แม่ปากร้ายยุค​ 80 1111 โก่วเวินร้องขอความเมตตา

ตอนที่ 1111 โก่วเวินร้องขอความเมตตา

ตอนที่ 1111 โก่วเวินร้องขอความเมตตา

……….

ตอนที่ 1111 โก่วเวินร้องขอความเมตตา

ในวันที่ห้าหลังจากที่พ่อไป๋แต่งงาน ครอบครัวของหลินม่ายก็ออกเดินทางกลับไปยังสหรัฐอเมริกา

มันเป็นความจำเป็นที่ต้องกลับไป และหลินม่ายยังคงยุ่งอยู่กับการซื้อหุ้นที่กำลังตกอยู่ในจุดต่ำสุด

แม่ไป๋มาสนามบินเพื่อส่งเธอในครั้งนี้

หล่อนยื่นถุงขนาดใหญ่ให้หลินม่ายและกล่าวด้วยรอยยิ้มขอโทษ “นี่คือเสื้อสเวตเตอร์และกางเกงวอร์มที่แม่ถักให้เสี่ยวตงตงสำหรับใส่ตั้งแต่อายุสี่ถึงเจ็ดขวบ เพราะหลังจากนี้ไม่รู้ว่าลูกจะได้กลับมาประเทศจีนอีกไหม จึงถักเผื่อไว้สำหรับสามปี”

หลินม่ายรับมันมาและกล่าวคำขอบคุณ จากนั้นจึงเดินเข้าไปในจุดตรวจรักษาความปลอดภัยพร้อมกับครอบครัว

หลังเสาในห้องโถงสนามบิน โต้วโต้วยื่นศีรษะออกไปครึ่งหนึ่งเพื่อแอบดูการจากไปของครอบครัวหลินม่าย

หลังจากที่ครอบครัวของพวกเขาหายตัวไปในทะเลแห่งผู้คนอันกว้างใหญ่ หล่อนก็รีบวิ่งออกจากล็อบบี้ของสนามบินและยืนอยู่ข้างนอกเพื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

เครื่องบินลำหนึ่งกำลังทะยานขึ้นฟ้า ซึ่งโต้วโต้วเดาว่าครอบครัวของแม่หลินคงนั่งอยู่บนนั้น

หลังจากขึ้นเครื่องและใช้เวลาหลายชั่วโมง ในที่สุดทั้งครอบครัวก็มาถึงสนามบินนิวยอร์ก

แม้ว่าลุงฝูจะติดตามครอบครัวหลินม่ายกลับประเทศจีน แต่เขาก็ได้โทรหาคนรับใช้ของครอบครัวให้มารอรับทุกคนที่สนามบินแล้ว

ทันทีที่หลินม่ายและครอบครัวออกจากสนามบิน พวกเขาก็ขึ้นรถหรูตรงไปที่บ้าน

เมื่อรถเคลื่อนมาจอดหน้าประตู คนขับรถบีบแตรเพื่อเตือนให้คนข้างในเปิดประตูรั้ว

ก่อนที่คนที่เปิดประตูจะมาถึง อาหวงและหวางไฉก็วิ่งเข้ามาและพากันเห่าอย่างมีความสุข

ทันทีที่คนรับใช้ข้างในเปิดประตูลานบ้าน สุนัขหมาป่าตัวใหญ่สองตัวก็รีบวิ่งออกไปและวนเวียนอยู่รอบรถ ทำให้คนขับไม่สามารถขับรถได้

หลินม่ายและทุกคนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้าน

แต่ก่อนที่เขาจะก้าวไปข้างหน้า ผู้หญิงแต่งตัวมอมแมมคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาคว้าเสื้อคลุมแคชเมียร์สีขาวนวลของหลินม่าย ก่อนจะคุกเข่าลงพื้นพร้อมร้องไห้อย่างขมขื่น “หลินม่าย ช่วยฉันด้วย!”

