เรื่องราวของการซื้อเพื่อนร่วมชั้นอาทิตย์ละครั้ง Shuu ni Ichido Kurasumeito wo Kau Hanashi 3 ราคาของเซ็นไดซังที่ไม่มากและไม่น้อยไปกว่า 5,000 เยน 3

ตอนที่ 3 ราคาของเซ็นไดซังที่ไม่มากและไม่น้อยไปกว่า 5,000 เยน ตอนที่ 3

ราคาของเซ็นไดซังที่ไม่มากและไม่น้อยไปกว่า 5,000 เยน ตอนที่ 3

 

「ใช้ความรุนแรงผิดกฎนะ」

 

 เซ็นไดซังพูดถึงกฎที่สัญญากันไว้ตอนแรก

 ถึงงั้นก็เถอะ การที่บอกว่าใช้เท้ายกคางขึ้นเฉย ๆ เป็นความรุนแรงเนี่ย เหนือความคาดหมายจริง ๆ สิ่งที่ฉันทำเองก็อยู่ในขอบเขตของสัญญา เพราะงั้นสิ่งที่เธอพูดมาจึงเปล่าประโยชน์

 

「ทำแค่นี้ไม่นับเป็นความรุนแรงสักหน่อย」

「นับสิ โดนเตะเลยนะ」

 

 เธอบ่นด้วยเสียงไม่พอใจพร้อมกับดีดนิ้วเท้าฉัน

 

「แค่สัมผัสโดนคางเฉย ๆ อะนะ」

 

 ถ้าโกรธกับเรื่องแค่นี้ จะนิสัยไม่ดีเกินไปมั้ง

 

「นี่แน่ะ」

 

 เซ็นไดซังพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ ๆ พร้อมกับบีบข้อเท้าของฉันแรงขึ้นกว่าก่อนหน้านี้

 ดูเหมือนเธอจะไม่ยอม และหรี่ตามองมาที่ฉัน

 

 ฉันที่รู้สึกถึงลางไม่ดีจึงพยายามยกขาขึ้น แต่ดูเหมือนเซ็นไดซังจะไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ แถมยังเอาปากมาดูดบนเท้าฉันอย่างแรงอีก

 มันต่างจากความรู้สึกที่โดนลิ้นเลียเท้า ร่างกายฉันสั่นด้วยความตกใจ

 

「หยุดเดี๋ยวนี้นะ」

 

 ฉันบอกให้เธอหยุดทำในสิ่งที่ไม่ได้สั่ง แต่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ เธอเอานิ้วลูบลงบนเท้าจากนั้นก็กัดเข้าที่นิ้วเท้า

 

「เจ็บนะ」

 

 ฟันที่งับนิ้วเท้าฉันอย่างแรงนั้น แค่อีกนิดก็เกือบจะกัดเข้าเนื้อไปแล้ว ถึงแม้เสียงจะดังลั่นไปทั่วห้อง แต่ความเจ็บไม่ได้บรรเทาลงเลย

 

「เซ็นไดซัง ฉันบอกให้หยุดได้แล้ว」

 

 พอมองลงไปก็เห็นขวัญบนหัวของเธอ

 ฉันจับหัวเธอโยกเพื่อบอกให้เธอหยุด

 

「นี่เป็นคำสั่งนะ หยุดได้แล้ว」

 

 ทันทีที่พูดด้วยเสียงที่ดังอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เธอก็ปล่อยฟันออกจากนิ้วเท้าฉัน จากนั้นเธอใช้ลิ้นค่อย ๆ เลียราวกับว่าตรวจสอบรอยที่เธอเพิ่งกัดไป

 

 นิ้วเท้าฉันเปียกเลอะเทอะไปหมด

 ลิ้นอุ่น ๆ ของเธอมันทำให้ฉันรู้สึกขนลุก

 ว่าแล้วเชียว ลิ้นคนเนี่ยช่างรู้สึกแย่จริง ๆ ในตอนที่รู้สึกว่า ‘แต่ก็ไม่ได้เกลียดอะไร’ ฉันก็ดึงผมเธอเพื่อสลัดความคิดนั้นออกไป

