[เอเลี่ยนเกยตื้น] สเปซทรัคเกอร์ รูดี้คุง 12 ดูเหมือนเด็ก

ตอนที่ 12 ดูเหมือนเด็ก

ตอนที่ 12 ดูเหมือนเด็ก

 

“มันกรอบนอก นุ่มใน เข้ากับเนยที่กำลังละลายได้สุดยอดไปเลย”

นาโอมิ ที่กำลังเพลิดเพลินกับการกินขนมปังปิ้งนุ่มๆ กล่าวออกมา

 

“ของที่โรยอยู่ในสลัดนี่คืออะไรเหรอ?”

 

“ทูน่า…เนื้อปลาแช่น้ำมัน? ไม่แน่ใจเหมือนกัน เดส ”

 

“แล้วน้ำสลัดนี่ก็อร่อยมากเลยนะ”

 

“เทาซั่นไอแลนด์ เดส”

 

“มันทำขึ้นมายังไงเหรอ?”

 

“เพราะซื้อมาเลยไม่รู้เหมือนกัน เดส”

 

ดูเหมือนว่านาโอมิจะชอบสลัดทูน่า

หลังจากที่เขากินมื้อเช้าเสร็จก่อนเธอ และนั่งจิบกาแฟรอ เธอก็ถามเขาเกี่ยวกับหลายๆเรื่อง แต่เนื่องจากเขาเพียงแค่ซื้อของพวกนั่นมา เขาเลยไม่รู้วิธีทำพวกมัน 

เมื่อนาโอมิกินเสร็จแล้วเธอก็ดื่มกาแฟที่รูดี้ชงให้อย่าง เอร็ด อร่อย

 

“ตอนแรกที่ฉันดื่มมัน ฉันนึกว่ามันเป็นยาพิษซะอีก แต่พอเริ่มชินแล้ว มันกับรู้สึกว่าอร่อยดีนะ”

 

เอาจริงๆแล้ว กาแฟของ นาโอมิ นั้นใส่น้ำเชื่อมหนืดซึ่งเป็นสารให้ความหวานที่ตามปรกติแล้วเธอจะไม่สามารถเข้าถึงได้ ไปถึง4หลอด 

รูดี้ผู้ชื่นชอบกาแฟดำมากกว่า มองดูภาชนะที่ที่ว่างเปล่าเหล่านั้นด้วยสีหน้าปั้นยาก เพราะความหวานแสบไส้ของมัน

 

“แล้ว เรื่องของเขาวงกต…ไม่สิ..ยานอับปางลำนั้น ข้าในมันดูเป็นยังไงเหรอ?”

 

“นาโอมิไม่เคยเข้าไปในนั้นแม้แต่ครั้งเดียวเลยเหรอ? เดส”

 

“ตอนที่ฉันเข้าร่วมหน่วยปราบปราม มาดาระ นั้น พวกเราล่อมันออกมาสู้ด้านนอก น่ะ”

 

ตามที่นาโอมิเล่าให้ฟังนั้น ดูเหมือนว่าจะมีนักผจญภัยเดินมาเจอซากยานร้างเข้าระหว่าที่เขามาสำรวจป่าเมื่อ8ปีที่แล้ว

เมื่อพวกเขาลองเข้าไปสำรวจด้านใน ก็ไปเจอกับ มาดาระ เข้า พวกเขาจึงพยายามสู้กับมัน แค่พวกของเขาก็ถูกมันฆ่าไปกว่าครึ่ง ส่วนพวกที่เหลือก็พยายามลากร่างกายที่บาดเจ็บสาหัสหนีกลับไป

 

คนอื่นๆที่ได้ฟังเรื่องราวจากพวกเขาก็คิดว่าถ้าที่นั่นมันมี มอนสเตอร์ ที่แข็งแกร่งเฝ้าอยู่ละก็ พวกเขาอาจจะเจอกับ ทรัพย์สมบัติล้ำค่าก็เป็นได้ เพราะงั้นเลยมีคนมากมายมาท้าทายยานลำนี้แล้วถูก มาดาระ มันฆ่าเอา

