ตอนที่ 1014 ส่งกลับบ้าน
ตอนที่ 1014 ส่งกลับบ้าน
หลินม่ายพาสองพี่น้องกลับมาที่บ้าน หลังจากอาบน้ำและสวมเสื้อผ้าใหม่ที่ซื้อมาแล้ว เธอจะพาพวกเขาไปที่สหพันธ์สตรี
เสี่ยวเฉิงคล้ายมีบางอย่างจะพูด แต่สุดท้ายเขาไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะคว้ามือน้องสาวเดินติดตามหลินม่ายไป
หลินม่ายขับรถพาพี่ชายและน้องสาวไปที่สหพันธ์สตรีก่อนจะรายงานสถานการณ์ตามความจริง
เจ้าหน้าที่สหพันธ์สตรีต้อนรับพวกเขาอย่างดี ทั้งหมดขึ้นรถของหลินม่ายไปยังสำนักงานเขตที่ตั้งของบ้านเสี่ยวเฉิง หลังจากเรียกเสนาธิการมาพูดคุยแล้ว พวกเขาก็ไปที่บ้านของพี่ชายและน้องสาวของเสี่ยวเฉิง
มีเพียงหวังย่าหลิงผู้เป็นแม่เลี้ยงกับลูกสาวสองคนอยู่ภายในบ้าน
เมื่อเห็นว่าสองพี่น้องเสี่ยวเฉิงกลับมา หล่อนก็อุทานด้วยความรังเกียจว่า “เด็กน่ารำคาญสองคนนี้กลับมาแล้ว”
ทั้งหมดเริ่มด่าทอเด็กสองคนนี้อย่างรุนแรง และเด็กทั้งสองก็มีท่าทางหวาดกลัวจนกระทั่งไร้ซึ่งความมั่นใจที่จะพูดตอบโต้
หวังย่าหลิงตะโกน “คุณเป็นใคร? ทำไมเดินเข้ามาในบ้านของฉัน แล้วยังพาลูกของฉันไปไหนมาไหนอีก เห็นหัวฉันบ้างไหม?”
หลังจากนั้นผู้ปฏิบัติงานประจำท้องถิ่นเดินเข้ามาแนะนำตัวเอง ทำให้หวังย่าหลิงสงบปากและไม่กล้าทำกิริยาดุร้ายอีกต่อไป “แล้วพวกคุณมาที่นี่ทำไม?”
กลุ่มสหพันธ์สตรีผลักสองพี่น้องชายหญิงเสี่ยวเฉิงออกมา “ลูกของคุณสองคนนี้เร่ร่อนอยู่ด้านนอกมากว่าครึ่งปี ทำไมถึงไม่ออกตามหาพวกเขา?”
หวังย่าหลิงเปิดปากโกหกทันที “ตามหาแล้ว แต่ไม่เคยพบ”
“หาแล้ว? ไม่พบ?” กลุ่มสหพันธ์สตรีถามต่อ “แล้วทำไมไม่แจ้งตำรวจ?”
หวังย่าหลิงต้องการใช้คำพูดดี ๆ เพื่อหาข้อแก้ตัว แต่เวลานี้อีกฝ่ายกลับขัดจังหวะขึ้นมาก่อน “อย่าคิดแก้ตัวเด็ดขาด เรารู้ว่าคุณกับสามีทำร้ายลูกของตัวเอง และนี่คือการกระทำผิดครั้งแรก เราจึงจะให้โอกาส คราวนี้ลูกทั้งสองกลับมาหาคุณแล้ว ถ้าคุณกับสามียังคิดทำร้ายพวกเขาสองคนอีก ฉันจะแจ้งตำรวจเพื่อจับกุมคุณทันที!”
หวังย่าหลิงให้สัญญาว่าหล่อนจะไม่ทำอย่างนั้นอีก หลังจากนั้นฝ่ายสหพันธ์สตรีกล่าวด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย
“พวกเราไม่คิดเชื่อคำสัญญาของคุณ ตอนนี้ฉันพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ประจำถนนแถบนี้ และขอให้พวกเขาสอดส่องบ้านของคุณให้มากขึ้น ตราบใดที่ฉันรู้ว่าพวกคุณรังแกพี่น้องเสี่ยวเฉิง พวกเราจะดำเนินการทางกฏหมายทันที!”