 

「หยุดได้แล้ว」

 

 ทันทีที่พูดซ้ำออกไปอีกรอบ ในที่สุดเซ็นไดซังก็ยอมเงยหน้าขึ้นมา ในตอนนั้นเอง ฉันก็ยกขาขึ้นมาบนเตียง

 

「เอาขาลงมาสิ เดี๋ยวสวมให้」

 

 ไม่รู้ว่าพอใจแล้วหรือว่ายังไง เซ็นไดซังหยิบถุงเท้าแล้วพูดออกมาอย่างยิ้มแย้ม

 

 อีแบบนี้ใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายออกคำสั่ง

 เป็นสถานการณ์ที่ไม่น่าพึงพอใจสักนิด

 

「ไม่ต้องสวมหรอก แล้วก็ถอดข้างนี้ออกให้ด้วยสิ」

 

 พูดเสร็จก็วางเท้าลงบนต้นขาของเซ็นไดซัง เธอเองก็ทำตามโดยที่ไม่บ่นอะไร

 

「มีคำสั่งอื่นอีกมั้ย?」

「ไม่」

 

 พอพูดตัดบท ฉันก็ยืนขึ้น

 

「ดื่มอะไรมั้ย?」

 

 ฉันถามเธอหลังจากที่เห็นแก้วเปล่าที่วางอยู่บนโต๊ะ เธอก็ตอบมาสั้น ๆ ว่า 「ไม่เอา」

 

「มื้อเย็นล่ะ กินมั้ย?」

 

 จะกลับแล้ว

 

 ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอจะตอบแบบนั้น จนถึงตอนนี้ ไม่ว่าจะถามกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ได้คำตอบแบบนี้กลับมา เพราะงั้นจึงไม่คิดว่าเธอจะตอบเป็นอย่างอื่นแน่นอน อีกอย่าง ถ้าเธอบอกว่ากินขึ้นมาจริง ๆ ก็แย่น่ะสิ

 ถึงคิดไว้แบบนั้น แต่ไม่รู้ทำไมคำตอบของคำถามนั้น ฉันถึงได้ยินคำว่า  「กินสิ」ขึ้นมาเป็นครั้งแรกซะได้

 

 ฉันสวมรองเท้าสลิปเปอร์แล้วเดินไปห้องครัวโดยมีเซ็นไดซังเดินตามมา จากนั้นหยิบราเม็งถ้วยออกมาจากถุงร้านสะดวกซื้อ และไปต้มน้ำ

 

 ทันทีที่วางถ้วยราเม็งที่เปิดฝา 2 ถ้วยต่อหน้าเซ็นไดซังที่กำลังนั่งอยู่ตรงเคาท์เตอร์อีกฝั่งของครัว เธอก็ทำหน้าตาสับสนออกมา

 

「นี่อะไรอะ?」

「ราเม็งถ้วยไง ไม่รู้จักหรอ? หรือว่าจริง ๆ แล้ว เซ็นไดซังผู้ร่ำรวยจะไม่เคยเห็นราเม็งถ้วยมาก่อน?」

「ถ้าฉันรวยขนาดที่ไม่เคยเห็นราเม็งถ้วยมาก่อนจริง ๆ ป่านนี้คงอยู่ในโรงเรียนที่ทักทายกันด้วย *โกะคิเก็งโยะ* ไปแล้วเถอะ」 (เป็นคำทักทาย “สวัสดี” ที่ส่วนใหญ่เหล่าลูกคุณหนูเค้าใช้ทักทายกัน)

 

 ถึงแม้เซ็นไดซังจะพูดออกมาอย่างน่าตกใจก็ตาม แต่เท่าที่ได้ยินมาบ้านของเธอก็รวยอยู่นะ

