แม่ปากร้ายยุค​ 80 1100 เป็นสยงจินหรงที่โง่เขลาเอง

ตอนที่ 1100 เป็นสยงจินหรงที่โง่เขลาเอง

ตอนที่ 1100 เป็นสยงจินหรงที่โง่เขลาเอง

……….

ตอนที่ 1100 เป็นสยงจินหรงที่โง่เขลาเอง

ในขณะที่จับตาดูโก่วเวินและจ้าวซั่วหยางอย่างระมัดระวัง นักสืบเอกชนที่ได้รับการว่าจ้างจากหลินม่ายก็รายงานว่าเรื่องของสยงจินหรงหลายครั้ง ทว่ามันกลับไร้ประโยชน์ทุกครั้งไป

หลินม่ายประหลาดใจมากและถามนักสืบเอกชนทางโทรศัพท์อย่างงุนงง “มันจะไร้ประโยชน์ได้อย่างไร? กฎหมายอเมริกันของคุณมีเขียนไว้ไม่ใช่หรือว่า หากคุณถูกจับได้ว่าทำงานอย่างผิดกฎหมาย คุณจะถูกส่งกลับประเทศบ้านเกิด?”

นักสืบเอกชนหัวเราะจากอีกด้านหนึ่งของปลายสาย “คุณหลินครับ กฎหมายพวกนี้มีขึ้นมาก็จริง แต่อย่าไปจริงจังกับมัน ในสหรัฐอเมริกาของเรา ยิ่งถ้าไม่ใช่รัฐใหญ่ด้วยแล้ว การปราบปรามแรงงานผิดกฎหมายไม่ใช่เรื่องใหญ่ เว้นแต่คุณจะยื่นเรื่องร้องเรียน แต่ว่าหลังจากร้องเรียน ก็ใช่ว่าตำรวจจะจริงจังกับมัน ไม่ว่าอย่างไร คนที่ทำงานผิดกฎหมายก็ไม่จำเป็นต้องถูกส่งตัวกลับประเทศของตน หากคุณให้สวัสดิการแก่ตำรวจ ตำรวจจะไม่เอาความต่อแรงงานผิดกฎหมาย เพราะอย่างไรเสียพวกเราในอเมริกาก็กำลังขาดแคลนแรงงาน หากคุณต้องการร้องเรียนเพื่อปราบปรามการทำงานผิดกฎหมายและเนรเทศบุคคลที่ชื่อสยงจินหรงกลับประเทศ อัตราความสำเร็จถือว่าต่ำมากครับ”

จากนั้นหลินม่ายก็ตระหนักได้ว่าเธอลงแรงไปอย่างเปล่าประโยชน์

เมื่ออยู่ในห้องตามลำพังกับสามี หลินม่ายบอกฟางจั๋วหรานด้วยความหงุดหงิดถึงคำพูดของนักสืบเอกชน โดยบอกว่าเธอจะต้องหาวิธีอื่นในการจัดการกับสยงจินหรง

ร้านบะหมี่แห้งม่ายจื่อเซียงของหลินม่ายกำลังจะเปิดตัว ฟางจั๋วหรานกังวลว่าเธอจะเหนื่อยเกิดไปหากมัวแต่คิดวิธีจัดการกับสยงจินหรง

เขากอดหลินม่ายและพูดว่า “ผมจะดูแลเรื่องชายแซ่สยงเอง คุณไม่ต้องกังวลนะ ยังไงซะผมก็ว่างอยู่แล้ว”

ในช่วงเวลานี้ หลินม่ายกำลังยุ่งในการเตรียมการเปิดร้านบะหมี่แห้งม่ายจื่อเซียงหน้าที่อยู่หน้าประตูมหาวิทยาลัย

เธอต้องค้นหาผู้ผลิตเพื่อผลิตแพ็คเกจเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ที่เข้ากันกับบะหมี่แห้ง รับสมัครผู้จัดการร้าน พนักงาน และเชฟ… จากนั้นฝึกอบรม

