ราคาของเซ็นไดซังที่ไม่มากและไม่น้อยไปกว่า 5,000 เยน ตอนที่ 2
ทันทีที่เธอเลียเท้าฉันเพียงครั้งเดียว เธอก็เงยหน้าขึ้นมามองและถามฉันเบา ๆ
「พอหรือยัง?」
ในวันที่เกิดเรื่องแย่ ๆ ขึ้นแบบนี้ฉันล่ะชอบเซ็นไดซังจริง ๆ
เพราะมีความสัมพันธ์กับเธอแบบนี้ จึงทำให้ตัดสินใจเช่นนั้น
นอกจากนี้ วันนี้เองก็เป็นวันนั้นซะด้วย จึงไม่ยอมยกโทษให้ง่าย ๆ หรอก
「ยัง」
ถึงแม้เซ็นไดซังจะไม่ได้ผิดอะไรก็เถอะ แต่จะให้เลียแค่ครั้งเดียวแล้วพอเนี่ยมันคงจะน่าเบื่อไปหน่อย ทั้ง ๆ ที่อุส่าห์ยอมทำคำขอบ้า ๆ บอ ๆ อย่างการให้เลียเท้าแล้วแท้ ๆ ถึงจะไม่คิดว่าจะยอมทำตามถึงขั้นนี้ก็ตาม แต่ไหน ๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าไม่ทำให้สนุกกว่านี้ก็คงน่าเสียดายแย่
「จะให้เลียอีกนานแค่ไหนเนี่ย?」
「จนกว่าฉันจะพอใจแหละ」
「โรคจิต」
เซนไดซังขมวดคิ้วและพูดด้วยเสียงต่ำออกมา
แน่นอน แม้ว่ามันจะเป็นการกระทำที่ดูไม่น่าสนุกก็ตาม แต่เพราะนี่ไม่ใช่การทำให้เธอได้รู้สึกสนุกสักหน่อย สิ่งสำคัญคือมันทำให้ฉันรู้สึกสนุกหรือเปล่าต่างหากล่ะ
「หน้าที่ของเซ็นไดซังก็คือฟังคำสั่งของคนโรคจิตยังไงล่ะ」
ฉันยิ้มเบา ๆ และบอกเธอที่อยู่บนโต๊ะ
พัดลมฮีทเตอร์ที่ปล่อยลมร้อนออกมาอย่างต่อเนื่อง เซ็นไดซังที่ดูเหมือนจะร้อนได้คลายเนคไทออกอีกหน่อย เสื้อคลุมเบลสเซอร์เองก็ถูกถอดทิ้งออกไปไม่ไกล ทำให้มองเห็นกระดูกไหปลาร้าของเธอผ่านกระดุม 2 เม็ดที่ถูกปลดออก
เซ็นไดซังถอนหายใจ ฟู่ว ออกมาเบา ๆ
จากนั้นก็ทำท่าเลียหลังเท้าฉันเหมือนกับแมวไม่ก็หมา
สัมผัสจากลิ้นที่หนืด ๆ มันทั้งเปียก อุ่น และนุ่มนิ่ม จนทำให้รู้สึกว่าได้ทำในสิ่งที่ไม่สมควรทำไปซะแล้ว
การที่โดนสัตว์เลี้ยงเลียเท้าแบบนี้ ก็คิดว่าน่ารักดีอยู่หรอก แต่ว่า ความจริงแล้วสิ่งที่เลียอยู่ไม่ใช่หมาหรือแมว แต่เป็นคนต่างหาก
ถึงแม้หน้าตาของเซ็นไดซังจะไม่ถึงขั้นอยู่บนหน้าปกนิตยสาร แต่ก็อยู่ในระดับที่เรียกว่าหน้าตาดีอยู่ดี พอคิดว่าต้องให้มาใช้ลิ้นลูบไล้ผิว และเลียเท้าคนอื่นแบบนี้แล้วก็รู้สึกแย่ขึ้นมานิดหน่อยแฮะ
「มิยากิ ทำแบบนี้ให้แล้วสนุกหรอ? 」
เซ็นไดซังเงยหน้าถาม
「ก็นะ ประมาณนั้นแหละ」
ถึงแม้ความรู้สึกที่โดนเลียจะไม่ค่อยน่าสนใจอะไรนัก แต่ในสถานการณ์ที่โดนเซ็นไดซังมาเลียเท้าให้แบบนี้ถือว่าค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว
เซ็นไดซังคนนั้นที่ทั้งคุณครูให้ความเอ็นดู และเป็นที่นิยมของกลุ่มเพื่อน ๆ ในห้องกำลังเลียเท้าฉันคนนี้
กับการที่ต้องมาเลียเท้าอย่างกับเป็นข้ารับใช้ และฟังคำสั่งของคนสามัญชนที่ไม่มีข้อดีอะไรอย่างฉัน
มันช่างทำให้จิตใจของฉันรู้สึกสูงส่งขึ้นจริง ๆ
「หืมม สนุกด้วยแหละ แล้ว… รู้สึกดีด้วยรึเปล่า?」
พอพูดเช่นนั้น เซ็นไดซังก็ได้ขยับลิ้นเลียตั้งแต่นิ้วโป้งเท้าลากยาวไปยังข้อเข้า และด้วยสัมผัสจากลิ้นหนุบหนับและอุณหภูมิร่างกายของเธอ มันทำให้ฉันกุมมือแน่น หน้าท้องเกร็งและกัดฟัน
「ไม่สักนิด」
ฉันตอบสั้น ๆ และดึงผมหน้าม้าเธอเบา ๆ เธอส่งเสียง 「อย่าดึงสิ」ออกมาพร้อมกับบีบข้อเท้าแน่นขึ้น
