ตอนที่26 ไม่ว่าอะไรก็ฝากให้ฮารุโกะซังได้เลย
“ทำอะไรที่ว่านี่คือ?”
รูดี้ตอบคำถามของโซลาริสด้วยคำถามของเขาเอง
[ดิฉันถูกปลุกขึ้นมาโดยผู้รักษาการกัปตันแต่ทว่าตัวยานเองกลับเสียหายยับเยินจนใช้การไม่ได้ ดิฉันเลยไม่ทราบว่าจะทำยังไงต่อไปคะ]
มันก็จริงที่เขาปลุกโซลาริสขึ้นมาเพราะต้องการข้อมูลแต่ทว่าเขาคิดไม่ถึงว่าบุคลิกของ AI ตัวนี้จะมีชีวิตชีวาได้ขนาดนี้ และเขาเองก็ไม่ได้นึกถึงเรื่องหลังจากนั้น
“ก็จริงนะ ถ้าเรามีเปลือกว่างๆอยู่ล่ะก็เราสามารถย้ายเธอไปไว้ในนั้นแทนได้อยู่ แต่ว่า…..”
ระหว่างที่รูดี้กำลังครุ่นคิด ฮาลก็เสนอขึ้นมา
[มาสเตอร์ในรายการสินค้าที่เราขนมาคราวนี้มันมีแอนดรอยด์พี่เลียงเด็กรวมอยู่ด้วย]
“มันมีของแบบนั้นอยู่ด้วยเรอะ?”
รูดี้ตกใจตาโต ส่วนฮาลก็กล่าวต่อไป
[มันถูกลงทะเบียนไว้ว่า “ไม่ว่าอะไรก็ฝากให้ฮารุโกะซังได้เลย” ในรายการครับ]
“เป็นเซ้นส์ในการตั้งชื่อที่ยอดไปเลยนะ”
ระหว่างที่เขากำลังพึมพำ ก็ทำการไล่ดูในรายการสินค้าไปด้วยแล้วก็พบว่ามันมี “ไม่ว่าอะไรก็ฝากให้ฮารุโกะซังได้เลย” อยู่จริงๆ
“ตั้งแต่ ดูแลเด็ก ไปจนถึงทำความสะอาด การต่อสู้ ศิลปะการใช้ปืน……ทำไมการเลี้ยงเด็กมันต้องมีศิลปะการต่อสู้และการใช้ปืนรวมอยู่ด้วยล่ะ?”
[ในคู่มือการใช้งานระบุว่ามันจำเป็นสำหรับการปกป้องเด็กครับ]
“สุดแกร่งไปเลยนะ ฮารุโกะซังเนี่ย”
[แล้วจะเอายังไงเหรอครับ?]
“ไหนๆเราก็กลับไปได้แล้วด้วย จะยังไงก็ช่างมันละ เอามาใช้เลยละกัน ว่าแต่เธอล่ะโซลาริสจะเอายังไง?”
[ดิฉันเองก็ขอทราบข้อมูลจำเพาะของ “ไม่ว่าอะไรก็ฝากให้ฮารุโกะซังได้เลย” ด้วยคะ]
[มาสเตอร์?]
“ส่งไปเลย”
[ครับ มาสเตอร์]
“ฮาล ส่งข้อมูลจำเพราะ ของ ไม่ว่าอะไรก็ฝากให้ฮารุโกะซังได้เลย ให้กับ โซลาริส หลังจากที่เธอตรวจสอบอยู่ครู่หนึ่งก็กล่าวขึ้น”
[มีปัญหาอยู่เรื่องหนึ่งคะ ความจุของอุปกรบันทึกข้อมูลภายในของ “ไม่ว่าอะไรก็ฝากให้ฮารุโกะซังได้เลย” นั้นไม่สามารถรองรับปริมาณข้อมูลทั้งหมดของดิฉันได้ จะทำอย่างไรดีดะ?]
“โซลาริส ข้อมูลส่วนใหญ่ที่เธอมีมันเกี่ยวกับการควบคุมระบบต่างๆของยาน เบียนก้า แฟร์ ใช่ไหม?”
