ตอนที่ 1017 กลุ่มเจ้าหน้าที่บริหารเมืองสั่งระงับกิจกรรม
ตอนที่ 1017 กลุ่มเจ้าหน้าที่บริหารเมืองสั่งระงับกิจกรรม
วันรุ่งขึ้น กิจกรรมสาธารณประโยชน์ในการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านฟรีแก่ประชาชนได้ดำเนินไปอย่างเต็มที่ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น
ในกิจกรรมสาธารณประโยชน์นี้ นอกจากอะไหล่ราคาแพงที่ต้องคิดราคาต้นทุน เหล่าชิ้นส่วนเล็ก ๆ ทั้งหมดที่ใช้ซ่อมล้วนแจกฟรี ซึ่งทำให้ผู้คนชื่นชอบมาก
มีการบอกเล่าปากต่อปากออกเป็นวงกว้าง ทำให้ซิงกวงพลาซ่าและโรงงานเซิงซื่อก้าวขึ้นไปอีกระดับ
ราวสิบโมงเช้า เจ้าหน้าที่บริหารเมืองกลุ่มหนึ่งก็มาถึง
ทันทีที่พวกเขามาถึง ก็ถามขึ้นเสียงเข้มงวดว่า “ผู้รับผิดชอบอยู่ที่ไหน ไปเรียกตัวมาเดี๋ยวนี้!”
ผู้รับผิดชอบกิจกรรมคือชายหนุ่มที่เรียกอาสาสมัครมารับประทานอาหารกลางวันเมื่อวานนี้
เขารีบเดินไปหาและถามด้วยความเคารพ “ขออภัยสหาย พวกคุณมีธุระอะไรหรือครับ?”
หัวหน้าทีมเจ้าหน้าที่บริหารเมืองเท้าสะเอวและกล่าวคำ “พวกคุณได้ส่งเอกสารรายงานมายังสำนักงานบริหารจัดการเมืองของเราสำหรับกิจกรรมที่กำลังจัดขึ้นในพลาซ่านี้หรือยัง?”
ฝ่ายบริหารหนุ่มเผยท่าทางประหลาดใจ “จำเป็นต้องรายงานด้วยหรือครับ ผมนึกว่าการจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ในพลาซ่าของตัวเองไม่จำเป็นต้องรายงานเสียอีก~”
หัวหน้าเจ้าหน้าที่พูดด้วยท่าทางขึงขัง “ที่ดินทั้งหมดเป็นของประเทศ ไม่มีตรงไหนที่เป็นของคุณ”
ฝ่ายบริหารหนุ่มรีบหยักหน้าตอบรับ “ครับๆๆ เราจะรีบทำเอกสารรายงานทันที”
การแสดงออกของหัวหน้าเจ้าหน้าที่ผ่อนคลายลงมาก “แต่คุณจำเป็นต้องหยุดกิจกรรมนี้ก่อน”
ฝ่ายบริหารหนุ่มถามด้วยความสงสัย “ทำไมล่ะครับ?”
หัวหน้าเจ้าหน้าที่ตอบด้วยเสียงที่จริงจัง “หลังจากยื่นรายงานแล้ว ไม่ใช่ว่าจะจัดกิจกรรมต่อได้ทันที เราต้องตรวจสอบและทำการอนุมัติก่อน”
ฝ่ายบริหารหนุ่มได้ยินคำว่า “ตรวจสอบ” หัวใจของเขาพลันเย็นเยือก
การตรวจสอบดังกล่าวต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือน กิจกรรมสาธารณประโยชน์นี้อาจต้องล่มไม่เป็นท่า
แต่เขากังวลเรื่องนี้ไม่ถึงห้านาทีเท่านั้น ก่อนจะโล่งใจ
เมื่อกิจกรรมสาธารณประโยชน์ล้มเหลว ผู้ที่เดือดร้อนและต้องทนทุกข์คือประชาชนทั่วไป ไม่ใช่ซิงกวงพลาซ่าและโรงงานเซิงซื่อ
เขาถือโทรโข่งและป่าวประกาศต่อประชาชนที่เข้าแถวรอรับบริการซ่อมฟรีว่า “เนื่องจากความประมาทเลินเล่อของเรา เราจึงลืมรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรต่อสำนักงานบริหารจัดการเมืองเพื่อจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์นี้ ขณะนี้ สำนักงานบริหารจัดการเมืองมีคำสั่งให้ยุติกิจกรรมสาธารณประโยชน์ทันที ทางเราจึงต้องขออภัยอย่างสุดซึ้ง ที่กิจกรรมสาธารณประโยชน์จำเป็นต้องสิ้นสุดก่อนกำหนด” หลังจากนั้นเขาโค้งคำนับให้ฝูงชนอย่างจริงใจ
ประชาชนที่มาซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างก็ไม่พอใจ พวกเขาไม่ยอมให้ยุติกิจกรรม แล้วยังเข้าล้อมต่อว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่บริหารเมือง
“ต่อให้พวกเขาจะตั้งแผงลอย แต่ก็เป็นการทำเพื่อสาธารณประโยชน์โดยไม่คิดกำไร ทำไมพวกคุณถึงต้องสั่งปิดด้วย?”
