ตอนที่ 593 ซูหลีปรากฏตัวขึ้น
ใบหน้าไป๋ฉินเต็มไปด้วยความยินดี ถึงนางจะไม่เสียการควบคุมเหมือนซูไท่ แต่ลึกๆ ในใจนางแล้วนั้นก็ดีใจอย่างที่สุดเช่นกัน แต่ละย่างก้าวของนางเหมือนลอยได้อย่างไรอย่างนั้น
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้ซูหลีจะเรียกหาชุยตานเพื่ออะไร แต่ก็เรียกหาอีกฝ่ายตามคำสั่งผู้เป็นนายอย่างว่าง่าย
“ขอแสดงความยินดีด้วยนายน้อย!” ทันทีที่ชุยตานมาถึงก็ไม่พูดอะไร แต่ทรุดตัวลงทำความเคารพผู้เป็นนายทันที
“ลุกขึ้นเถอะ” ซูหลียกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ ใบหน้านางเจ้าเล่ห์ ทำให้นางดูเหมือนนางมารเปี่ยมเสน่ห์ เย้ายวนใจอย่างยิ่ง ทำให้ชุยตานไม่กล้ามองนางตรงๆ
“ยังจำเรื่องที่ข้าให้เจ้าทำก่อนหน้านี้ได้หรือไม่?” ทันทีที่ซูหลีนึกถึงเรื่องนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถควบคุมรอยยิ้มบนใบหน้าได้
“…จำได้” ชุยตานชะงักไปก่อนจากนั้นจึงได้สติกลับมา มองซูหลีด้วยสีหน้าแปลกพิกล สีหน้าเช่นนั้นจะเรียกว่าอย่างไรดีนะ ทั้งดีใจและพิกล นับว่าน่าเกลียดเอาการ
ทว่าซูหลีไม่ได้สนใจท่าทางน่าเกลียดของชุยตาน นางเพียงแต่ยิ้มน้อยๆ และเอ่ย “รีบไปสิ อย่าลืมพาคนไปด้วย จะต้องเอาทั้งหมดกลับมาให้ได้”
“…ขอรับ!” ในตอนนี้ชุยตานก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีแล้ว อย่างไรเสียซูหลีก็เป็นนายน้อย ซูหลีว่าอย่างไรเขาก็ว่าเช่นนั้นแล้วกัน!
“ไป๋ฉิน พวกเราไป” ซูหลีเห็นชุยตานรับคำแล้ว ก็สะบัดแขนเสื้อเดินนำไป๋ฉิน ออกจากบ้านสกุลซู มุ่งหน้าไปที่หอสดับพิรุณ
คราวก่อนตอนที่ประกาศรายชื่อการสอบชิวเหวย นางฟังข่าวตอนอยู่ในหอสดับพิรุณ แต่คราวนี้นางรู้ข่าวก่อนแล้วจึงเดินทางไปหอสดับพิรุณ
ดีที่พ่อบ้านซูทำงานได้ดี จึงหาข่าวเรื่องผลคะแนนการสอบไว้ก่อนนานแล้ว ซูหลีไปที่นั่นในเวลานี้ก็ไม่ถือว่าสายไป ในทางกลับกันนางคำนวณเวลาแล้ว ไปตอนนี้น่าจะเป็นช่วงที่คึกคักที่สุดแล้ว
……
บริเวณประตูเมือง ภายในหอสดับพิรุณ
“ขอแสดงความยินดีกับคุณชายด้วย!” พวกคนสำนักฉยงสือรวมตัวกันอยู่ในหอสดับพิรุณ วันนี้ประกาศผลสอบการสอบชุนเหวย จึงมีความสำคัญกับคนสำนักฉยงสือเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาจะไม่อยู่ได้อย่างไร?
แต่ท่ามกลางเสียงโห่ร้องอย่างปีติยินดีนี้เอง ใบหน้าป๋ายเฮ่อเจือรอยยิ้มอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามจะปกปิดอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์บนใบหน้าตนเองได้
“ลุกขึ้นเถิด มา ให้รางวัล!” ในใจป๋ายเฮ่อปลื้มปีติยินดีอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เพราะเขาสอบได้จิ้นซื่อแล้ว!