หลินม่ายถูกผู้หญิงบ้าดึงอย่างแรงจนเกือบเสียหลักล้มลง

ฟางจั๋วหราน เสี่ยวเหวิน และคุณปู่ฟางต่างก็ยื่นมือออกไปประคองเธอได้ทันเวลา

ทุกคนพากันเหงื่อตก หลินม่ายเพิ่งตั้งครรภ์ และมีโอกาสแท้งได้หากเธอล้มลงพื้น

พวกเขามองดูผู้หญิงบ้าคนนั้นด้วยความโกรธ ก่อนที่หลินม่ายและสามีจะจำได้ว่าอีกฝ่ายก็คือโก่วเวิน

โก่วเวินอยู่ในสภาพน่าหดหู่มาก เดิมทีหล่อนไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่ดูดีมากอยู่แล้ว มาตอนนี้ยิ่งดูเลวร้ายกว่าเดิม ทั้งสีหน้าซีดเผือด ถุงใต้ตาใหญ่โตเหมือนถุงน้ำ ซึ่งทำให้หล่อนดูน่าเกลียดกว่าเดิมมาก

ฟางจั๋วหรานเตะโก่วเวินให้ออกห่าง “เธอนี่มันน่ารำคาญเสียจริง อยู่ให้ห่างจากหลินม่ายนะ ภรรยาของผมกำลังท้อง คุณไม่มีสิทธิ์มาเข้าใกล้!”

เมื่อโก่วเวินได้ยินสิ่งนี้ หัวใจของหล่อนยิ่งว้าวุ่น

นังสารเลวนี่ตั้งท้องอีกแล้ว แต่ตัวเธอกลับอยู่ในสภาพน่าสังเวช!

หล่อนคลานไปที่เท้าของหลินม่ายและโค้งคำนับเช่นเดียวกับสุนัขข้างถนน “หลินม่าย โปรดช่วยฉันด้วยเถอะ!”

หลินม่ายคิดกับตัวเอง ในที่สุดแผนหลอกลวงของจ้าวซั่วหยางก็ถูกเปิดเผยแล้วเหรอ?

เธอถามอย่างใจเย็น “เกิดอะไรขึ้น?”

โก่วเวินรู้สึกกระดากเล็กน้อยที่จะพูด

ในตอนแรกหล่อนสร้างชื่อไว้เสียมากมาย โดยโอ้อวดเครื่องประดับที่จ้าวซั่วหยางมอบให้ มาตอนนี้จึงรู้สึกอับอายมาก

หลินม่ายขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ “ถ้าไม่บอกฉันจะไปแล้ว”

โก่วเวินเริ่มวิตกกังวลและยื่นมือออกไปดึงชายเสื้อของหลินม่าย “หลินม่าย อย่าเพิ่งไป~”

ก่อนที่จะพูดจบ หล่อนก็กรีดร้อง

หล่อนเอื้อมมือไปดึงชายเสื้อคลุมของหลินม่าย แต่หลินม่ายกลับก้าวเท้ามาเหยียบมือของหล่อน

หลินม่ายออกแรงเหยียบอย่างแรง บดขยี้นิ้วของโก่วเวินจนทำให้หล่อนกรีดร้องอย่างน่าเวทนากว่าเดิม

หลินม่ายพูดอย่างเย็นชา “สามีของฉันเตือนแล้วว่าฉันกำลังท้องอยู่ และเธอไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องตัวฉัน แล้วกล้าดียังไงถึงมาดึงเสื้อของฉัน! รนหาที่ตายรึยังไง!”

“ไม่ ฉันเปล่านะ…” โก่วเวินพึมพำ

“หลินม่าย ฉันถูกโกง ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ได้โปรดล่ะ!” หล่อนยังคงอ้อนวอนขอร้อง

โก่วเวินพูดตะกุกตะกักขณะที่เล่าเรื่อง

ในคืนคริสต์มาส ร้านอาหารที่หล่อนทำงานยุ่งมากจนเจ้านายขอให้พนักงานทุกคนทำงานล่วงเวลา โก่วเวินทำงานจนถึงตีห้าของวันรุ่งขึ้น ก่อนจะได้เลิกงาน