และเมื่อข่าวลือมันกระจายออกไปก็มีขุนนางอาสามาปราบ มาดาระ แล้วเข้าท้าทายเขาวงกตด้วย กองทหารส่วนตัว เป็นจำนวนมาก ขณะนั้นเอง นาโอมิ ก็มาด้วยกันกับพวกเขาในฐานะทหารรับจ้าง 

 

ขุนนางคนนั้นคิดว่า การเข้าไปสู้ในตัวยานมันจะทำให้พวกเขาเสียเปรียบเพราะความมืดและพื้นที่ๆแคบเกินไป เขาเลยล่อให้มันออกมาสู้ข้างนอก แต่ทว่า ไม่ว่าจะเป็นเวทมนต์หรืออาวุธก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้ หลังจากถูก มาดาระ ฆ่าไปหลายคน พวกเขาก็จบลงด้วยการตัดสินใจหนีกลับไป

 

จากกองทหารส่วนตัว 35คน ที่พากันมา เหลือรอดแค่ 6 คน กว่าครึ่งของทหารรับจ้างและนักผจญภัยทั้ง50คนก็ถูกฆ่าไปด้วย ส่วนขุนนางที่รอดมาได้นั้น ก็สูญเสียทรัพย์สินทั้งหมดที่เขามี

 

แต่หลังจากที่ค้นพบว่าเจ้า มาดาระ ที่ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีทั้งทางกายภาพและเวทมนต์ ก็ไร้ผลนั้นเป็นหนึ่งในมอนสเตอร์ที่โจมตีมนุษยชาติเมื่อ800ปีก่อน ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ซากยานลำนั้นอีกเลย

 

“การที่สามารถปราบเจ้ามาดาระที่อันตรายถึงขนาดนั้นได้ด้วยตัวคนเดียวแบบนั้น รูดี้นี่สุดยอดจริงๆ”

 

“….800ปีที่แล้ว”

 

มุมปากของ นาโอมิ เผยอยิ้มออกมาในขณะที่รูดี้กำลังพึมพำ

 

“ใช่แล้ว ตามที่เราคุยกันไปเมื่อวาน มอนสเตอร์เมื่อ800ปีก่อนมันอาจจะมาจากอวกาศไงล่ะ “

 

รูดี้พยักหน้าไปกับคำพูดของนาโอมิ

 

” ตามที่ฉันเคาไว้ เจ้ามาดาระเองก็มาจากอวกาศด้วย ใช่ไหมล่ะ?”

 

รูดี้กอดอกไปกับคำถามนั้น นึกถึงเรื่องของ มาดาระ ที่เขาที่เขาได้รู้มาก่อนหน้านี้ แล้วเริ่มพูดด้วยเสียงที่เบาราวกับการกะซิบ

 

“….มันก็อาจจะจริง  แม้ในยุคนี้จะมีการผลิตที่น้อยมาก เลยไม่มีใครเอามาใช้อีก…แต่ในอดีต ฝั้งศัตรู มันจะมีสิ่งมีชีวิตที่สร้างขึ้นมาเพื่อการรบอยู่ บางที อาจจะเป็นเจ้านั่น เดส “

 

“ว่าแล้วเชียว…แต่จะว่าไป ไอ้เจ้าสิ่งมีชีวิตที่สร้างขึ้นมาเพื่อการรบมันมีอายุขัยเท่าไหร่เหรอ?”

 

“คิดว่านานมากเลยแหละ ประมาณ1200 ปีได้เลย เดส “

 

นาโอมิได้แต่กระพริบตาปริบๆเมื่อได้ยินคำตอบของรู้ดี้

 

“แบบนั้นมันก็เรียกได้ว่าอายุยืนเอาเรื่องเลยเนอะ”

 

“เหรอ?”

 

“ก็ต้องใช่อยู่แล้วสิ  มันอายุยืน พอๆกับระยะเวลาทั้งหมดของประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติบนดาวดวงนี้เลยนะ”

 

“ก็จริงนะ จะว่าแบบนั้นก็ได้ เดส”

 

เพราะกาแล็คติด เอมไพร์ มีอายุมากกว่าหกหมื่นปีแล้ว เพราะงั้นจากมุมมองชองรูดี้ จึงไม่คิดว่าอายุขัยของมันยาวนานสักเท่าไหร่

 

“หรือนายจะบอกว่า ถ้าอาศัยอยู่ในอวกาศจะหำให้อายุยืนอย่างนั้นเหรอ?”