เล็บที่ยาวนิดหน่อยได้จิกลงบนผิวฉัน
ฉันใช้นิ้วชี้จิ้มลงที่หน้าผากของเซ็นไดซัง
「อย่าทำเกินที่สั่งสิ」
ด้วยน้ำเสียงดุเล็กน้อย เธอก็ตอบ 「ค่าา」กลับมาอย่างไม่ใส่ใจ พร้อมกับผ่อนแรงที่บีบข้อเท้าลง
เซ็นไดซังวางลิ้นลงบนเท้าฉันและค่อย ๆ เริ่มเลียอย่างไม่ลังเล
ไม่ค่อยเข้าใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
เธอนั้นเป็นคนที่อ่านใจยากแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
หากเป็นฉันล่ะก็คงไม่มีทางไปเลียเท้าคนอื่นอย่างแน่นอน แต่เธอกลับเลียไปบ่นไปซะงั้น
ไม่ได้คิดว่าต้องการเงินด้วยสิ
คงจะมีเหตุผลอื่นนั่นแหละ ว่าแต่มันคืออะไรล่ะ
ต่อให้จินตนาการถึงความคิดของคนฉลาดไป มันก็คงจะเสียเวลาเปล่าประโยชน์
「หากเพื่อน ๆ ได้มาเห็นเซ็นไดซังในสภาพแบบนี้ ทุกคนจะคิดว่ายังไงกันบ้างนะ」
ฉันถามเซ็นไดซังไปแบบนั้น
เหล่าเพื่อน ๆ ของเธอเป็นกลุ่มที่ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย เป็นดั่งจุดศูนย์รวมสิ่งที่ดีงามของชีวิตในโรงเรียนมารวมอยู่กับพวกตัวเธอหมดแล้ว ทั้งเจิดจ้า และดูสนุกสนานอยู่ตลอด
「แทนที่จะมาเป็นห่วงฉัน ห่วงตัวเองไม่ดีกว่าหรือไง ถ้าโดนเห็นในสภาพนี้จริง ๆ มิยากิคงไม่พ้นโดนเรียกว่ายัยโรคจิตแหง」
เซ็นไดซังเงยหน้าขึ้นแล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา
ถ้าเรื่องแบบนี้ความแตกที่โรงเรียนล่ะก็ ชีวิตฉันคงร่วงหล่นลงไปยังหุบเหวแน่นอน ชีวิตประจำวันธรรมดาในตอนนี้คงหายวับไปในพริบตาเป็นแน่แท้
แต่ว่า เซ็นไดซังเองก็คงเหมือนกัน หากโดนรู้ว่าต้องมาเลียเท้าให้มนุษย์ที่สุดแสนน่าเบื่ออย่างฉันแล้วล่ะก็ คงจะไม่มีทางคงอยู่ในสถานะเช่นเดิมกับตอนนี้ได้หรอก
เพราะงั้น ต่อให้เป็นยัยโรคจิตก็ไม่เป็นไร
ยังไงก็มีเพื่อนที่เป็นยัยโรคจิตอย่างเซ็นไดซังอีกคนอยู่ดี
「ไม่เป็นไรหรอก การที่เอาเรื่องที่เกิดที่นี่ไปพูดที่โรงเรียนมันผิดกฎนี่นะ เพราะงั้นไม่เอาไปพูดหรอก」
นั่นคือกฎที่ตั้งเอาไว้ตั้งแต่แรก
มีกฎอีกหลายข้อที่ตกลงกันไว้ในการจ่ายเงิน 5,000 เยนเพื่อให้ทำอะไรกับเซ็นไดซังได้ตามใจชอบ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการห้ามบอกใครเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังเลิกเรียน
ด้วยเหตุนี้ นี่จึงเป็นความลับที่ทุกคนไม่มีทางได้เห็น และเป็นความลับที่ทั้งฉันและเซ็นไดซังไม่มีทางไปเล่าให้ใครฟังแน่นอน
「ช่างเรื่องพวกนั้นเถอะ จะพูดมันก็ได้อยู่หรอก แต่ตั้งใจเลียหน่อยสิ」
ฉันใช้ปลายเท้าค่อย ๆ ยกคางของเธอขึ้น
เธอหรี่ตาลง แล้วมองมาที่ฉันด้วยสายตาเฉียบคมราวกับว่าอยากจะพูดอะไรบางอย่าง
ตั้งแต่เริ่มจ่ายเงิน 5,000 เยนให้เธอมา เซ็นไดซังไม่เคยทำสายตาแบบมาก่อนเลยสักครั้ง
มันทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นกับการต่อต้านแบบนี้ของเธอ
ถึงแม้ไม่คิดจะฟังสิ่งที่เซ็นไดซังพูดก็เถอะ แต่ก็คิดว่าอย่างน้อยควรจะให้สิทธิ์เธอพูดอะไรสักหน่อย
「ถ้ามีเรื่องอยากจะพูดล่ะก็ จะยอมฟังให้สักเรื่องก็ได้นะ」
ฉันมองเธอในขณะที่คางของเธอยังคงอยู่บนปลายเท้าฉัน