ถึงแม้ว่าจะเป็นลำดับที่ไม่ได้ดีเด่นอะไร แถมยังอยู่ในลำดับท้ายๆ เสียด้วย
แต่เขาก็สอบติดแล้ว!
จะต้องรู้ว่าสำหรับคนชั้นสูงผู้หนึ่งแล้วเรื่องนี้ยากมากขนาดไหน
ป๋ายเฮ่อมีชาติกำเนิดเช่นนี้ แต่ยังสอบได้คะแนนเช่นนี้ ถือว่าค่อนข้างเก่งมากแล้วจริงๆ
“พี่เฉิงอย่าเพิ่งได้ใจไป เวลายังอีกยาว การสอบก็ไม่ได้มีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น คราวหน้าจะต้องมีโอกาสอีกแน่” การสอบชุนเหวยต่างจากการสอบชิวเหวย
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสอบผ่านกันหมด
เฉิงเค่อหัวเสีย ในสี่ยอดอัจฉิรยะแห่งสำนักฉยงสือ เขาถือได้ว่ามีชื่อเสียงอย่างที่สุด กลับสอบไม่ติด!
หลังจากเฉิงเค่อได้ยินคำพูดป๋ายเฮ่อก็กระตุกปากตนเองทันที เขาอยากจะยิ้มแต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ยิ้มไม่ออก
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง บรรยากาศที่สำนักฉยงสือก็ไม่ดีมากนัก คนสำนักฉยงสือที่เข้าร่วมการสอบชุนเหวย มีสี่สิบกว่าคน ทว่า…
แต่ในคนจำนวนมากมายขนาดนั้นมีเพียงแค่ สิบคนเท่านั้นที่สอบผ่าน
ที่จริงแล้วสำหรับสำนักอื่นๆ แล้วนั้นนี่ถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากแล้ว แต่การสอบไม่ติดเช่นนี้ไม่ว่าใคร ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครก็คงจะไม่ดีนัก!
มีคนยินดีก็มีคนหัวเสียเช่นกัน!
ตอนที่ 594 สบายดีใช่ไหม
“แย่แล้ว! คนมากมายขนาดนี้เชียว!” สถานการณ์ตอนนี้ออกจะไม่น่าชมนัก หอสดับพิรุณวันนี้ออกจะเงียบผิดปกติ คราวนี้คนสำนักเต๋อซั่นไม่มาโผล่ที่นี่เลย
เหตุผลหลักๆ ก็คือทั้งก่อนและในขณะการสอบชุนเหวยความประหลาดที่ซูหลีแสดงออกมาก่อนหน้านี้ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าคราวนี้ซูหลีคงจะสอบไม่ผ่านแน่แล้ว ดังนั้นการประกาศคะแนนการสอบชุนเหวยคราวนี้ คนสำนักเต๋อซั่นจึงไม่ได้มีใครออกมาดูอะไรสนุกๆ
ในโถงรับแขกของหอสดับพิรุณล้วนแต่เป็นคนสำนักฉยงสือ
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงของคนผู้หนึ่งลอดเข้ามา น้ำเสียงดูประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด
ทุกคนแทบจะหันหน้ามาอย่างพร้อมเพรียงกันก็มองเห็นซูหลียืนอยู่ตรงประตู
ตอนนี้เป็นเวลาที่ดี ซูหลียืนอยู่ด้านหน้าแสงอาทิตย์ที่ลอดเช้ามา ยามเมื่อลมโบกพัด ชุดเบาบางบนร่าง ก็ทำให้เสื้อผ้าปลิวไสว ประหนึ่งทวยเทพที่มาเยือนโลกมนุษย์ ในห้องรับแขกตกอยู่ในความเงียบทันที
ทุกคนมองซูหลีที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นตาค้าง ตกใจจนพูดไม่ออก
