ที่บอกว่าเซ็นไดซังหวานน่ะ โกหกชัด ๆ ตอนที่ 1
ฉันไม่ได้ทั้งชอบหรือเกลียดโรงเรียน
เพราะแม้จะชอบหรือไม่ชอบก็ต้องไปอยู่ดี ต่อให้ชอบหรือไม่ชอบไปก็ไม่มีความหมาย อย่างวันนี้เองก็ต้องไปโรงเรียนทั้ง ๆ ที่อารมณ์บูดเพราะเรื่องไร้สาระเรื่องนึง
ผมหน้าม้าสั้น
ฉันถอนหายใจอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ
ผมที่เพิ่งยาวแค่ประมาณไหล่เลยยังไม่ถึงขั้นต้องไปตัดก็จริง แต่เพราะหน้าม้าที่ยาวจนน่ารำคาญ ก็เลยต้องตัดด้วยตัวเอง แต่พอตัดเท่านั้นแหละ มันดันสั้นกว่าที่ตัวเองคิดไว้ซะงั้น
ต่อให้ดึงหน้าม้าที่ตัดจนสั้นไป มันก็คงไม่ยาวขึ้นให้
ทำได้แค่ยอมแพ้เรื่องหน้าม้าไป มาเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วก็เท่านั้น
แต่ทุกครั้งที่เห็นหน้าม้าทีไร ก็ซึมทุกที ก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นอยู่รอบนึง
『วันนี้มาหาที่ห้องหน่อยสิ』
ส่งข้อความไปเช่นเดิม
ช่วงเวลาที่ส่งไปก็มีทั้งจบคาบ 2 บ้าง พักกลางวันบ้าง บางครั้งก็หลังเลิกเรียน แต่ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหน ข้อความนี้ก็จะส่งไปให้แค่เซ็นไดซังเท่านั้น
มีทั้งตอบกลับมาทันที หรือไม่ก็หลังจากนั้นไม่นาน แต่ว่าไม่เคยถูกปฏิเสธเลยสักครั้ง แต่ก็มีบ้างที่เธอจะมีธุระเลยทำให้มาช้า ซึ่งวันนี้ดูเหมือนจะเป็นวันที่เธอมีธุระ เพราะว่ามีข้อความตอบกลับมาช่วงพักเที่ยงว่า 『มีนัดไว้อยู่ก่อนแล้วน่ะ จะไปช้าหน่อยนะ โอเคมั้ย? 』ส่งมา
『เดี๋ยวรอที่ห้องนะ』
หลังจากส่งข้อความไปตามแพทเทิร์นเดิม ก็เข้าเรียนต่อ
นัดที่ว่าคงเป็นอิบารากิซังไม่ผิดแน่นอน
เพราะนั่งข้างหน้าต่าง เลยเห็นอิบารากิซังที่นั่งอยู่ฝั่งทางเดินแว็บ ๆ
หล่อนเป็นคนที่เข้ากับคนได้ง่าย และเป็นจุดศูนย์กลางของคนในห้อง ชอบบอกว่าคนนู้นน่ารักบ้าง คนนี้เท่บ้างอยู่ตลอด เรื่องที่ได้ยินก็มีแต่เรื่องที่ไม่น่าสนใจทั้งนั้น อย่างกับอยู่คนละโลก แถมยังเป็นคนที่โกรธง่าย ซึ่งเป็นคนที่ฉันไม่ควรจะเข้าใกล้เป็นอย่างยิ่ง
เซ็นไดซังเค้าไม่เหนื่อยกับการที่ต้องอยู่กับคนแบบนี้รึไงนะ
ฟังเสียงของคุณครูพูดไปเรื่อย ๆ พลางมองไปยังที่นั่งแถวหน้าสุด
มีผมที่ถักเปียอย่างสวยงามอยู่
ถึงแม้เธอในตอนอยู่ที่ห้องฉันจะเป็นคนไม่ได้เรื่องเลยก็เถอะ แต่ว่าที่โรงเรียนนั้นไม่ใช่ ทั้งเป็นคนที่เอาใจใส่ ใจดี เรียนก็เก่ง ไม่ว่าตอนไหนก็ยิ้มแย้มอยู่เสมอ แถมไม่เคยทำหน้าตาไม่ชอบใจสักครั้ง คงด้วยเหตุนี้ เลยทำให้เธอที่แม้จะอยู่ในกลุ่มคนที่เด่นสุดในห้อง แต่ก็ไม่มีใครบอกว่าเกลียดเซ็นไดซังสักคน
แต่ก็ถูกพูดลับหลังว่าเป็นพวกสวยรอบด้านอยู่
ก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวที่เหมือนจะตั้งใจเรียนสุด ๆ จะรู้หรือเปล่าก็เถอะ