เจ้าหน้าที่กล่าวต่อว่า “คุณไม่อาจใจดีกับลูกสาวสองคนและเพิกเฉยต่อลูกสามีได้ หัดมีความยุติธรรมสักหน่อยเถอะ!”
เมื่อหลินม่ายออกไปแล้ว เสี่ยวเฉิงพาน้องสาวเข้าไปโค้งคำนับให้กับหลินม่าย ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ทำเพื่อพวกเขาทั้งสองคน
ตอนกลางคืน หวังย่าหลิงนอนอยู่บนเตียงพร้อมกล่าวกับหลี่เม่าผู้เป็นสามีว่า “ฉันไม่สนใจหรอกนะ รีบจัดการไอ้สารเลวสองตัวนั้นเร็วเข้า ไม่อย่างนั้นฉันจะหย่ากับคุณ!”
เมื่อนึกถึงมื้อเย็นที่เป็นเนื้อสัตว์แล้วต้องแบ่งปันให้กับสองพี่น้องนั่น หล่อนก็รู้สึกว่าลูกสาวสองคนของหล่อนกินได้น้อย และมันทำให้หล่อนไม่พอใจมาก
แต่อย่างไรแล้วหล่อนก็ต้องอดทนต่อไป ไม่อย่างนั้นสหพันธ์สตรีจะจับกุมหล่อนข้อหาทำร้ายเด็ก
เพราะอย่างนี้หล่อนจึงต้องการกำจัดพี่น้องสองคนนี้ออกไปโดยเร็ว
แน่นอนว่าหลี่เม่าไม่ต้องการหย่ากับหวังย่าหลิง เพราะหล่อนเก่งกาจในเรื่องบนเตียงยิ่งกว่าใคร!
เขากอดดหวังย่าหลิงเอาไว้ก่อนจะกล่าวปลอบ “เรื่องนี้เราหุนหันพลันแล่นไม่ได้หรอก ถ้ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเด็กสองคนนี้ทันทีที่พวกเขากลับมา ใครจะเชื่อล่ะว่าเป็นอุบัติเหตุ กลายเป็นว่าเราจะถูกตัดสินประหารชีวิตเพราะฆ่าเด็กสองคนมากกว่า!”
วันรุ่งขึ้นคือวันปีใหม่ของทางใต้ นี่คือวันที่ซิงกวงพลาซ่าจับสลากและประกาศยอดเงินที่ได้รับในการช่วยเหลือเด็กยากจนอย่างเป็นทางการ
มีลมแรงและหิมะตกในเจียงเฉิง หิมะไม่ค่อยหนักมาก แต่ว่าก็ไม่ได้เบานักเช่นกัน
ถึงสภาพอากาศจะย่ำแย่ แต่ก็ไม่สามารถหยุดประชาชนในการลุ้นรางวัลได้
เรื่องโชคลาภนั้นพูดกล่าวได้ยาก หากว่าได้รับขึ้นมาล่ะ?