เมื่อหล่อนลากขาอันหนักอึ้งกลับบ้านพร้อมเป็ดแปดสมบัติ*ที่ขายไม่ออกซึ่งเจ้าของร้านมอบให้ หล่อนก็พบว่าจ้าวซั่วหยางไม่ได้อยู่ที่บ้าน

*八宝鸭 อาหารเซี่ยงไฮ้และกวางตุ้ง เป็นเป็ดตุ๋นที่ยัดไส้ข้างในด้วยข้าวและวัตถุดิบต่างๆ รวมแปดชนิด

ตอนนั้นหล่อนไม่สนใจ เพราะคิดว่าเขาน่าจะไปงานปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ ในวันคริสต์มาส

แต่ห้าวันผ่านไปก็ยังไม่มีใครพบเห็นจ้าวซั่วหยาง และไม่สามารถติดต่อเขาได้เลย ในที่สุดโก่วเวินก็ตื่นตระหนก

หล่อนร้องไห้ขณะพูด “เพื่อนร่วมชั้นหลายคนที่ให้ซั่วหยางยืมเงินพบว่าเขาหายตัวไป บางคนจึงมาเรียกร้องกับฉัน บางคนก็มาถามฉันว่ารุ่นพี่จ้าวอยู่ไหน ฉันโกหกพวกเขาและบอกว่าจ้าวซั่วหยางไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ และจะกลับมาในอีกไม่กี่วัน แต่นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ถ้าจ้าวซั่วหยางไม่กลับมา เพื่อนร่วมชั้นที่ยืมเงินจะมาหาฉันและขอเงิน แล้วฉันจะให้เงินพวกเขาได้อย่างไร? หลินม่าย เธอช่วยฉันตามหาจ้าวซั่วหยางได้ไหม? จากนี้ไปฉันจะรับใช้เธอเหมือนวัวและม้า”

หลินม่ายพูด “ฉันไม่ได้ทำนา ทำไมต้องอยากมีวัวด้วย? และฉันก็มีรถหรูไว้ใช้เดินทาง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้ม้าหรอก”

จากนั้นเธอก็เดินกลับเข้าไปในลานบ้านด้วยความช่วยเหลือจากฟางจั๋วหราน

หลินม่ายยิ้มอย่างเหยียดหยาม “ตอนที่เธอทำให้ฉันเจ็บ เธอเคยคิดไหมว่าเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน? เธอมีความคิดชั่วร้ายเช่นนี้ ฉันจะช่วยเหลือเธอได้อย่างไร? มันสายเกินไปที่จะสำนึกผิดแล้ว!”

โก่วเวินมองดูเธอแล้วกัดฟันด้วยความเกลียดชัง

เมื่อกลับเข้ามาในบ้าน หลินม่ายก็นั่งพักระยะหนึ่ง ก่อนดื่มกระเพาะปลาและซุปตีนหมูอีกชาม จากนั้นก็เริ่มเก็บเสื้อสเวตเตอร์และกางเกงที่แม่ของไป๋ถักให้เสี่ยวตงตง

เธอค้นพบว่ามีเสื้อสเวตเตอร์ถักมือของผู้หญิงหลายตัวซ่อนอยู่ในกระเป๋า ซึ่งดูประณีตมาก

ปรากฏว่าแม่ไป๋ถักให้เธอด้วย แต่เพราะกลัวว่าหลินม่ายจะไม่รับไว้ หล่อนจึงไม่กล้าบอกสิ่งนี้และเพียงแอบยัดลงไปท่ามกลางเสื้อสเวตเตอร์และกางเกงที่มอบให้เสี่ยวมู่ตง

หลินม่ายลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหยิบขึ้นมาสวมใส่ มันดูอบอุ่นและสวยงาม

เธอใส่แล้วก็ไม่ถอดออก

น้ำพริกที่หลินม่ายขอให้โจวฉายอวิ๋นส่งมาถึงหนึ่งวันก่อนที่พวกเขาจะกลับมาที่สหรัฐอเมริกา ครั้งนี้หล่อนส่งมาทั้งหมด 300 ขวด