ทั้งยังต้องเล่นกับหนูน้อยเมื่อกลับมาบ้าน และแทบไม่มีเวลาเลย

แต่เธอยังคงลังเลอยู่

ฟางจั๋วหรานเปลี่ยนไปทำงานที่โรงพยาบาลอื่นเพื่อกำจัดความยุ่งเหยิงของโคอิซึมิ คานาโกะ เขายังคงอยู่ในช่วงคุมความประพฤติ เธอไม่ต้องการให้สยงจินหรงซึ่งเป็นคนเจ้าเล่ห์ส่งผลกระทบต่องานของฟางจั๋วหราน

แต่ฟางจั๋วหรานยืนยันว่ามันจะไม่ส่งผลกระทบต่อเขา ดังนั้นหลินม่ายจึงยอมตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจ

ทันใดนั้นเธอก็จำบางอย่างได้ “คุณเปลี่ยนโรงพยาบาลแล้ว โคอิซึมิ คานาโกะคงไม่มาคุกคามคุณอีกแล้วใช่ไหม”

“ไม่แล้ว ผมหลบเลี่ยงหล่อนอย่างโจ่งแจ้ง ถ้าหล่อนยังคอยมารบกวน ก็ถือว่าหล่อนไม่มีความเคารพในตัวเองเสียเลย”

หลินม่ายรู้สึกโล่งใจ

มันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีนักเมื่อสามีของตัวเองถูกผู้หญิงคนอื่นไล่ตาม

สยงจินหรงหนีไปรัฐยูทาห์และใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนเท่านั้น ไม่ว่าเขาจะไปทำงานที่ไหน ก็มีคนคอยรายงานเขาเสมอ

ถึงขนาดที่เขาต้องติดสินบนตำรวจ

กระนั้นเขากลับยังคงถูกรายงานซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาต้องติดสินบนตำรวจทุกครั้งเพื่อจะอยู่ต่อ ไม่นานเขาก็ใช้เงินไปจำนวนมหาศาล

สยงจินหรงไม่มีฐานที่มั่นในรัฐยูทาห์ เขาจึงกลับไปทำธุรกิจเดิม โดยพยายามฉ้อโกงเงินของหญิงสาว

เด็กสาวหลายคนกำลังจะโดนหลอก แต่แล้วก็ต้องเสียใจในวันรุ่งขึ้น

พวกหล่อนทั้งหมดได้รับคำเตือนว่า ใครก็ตามที่เข้าใกล้สยงจินหรงคือคนที่กำลังต่อต้านแก๊งขวาน

หลินม่ายคิดชื่อนี้ขึ้นมาอย่างลวก ๆ เพียงเพื่อทำให้เด็กสาวไร้เดียงสาและโง่เขลาเหล่านั้นหวาดกลัว อย่างน้อยพวกหล่อนก็จะรู้ตัวว่าถูกฉ้อโกงเงินและเสียตัวให้สยงจินหรง

แผนการของหลินม่ายคือ แม้ว่าเธอจะไม่สามารถส่งคนชั่วกลับประเทศโดยการรายงานเกี่ยวกับแรงงานผิดกฎหมาย แต่เธอจะพยายามตัดทรัพยากรทางการเงินและทำให้เขามีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก

แม้จะไม่ถูกส่งกลับประเทศ แต่หากเขาถูกรายงานว่าเป็นแรงงานผิดกฎหมาย ร้านอาหารที่เขาเคยทำงานก็ไม่กล้าจ้างสยงจินหรงต่อ

ด้วยเหตุนี้ สยงจินหรงจึงสามารถทำงานได้เพียงสามวัน ก่อนที่เขาจะถูกรายงานตัวและต้องหางานใหม่

เขาไม่สามารถหาเงินจากเด็กสาวผู้โง่เขลาได้มากมาย และการงานก็ยังไม่มั่นคง

เงินเก็บของสยงจินหรงเริ่มร่อยหรอลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เขาวิตกกังวล

เขารู้ว่าหลินม่ายเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด แต่เขาไม่สามารถต่อต้านเธอได้

นั่นเป็นเพราะว่าหลินม่ายคือคนถือมีด ส่วนเขาเป็นแค่ปลาบนเขียง

แต่ไม่นาน จู่ ๆ หลินม่ายก็หยุดรายงานเรื่องแรงงานผิดกฎหมาย แต่เธอยังคงส่งคำเตือนถึงเด็กสาวเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกเขาหลอก

ในที่สุดสยงจินหรงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลินม่ายยังคงให้ทางรอดแก่เขา โดยปล่อยให้เขาทำงานอย่างผิดกฎหมาย

กลางดึกคืนหนึ่ง สยงจินหรงเพิ่งทำงานในร้านอาหารเสร็จและขับรถมือสองที่ทรุดโทรมกลับบ้าน ขณะที่ขับ เขาก็หลับในด้วยความเหนื่อยล้า และรู้สึกเหมือนว่ารถได้ชนกับอะไรบางอย่าง

มีเสียงกระแทกดังสนั่นพร้อมกับเสียงกรีดร้องของหญิงสาว

นี่… ชนคนเหรอ?

สยงจินหรงพลันหายง่วง เขานั่งตัวสั่นเทาหลังพวงมาลัยพักใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจลงรถไปดู

หญิงสาวผิวขาวคนหนึ่งนอนแน่นิ่งจมกองเลือด โดยไม่รู้ว่าหล่อนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่

ใบหน้าของสยงจินหรงซีดลงด้วยความหวาดกลัว

เขามองไปรอบ ๆ ท่ามกลางความมืดและไม่เห็นใครอยู่บนถนน

เขารีบขึ้นรถและขับหนีไปทันที

ตลอดทั้งคืน สยงจินหรงตื่นตระหนกจนไม่สามารถนอนหลับตาได้

โดยบอกว่าผู้หญิงที่ประสบอุบัติเหตุชนแล้วหนีเสียชีวิตหลังจากนำตัวส่งโรงพยาบาล เนื่องจากได้รับความช่วยเหลือช้าเกินไป

ตำรวจสหรัฐอเมริกาค่อนข้างจริงจังกับคดีชนแล้วหนี ทั้งยังระบุด้วยว่าตำรวจกำลังรวบรวมเบาะแสเพื่อจับกุมผู้กระทำผิด แล้วยังแนะนำให้ผู้กระทำผิดมามอบตัวโดยดี

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะยอมมอบตัว เขาอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาอย่างผิดกฎหมาย แล้วยังก่อคดีชนแล้วหนี

ไม่รู้เลยว่าผลลัพธ์แบบไหนจะรอเขาอยู่ข้างหน้า และเกรงว่ามันอาจเป็นการถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต

เขาได้ยินมาว่าเรือนจำในสหรัฐอเมริกานั้นแย่มาก สยงจินหรงไม่ยอมให้ตัวเองติดคุกแน่นอน

เขาวางแผนที่จะหนีกลับประเทศจีน

อย่างไรก็ตามไม่มีเรือผิดกฎหมายที่เดินทางจากสหรัฐอเมริกาไปประเทศจีน และมีเพียงเรือผิดกฎหมายที่ลักลอบขนคนจากจีนมายังสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

คนลักลอบขนของเถื่อนบอกว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จะเดินทางกลับประเทศจีนจากประเทศดินแดนยาเสพติดบริเวณชายแดนสหรัฐอเมริกา

แต่สยงจินหรงจะกล้าไปยังประเทศที่มีการค้ายาเสพติดอย่างแพร่หลายและมีแก๊งอาชญากรมากมายได้อย่างไร?

คนลักลอบขนของเถื่อนจึงบอกเพิ่มเติมว่าเขามั่นใจเรื่องความปลอดภัยในประเทศค้ายารายใหญ่นั้นได้ ตราบใดที่จ่ายเงิน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ

สยงจินหรงสิ้นหวังและยอมเสี่ยงชีวิต เขามอบเงินออมทั้งหมด 20,000 ดอลลาร์สหรัฐของเขาให้กับผู้ลักลอบขนของเถื่อนและเดินทางไปยังประเทศค้ายารายใหญ่นั้น

โดยไม่คาดคิด ทันทีที่เขามาถึง นักเลงก็เข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นสมาชิกของแก๊งคู่แข่งและทุบตีเขาราวกับบุกเข้าไปในรังแตน