“คุณชายป๋าย ไม่เจอกันตั้งนาน สบายดีใช่ไหม!” ซูหลีไม่สนใจคนอื่น นางขมวดคิ้วน้อยๆ สาวเท้าเดินไป
ไม่เจอกันมานาน นับๆ ดูแล้ว ซูหลีหายตัวไปจากเมืองหลวงไปหลายเดือนเหมือนกัน
จู่ๆ ซูหลีก็ปรากฏกายขึ้นเช่นนี้ กระทั่งป๋ายเฮ่อเองก็ยังไม่ทันได้รู้สึกตัว
“เจ้ามาทำอะไร?” ป๋ายเฮ่อนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเช่นนี้ออกมา
“ฮ่า!” ทันทีที่เขาเอ่ยออกมาเช่นนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าซูหลีก็กว้างขึ้นมาก นางมองป๋ายเฮ่อด้วยใบหน้าจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม คลี่พัดในมือทันที นางโบกพัดสีทองที่แสนสะดุดตาของตนเองเบาๆ
ยกขึ้นมาบังหน้าตนเอง เหลือเพียงดวงตาดอกท้อที่แสนเย้ายวนคู่หนึ่ง ส่องแสงเป็นประกายใต้แสงอาทิตย์ ทำให้คนไม่กล้ามองตรงๆ
“คุณชายป๋ายผู้สูงส่งขี้หลงขี้ลืมเสียจริง คงจะไม่ลืมเรื่องที่เราเดิมพันกันเอาไว้ใช่หรือไม่?” ซูหลีกลั้วหัวเราะพลางเดินไป
หลังจากที่นางเดินมาแล้ว ป๋ายเฮ่อถึงได้พบว่า วันนี้ซูหลีพาคนมาด้วยไม่น้อยเลยทีเดียว
นอกจากสาวใช้ใบหน้างดงามสองคนด้านหลังแล้วยังมีองครักษ์สิบกว่าคน แต่ที่แปลกที่สุดก็คือในบรรดาองครักษ์เหล่านั้นในมือยังถือกล่องไม้แดงขนาดใหญ่เอาไว้ด้วย
ซูหลีเดินนำคนพวกนี้และกล่องขนาดใหญ่พวกนี้ทรุดตัวนั่งลงในโถงรับแขก
ตรงข้ามเป็นกลุ่มคนสำนักฉยงสือ ส่วนฟากซูหลีคนก็ไม่น้อยเลยเช่นกัน แต่พอนับกันขึ้นมาจริงๆ แล้วมีแค่ซูหลีเพียงคนเดียวเท่านั้นเอง
ทันทีที่ซูหลีทรุดตัวนั่งลง เย่ว์ลั่วก็รินชาส่งให้
ท่าทางซูหลีสบายๆ บวกกับเย่ว์ลั่วเป็นสาวใช้งดงามขนาดนี้ ทันใดนั้นเองบรรยากาศก็ผ่อนคลายลง กลบบรรยากาศที่กลุ่มคนของสำนักฉยงสือสร้างขึ้นทันที
ป๋ายเฮ่อขมวดคิ้วมองซูหลี มักรู้สึกว่ากลายเดือนมานี้ไม่เจอซูหลี เหมือนนางจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ก่อนนี้ตัวคนผู้นี้เองก็เพียงแค่ยโสโอหังเท่านั้น ใช้คำว่าเกเรน่าจะเหมาะสมที่สุดแล้ว
คราวนี้พอดูๆ ไป ท่าทางต่างๆ ของนางเปิดเผยผ่อนคลาย ความโอหังในตอนนี้เหมือนว่าจะมีขีดจำกัดอยู่ หรือเรียกว่ายโสอย่างเปิดเผย!
ทันใดนั้นเองป๋ายเฮ่อเห็นซูหลีที่เป็นเช่นนี้ก็พูดอะไรไม่ออก
“เฮ้อ!” ซูหลีจิบชาจากนั้นจึงเอ่ยน้ำเสียงกระเซ้า “ชาที่เย่ว์เอ๋อร์ชงอร่อยที่สุดแล้ว!”
“ซูหลี!” อีกฝ่ายกระเซ้าสาวใช้อยู่ตรงนี้ ส่วนบรรยากาศในหอสดับพิรุณก็เรียกความสนใจจากคนได้ไม่น้อย
ซูหลีเหลือบตาขึ้นมอง แหม มีแต่คนคุ้นเคยกันทั้งนั้น!
ฉินมู่ปิง ยังมี…ฉินม่อโจว! ทั้งสองฉิน เดินเข้ามาพร้อมจี้ฉิน