งใดไม่ออก
หลินม่ายเปลี่ยนสีหน้า “ทำไมคุณไม่ชอบเขาล่ะ”
“เพราะเขาเอาแต่จ้องมองคุณตลอดเวลา ผมไม่อยากให้ภรรยาตัวเองเป็นที่หมายปองของใคร”
หลินม่ายตะลึงงันเล็กน้อย “คุณระแวงเกินไปหรือเปล่าคะ? เขาเป็นคนดูแลทีมรายการอาหาร ก็เลยต้องมองฉัน เพื่อที่จะดูแลคุณภาพของรายการ”
ฟางจั๋วหรานส่ายหัว “ไม่ใช่ แต่มันมากกว่าการชื่นชม คนเพศเดียวกันไวต่อความรู้สึกจากคู่แข่งมากนะ”
หลินม่ายพูดอย่างจริงจัง “เขาไม่คู่ควรที่จะเป็นคู่แข่งของคุณหรอกค่ะ ก่อนอื่นมันเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะชอบเขา ฉันชอบแค่คุณคนเดียวเท่านั้น ในเมื่อคุณไม่ชอบเขา ต่อไปฉันจะไม่ยอมให้เขาเข้ามาในบ้านของเราอีก”
เห็นได้ชัดว่าฟางจั๋วหรานมีความสุข แต่เขากลับพูดสิ่งที่สวนทางกับความคิด “เรื่องนี้… คงไม่ดีนัก คุณและเขาเป็นเพื่อนร่วมงานกันนี่นา”
“มันเป็นวิธีที่ฉันตัดสินใจจากความสุข ฉันไม่สนใจความสัมพันธ์ของฉันกับเขาหรอก ขอแค่สามีของฉันมีความสุขก็พอแล้ว”
ฟางจั๋วหรานแอบหัวเราะอย่างมีชัย
เขาชอบที่ภรรยาแสดงความรักต่อเขาเท่านั้นและไม่คิดชายตามองชายใด
เขาจะทำแบบเดียวกันกับเธอ
ในคืนที่รายการอาหารออกอากาศ หลินม่ายไปที่สถานีโทรทัศน์
ทันทีที่รายการเริ่มออกอากาศ หลินม่ายและทีมงานทั้งหมดต่างก็จับตาดูเรตติ้งโดยไม่กะพริบตา
มีประกาศก่อนหน้านี้ว่า หลินม่ายจะกลับมาทำงานต่อในวันนี้
ทันทีที่เทปบันทึกรายการอาหารของหลินม่ายออกอากาศ เรตติ้งก็สูงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ
ทีมงานของรายการทุกคนมีความสุขมาก แต่พวกเขายังคงดูเรตติ้งอย่างกระวนกระวายใจ
ท้ายที่สุดหลินม่ายไม่ได้จัดรายการมาอย่างน้อย 4 เดือนแล้ว ในวงการบันเทิง เธอจะถูกปัดตกได้ง่ายถ้าไม่ได้แสดงเป็นเวลานานขนาดนี้
เรตติ้งอาจดีในตอนแรก แต่มันจะเป็นช่วงเวลาเพียงแวบเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม… เรตติ้งยังคงแข็งแกร่ง และมีการต่อสายหาทีมงานของรายการอย่างท่วมท้น
ในตอนแรก การโทรส่วนใหญ่มาจากผู้ชมที่เป็นผู้หญิง ซึ่งเอาแต่ถามว่าหนุ่มเอเชียสุดหล่อที่เข็นรถเข็นของหลินม่ายเป็นใคร
ฉันอยากรู้จักพ่อหนุ่มคนนั้นจริง ๆ
ฉันอยากได้ช่องทางติดต่อเขาจริง ๆ
ฉันอยากมีลูกกับเขาจริง ๆ
เมื่อทีมงานรับผิดชอบบอกว่าหนุ่มเอเชียสุดหล่อคือสามีของหลินม่าย โทรศัพท์ก็เงียบหายไปราวครึ่งนาที
จากนั้น ผู้ชมที่เป็นผู้หญิงก็โทรมาบอกว่า พวกหล่อนไม่สนใจว่าจะต้องเป็นมือที่สามและทำลายครอบครัวของผู้อื่น
หลินม่ายทนไม่ไหวอีกแล้ว เธอคว้าโทรศัพท์และตะโกนเสียงดัง “แต่ฉันสน!”
อีกฝ่ายวางสายไปดังปัง ไม่รู้ว่าโกรธหรือกลัวกันแน่
ในระหว่างการเผยแพร่ภาพ เมื่อหลินม่ายเริ่มทำพายไส้ไข่ ก็มีสายโทรเข้ามาอีกครั้ง
ผู้ชมต่างบอกว่าอาหารจีนมีมนต์ขลังมาก และสามารถเทของเหลวอย่างไข่ลงในแป้งปรุงสุกได้
จนจบรายการเรตติ้งก็ไม่ลดลงเลย
ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง นี่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี
ทุกคนเดินออกจากสตูดิโอพูดคุยพลางหัวเราะ ขณะที่เหมยซือยืนอยู่ข้างนอก โดยถือกล่องอาหารและร่ม
อาผู่กำลังพูดคุยและหัวเราะกับเพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะกับหลินม่าย เมื่อเห็นแบบนี้สีหน้าของเขาพลันบิดเบี้ยวเล็กน้อย
เขาถามเสียงเย็นชา “คุณมาทำอะไรที่นี่?”
เหมยซือตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ฉันโทรบอกคุณก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ คุณบอกว่ายังไม่ได้กินมื้อเย็น ฉันจึงทำราวีโอลี่ที่คุณชื่นชอบและนำมาให้คุณค่ะ แต่ฉันกลัวว่าจะกระทบงานของคุณ จึงไม่กล้าเข้าไปข้างในและยืนรออยู่ตรงนี้ ถ้าหิวก็กินขณะที่มันยังร้อนอยู่นะคะ”
ขณะที่พูด หล่อนก็ยื่นกล่องอาหารให้อาผู่
ราวกับว่าสิ่งที่หล่อนมอบให้คือกล่องอาหารที่เต็มไปด้วยขี้เถ้า อาผู่พยายามระงับความโกรธ “ผมไม่กิน!”
เหมยซือก้มศีรษะลงอย่างเศร้าใจ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
สามีภรรยาคู่นี้ขี้หึงกันแบบไม่มีใครยอมใครจริงๆ
ตัดสินใจดีๆ พ่อหนุ่ม อย่าจับปลาสองมือ ถ้าไม่รักแฟนแล้วก็บอกเลิกเขาไปซะ ให้โอกาสเขาได้มีความสุขกับคนใหม่ ถ้ามาบอกหลังแต่งงานไปแล้วมันเจ็บมากกว่านี้นะ
ไหหม่า(海馬)
……….