 

“….ยังไม่มีตัวอย่างจากดาวดวงนี้ให้เปรียบเทียบ เดส…นาโอมิอายุเท่าไหร่แล้ว?”

 

“ถึงฉันจะไม่แน่ใจว่านี่จะเป็นเพราะวัฒนะธรรมที่ต่างกันก็เหอะ แต่อยู่ๆก็มาถามอายุของผู้หญิงตรงๆเลยเรอะ? ก็นะ…ช่างมันละกัน ฉันอายุ28ปีน่ะ”

 

“ยี่สิบแปด…..”

 

เด็กชะมัด.. รูดี้ อดไม่ได้ที่จะหลุดพึมพำเกี่ยวกับข่วงอายุที่ไม่ได้คาดคิดของเธอ

 

“แล้วคุณล่ะ?”

 

“81ปี เดส”

 

“พรูดดดด!!”

 

ทันทีที่ได้ยินคำตอบของรูดี้ นาโอมิก็สำลักกาแฟออกมา 

เธอพยายามจะหยุดมันไว้ด้วยการเอามือปิดปากตัวเอง

 

“แค๊กๆ… ปะ…แปดสิบเอ็ด!!   คุณดูเหมือนเด็กเกินไปแล้ว!!”

 

รูดี้ยักไหล่ห้กับนาโอมิที่กำลังตกใจ

ระหว่างนั้น โดรนก็เข้ามาเช็ดทำความสะอาดโต๊ะด้วยผ้าขี้ริ้วที่แขนเล็กของมันถืออยู่

 

“ผมผ่านการผ่าตัดเพื่อต่อต้านความชราตั้งแต่เกิด และจะมีอายุขัยถึง500ปี เดส”

 

“คุณจะอายุยืนขนาดนั้นเลย?”

 

“ในกาแล็คติด เอมไพร์ ทุกคนจะได้รับอาชีพมาตั้งแต่เกิด ผมได้ถูกกำหนดไว้ให้เป็นนักขนส่ง เพราะอย่างนั้นเลยผ่านการการผ่าตัดเพื่อต่อต้านความชรา ให้เป็นคนที่อายุยืนยาว เดส “

 

“พอเกิดมาก็ได้งานเลยแบบนั้นนี่ยอดไปเลยนะ ว่าแต่พ่อแม่ของคุณจะไม่ว่าอะไรเหรอ?”

 

“ไม่มีพ่อแม่ เดส ถึงแม้ว่าผมจะเป็นคนของ กาแล็คติด เอมไพร์ แต่ทว่าถูกทำให้เกิดมาด้วยวิธีการผสมเทียม เดส “

 

“อะไรล่ะนั่น?”

 

นาโอมิไม่เข้าใจว่าการผสมเทียมคืออะไร รูดี้จึงอธิบายให้เธอฟัง

 

“หรือก็คือ แทนที่จะเกิดมาโดยพ่อแม่ รูดี้ นั้นเกิดมาในหลอดทดลองหรืออะไรประมาณนั้น และถูกเลี้ยงดูมาด้วยเครื่องจักรใช่ไหม?”

 

“ตามนั้น เดส”

 

รูดี้พยักหน้าให้กับคำถามของนาโอมิ

 

“…อวกาศนั้นช่างกว้างใหญ่เกินกว่าที่ฉันจะจิตนาการได้เลยจริงๆ แต่ว่านะ จากมุมมองของฉันแล้ว การที่เกิดมาโดยไม่มีพ่อแม่นั้นมันฟังดูเหงาพิกล”

 

“คนรอบๆคัวผมก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เลยไม่ได้รู้สึกเหงาอะไร เดส นอกจากนี้ มันยังมีปัญหาก่อนหน้านั้น คือ อวกาศมันกว้างมากเกินไป เลยไม่ค่อยเจอกับคนอื่นสักเท่าไร่ เดส”

 

“ไม่ค่อยได้เจอคนอื่นเหรอ?”

 

“ตราบไดที่ผมยังไม่ตกลงไปที่ดาวสักดวง ก็จะอาศัยอยู่ในอวกาศตลอดเวลา เลยไม่ค่อยได้พบกับใคร เดส”

 

“แล้วตอนที่ต้องติดต่อกันเรื่องงานล่ะ?”