หัวหน้าเจ้าหน้าที่จึงต้องอธิบายอย่างช่วยไม่ได้ ไม่ว่าจะแสวงหาผลกำไรหรือไม่ ตราบใดที่พวกเขาใช้พื้นที่สาธารณะ ก็ต้องรายงานต่อสำนักงานล่วงหน้า
ประชาชนเหล่านี้เข้าคิวท่ามกลางลมหนาวมาเป็นเวลานาน แล้วใครที่ไหนจะยอมจากไปเฉย ๆ?
ทุกคนประณามกลุ่มเจ้าหน้าที่บริหารเมืองว่าขาดความเห็นอกเห็นใจและไม่เข้าใจถึงความจำเป็นในการพิจารณาเป็นพิเศษ
ตอนแรกทั้งสองเพียงโต้เถียงกันด้วยถ้อยคำ แต่ไม่นานเหตุการณ์ก็บานปลายจนเริ่มมีการผลักกันไปมา
หากไม่ใช่เพราะจินฉี่คังและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในห้างสรรพสินค้าที่พยายามแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน ประชาชนที่โกรธเคืองคงทุบตีเจ้าหน้าที่บริหารเมืองจนเลือดตกยางออกไปนานแล้ว
เหตุเกิดใหญ่มากจนมีคนใช้โทรศัพท์สาธารณะแจ้งสื่อมวลชน ไม่นานสื่อก็เข้ามาสัมภาษณ์
เมื่อเผชิญหน้ากับสื่อ กลุ่มเจ้าหน้าที่บริหารเมืองยืนกรานเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น เนื่องจากไม่มีการรายงานเพื่อจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ มันจึงต้องปิดตัวลง
ผู้สื่อข่าวกลุ่มหนึ่งถามพวกเขาว่า เหตุใดจึงไม่พิจารณาละเว้นเป็นพิเศษและอนุมัติใบรายงานของผู้จัดงานทันที?
แม้กิจกรรมสาธารณประโยชน์นี้จะใช้พื้นที่สาธารณะ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการจราจร
แต่หัวหน้าเจ้าหน้าที่ยืนกรานว่าต้องรอการตรวจสอบก่อนเท่านั้น
นักข่าวคนหนึ่งเห็นหลินม่ายยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนและกำลังถือโทรศัพท์มือถือรูปทรงเหมือนอิฐ จึงได้เดินไปถามอย่างสุภาพว่า “ขอผมยืมโทรศัพท์มือถือของคุณได้ไหมครับ?”
ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือขนาดก้อนอิฐในมือหลินม่ายก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคน
หลินม่ายถามนักข่าวด้วยรอยยิ้มว่า เขาต้องการทำอะไรกับโทรศัพท์มือถือของเธอ?
