ตอนที่ 1107 โต้วโต้วแอบดู
……….
ตอนที่ 1107 โต้วโต้วแอบดู
สิบนาทีต่อมา ในที่สุดรถพยาบาลก็มาถึง
เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ติดตามรถได้อุ้มซิ่วหลิงและลูกสาวขึ้นรถพยาบาล
เด็กหลายคนก็อยากจะไปด้วย แต่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ไม่ยอมปล่อย คนเจ็บ 2 คนต้องนอนลง ซึ่งเกินจำนวนที่กำหนดอยู่แล้ว เช่นนั้นจะปล่อยให้เด็กไปเพิ่มได้ยังไง?
หลินม่ายขอให้เด็ก ๆ ติดตามไป
พี่สาวและน้องสาวต่างมองคุณยายที่กำลังขึ้นรถพยาบาล
คุณยายเพิ่งถูกฟางจั๋วหรานจับและกลับมาได้สติอีกครั้ง
คุณยายพยักหน้าให้หลานสาวที่น่าสงสารทั้งสี่ จากนั้นพี่สาวคนโตก็อุ้มน้องสาวคนเล็กลุกขึ้นยืนและเดินไปด้านข้างหลินม่ายพร้อมกับเด็กหญิงอีกสองคน
ในอีกด้านหนึ่ง ฟางจั๋วหรานบอกเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในรถพยาบาลว่า ซิ่วหลิงอาจม้ามแตก และขอให้พวกเขาปฐมพยาบาล
“แน่นอนสิ! ฉันเจ็บหน้าอกจะตายอยู่แล้ว!” อดีตแม่สามีของซิ่วหลิงแสร้งทำเป็นกรีดร้อง และถูกนำตัวขึ้นรถพยาบาลในที่สุด
ตำรวจยังคงสอบสวนคดีนี้ต่อไป และทราบจากผู้เห็นเหตุการณ์ว่า เมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว ซิ่วหลิงและลูกสาวคนโตกำลังขายโร่วเจียโหมวและนมถั่วเหลือง
อดีตแม่สามีของหล่อนมาพร้อมกับสามีและลูกชายสองคน บังคับให้ซิ่วหลิงมอบเงินทั้งหมดที่หล่อนหามาได้
เมื่อซิ่วหลิงปฏิเสธ หญิงชราก็สั่งสามีและลูกชายทั้งสองทุบตีอีกฝ่าย โดยตะโกนว่าถ้าหล่อนไม่ส่งเงินมา หล่อนจะต้องถูกทุบตีจนตาย
เมื่อแม่ของซิ่วหลิงทราบข่าว นางก็รีบพาหลานอีกสามคนไปเพื่อปกป้องซิ่วหลิง
ผลที่ตามมาคือ นางไม่เพียงล้มเหลวในการปกป้องลูกสาว แต่ยังถูกทุบตีอีกด้วย
ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ล้วนเป็นคนที่พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียง
ซิ่วหลิงตั้งแผงขายของตามปกติ ทุกคนเห็นและรู้ว่าหล่อนพยายามหนักเพียงใดในการทำมาหากิน
ครอบครัวของสามีเก่าขอเงินจากหล่อน แน่นอนว่าหล่อนลังเลที่จะให้ และไม่มีเหตุผลที่จะให้ด้วยซ้ำ
คนเหล่านั้นที่ต้องการฉวยโอกาสจากสถานการณ์ดังกล่าวขอให้ตำรวจลงโทษอดีตสามีและครอบครัวของเขาอย่างรุนแรง
อดีตพ่อสามีของซิ่วหลิงและลูกชายทั้งสองต่างก็เสียใจและหวาดกลัว พวกเขาไม่ควรเชื่อฟังหญิงชรามาขอเงินจากซิ่วหลิงเลย
ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว ไม่ได้รับเงิน แถมยังต้องติดคุกอีกด้วย
พ่อและลูกชายทั้งไม่พอใจหญิงชราผู้เป็นอดีตแม่สามีของซิ่วหลิงมาก และคิดว่านางเป็นต้นเหตุของหายนะ
ตำรวจยังสอบสวนถึงการเตะของฟางจั๋วหรานจากผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์อีกด้วย
เกือบทุกคนแก้ตัวให้ฟางจั๋วหราน โดยบอกว่าแม้ว่าเขาจะเตะหญิงชราจริง แต่มันไม่ได้รุนแรงอะไร
และพฤติกรรมของเขาถือได้ว่าเป็นการป้องกันตัวเท่านั้น เพราะเป็นหญิงชราที่ต้องการโจมตีหลินม่ายก่อน
ฟางจั๋วหรานยอมรับด้วยว่านี่เป็นเรื่องจริง เขาอธิบายว่าเหตุผลในการเตะหญิงชราเป็นเพราะภรรยาของเขากำลังตั้งครรภ์
เขากลัวว่าหญิงชราจะทำให้ภรรยาของเขาแท้งลูกหากถูกทุบตี เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากป้องกันตัว
ตำรวจขอให้ฟางจั๋วหรานพาหลินม่ายไปทดสอบการตั้งครรภ์ ซึ่งจะได้พิสูจน์ว่าหลินม่ายกำลังท้องจริง ๆ
พรุ่งนี้เป็นวันปีใหม่ ฉลองวันหยุดกันให้เต็มที่ก่อน แล้วค่อยไปสถานีตำรวจในวันมะรืนเพื่อแก้ไขปัญหา