[โดยประมาณ79% เป็นอย่างนั้นคะ]
“ถ้างั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก ส่งล็อกทั้งหมดไปที่ ฮาล เดี๋ยวฉันจะไล่อ่านดูทีหลัง แล้วก็ทิ้งข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับระบบควบคุมยานไปเลย แล้วก็โอนย้ายเฉพาะแกนข้อมูลบุคลิกเฉพาะตัว ของเธอไป”
[ถ้าทำอย่างนั้น ดิฉันจะเสียคุณค่าในการดำรงอยู่ไปนะคะ]
“ยานก็พังยับไปแล้วแท้ๆ ตัวเธอในตอนนี้มันทีคุณค่าอะไร ช่วยตอบมาหน่อยสิ”
[………….]
โซลาริสไม่สามารถตอบคำถามเขาได้
“ฮาล เรายังมีเวลาเท่าไหร่ก่อนที่เชื้อเพลิงเครื่องปั่นไฟจะหมด?”
[เหลือเวลา ประมาณ25นาทีได้ครับ]
“เขาว่างั้นแหนะ ถ้าเชื้อเพลิงหมดละก็คราวนี้เธอก็จะได้กลับไปหลับตลอดกาล ในเชิงความหมายชองมนุษย์ก็คือ ตาย ฉันจะพูดตรงๆนะ ตราบไดที่ฉันได้ข้อมูลมาละก็จริงๆแล้วตัวเธอก็ไม่ได้จำเป็นอะไรด้วย ที่ฉันยกร่างแอนดรอยด์ให้ก็เพราะเป็นรางวัลค่าข้อมูลเท่านั้นแหละ”
[เข้าใจแล้วคะ ดิฉันจะทำคามที่คุณแนะนำ]
ว่าแล้ว โซลาริสก็ทำการทิ้งข้อมูลส่วนใหญ่แล้วถ่ายโอนบุคลิกเฉพาะของเธอตัวไปสู่ “ไม่ว่าอะไรก็ฝากให้ฮารุโกะซังได้เลย”
“ฮาล จะใช้เวลาเท่าไหร่ที่ ฮารุโกะซังจะเริ่มใช้งานได้”
[ถ้ารวมกับเวลาที่ใช้ในการปรับแต่งอย่างละเอียด จะใช้เวลาประมาณ4ถึง5วัน ครับ]
“เข้าใจละ พอปรับแต่งเรียบร้อยแล้วก็ส่งเธอลงมาที่พื้นเลย”
[ถามเพื่อความแน่ใจนะครับ มีเป้าหมายอะไรที่จะส่งเธอลงไปเหรอครับ?]
“เพื่อดูแล ชิโชว นะสิ แนเห็นแล้วท่าว่านอกจากเรื่องเวทมนต์แล้วเธอดูจะไม่เอาไหนเลย ”
[รับทราบครับ]
“ฝากด้วยละ”
รูดี้ถอนหายใจแล้วถอดสายเคเบิลที่เสียบอยู่กับหัวของเขาออกมา นาโอมิที่ยืนดูอยู่ข้างหลังจึงกล่าวขึ้น
“รูดี้ ว่ายังไงบ้าง?”
“อีกฝ่ายค่อนข้างหัวแข็งแล้วคุยยากหน่อย เดี๋ยวพอเรากลับไปแล้วผมจะเล่าให้ฟังอีกที เดส”
แม้ว่า นาโอมิ อยากจะฟังทันทีแต่พอเห็นรูดี้ทำหน้าเหนื่อยๆ เธอก็เลยพยักหน้าตกลง
เมื่อกลับมาถึงฐานที่พัก ทั้งสองคนก็เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดในขณะที่กินมื้อเที่ยงไปด้วย
มื้อเที่ยงวันนี้เป็น แฮมเบอร์เกอร์ ที่โดรนทำให้ นาโอมิที่เห็นว่ามันเรียบง่ายแต่อร่อยดีก็กินจนหมด แต่รูดี้ที่ยังมีอาการเมาค้ากินไปได้แค่ครึ่งเดียวแล้วบ่นว่ารู้สึกคลื่นไส้
“…จะบอกว่า โกเล็ม…ไม่สิ AI ที่ชื่อว่าโซลาริสจะมาอยู่ด้วยกันกับเรางั้นเหรอ?”
“ตามนั้นแหละ เดส”
รูดี้พยักหน้าให้กับนาโอมิที่กำลังงุนงง
“มันจะเป็นการรบกวนไหม เดส?”
“…โซลาริส เนี่ยเข้าไปอยู่ในแอนดรอยด์ใช่ไหม? ถ้ายังไม่เห็นด้วยตาตัวเองฉันก็คงออกความเห็นอะไรไม่ได้แหละนะ”
“ก็เหมือนกับหญิงสาวทั่วไปนั่นแหละ เดส แต่รูปร่างหน้าตาและและช่วงวัยสามารถปรับแต่งได้ ถ้าต้องการละก็ บอกผมได้นะ เดส”
“ไม่อ่ะ เรื่องนั้นฝากให้เธอจัดการละกัน”
“ถ้าอย่างนั้น ก็ทำให้ออกมาเป็นสาวน้อยน่ารัก เดส”
พอได้ยินรูดี้พูดแบบนั้น นาโอมิก็จ้องแรงๆไปที่เขา
“นี่พยายามจะบอกว่าฉันมันไม่น่ารักแบบอ้อมๆอยู่หรือไง น่ะ?”
“”ชิโซว…ผมขอถามกลับหน่อยละกัน คุณคิดว่าตัวเองน่ารักไหม เดส?
นาโอมิยิ้มเจือนๆกับคำถามของรูดี้
“ก็นะ…ก็ไม่ได้น่ารักอะไรหรอก แต่ไม่เห็นต้องพูดตรงๆก็ได้นี่นา”
“ขอโทษละกัน เดส ก็นะ ถ้ามันไม่เข้ากับความต้องการของชิโชวละก็ผมจะขังมันไว้ในห้องไต้ดินเอง เพราะงั้นไม่ต้องห่วง เดส”
“แบบนั้นมันก็จะน่าสงสารเกินไปนะ ถ้าเธอไม่ใช้พวกอารมณ์รุนแรงละก็ จะอยู่ด้วยกันก็ไม่ว่าอะไรหรอก”
“ถึงเธอจะหัวแข็งไปหน่อยก็เถอะ แต่ไม่ใช่พวกหัวรุนแรงหรอก เดส”
“ถ้างั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่นะ”
รูดี้พยักหน้าแล้วควัก สมาร์ทโฟน ออกมาจากกระเป๋า
“แล้วก็นี่ สมาร์ทโฟนที่สัญญาไว้ เดส”
นาโอมิมองไปที่สมาร์ทโฟนที่รูดี้ถืออยู่ ก็นึกขึ้นมาได้
“จะว่าไป ก็เคยสัญญาไว้แบบนั้นด้วยสินะ ลืมไปซะสนิทเลย ว่าแต่แบบนี้จะดีจริงๆเหรอ?”
“เรายังมีไอ้พวกนี้อยู่ในโกดังอีกถึง3999เครื่อง เพราะงั้นไม่มีปัญหาอะไร เดส แต่ก่อนที่จะส่งให้เรามาตั้งค่าผู้ใช้งานกันก่อนเดส เอ้า ชีสสส!!!”
“อุวะ!!”
เมื่อแสงแฟลชชัตเตอร์ ของสมาร์ทโฟนสว่างขึ้นนาโอมิก็ตกใจแล้วเอามือปิดหน้า
“มะ เมื่อกี้มันอะไรน่ะ”
“กล้องถ่ายภาพ เดส นี่ไง”
เมื่อรูดี้หันหน้าจอของหสมาร์ทโฟนมาให้ ก็มีภาพใบหน้าของนาโอมิที่กำลังตกใจแสดงอยู่
“น่ามัน…หน้าของฉันเหรอ? มันเหมือนกับส่องกระจกอยู่เลยนะ”
“รหัสผ่านคือ 703440(นาโอมิชิโชว) เดส”
ระหว่างที่นาโอมิกำลังทึ่ง รูดี้ก็จัดการตั้งค่าต่างๆในสมาร์ทโฟนของเธอจนเสร็จ
“ถ้างั้นจะเริ่มอธิบานหลายๆอย่างเลยนะ เดส”
“เดี๋ยวก่อนสิ”
“อะไรเหรอ เดส?”
“ขอเดานะว่า หน้าของฉันเมื่อตะกี้มันโดนใช้สำหรับตั้งค่าเป็นกุญแจในการใช่งานเจ้านี่ใช่ไหม?”
“ชิโชว ทั้งๆที่ผมยังไม่ได้อธิบายอะไรเลยแท้ๆ แต่สุดยอดไปเลย ถูกต้องตามนั้น เดส”
“ว่าแล้วเขียว ถ้างั้นละก็มาตั้งใหม่เลย หน้าแบบนั้นไม่เอาด้วยหรอก”
“มันเป็นแค่การยืนยัน ต่อให้ใช้หน้าแปลกๆก็ไม่มีปัญหาอะไร เดส”
“ถึงอย่างนั้นก็เหอะ!”