นักข่าวตอบด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนว่ายืมไปโทรครับ”
จากนั้นเขาก็กล่าวเสริมว่า “เพื่อต่อสายหาผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการเมือง
เมื่อได้ยินดังนั้น หลินม่ายก็ให้เขายืมโทรศัพท์มือถือขนาดก้อนอิฐโดยไม่พูดสิ่งใดสักคำ
มันค่อนข้างชัดเจนว่าการที่กลุ่มเจ้าหน้าที่บริหารเมืองปรากฏตัวอย่างกะทันหัน เกรงว่าอาจมีใครบางคนคอยยุยงอยู่เบื้องหลัง
เช่นนั้นเธอจะยืมมือนักข่าวคนนี้ ทำให้กลุ่มเจ้าหน้าที่บริหารเมืองมีปัญหาเล็กน้อย
ทันใดนั้นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ก็ตื่นตระหนก เขาเป็นเจ้าหน้าที่ทุจริตที่รับสินบน ส่วนผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดเพียงปฏิบัติตามคำสั่งของเขาเท่านั้น
หากเรื่องนี้ถูกรายงานต่อผู้อำนวยการ เขาอาจต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก
ด้วยความสิ้นหวัง หัวหน้าเจ้าหน้าที่รีบคว้าโทรศัพท์มือถือในมือนักข่าว “เฮ้ๆๆ สหายนักข่าว มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย อย่าไปรบกวนผู้อำนวยการเลย ผมจะจัดการเรื่องนี้ทันทีเลย”
นักข่าวพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “สายไปแล้ว!” เขายืนกรานที่จะโทรหาผู้อำนวยการ
หัวหน้าเจ้าหน้าที่ยื้อแย่งโทรศัพท์มือถืออย่างสิ้นหวัง
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังขึ้น โทรศัพท์มือถือในมือนักข่าวหล่นลงกระแทกพื้น กระทั่งเสารับสัญญาณหัก
ทั้งหัวหน้าเจ้าหน้าที่และนักข่าวต่างก็หน้าซีดเผือด
แม้ราคาอย่างเป็นทางการของโทรศัพท์มือถือจะอยู่ที่กว่า 10,000 หยวนเท่านั้น แต่ตอนนี้คนทั่วไปก็ไม่สามารถซื้อได้ และราคาในตลาดมืดคือ 50,000 หยวน ซึ่งพวกเขาไม่สามารถจ่ายได้
ใครบางคนในฝูงชนพูดขึ้น “โอ๊ย! คุณไม่เพียงแต่แย่งโทรศัพท์มือถือของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังทำมันพังอีกด้วย คุณในฐานะหัวหน้าเจ้าหน้าที่จะต้องชดใช้ด้วยเงินมหาศาล!”
หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารจัดการเมืองยิ่งตกใจกว่าเดิมเมื่อได้ยินสิ่งนี้
หลินม่ายไม่ได้พูดสิ่งใด
เธอให้นักข่าวยืมโทรศัพท์มือถือ แต่เนื่องจากการกระทำของหัวหน้าเจ้าหน้าที่ ทำให้โทรศัพท์ได้รับความเสียหาย เรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับนักข่าวแล้วว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร
นักข่าวขอให้หัวหน้ารับผิดชอบเต็มที่ แต่หัวหน้าเจ้าหน้าที่จะเต็มใจยอมทำได้อย่างไร?
ทั้งสองฝ่ายต่างก็โทรแจ้งตำรวจ
เมื่อตำรวจทราบเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ ทุกคนก็ให้การว่าโทรศัพท์มือถือได้รับความเสียหายจากการกระทำของหัวหน้าเจ้าหน้าที่ และทั้งหมดเป็นความผิดของเขา
หากเขาไม่เข้ามายื้อแย่งกับนักข่าว โทรศัพท์มือถือก็คงไม่หล่นพื้นจนเสาอากาศหัก
แม้ว่าหัวหน้าเจ้าหน้าที่จะต้องการหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ แต่สุดท้ายความรับผิดชอบก็ตกมาอยู่กับเขา
เรื่องนี้ยังคงไม่จบ นักข่าวได้ติดต่อผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการเมืองและรายงานเรื่องนี้ให้เขาทราบ
ผู้อำนวยการให้คำแนะนำทางโทรศัพท์ว่า บอกให้อนุมัติกิจกรรมสาธารณประโยชน์ที่ซิงกวงพลาซ่าและโรงงานเซิงซื่อดำเนินการต่อไปได้
หัวหน้าเจ้าหน้าที่ยิ่งหดหู่ใจมากกว่าเดิม หากเรื่องนี้ถูกรายงานต่อบริหารสูงสุด เขาอาจสูญเสียตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
กลุ่มเจ้าหน้าที่บริหารเดินทางจากไป ทำให้กิจกรรมสาธารณประโยชน์ยังคงดำเนินการต่อไป
ประชาชนจำนวนมากที่ได้รับการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าฟรีต่างก็กลับบ้านด้วยความเบิกบานใจ
แม้ว่าหลินม่ายจะสวมเสื้อแจ็คเก็ตขนเป็ด แต่เธอยังคงรู้สึกหนาวอยู่บ้างหลังจากยืนท่ามกลางลมหนาวเป็นเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง
เธอกำลังจากไป แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินคู่สามีภรรยาวัยกลางคนโต้เถียงกับช่างเทคนิคอยู่ไม่ไกล
หลินม่ายเดินไปแอบฟังสักครู่หนึ่ง จากนั้นก็จับต้นชนปลายได้ถึงสาเหตุของเรื่องกระทบกระทั่งดังกล่าว
ปรากฏว่าจอโทรทัศน์ของทั้งคู่พัง จึงได้นำมาให้ช่างเปลี่ยนจอใหม่ให้ในราคา 60 หยวน ซึ่งเงิน 60 หยวนนั้นเป็นเพียงราคาต้นทุนของจอใหม่เท่านั้น
แต่คู่รักวัยกลางคนยืนกรานคำว่า “สาธารณประโยชน์ฟรี” และปฏิเสธที่จะจ่ายเงินจนถึงที่สุด เป็นเหตุทั้งสองฝ่ายมีปากเสียง
แม้ว่าประชาชนหลายคนจะกล่าวหาว่าทั้งคู่โลภมาก แต่พวกเขายังคงทำตัวหน้าหนาและไม่ยอมจ่ายเงิน ไม่ว่าทุกคนจะพยายามชี้แจงหรือโน้มน้าวอย่างไร ทั้งสองก็ไม่เคยตระหนักได้สักนิด
หลินม่ายพูดกับช่างเทคนิคว่า “นำจอใหม่ของเราออก และคืนโทรทัศน์ของพวกเขาไป”
ช่างเทคนิคหนุ่มเผยสีหน้าโกรธเคืองขณะทำตามที่หลินม่ายพูด
สามีภรรยารีบพูด “พวกคุณซ่อมโทรทัศน์ของเราเสร็จแล้ว ทำไมคุณถึงเอามันออกอีก? นี่คุณกำลังรังแกคนอื่นงั้นหรือ?”