ฟางจั๋วหรานนั่งแท็กซี่ไปโรงพยาบาลโดยมีลูกสาวสี่คนของซิ่วหลิง เสี่ยวตงตง และหลินม่ายอยู่ด้วย
เสี่ยวตงตงหยิบลูกอมผลไม้ออกมาจากกระเป๋าของเขา
ปู่ของเขามอบขนมผลไม้เหล่านี้ตอนที่อยู่บ้านก่อนหน้านี้
เขามอบลูกอมผลไม้สองสามชิ้นให้กับเด็กสาวทั้งสี่คนและพูดด้วยเสียงอ้อแอ้ว่า “ลูกอมครับ”
เด็กสาวทั้งสี่กำลังตกอยู่ในความโศกเศร้า แต่เมื่อเห็นลูกกวาด พวกหล่อนก็อารมณ์ดีขึ้น
ซิ่วหลิงและแม่ของหล่อนได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลเดียวกับที่หลินม่ายไปตรวจการตั้งครรภ์
ระหว่างรอผลตรวจการตั้งครรภ์ หลินม่ายและสามีพาเด็ก ๆ ไปยังแผนกฉุกเฉิน โดยหวังว่าจะพบแพทย์หรือพยาบาลเพื่อสอบถามเกี่ยวกับอาการของซิ่วหลิงและแม่
ฝูงชนเดินไปยังแผนกฉุกเฉิน เด็กหญิงสายตาคมเห็นคุณยายมีผ้าก๊อซพันศีรษะ นั่งเศร้าอยู่นอกห้องขณะจ้องมองไปยังประตูที่ปิดสนิทอยู่ของห้องฉุกเฉิน
ลูกสาวคนโตตะโกนขึ้น “คุณยาย!” แล้ววิ่งไปหาพร้อมกับน้องสาวคนเล็กที่อยู่บนหลัง
น้องสาวอีกสองคนก็วิ่งตามไปหาคุณยายด้วย
เมื่อคุณยายเห็นพี่น้องทั้งสี่ นางก็ฝืนยิ้มและตอบกลับไป
หลินม่ายและสามีเดินเข้ามาและถามว่าหญิงชราเป็นอย่างไรบ้าง
แม่ของซิ่วหลิงพูดทั้งน้ำตาว่า “ฉันเย็บแผลแล้ว คงไม่เป็นไรแล้ว แต่หมอบอกว่าอาการของซิ่วหลิงไม่ค่อยดีนัก”
แม่ของซิ่วหลิงอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ขณะที่พูดแบบนี้
ฟางจั๋วหรานปลอบใจนาง “คุณป้า อย่ากังวลเกินไปเลยครับ คุณหมอบอกว่าสถานการณ์ไม่ดี แต่ความจริงไม่ได้แย่อย่างที่คุณป้าคิด ลูกสาวของคุณป้าจะหายเป็นปกติหลังจากผ่าตัด ไม่ต้องกังวลนะครับ”
แม่ของซิ่วหลิงหลั่งน้ำตาพลางพยักหน้าขอบคุณเขาและภรรยาที่ช่วยชีวิตไว้
มิฉะนั้นพวกหล่อนอาจถูกครอบครัวอดีตสามีของซิ่วหลิงทุบตีจนตาย
ทั้งหลินม่ายและฟางจั๋วหรานต่างก็โบกมือ โดยบอกว่ามันเป็นน้ำใจเล็กน้อย และไม่ต้องถือเป็นบุญคุณ
หลินม่ายถามแม่ของซิ่วหลิงเกี่ยวกับการผ่าตัดของซิ่วหลิงว่ามันต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงหรือเปล่า
จากนั้นหลินม่ายและสามีก็เดินไปหาหมอเพื่อสอบถามเกี่ยวกับอาการของซิ่วหลิงและแม่
ซิ่วหลิงยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะสอบถามเกี่ยวกับอาการของหล่อน
แพทย์บอกกับทั้งคู่ว่า นอกจากอาการบาดเจ็บที่ศีรษะแล้ว แม่ของซิ่วหลิงยังมีซี่โครงหักอีก 2 ซี่ ซึ่งได้รับการแก้ไขด้วยสายรัดหน้าอกและสามารถฟื้นตัวได้ภายใน 3 เดือน
แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บส่วนอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ก็ไม่ร้ายแรงเท่าสองตำแหน่งนี้ และสามารถฟื้นตัวได้หลังจากพักผ่อนมาระยะหนึ่ง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากได้รับผลการทดสอบการตั้งครรภ์ ฟางจั๋วหรานและภรรยาก็กำลังจะกลับบ้าน จึงถามแม่ของซิ่วหลิงว่าอยากกลับไปกินอาหารเย็นกับพวกเขาหรือไม่ แล้วค่อยกลับมาดูแลซิ่วหลิงหลังจากกินอาหารเย็นแล้ว
แม่ของซิ่วหลิงส่ายหัวและบอกว่าไม่อยากกินอะไร
ฟางจั๋วหรานและภรรยาพาเด็กหญิงทั้งสี่และเสี่ยวตงตงกลับไปที่บ้านในเมืองหลวง
เมื่อลงจากรถแท็กซี่ หลินม่ายอดไม่ได้ที่จะมองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่เห็นโต้วโต้ว
เธอไม่สามารถบอกได้ว่าเธอรู้สึกอย่างไร
ในเวลานี้ เพื่อนบ้านกลับมาจากซื้อของชำ เมื่อเห็นครอบครัวทั้งสามของหลินม่ายจึงกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม “คุณกลับมาจากอเมริกาเพื่อไปเที่ยวพักผ่อนในฤดูหนาวเหรอ?”