 

“พวกเราติดต่อกันผ่าน เน็ต เราเลยไม่ได้ไปเจอกันตรงๆ เดส “

“เน็ต? อะไรที่มันคล้ายๆกับจดหมายน่ะเหรอ?”

 

นาโอมิเข้าใจได้ว่า อินเทอร์เน็ต ที่พูดถึงมันเป็นอะไรที่คล้ายๆกับจดหมายด้วยสัญชาตญาณของของเธอเอง

รูดี้นึกอยู่ว่าจดหมายเนี่ยมันคืออะไรหว่า แล้วก็จำได้ว่าในอดีตอันไกลโพ้น ผู้คนเคยมีการเขียนข้อความลงในกระดาษ เพื่อติดต่อกับคนอื่นๆที่อยู่ห่างออกไปนั่นเอง

 

“จดหมาย…นั้นมันก็เป็นการเปรียบเทียบที่ตรงประเด็นดีนะ เดส”

 

“การที่มันสะดวกเกินไปก็ทำให้รู้สึกว่างเปล่าไปด้วยเนอะ และการที่ไม่สามารถเลือกอาชีพได้ตามต้องการ แต่กลับถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกเกิดเนี่ย จะว่าไงดี…โชคร้าย? ไม่สิ ไม่ใช่แบบนั้น มันก็ไม่ถึงกับเรียกได้ว่าโชคร้ายหรอก ฉันเองก็ไม่เข้าใจมันด้วยแหละ มันเป็นเรื่องที่ฉันรับไม่ได้น่ะ”

 

นาโอมิขมวดคิ้วไปพลางแสดงความรู้สึกของเธอออกมา รูดี้ที่มองดูเธออยู่ก็ส่ายหัวช้าๆ

 

“ไม่หรอก จริงๆแล้วถ้าอยากจะเลิกงานที่กำหนดไว้ก็เลิกได้แหละ แต่พอทำแบบนั้นแล้ว การสนับสนุนจากรัฐบาลก็จะถูกตัดไปด้วย เดส”

“การสนับสนุน?”

 

“ทั้งเงินสนับสนุนค่าเช่ายานอวกาศ การจัดหางาน การลดหย่อนภาษี ก็จะหายไปทั้งหมด มันค่อนข้างจะลำบากเลยแหละ แต่ถ้าอยากจะทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้ว มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องเจอกับความยากลำบากด้วยตัวเองไม่ใช่เหรอ? เดส”

 

หลังจากที่ได้ยินความคิดเห็นของนาโอมิ  รูดี้ก็ได้แต่คิดว่า คนๆนี้จะเป็น มาโซคิส หรือเปล่านะ

 

*  ( TL note :  ปุกาศๆ    หลังจากวันที่9 เดือนนี้ ไปจนถงวันที่1 เดือนหน้า อาจจะหยุดแปลสักพัก หรือ อาจจะอัพช้ามากๆ เพราต้องไป วิ่งควายทำกิจกรรมในเกมที่เล่นอยู่  เพราะงั้นถ้าหายไปนาน ไม่ต้องแปลกใจ เจอกันใหม่หลังวิ่งเควสครบละกัน  แต่ตอนที่แปลไว้แล้ว จะทยอยลง เรื่อยๆ แหละ      ใครสนใจมายิงซอมบี้ด้วยกันก็ตามไปได้ในดิสคอร์ดนะ)

[เอเลี่ยนเกยตื้น] สเปซทรัคเกอร์ รูดี้คุง

[เอเลี่ยนเกยตื้น] สเปซทรัคเกอร์ รูดี้คุง

Score 10
Status: Completed
ชื่อเรื่องจริงๆ 宇宙船が遭難したけど、目の前に地球型惑星があったから、今までの人生を捨ててイージーに生きたい เกทแตก ยานหลงทาง กลับบ้านไม่ได้ ทำไงดีหว่า โชคดีเจอดาวทที่เหมือนโลกอยู่ใกล้ๆ ช่างมันละ ไปใช้ชีวิต ลั้ลลา ที่นั่นเลยละกัน~* discord ผู้แปล https://discord.gg/ZzuWeHeh

Options

not work with dark mode
Reset