 

 ถึงแม้จะไม่ถึงกับใส่ของแบรนด์เนม แต่เธอก็เดินพกของที่ดูคุณภาพดีติดตัวอยู่ แถมก็คงจะกินอาหารทำมือเป็นมื้อเย็นตลอด ไม่มีทางที่จะได้กินข้าวเย็นเป็นราเม็งถ้วยแน่นอน

 

 เซ็นไดซัง ผู้ที่ได้รับความรักจากครอบครัว

 เซ็นไดซัง ผู้ที่ถ้าหากไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ก็คงไม่มีโอกาสได้คุยกับเธอ

 

 –รู้สึกคลื่นไส้จัง

 

 ฉันนั่งจ้องกาต้มน้ำไฟฟ้าที่กำลังต้มน้ำสำหรับ 2 คน

 

「อีกอย่าง แค่ราเม็งถ้วยต้องเคยกินอยู่แล้วสิ อ๋อ… อย่าบอกนะ ว่าบ้านมิยากิยากจนน่ะ?」

「ถ้าจะบอกว่าการได้ค่าขนมขนาดที่จ่ายให้เซ็นไดซัง 5,000 เยน อาทิตย์ละครั้งหรือสองครั้ง แล้วเงินยังเหลือว่ายากจนล่ะก็ ฉันคงจะยากจนแหละ」

 

 ฉันประชดใส่เซ็นไดซังที่พูดหยอกมา

 การที่เอาราเม็งถ้วยออกมาเสิร์ฟเป็นอาหารเย็น ไม่ได้แปลว่าบ้านฉันจะไม่มีเงินสักหน่อย ถ้าจะให้พูดถึงด้านการเงินล่ะก็ ถือว่าถูกจัดอยู่ในกลุ่มคนมีตังเลยด้วยซ้ำ

 

「……ไม่ได้จนหรอกหรอเนี่ย แล้วทำไมอาหารเย็นเป็นงี้ล่ะ ?」

「ถ้าอยากกินข้าวกล่องก็ได้แหละ เดี๋ยวไปซื้อให้ หรือว่าอยากจะเอากลับไปกินที่บ้าน? จะเอาแบบนั้นก็ได้นะ」

 

 เพราะว่าฉันไม่มีแม่ล่ะนะ

 อีกอย่าง ฉันก็ไม่มีพรสวรรค์ในการทำอาหารด้วย

 

 ส่วนเหตุผลที่อาหารเย็นเป็นราเม็งถ้วยมีอยู่ 2 ข้อ

 

 พ่อก็ทำอาหารได้อยู่หรอก แต่เพราะงานที่ยุ่งจนแทบไม่เคยกลับบ้านมาตอนที่ฉันตื่นเลยสักครั้ง และด้วยความรู้สึกผิดที่ปล่อยลูกสาวทิ้งไว้ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ล่ะมั้ง เขาจึงให้เงินค่าขนมที่เห็นได้ชัดว่ามากเกินไปสำหรับเด็กม.ปลายแบบนี้

 

「จะกินอันนี้แหละ」

 

 เซ็นไดซังพูดขณะจับฝาราเม็ง ในตอนนั้นเอง น้ำในหม้อก็เดือด

 

 เติมน้ำร้อนจนถึงเส้นที่กำหนด

 ตั้งนาฬิกาไว้ 3 นาที

 จากนั้นก็นั่งกินด้วยกัน 2 คน

 

 ไม่ว่าจะกินคนเดียว หรือว่ากินกันสองคน รสชาติของราเม็งถ้วยก็เหมือนเดิม ถึงจะอย่างงั้น อย่างน้อยก็รู้สึกว่าดีกว่ากินคนเดียวล่ะนะ

 

「ขอบคุณสำหรับอาหารค่า มืดแล้วด้วยสิ งั้นเดี๋ยวกลับแล้วนะ」

「อื้อ」

 