คืนนั้นเสี่ยวเหวินเริ่มทำการตลาดทางโทรศัพท์และโทรหาเพื่อนร่วมชั้นทีละคนเพื่อถามว่าใครอยากได้น้ำพริกบ้าง พรุ่งนี้เขาจะไปส่งถึงหน้าประตู

หลังจากขายนานกว่าสองชั่วโมงก่อนวางสาย เสี่ยวเหวินก็บอกกับทั้งครอบครัวอย่างตื่นเต้นว่ามีเพื่อนร่วมชั้นมากกว่าสิบคนสั่งน้ำพริกของเขา

ทุกคนยกนิ้วให้เขาด้วยความภูมิใจ

เช้าวันรุ่งขึ้น เสี่ยวเหวินถือน้ำพริกสามสิบขวดใส่กระเป๋าเป้สะพายหลังแล้วเตรียมออกไปข้างนอก

คุณย่าฟางถามว่า “เธอไม่ได้บอกว่ามีนักเรียนไม่กี่สิบคนที่ต้องการน้ำพริกเหรอ ทำไมเอาขวดมาเยอะขนาดนี้ มันไม่หนักเกินไปเหรอ?”

เสี่ยวเหวินพูดด้วยรอยยิ้ม “มีน้ำพริกเหลือเยอะมาก ผมเลยอยากลองขายตามบ้านดูน่ะครับ”

ก่อนรับประทานอาหารกลางวัน เสี่ยวเหวินกลับมาอย่างมีความสุข โดยบอกหลินม่ายและคนอื่น ๆ ว่าเมื่อวานที่เขาไปส่งน้ำพริกถึงหน้าประตูบ้านของนักเรียนที่สั่งซื้อทางโทรศัพท์ มีเพียง 4 คนเท่านั้นที่เปลี่ยนใจ ส่วนนักเรียนคนอื่นที่เหลือซื้อมันไปทั้งหมด

เขาไปขายน้ำพริกที่เหลือตามบ้านและขายได้อีกแปดขวด

ทั้งครอบครัวชื่นชมเขามาก

เสี่ยวเหวินมีความสุขมาก หลังอาหารกลางวัน เขาก็ออกไปรับงานพิเศษอีกครั้ง

ไม่กี่วันหลังจากที่ฟางจั๋วหรานกลับมา เขาก็โทรหาชายผิวดำที่ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บที่เอว และบอกอีกฝ่ายว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าใดในการรักษาอาการบาดเจ็บที่หลัง และขอให้เขาสละเวลาไปโรงพยาบาลที่เขาทำงานอยู่เพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล

เมื่อเห็นว่าค่ารักษาพยาบาลมีไม่มาก ชายผิวดำก็ตอบตกลงทันที และบอกว่าจะไปโรงพยาบาลเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาลพรุ่งนี้

ชายผิวดำรักษาคำพูด ตามที่เขาบอกไว้ เขามาโรงพยาบาลในวันรุ่งขึ้นและจ่ายค่ารักษาพยาบาล และเรื่องนี้ก็คลี่คลาย

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เธอทำตัวเองนะยัยลูกหมา จะมาแค้นเป็นเจ้ากรรมนายเวรม่ายจื่อเพื่อ?

เสี่ยวเหวินมีหัวการค้าดีแฮะ

ไหหม่า(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80

แม่ปากร้ายยุค​ 80

Score 10
Status: Completed
หลินม่ายได้กลับมาเกิดใหม่ในวันแต่งงานของตัวเอง​ และพบว่าทุกคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตัวเองหรือครอบครัวสามีต่างก็ยังเป็นเศษสวะกันเหมือนเดิม​ แต่ขอโทษเถอะ…หลินม่ายคนนี้ไม่ใช่หลินม่ายคนเดิมแล้ว​ ใครหน้าไหนมารังแกฉัน​ คราวนี้แม่จะซัดให้หงาย​​ จะงัดมารยาสาไถทุกกระบวนมาใช้แก้เผ็ดมันให้หมด! จากนั้นก็จะหย่ากับสามีกะหลั่วแยกตัวออกมาสร้างฐานะแบบสวยๆ​ ไม่ต้องสนใจใครอีกแล้ว!

Options

not work with dark mode
Reset