หลินม่ายตอบด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่ค่ะ ฉันกลับบ้านเพื่อมาร่วมงานแต่งงานของพ่อ”
แม้ว่าการแต่งงานจะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ แต่พ่อไป๋ก็แต่งงานเป็นครั้งที่สองซึ่งยังไม่ได้รับการยอมรับมากนักในยุคนี้
เพื่อนบ้านยิ้มรับและข้ามหัวข้อสนทนา ก่อนกล่าวชมเสี่ยวตงตงว่าน่ารัก
และยังบอกด้วยว่าเห็นเสี่ยวเหวินออกไปข้างนอกกับคุณปู่ตั้งแต่เช้า
เพื่อนบ้านพูดอย่างใส่อารมณ์ “เสี่ยวเหวินโชคดีมากเลยนะที่ติดตามคุณไปเรียนที่อเมริกาได้ เด็กธรรมดาไม่มีทางได้รับโชคขนาดนี้หรอก! เดิมทีโต้วโต้วก็มีโอกาส แต่หล่อนก็ทำลายมันเอง มันสายเกินไปแล้วที่หล่อนจะนึกเสียใจตอนนี้!”
หลินม่ายถามด้วยรอยยิ้ม “คุณรู้ได้อย่างไรคะว่าหล่อนเสียใจ?”
เพื่อนบ้านตอบ “ตั้งแต่ครอบครัวของคุณไปอเมริกา เด็กคนนั้นก็วนเวียนอยู่หน้าบ้านของคุณเป็นระยะ มันจะเป็นอะไรไปได้อีก หากหล่อนไม่ได้เสียใจ?”
หลินม่ายพูดคุยกับเพื่อนบ้านต่ออีกเล็กน้อย ก่อนเดินเข้าไปในรลานบ้านพร้อมกับสามีและลูกน้อย รวมถึงเด็กหญิงทั้งสี่
ก่อนเข้าไปในลานบ้าน หลินม่ายลองมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นโต้วโต้ว
พวกเขาไม่รู้เลยว่า โต้วโต้วซ่อนตัวอยู่ที่มุมลับมานานกว่าครึ่งชั่วโมง ขณะที่แอบดูบ้านของหลินม่ายทั้งน้ำตา
นับตั้งแต่ครอบครัวของหลินม่ายไปอเมริกา หล่อนมักจะแวะเวียนมายังลานบ้านของหลินม่ายทุก ๆ หนึ่งถึงสองวัน
ไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากการคิดถึงวันวานที่ยังหวานชื่น
บางคนต้องผ่านการเดินเรือนับพันครั้ง และอดทนต่อความยากลำบากทุกรูปแบบ ก่อนที่จะเข้าใจว่าใครดีต่อเธอหรือเขาอย่างแท้จริง
แต่ใจที่แหลกสลายไม่สามารถแก้ไขได้อีกต่อไป และคนที่ได้รับบาดเจ็บจะไม่ยืนรอให้คุณสำนึกผิด
การกลับมาพบกันอีกครั้งเป็นเพียงภาพความฝันเท่านั้น
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ขอให้ครอบครัวแม่สามีซิ่วหลิงโดนโทษหนักๆ เลยค่ะ เข้าข่ายทำร้ายร่างกายโดยเจตนา เป็นคดีอาญานะคะ
น้องถั่วจงไปตามทางของน้องถั่วเถอะค่ะ ใช้ชีวิตให้ดีก็นับว่าเป็นการตอบแทนแม่หลินอย่างหนึ่ง
ไหหม่า(海馬)