สิบโมงเช้าจะเป็นการเริ่มจับสลากที่ซิงกวงพลาซ่า
จินฉี่คังจัดการงานจับสลากนี้อย่างรัดกุม
ไม่เพียงจะรับเชิญผู้นำจังหวัดมาร่วมงานเท่านั้น แต่ยังเชิญเจ้าหน้าที่จากศาลมาร่วมด้วย
งานนี้ถูกจัดขึ้นในจัตุรัส และเมื่อเห็นว่ามีลมแรงและยังมีหิมะตกด้วย จินฉี่คังจึงสร้างพลับพลาคล้ายกับเพิงสี่เหลี่ยมขึ้นมา
ไม่ว่าจะเป็นผู้นำหรือทนายความ หากยืนอยู่ในนี้ เสื้อผ้าจะไม่เปียกจากเกล็ดหิมะที่โปรยปรายลงมาแน่นอน
การจับรางวัลเริ่มต้นด้วยรางวัลเล็กก่อน และปิดท้ายด้วยรางวัลที่หนึ่ง
การจับรางวัลจบลงภายในครึ่งชั่วโมง ทุกคนล้วนแต่ดีใจยกใหญ่ ผู้ที่ได้รับรางวัลใหญ่เช่นทีวี ตู้เย็น ได้รับสายตาอิจฉามากมายหลายคู่
ต่อมาก็เป็นการประกาศยอดเงินบริจาค
จินฉี่คังยืนอยู่บนแท่นและประกาศจำนวนเงินที่ได้รับบริจาคต่อหน้าฝูงชน เมื่อได้ยินแล้วทุกคนพลันตื่นตระหนกทันที
ทุกคนไม่คิดมาก่อนว่าเงินบริจาคจะมีมูลค่าถึงสองล้านหยวนในระยะเวลาสั้น ๆ และทุกการใช้จ่ายสิบหยวนจะมีหนึ่งหยวนเท่านั้นที่จะแบ่งออกไปเพื่อการกุศล
จินฉี่คังกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นก่อนจะพูดว่า “หากปราศจากการสนับสนุนจากผู้ใช้บริการทุกท่าน เราคงไม่สามารถสร้างกุศลมากมายเช่นนี้ได้ การบริจาคนี้เต็มไปด้วยความรักและเมตตาของพวกท่าน ประธานหลินบอกกล่าวไว้ว่าเราคงไม่อาจยอมรับดีความชอบนี้ไว้เพียงผู้เดียวได้ เพราะทั้งหมดคือพวกท่านทุกคนให้การสนับสนุน คุณหลินยินดีที่จะบริจาคเงินเพิ่มเติมจำนวนหนึ่งล้านหยวนในนามของซิงกวงพลาซ่าเพื่อช่วยเหลือเด็กยากจนและป่วยหนัก”
เสียงปรบมือดังขึ้นจากฝูงชน
ผู้คนไม่ทราบแน่ชัดว่าเงินที่ถูกแบ่งไปนั้นเป็นเงินของพวกเขา หรือเป็นผลกำไรของห้างสรรพสินค้ากันแน่
แต่สุดท้ายแล้วซิงกวงพลาซ่ายินดีที่จะบริจาคเงินเพิ่มอีกหนึ่งล้านหยวนเป็นการส่วนตัว
พวกเขาจึงหายคับข้องใจและยินดีจะสนับสนุนซิงกวงพลาซ่าต่อไป
การลุ้นรางวัลจบลงแล้ว แต่หลินม่ายก็ยังไม่ได้กลับบ้าน
เธอพาครอบครัวเยี่ยมชมห้างสรรพสินค้าของตนเอง
เมื่อครอบครัวเดินลงมาถึงพื้นที่ขายเครื่องดื่ม มีเครื่องดื่มเพียงสองรายการเท่านั้นคือโค้กกับเจียนหลีเปา
และสิ่งสำคัญคือบูทของโค้กครอบครองพื้นที่กว่าสองในสาม ดูเหมือนว่าเจียนหลีเปาจะไม่สามารถแข่งขันกับโค้กได้เลย
ครอบครัวของพวกเขาใช้เวลาช็อปปิ้งนานหลายชั่วโมง
หลังออกจากห้างสรรพสินค้าแล้ว หิมะยังคงตกอยู่
คุณปู่ฟางลูบมือเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “เราไปกินหม้อไฟกันเถอะ หนาวจังเลย!”
หลังจากทุกคนขึ้นรถแล้ว หลินม่ายจึงขับรถกลับบ้าน
เมื่อขับผ่านฉวินกวงพลาซ่า เธอก็เห็นว่ามีคนมารวมตัวกันที่จตุรัสมากมายราวกับมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น
แม้หลินม่ายเองจะอยากรู้อยากเห็น แต่เธอก็ไม่ได้หยุดรถแต่อย่างใด
เมื่อรถลงจากสะพานจะพบสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เสี่ยวหม่านและเสี่ยวเลี่ยงอาศัยอยู่ที่นี่
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา หลินม่ายอดไม่ได้ที่จะหันมองสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ทว่าในคราวนี้เธอเห็นร่างคุ้นเคยปรากฏที่นั่น
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ทุกสายตาจับจ้องคุณอยู่นะแม่เลี้ยง ทำร้ายเด็กเมื่อไหร่โดนจับแน่
ไหหม่า(海馬)