จนกระทั่งตอนที่ใกล้เสียชีวิตนั่นเอง สยงจินหรงจึงตระหนักได้ว่าเขาถูกหลอก

หลินม่ายได้รับข่าวการเสียชีวิตของสยงจินหรงขณะกำลังรับประทานบะหมี่แห้งต้มกับแจ็คที่ร้านบะหมี่แห้งม่ายจื่อเซียงด้านหน้ามหาวิทยาลัย

เธอมีท่าทางสงบนิ่ง

เธอเป็นคนสวยและจิตใจดี เธอไม่ใช่คนฆ่าเขา และฟางจั๋วหรานก็ไม่ได้ทำเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นต้องรู้สึกไม่สบายใจ

ฟางจั๋วหรานเพียงสร้างสถานการณ์อุบัติเหตุทางรถยนต์ปลอม ๆ และควบคุมโทรทัศน์วงจรปิดของสยงจินหรงชั่วคราว และขอให้ใครสักคนทำหน้าที่เป็นหัวงู

เป็นสยงจินหรงเองที่โง่เขลาและหลงกล หนีไปที่ประเทศค้ายารายใหญ่และเสียชีวิตเอง มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอและสามีของเธอ!

แจ็คเป็นชายตัวใหญ่และมีความอยากอาหารมาก

เขากินบะหมี่แห้งร้อน ๆ หนึ่งถ้วยแล้วไม่อิ่ม ดังนั้นเขาจึงสั่งเพิ่ม และยังสั่งฮวนสี่ถัว*สองอันด้วย

(*欢喜坨 ขนมงาทอด)

เขากำลังกินฮวนสี่ถัวและถามด้วยความสงสัย “คุณใส่ถั่วบดลงไปได้อย่างไร?”

คำถามสิ้นคิดเช่นนี้ทำให้หลินม่ายพูดไม่ออก

แจ็คกินอาหารเช้าเสร็จและกำลังจะเดินไปจ่ายเงิน

หลินม่ายโบกมือ “ไปทำธุระของคุณเถอะ ฉันจะจ่ายบิลให้”

แจ็คหัวเราะทันที

นี่เป็นเรื่องดีของการมีนายจ้างชาวจีน เวลากินอาหารด้วยกัน นายจ้างชาวจีนมักจะจ่ายค่าอาหาร

หากเปรียบเทียบกันแล้ว นายจ้างผิวขาวจะตระหนี่และให้พวกเขาจ่ายค่าอาหารเองเสมอ

แจ็คพูดขอบคุณหลายครั้ง เขาลูบมือแล้วถามว่าขอเอ้กน็อกอีกสักแก้วได้ไหม

แม้ว่าเอ้กน็อกจากประเทศจีนจะมีกลิ่นเหล้าชัด แต่มันก็หวานอร่อยมาก!

หลินม่ายขอให้บริกรนำเอ้กน็อกหนึ่งแก้วมาให้เขา

แจ็คยังคงลังเลที่จะจากไปและแนะนำว่า “บะหมี่แห้งร้อน ๆ ของคุณอร่อยนะ แต่ติดที่ไม่ค่อยมีเนื้อสัตว์ ถ้าคุณเพิ่มเนื้อลงไปอีกจะได้รับความนิยมมากขึ้น”

หัวใจของหลินม่ายสั่นไหวหลังจากได้ยิน

แม้ว่าธุรกิจร้านบะหมี่แห้งม่ายจื่อเซียงหน้ามหาวิทยาลัยจะดำเนินไปด้วยดีตั้งแต่เปิดกิจการ แต่ยอดขายยังคงลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับตอนที่เปิดครั้งแรก

หลินม่ายวิเคราะห์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ไม่พบเหตุผล

คำพูดของแจ็คทำให้เธอรู้แจ้ง และทันใดนั้นเธอก็พบสาเหตุที่ทำให้ยอดขายลดลง

ชาวตะวันตกชอบกินเนื้อสัตว์มากพอ ๆ กับคนจีน และชอบกินเนื้อสัตว์อะไรก็ได้

ลูกค้าชาวยุโรปและอเมริกาบางรายสามารถรับประทานบะหมี่แห้งแบบร้อนได้ แต่จะไม่รับประทานในระยะยาว เนื่องจากไม่มีเนื้อในบะหมี่แห้งแบบร้อน