ฉันดึงหน้าม้าเล่นไปพลาง ๆ
คาบเรียนทั้ง ๆ ที่แค่ 50 นาทีแท้ ๆ แต่กลับรู้สึกนานเหลือเกิน
เสียงของคุณครูที่เหมือนกำลังเทศนาอยู่ช่างทำให้ง่วงนอนจริง ๆ
พอเรียนอีก 2 คาบทั้ง ๆ ที่หน้ามุ่ยจบ ก็ตรงกลับบ้านทันที
หลังจากเปิดประตูห้องแล้วบอกกลับมาแล้วไปก็ไม่มีเสียงใครตอบกลับมา
ก็ไม่มีใครอยู่บ้านนี่นะ
เดินเข้าห้องตัวเองทั้งชุดอย่างนั้นและล้มตัวนอนลงบนเตียง
ถึงแม้จะไม่ได้รีบกลับมาบ้านก็จริง แต่เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ไม่ดังขึ้นมาสักที
จนงีบหลับไป
ในตอนที่ปล่อยให้ความง่วงเข้าครอบงำ ก็โดนข้อความแจ้งเตือนที่ส่งมาจากโทรศัพท์ปลุกขึ้นมา ก่อนจะขยี้ตาแล้วมองที่จอที่มีข้อความสั้น ๆ ส่งเข้ามา
『กำลังไปนะ』
หลังจากนั้น 30 นาที
หลังจากที่โดนปล่อยให้รอ ในที่สุดเธอก็มาถึงสักที
「ขอโทษที มาช้าไปหน่อย」
เซ็นไดซังถอดเสื้อโค้ทกับเสื้อเบลสเซอร์ออก และนั่งลงหน้าโต๊ะ
「ไม่เป็นไรหรอก ถึงจะได้กลับบ้านช้าก็เถอะ」
ฉันรู้ว่าเธอจะตอบยังไง
ฉันวางไซเดอร์ที่ด้านหน้าของเซ็นไดซัง และนั่งลงโดยเอาหลังพิงที่เตียง
「สบายมาก」
ครอบครัวฉันเลี้ยงแบบปล่อยก็เลยไม่เป็นไร
จากที่ได้ยินมาหลายครั้ง ดูเหมือนวันนี้เซ็นไดซังก็จะไม่ได้สนใจเรื่องเวลากลับบ้านเหมือนเดิม ถึงแม้จะกลับบ้านดึกก็ไม่โดนบ่น ก็คงเพราะครอบครัวเธอไว้ใจเธอขนาดนั้นล่ะมั้ง
「นี่มิยากิ รู้มั้ยว่าวันนี้วันอะไร?」
ทันทีที่พูดจบ เธอก็เปิดกระเป๋าออก
「–วันนิโบชิ(ปลาซาร์ดีนตากแห้ง)?」
นิ(สอง) อิจิ(หนึ่ง) ชิ(สี่) กลายเป็น นิโบชิ
สองกับสี่ยังพอเข้าใจได้ แต่เอาหนึ่งมาอ่านว่า”โบ”นี่มันฝืนไปหน่อยมั้ง แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าคงอยากให้คำมันเข้ากันแหละ ถึงจะฝืนไปหน่อย แต่ถ้าโดนบอกว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันปลาซาร์ดีนตากแห้ง คนส่วนใหญ่ก็จะยอมรับว่าเป็นเช่นนั้น
แต่เหมือนเซ็นไดซังจะเป็นพวกที่ไม่ยอมรับ
เธอขมวดคิ้วแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
「ไม่ได้ต้องการคำตอบที่เหมือนพวกผู้ชายจืดจางแบบนั้นสักหน่อย ตอบดี ๆ สิ」
「วันวาเลนไทน์ใช่ไหมล่ะ」
ก็ไม่ได้เป็นวันที่น่าสนใจอะไรมากนัก
ไม่ได้ต่างจากเมื่อวานสักเท่าไหร่
「ถูกต้อง เพราะว่าอยู่แลกช็อคโกแลตกับพวกอูมินะอยู่น่ะ ก็เลยมาช้า แล้วก็มีส่วนของมิยากิให้ด้วยนะ」
「เอ๊ะ?」
「เป็นส่วนที่ทำให้พวกอูมินะเมื่อวานน่ะ ก็เลยทำมาเผื่อด้วย」
เซ็นไดซังพูดออกมาสบาย ๆ พร้อมกับวางกล่องที่ห่ออย่างเรียบร้อยลงบนโต๊ะ
ห่อด้วยกระดาษลายดอกไม้และริบบิ้นสีชมพู
ตรงกลางเป็นช็อคโกแลตทำมือ
ดูมีความเป็นสาวน้อยมากเกินจนรู้สึกคันหลังขึ้นมาเลย