นาโอมิ ปฏิเสธการคะยั้นคะยอของรูดี้อย่าหนักแน่น สุดท้ายพวกเขาก็ต้องทำการถ่ายภาพยืนยันตัวตนใหม่ถึง5รอบ
“…..แบบนี้พอได้ไหม เดส?”
“….อา..เอาแบบนี้แหละ”
….ทำไมพวกผู้หญิงถึงได้ใส่ใจกับการถ่ายภาพใบหน้าตัวเองซะขนาดนั้นกันนะ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย เข้าคิดในใจ และเมื่อนาโอมิตกลงกับภาพที่ได้ เขาจึงเริ่มอธิบายเกี่ยวกับสมาร์ทโฟน
“….อืม ขอยืนยันอีกครั้งนะ เจ้านี่นอกจากจะเอาไว้จดบันทึกมันยังใช้ถ่ายภาพ ฟังเพลง แบบนี้ แล้วก็ยังใช้ติดต่อสื่อสารกับคนที่อยู่ไกลออกไปได้ด้วยใช่ไหม?”
“ก็ตามนั้น เดส แต่ทว่าถ้าคุณอยากจะติดต่อกับใคร คนๆนั้นจะต้องมีสมาร์ทโฟนเหมือนกัน นอกจากนั้นเรายังไม่ได้ส่งดาวเทียมสื่อสารออกไป เพราะงั้นเราจึงยังไม่สามารถสื่อสารจากอีกฝั่งของดาวดวงนี้ได้ เดส”
นาโอมิยักไหล่ให้กับคำอธิบายนั้น
“วางใจเถอะ ของอย่างการเดินทางไปที่อีกฟากของดาวดวงนี้มันไม่ได้ง่ายแบบนั้นหรอก”
“ถ้างั้นก็ไม่มีปัญหา เดส นอกจากนั้นคุณยังสามารถเห็นตำแหน่งปัจจุบันของตัวเองในแผนที่ แล้วก็ส่งข้อความที่เขียนไว้ให้คนอื้นอ่านได้ด้วย เดส”
พอถึงจุดนั้นก็ดูเหมือนว่านาโอมิจะนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ จึงกล่าวออกมา
“รูดี้เพิ่งจะมาถึงดาวดวงนี้ได้ไม่นานเองนะ นี่จะบอกว่าเธอเรียนรู้วิธีเขียนตัวอักษรแล้วเหรอ ”
“เมื่อวานนี้ผมวิเคราะห์หนังสือที่เอามาจากบ้านของชิโชว เลยได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวหนังสือไปเรียบร้อยแล้ว เดส”
จริงๆแล้วคนที่วิเคราะห์ตัวหนังสือนั้นคือ ฮาล
นอกจากนั้นในระหว่างที่ ฮาล กำลังทำงานหนัก รูดี้กลับสลบเหมือดเพราะเมาเหล้าไปทั้งอย่างนั้นด้วย
“แค่วันเดียวเองเหรอ….”
“ทั้งตัวอักษรและไวยากรณ์ของดาวดวงนี้มันคล้ายๆกับภาษาของจักรวรรดิแห่งดวงดาวเลยสามารถวิเคราะห์ได้ทันที เดส”
“อย่างนี้นี่เอง”
นาโอมิ พยักหน้ารับไประหว่างที่หัดใช้งานสมาร์ทโฟนโดยการเปิดแอปพลิเคชั้นขึ้นมาดูแล้วพบว่ามีชื่อของรูดี้อยู่ในชื่อติดต่อ
“ ฮาย~~โมชิ โมชิ~~ ”
เพื่อทดสอบดู นาโอมิจึงจิ้มที่ชื่อของเขาแล้วโทรออก รูดี้จึงรับสายทันทีหลังจากที่มีเสียงกริ่งเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
“รูดี้ เธอรับสายทั้งๆที่ไม่ได้มีสมาร์ทโฟนได้ยังไง?”
“ก็อย่างที่บอกไปแล้วเมื่อเช้าว่าผมมีทุกอย่างอยู่ในสมอง เพราะงั้นเลยทำได้หลายๆอย่างภายในหัวตัวเอง เดส”
“…มันฟังดูน่าขนลุกนะนั่น”
“ชิโชว โหดรายจังเลย เดส”
รูดี้ทำแก้มป่องเมื่อได้ยินแบบนั้น
*(TLnote: (´⊙ω⊙)! maid robot incomming!)