หากใส่เนื้อสัตว์ลงในบะหมี่แห้งร้อน ๆ อาจเหมาะกับรสนิยมอเมริกันและเพิ่มยอดขาย

ท้ายที่สุดแล้ว การคาดหวังให้นักเรียนชาวจีนในมหาวิทยาลัยมากินบะหมี่แห้งร้อน ๆ เพียงอย่างเดียวนั้นไม่ใช่เรื่องความคิดที่ดี

หลินม่ายไม่เคยเบื่อที่จะกินบะหมี่แห้ง แต่เพื่อนร่วมชั้นหลายคนไม่ชอบกินบะหมี่แห้ง เนื่องจากในประเทศจีนมีบะหมี่อร่อยมากเกินไป บะหมี่แห้งร้อน ๆ แบบนี้จึงไม่ได้ดึงดูดใจพวกเขาเลย

แต่คนอเมริกันชอบกิน

คนอเมริกันใช้ตะเกียบไม่เป็น ถ้าให้ชามบะหมี่ตุ๋นเหอหนานกับพวกเขา คุณคิดว่าพวกเขาจะคีบเส้นเข้าปากได้ไหม?

แต่เส้นบะหมี่แห้งของเธอ คุณสามารถใช้ตะเกียบหรือส้อมก็ได้

สิ่งสำคัญคือรสชาติ ในสายตาคนอเมริกันมันยอดเยี่ยมมาก

มันประกอบด้วยต้นหอม ถั่วดอง น้ำจิ้มงา และน้ำมันงา อร่อยจนหยุดกินไม่ได้

แล้วลองใส่เนื้อลงในบะหมี่แห้งร้อน ควรจะใส่เนื้ออะไรดี? จะเพิ่มปริมาณแค่ไหน? หลินม่ายควรคิดให้รอบคอบ

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา หลินม่ายได้เปิดตัวหมูตุ๋นและบะหมี่แห้งร้อนหลากหลายรายการ

โดยไม่คาดคิด มันได้รับความนิยมอย่างมากเมื่อเปิดตัว ลูกค้าชาวยุโรปและอเมริกาจำนวนมากชอบซื้อบะหมี่แห้งพร้อมเนื้อสัตว์

นอกจากนี้ หลินม่ายยังปรับปรุงบะหมี่แห้งร้อน ๆ นั่นคือการเพิ่มแพ็คเกจน้ำเกลือที่มีกลิ่นหอมน่าดึงดูด

หากลูกค้าบางรายรู้สึกว่าบะหมี่แห้งร้อนน้ำน้อยเกินไป ก็สามารถเติมน้ำเกลือจากแพ็คเกจน้ำเกลือลงในบะหมี่ได้

การปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ทำให้ชนะใจลูกค้าได้มากขึ้น

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

หมดเสี้ยนหนามไปหนึ่ง ทีนี้ก็รอให้คู่สุนัขชายหญิงมันกัดกันเองแล้ว

อยากขายอะไรให้ได้ดีก็ต้องปรับให้เข้ากับรสนิยมของลูกค้าในท้องถิ่นล่ะ

ไหหม่า(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80

แม่ปากร้ายยุค​ 80

Score 10
Status: Completed
หลินม่ายได้กลับมาเกิดใหม่ในวันแต่งงานของตัวเอง​ และพบว่าทุกคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตัวเองหรือครอบครัวสามีต่างก็ยังเป็นเศษสวะกันเหมือนเดิม​ แต่ขอโทษเถอะ…หลินม่ายคนนี้ไม่ใช่หลินม่ายคนเดิมแล้ว​ ใครหน้าไหนมารังแกฉัน​ คราวนี้แม่จะซัดให้หงาย​​ จะงัดมารยาสาไถทุกกระบวนมาใช้แก้เผ็ดมันให้หมด! จากนั้นก็จะหย่ากับสามีกะหลั่วแยกตัวออกมาสร้างฐานะแบบสวยๆ​ ไม่ต้องสนใจใครอีกแล้ว!

Options

not work with dark mode
Reset