「ไม่เอาเหรอ?」
ฉันที่นั่งจ้องกล่องเฉย ๆ ไม่หยิบสักที จนเซ็นไดซังทำหน้าสงสัยใส่
「แต่ฉันไม่มีช็อคโกแลตคืนให้น่ะสิ」
「ไม่ได้แลกกับเพื่อน ๆ เหรอ?」
「ไม่อยากทำน่ะ」
ถึงจะบอกว่าอยากเอาไว้ให้คนที่ชอบก็เถอะ แต่ก็มีเพื่อนที่ทำช็อคโกแลตไว้ให้ในวันวาเลนไทน์อยู่ หรือเพื่อนที่ให้ของขวัญวันเกิดก็มีอยู่ แต่เพื่อนที่กรี๊ดกร๊าดและให้ของขวัญในวันอีเวนต์อย่างฮาโลวีน หรือคริสมาสต์น่ะไม่มีหรอก
พวกธรรมเนียมการแลกช็อคโกแลตอะไรนั่นน่ะ เป็นของต่างวัฒนธรรมนั่นล่ะ
「งั้นหรอกเหรอ เอาเถอะ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะแลกอยู่แล้วล่ะ ไม่ต้องให้ก็ได้นะ แต่ถ้ามิยากิไม่อยากได้ล่ะก็จะเอากลับนะ」
เซ็นไดซังยิ้มอย่างเยาะเย้ยแล้วถาม「เอายังไงดี?」
「กินสิ」
「เชิญจ้ะ」
ฉันเอื้อมไปหยิบกล่องที่น่ารักเกินบรรยายที่วางอยู่บนโต๊ะ จากนั้นก็เอาริบบิ้นออก ค่อย ๆ แกะกระดาษที่ห่อโดยพยายามไม่ทำให้มันขาด จากนั้นก็เปิดกล่องออก
มีสีชมพู สีน้ำตาล และสีขาว
มีทรัฟเฟิลอันจิ๋วที่เล็กกว่าที่ขายทั่วไปตามร้านค้าอยู่ 6 ก้อน
「นี่ทำเองเหรอ?」
「ก็บอกไปแล้วนี่ว่าทำเอง แถมตั้งใจทำให้กินง่ายพอดีคำด้วยเห็นมั้ย」
เซ็นไดซังพูดด้วยความภาคภูมิใจสุด ๆ
จริงอยู่ที่มันถูกทำขึ้นมาให้รูปร่างพอดีคำ หน้าตาเองก็ดูดีเหมือนกับพวกช็อคโกแลตที่ขายตามร้านค้า ถ้าให้คนที่สกิลทำอาหารสุดกากอย่างฉันทำเองล่ะก็มันคงไม่ออกมาเป็นอาหารทำมือแน่นอน
พระเจ้าช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย
เซ็นไดซังทั้งน่ารัก เรียนเก่ง ทำอาหารก็เก่ง ทั้ง ๆ ที่เป็นมนุษย์เหมือนกันแท้ ๆ แต่ฉันกลับไม่มีอะไรที่ทำได้เหมือนเซ็นไดซังสักอย่าง
ขี้โกงจัง
เซ็นไดซังจ้องไปที่ช็อคโกแลตและพูดขึ้นมา
「คิดว่าทำออกมาได้อร่อยอยู่นะ」
เธอที่กำลังเอื้อมมือไปหยิบทรัฟเฟิลก้อนนึงอยู่นั้น ก็โดนฉันคว้ามือหยุดเอาไว้
「เซ็นไดซังป้อนฉันหน่อยสิ」
「คำสั่งเหรอ?」
「ใช่แล้ว เป็นคำสั่ง」
ไม่รู้ว่าช่วงนี้เธอชินกับการโดนสั่งเกินไปรึเปล่านะ เธอดูจะซนสุด ๆ
ตั้งแต่สั่งให้เลียเท้าครั้งนั้นเป็นต้นมา เธอก็ดูจะทำเกินที่สั่งตลอด
กัดบ้างล่ะ จุ๊บบ้างล่ะ
ไม่ได้ต้องการอะไรแบบนั้นสักนิด
ทั้ง ๆ คนที่ต้องเชื่อฟังต้องเป็นเซ็นไดซังแท้ ๆ คนที่ต้องรู้สึกแปลก ๆ และเจ็บตัวน่ะเป็นฝ่ายเซ็นไดซังต่างหาก
เพราะงั้น วันนี้ฉันจะเอาคืนบ้าง
「มาตรงนี้หน่อย」
เรียกเธอมานั่งโดยที่ยังคงเอาหลังพิงเตียงอยู่ จากนั้นเซ็นไดซังลุกขึ้นมานั่งข้าง ๆ
「อยากกินอันไหนก่อนดี?」
「อันสีขาว」
ชี้ไปยังทรัฟเฟิลอันที่โรยน้ำตาลผง
「เข้าใจแล้ว」
เซ็นไดซังหยิบทรัฟเฟิลสีขาวด้วยนิ้วชี้และนิ้วโป้ง
พอก้อนที่เหมือนกับก้อนหิมะเข้ามาใกล้ปาก ฉันก็อ้าปากขึ้น