 ไม่ค่อยมีหัวข้อที่คุยร่วมกันกับเซ็นไดซังเท่าไหร่

 กลุ่มในห้องก็อยู่กันคนละกลุ่มและสิ่งที่สนใจก็ต่างกัน

 

 เพราะไม่มีเรื่องที่จะคุยกันเลยนั่งกินกันเงียบ ๆ ราเม็งถ้วยพวกนี้แปปเดียวก็กินเสร็จ ในขณะที่ยังไม่ทันได้รู้สึกว่าได้ใช้เวลาอาหารเย็นด้วยกัน เซ็นไดซังก็กำลังเตรียมตัวกลับ

 

「ถ้าซื้อเล่ม 4 มาเรียบร้อยแล้ว ขออ่านด้วยคนนะ」

 

 พอหยิบเสื้อโค้ทกับเสื้อเบลสเซอร์ เซ็นไดซังก็มองไปที่ชั้นหนังสือแล้วพูดขึ้นมา

 

「คิดไว้ว่าจะมาอ่านครั้งหน้าแหละ」

「งั้นเอาเป็นอาทิตย์หน้าละกัน」

 

 ยังจะมาอีกเหรอ

 พอนึกถึงเรื่องที่ทำกันไปวันนี้แล้วจะพูดแบบนี้ก็ไม่แปลก แต่ดูเหมือนว่าเธอจะยังอยากมาที่ห้องฉันอยู่

 

 เซ็นไดซังช่างแปลกคนจริง ๆ

 ทั้ง ๆ ที่อยู่โรงเรียนก็ปกติดีแท้ ๆ

 

 ในขณะที่จินตนาการเรื่องหยาบคายใส่เธออยู่ ฉันก็ยื่นเสื้อโค้ทกับเสื้อเบลสเซอร์ให้

 

「เดี๋ยวไปส่งนะ」

 

 เดินออกจากห้องด้วยกันสองคนดั่งเช่นทุกครั้ง จากนั้นก็ขึ้นลิฟท์ลงไปชั้น 1 และเดินต่อจนถึงทางเข้า

 

「งั้น ไว้เจอกันนะ」

 

 เซ็นไดซังโบกมือในขณะที่เดินออกไป

 

「บ้ายบาย」

 

 ฉันส่งเสียงตามแผ่นหลังที่ค่อย ๆ ไกลออกไป

 

 ปีหน้า พอขึ้น ม.6 ถึงต่อให้อยู่คนละห้องกันแล้ว เซ็นไดซังจะยังยอมให้ซื้อตัวอยู่หรือเปล่านะ

 

 ขณะที่คิดเช่นนั้น ฉันก็เดินกลับขึ้นลิฟท์

เรื่องราวของการซื้อเพื่อนร่วมชั้นอาทิตย์ละครั้ง Shuu ni Ichido Kurasumeito wo Kau Hanashi

เรื่องราวของการซื้อเพื่อนร่วมชั้นอาทิตย์ละครั้ง Shuu ni Ichido Kurasumeito wo Kau Hanashi

Score 10
Status: Completed
อาทิตย์ละครั้ง มิยากิจ่ายค่าตัวให้เธอเพื่อนร่วมห้อง เซ็นไดซัง 5,000 เยน แลกกับ 3 ชั่วโมง เพื่อทำตามสิ่งที่มิยากิสั่งทุกอย่าง โดยเนื้อหาคำสั่งขึ้นอยู่กับอารมณ์ในวันนั้นของมิยากิ วันหนึ่งหลังเลิกเรียน มิยากิได้เรียกเซ็นไดมาที่ห้องและได้มอบคำสั่งที่ปกติเธอไม่เคยขอมาก่อน และเซ็นไดไม่มีทางปฏิเสธได้เลย และสิ่งที่มิยากิจะขอนั้นคือ.... O_O"

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset