ตอนที่19 ลูกศิษย์
“ฉันอยากจะตอบแทนอะไรสักอย่างให้กับคุณ”
ถ้าไม่ใช่เพราะรูดี้รักษาให้ฉันคงตายไปแล้ว แม้ว่าจะต้องจ่ายเงินมากมายแต่ข้อจำกัดของเวทย์รักษาในตอนนี้ก็คงจะไม่ไหว…
นาโอมิ อายกจะแสดงความขอบคุณต่อรูดี้
“ก็นะ ผม ได้แย่งชิงมันมาแล้วแหละ เดส”
“….?”
“ผมได้ตรวจสอบร่างกายของนาโอมิ เพราะว่าผมเองก็ต้องการข้อมูลของมนุษย์บนดาวดวงนี้….แน่นอนว่าเพื่อการวิจัย เดส”
“ตรงนั้นมันไม่ใช่ แย่งชิง แต่เป็น ได้รับ ต่างหากล่ะ ”
“จะว่างั้นก็ได้ เดส”
“แต่ว่านะ แค่ได้ไอ้ของแบบนั้นไปก็พอแล้วเหรอ?”
“มันเป็นข้อมูลที่มีค่ามากเลยนะ เพราะมันทำให้ผมเข้าใจเกี่ยวกับร่างกายของมนุษย์และรูปแบบการไหลเวียนของมานา เดส”
ว่าแล้วรูดี้ก็ก้มหัวคำนับ
การตรวจสอบร่างกายของผู้หญิงโดยไม่ได้รับอนุญาตถือว่าเป็นทั้งการล่วงละเมิดทางเพศและสิทธิมนุษยชน และมันสามารถนำไปสู่การฟ้องร้องทางกฎหมายได้ แต่ทว่ารูดี้กลบเกลื่อนมันได้สำเร็จโดยแสร้งว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของการรักษา
“โฮ่….ถ้าแบบนั้นละก็ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันนะ”
แทนที่จะโกรธเมื่อรู้ว่าร่างกายตัวเองถูกตรวจโดยไม่ได้ขออนุญาต นาโอมิกลับสนใจเกี่ยวกับร่างกายตัวเองจากมุมมองของมนุษย์ต่างดาวอย่างรูดี้
“ถ้างั้นละก็จะฟังก็ได้นะ เดส”
จากผลสรุปของการวินิจฉัยของ ฮาล ร่างกายของนาโอมิเผยให้เห็นสิ่งเหล่านี้
มนุษย์บนดาวดวงนี้ดูดกลืนมานาผ่านอาหารที่พวกเขากินเข้าไป
เมื่อมานาเข้าสู่ร่างกาย มันแตกตัวออกจากกันและซึมซับเข้าสู่กระแสเลือด โดยการผสมเข้ากับเซลเม็ดเลือดแดง มันไหลเวียนไปทั่วร่างและเข้าไปสะสมอยู่ในไขกระดูกและสมอง
“อย่างนี้นี่เอง เพราะแบบนั้นเหล่าขุนนางที่ไม่มีปัญหาเรื่องอาหารการกินในช่วงวัยกำลังโตถึงได้เก่งกาจในด้านเวทยมนต์ เมื่อเทียบกับสามัญชนทั่วไป…”
“ขุนนาง? ดาวดวงนี่มีการปรกครองแบบระบบศักดินางั้นเหรอ เดส?”
“ก็นะ มันเป็นอะไรแบบนั้นแหละ แต่ระประเทศมี พระราชา และพวก พระราชากับเหล่าขุนนางเป็นคนบริหารพื้นที่ภายไต้การปรกครองของเขา”
“เผด็จการงั้นเหรอ….เป็นระบบสังคมที่ตกยุคจังเลย เดส”
ใน กาแลคติค เอมไพร์(จักรวรรดิ แห่งดวงดาว) ที่ รูดี้ สังกัดเองก็มี จักรพรรดิ อยู่ แต่ทว่า ตัวจักรพรรดิ นั้นไม่ได้มีส่วนยุ่งเกี่ยวกับการปรกครองแต่อย่างได และการเมืองนั้นโดยพื้นฐานแล้วถูกแบ่งออกเป็น3แผนก นอกจากนั้น ตัวของจักรวรรดิเองก็ประกอบไปด้วยประเทศนับร้อยที่มีทั้งราชาและนายกรัฐมนตรีของตัวเอง ทำงานร่วมกันภาไต้ระบบรัฐสภา ทำให้มันดูใกล้เคียงกับ สาธารณรัฐ มากกว่า จักรวรรดิ
“หัวข้อที่คุยกันมันเบี้ยว….มันออกนอกเรื่องแล้ว กลับมาต่อเรื่องของมานากันดีกว่า เดส”
ในการที่จะร่ายเวทย์ มันจำเป็นที่จะต้องกำหนดทิศทางอย่างแน่วแน่ให้กับเวทมนต์ด้วยความคิดของผู้ร่ายผ่านการท่องคาถา เพราะฉะนั้น หากไม่มีการท่องคาถา เวทมนต์จะไม่ทำงาน
“ก็นะ…ส่วนใหญ่มันก็ถูกต้องตามที่ฉันรู้มา แล้วก็นะ การท่องคาถามันมีผลที่ทำให้ช่วยในการควบคุมเวทย์และป้องกันไม่ให้มันทำงานผิดพลาดด้วย พวกเด็กทารกที่มีพรสวรรค์ด้านเวทมนต์ก็ปลดปล่อยมานาที่ไม่เป็นอันตรายออกมาตอนที่พวกเขาร้องไห้ด้วยล่ะ แล้วดูเหมือนว่าฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น”
“อย่างนี้นี่เอง เดส”
เมื่อนาโอมิอธิบายเพิ่มเติมให้บางส่วน รูดี้ก็พยักหน้าตามความเข้าใจ
“เรื่องทั้งหมด ก็ตามนั้น เดส “
“ขอบคุณนะ มันทำให้เข้าใจได้หลายๆเรื่องเลย โดยเฉพาะเรื่องที่ว่ามานามันถูกเก็บไว้ที่ไหนเนี่ย มันน่าสนใจมากเลยล่ะ”
“ทางนี้ก็เช่นกัน เป็นเพราะคุณ โอกาสที่ผมจะใช้เวทมนต์ได้ก็เพิ่มสูงขึ้นเยอะเลย เดส”
“หืม? รูดี้เองก็จะใช้เวทมนต์ได้ด้วยเหรอ?”
“ผมเพิ่งจะลงมาที่ดาวดวงนี้ได้เพียงแค่2วัน เพราะงั้นตอนนี้แค่ต่อต้านมานาด้วยวัคซีนก็เต็มที่แล้วเดส แต่ว่าถ้าทำการวิจัยเพื่อหาวิธีที่จะทำให้ใช้เวทมนต์ได้ละก็ สักวันหนึ่งผมจะใช้เวทมนต์ให้ได้ เดส”
“แม้แต่เรื่องแบบนั้นก็ทำได้ด้วยเหรอน่ะ….”
ในจังหวะนั้นเองรูดี้ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ แต่เขาลังเลที่จะพูดออกมา
“ฮืม…ถ้าคุณอยากจะตอบแทนอะไรละก็..ผมมีเรื่องอยากจะขออยู่อย่างหนึ่ง”
“หืม อะไรเหรอ? เรื่องอะไรก็ได้ว่ามาเลย”
“ถ้าอย่างนั้น ในตอนที่ผมสามารถใช้เวทมนต์ได้ จงสอนเวทมนต์ของนาโอมิให้ซะ เดส”
รูดี้ก้มหัวคำนับให้ นาโอมิก็ยักไหล่
“ในตอนที่ฉันยังถูกเรียกว่าแม่มดแห่งขุมนรกก็เคยมีคนมาก้มหัวขอร้องแล้วพูดว่า (ได้โปรดช่วยสอนข้าน้อยด้วย) อยู่หรอกแต่คนที่ก้มหัวให้แล้วสั่งว่า (จงมาสอนฉันซะ) เนี่ย มีแค่ รูดี้ นี่แหละเป็นคนแรกที่เจอเลย”
“ไม่ได้เหรอ เดส?”
“เปล่าหรอก ถ้าเป็นรูดี้ละก็ฉันจะสอนเวทย์ที่รู้ทั้งหมดให้เลย”
เมื่อนาโอมิยิ้มให้ รูดี้ก็ก้มหัวอีกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย เดส ชิโชว *(อาจารย์)”
ระหว่างที่ทั้งสองคุยกันอยู่นั้นเวลาได้ไหลผ่านไป ท้องฟ้าก็เริ่มเต็มไปด้วยแสงดาว
“ชิโชว ชุดของคุณยังซ่อมไม่เสร็จ คืนนี้ก็ค้างที่นี่ละกัน เดส”
“จะว่าไป ก็เห็นกำลังเย็บชุดของฉันอยู่นี่นะ”
“มันยังดูเหมือนเปิดโชว์สะดืออยู่เลย เดส”
รูดี้ยกเสื้อของนาโอมิขึ้นมากางให้ดู ก็เห็นได้ว่ามันยังมีรูที่บริเวณท้องอยู่หลายรู
“จริงๆแล้วก็ไม่ได้จะไปพบกับใครอีกแล้วด้วย จะปล่อยไว้แบบนั้นก็ได้นะ”
“ผมปกป้องชิโชวไว้ไม่ได้ เดส อย่างน้อยนี่ก็ถือว่าเป็นการไถ่โทษ”
“นอบน้อมจังนะ”
“ก็ลูกศิษย์นี่นา มันเป็นเรื่องธรรมดา เดส”
การมีลูกศิษย์ที่แก่กว่าตัวเองมันก็น่ารักดีอยู่หรอก ก็นะ จะว่าไปเขาก็ดูเหมือนเด็กด้วยแหละ
เมื่อถูกรูดี้ที่เธอรับเป็นลูกศิษย์เรียกว่า ขิโชว(อาจารย์) นาโอมิก็ยิ้มอย่างเขินอาย
ในเมื่อรูดี้เห็นว่าเขาจะไม่สามารถซ่อมมันให้เสร็จภายในวันนี้ได้เขาจึงปล่อยส่วนที่เหลือให้โดรนจัดการต่อ
[ไม่เย็บเองแล้วเหรอ?]
“….ฉันยอมรับความจริงแล้วว่าแม้จะพยายามต่อไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรนะ”
รูดี้ พูดแก้ตัวต่อการยิงมุขของฮาล
เมื่อได้รับคำสั่ง โดรนตัวนั้นก็ถอนการเย็บของรูดี้ออกจนหมด แล้วเริ่มการเย็บใหม่ตั้งแต่ต้นด้วยตัวของมันเอง แล้วผลการเย็บของมีนก็ออกมาดูดีกว่าที่ รูดี้ ทำไว้
หลังจากที่เห็นแบบนั้น เขาก็ยอมรับได้ว่ารูดี้พูดถูก
รูดี้ปล่อยให้โดรนเย็บส่วนที่เหลือต่อไปแล้วลุกขึ้นไปทำมื้อเย็น
“ชิโชว วันนี้มากิน*อาหารพื้นเมือง* กัน เดส”
“เอสึนิคุ?”
*(TLnote: エスニック食 = ethnic food = อาหารพื้นเมือง )
นาโอมิเอียงหัวเพราไม่เข้าใจความหมายของมัน
“มันเผ็ดสุดๆเลยเดส”
“นี่เธอจงใจทำให้มันเผ็ดใช่ไหม?”
“ใช่แล้วเดส”
นาโอมิหน้ามุ่ยและเอียงหัวให้กับคำตอบของรูดี้
ปรกติเธอกินเพียงแค่อาหารที่ปรุงรสด้วยเกลือและสมุนไพรเล็กๆน้อยๆ พอได้ยินว่าของที่รูดีกำลังจะทำมันเผ็ดมาก เธอก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่ามันเป็นอาหารแบบไหน
“ถ้าเผ็ดมากมันก็ไม่อร่อยนะสิ”
“ไอ้ความเผ็ดนั่นมันเสพติดยังไงล่ะ เดส”
“ก็นะ ของที่รูดี้ทำมันก็อร่อยซะด้วย มาลองกันเลย”
“ฝากได้เลยเดส”
รูดี้เข้าไปในครัว เอาวัตถุดิบออกมาจากตู้เย็น แล้วเริ่มทำอาหาร
กลิ่นหอมของเครื่องเทศลอยออกมาจากครัว มันกระตุ้นความหิวของนาโอมิ ทำให้ท้องของเธอเริ่มร้องท้องร้อง
“เป็นกลิ่นที่ชวนหิวดีจริงๆ”
“กลิ่นหอมน่ากิน เดส”
“จะว่าไป รูดี้”
“อะไรเหรอเดส?”
“รูดี้บอกว่าไม่อยากเป็นจุดเด่นสินะ”
“ก็ตามนั้นแหละเดส?”
“ถ้างั้นมันก็ไม่ใช่ความคิดที่ดี ที่จะสร้างบ้านที่นี่นะ”
“ทำไมเหรอ เดส?”
“แม้ว่าที่นี่จะเป็นป่าลึกที่ไม่ค่อยมีคนผ่านมา แต่มันก็ยังมีเจ้าพวกงี่เง่าที่พยายามจะมาปรามมอนสเตอร์ที่นี่เป็นครั้งคราวในแต่ละปี ถ้าพวกนั้นมาเห็นบ้านที่นี่ละก็มะจะเป็นจุดเด่นไปเลยนะ”
“อย่างนี้นี่เอง เดส”
รูดี้หยุดทำอาหาร คิดไปพลางๆแล้วพูดออกมา
“ถ้าอย่างนั้น หลังจากสำรวจยานลำนี้เสร็จแล้วผมจะย้ายออกไป เดส”
“ที่ว่าจะย้ายเนี่ย ที่ไหนเหรอ?”
“บ้านของชิโชวไง เดส”
“ห๊ะ?”
จากคำตอบของรูดี้ นาโอมิที่เอามือท้าวคางไว้ก็ลื่นล้มลงมา
*(TLnote: หลังจากนี้นี่ นาโอมิ จะเริ่มเรียก รูดี้ แบบสนิทกันมากขึ้น เพราะรูดี้มันก็ดูเหมือนเด็กด้วยแหละ แล้วพอรับเป็นลูกศิษย์ก็เลยเรียกเหมือนเป็นเด็กภายไต้การดูแลของตัวเองไปเลย จาก “คุณ” ก็เลยเปลี่ยนเป็น”เธอ”)