หลินม่ายพูดคำเบา “ถ้าคุณคิดว่าเรากำลังรังแก งั้นก็ไปหาสื่อและฟ้องเราสิคะ!”
หลายคนในฝูงชนแสดงความเห็นทันทีว่า หากทั้งคู่กล้าใช้สื่อทำลายชื่อเสียงงานการกุศลครั้งนี้ พวกเขาจะก้าวออกมาเป็นพยาน
ทั้งคู่ตระหนักดีว่าพวกเขาทำผิด และไม่ได้เจตนาจะสร้างความยุ่งยากให้เรื่องนี้เพิ่มขึ้น
หากไปโวยวายกับสื่อจริง ๆ อาจเป็นพวกเขาเองที่เสื่อมเสียชื่อเสียงไม่ใช่หรือ?
ทั้งคู่ให้ความร่วมมือมากขึ้นทันทีและจ่ายค่าอุปกรณ์ ก่อนจะจากไปด้วยความอับอาย
กิจกรรมสาธารณประโยชน์ในการซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าฟรีแก่ประชาชนจึงประสบความสำเร็จด้วยดี
สำหรับประชาชนจำนวนมากที่มาไม่ทันงานการกุศลนี้ ทางซิงกวงพลาซ่าและโรงงานเซิงซื่อร่วมกันให้คำสัญญาว่า พวกเขาจะจัดงานการกุศลดังกล่าวอีกครั้งเมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง
หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารเมืองไม่มีเงินจ่ายค่าโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ให้หลินม่าย
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องติดต่อพนักงานฉวินกวงพลาซ่าที่ให้สินบนเขา เพื่อพยายามเรียกร้องเงินไปชดเชยให้หลินม่าย
หากอีกฝ่ายไม่เห็นด้วย เขาจะเปิดเผยเรื่องนี้แก่สื่อมวลชนทราบ เพื่อบีบบังคับฉวินกวงพลาซ่าให้จนมุม
มันมีมูลค่ามากกว่า 10,000 หยวน พนักงานคนดังกล่าวไม่สามารถหาเงินมาได้ เขาจึงต้องรายงานสถานการณ์ให้ประธานหวงแห่งฉวินกวงพลาซ่าทราบด้วยความไม่เต็มใจ
แม้ว่าโทรศัพท์มือถือขนาดก้อนอิฐจะไม่ได้มีค่าในสายตาของประธานหวง แต่ฉวินกวงพลาซ่าก็กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายนับตั้งแต่ตกหลุมพรางซิงกวงพลาซ่า
เขาเริ่มสงสัยว่าฮวงจุ้ยของฉวินกวงพลาซ่าไม่ดี และคิดว่าเขาควรเชิญพระหวยอันจากวัดเป่าทงมาทำพิธีปรับฮวงจุ้ยดีหรือไม่
ประธานหวงขอให้ลูกน้องซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ที่เหมือนกับของหลินม่ายทุกประการ และขอให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่จัดการเมืองนำไปชดเชยให้หลินม่าย
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
มาแผนนี้ใครๆ ก็ดูออกว่าปลอม พอเถอะค่ะ อย่าทำให้ชื่อเสียงตัวเองเสียหายไปมากกว่านี้เลย
ไหหม่า(海馬)