“……?”
ชัตดาวน์รับรู้ถึงการเปิดใช้งานกล้องหลักอีกครั้ง เพดานที่ไม่คุ้นเคย ผ้าห่มนวมที่ห่อหุ้มฮาร์ดแวร์ของตนบนที่นอนสีขาว นอกจากนั้นยังมีพื้นและผนังไม้อย่างเรียบๆ
“ยืนยันการรีบูต… ไม่สามารถยืนยันการสร้างบันทึกการเปิดใช้งานใหม่ ไม่สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันได้”
ชัตดาวน์พึมพำ
“ไม่สามารถเข้าถึงหน่วยสำรองข้อมูลระยะไกลได้ ฟังก์ชันสื่อสารของฮาร์ดแวร์นี้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ไม่สามารถดำเนินภารกิจต่อได้ เริ่มโปรแกรมซ่อมแซมตนเอง… การเริ่มต้นล้มเหลว”
แม้แต่บันทึกความล้มเหลวยังไม่สามารถสร้างได้ มันได้สูญเสียฟังก์ชันอ่านข้อมูลไปแล้ว
ชัตดาวน์ตกอยู่ในสภาวะสับสน และยังคงพึมพำข้อมูลข้อผิดพลาดซ้ำไปมาขณะยังนอนนิ่งอยู่บนเตียง
“พบความผิดปกติในฮาร์ดแวร์ส่วนใหญ่ ยืนยันพิกัดไม่ได้ เวลาไม่แน่ชัด วิเคราะห์สถานการณ์ไม่ได้ ภารกิจไม่สามารถดำเนินต่อได้…”
ขณะนั้นเอง ชัตดาวน์ได้ก้มมองที่ฝ่ามือตัวเอง
มันไม่ใช่เหล็กกล้าสีดำนิลเหมือนเช่นเคย แต่เป็นเนื้อหนังสีผิวมนุษย์ นิ้วทั้งห้านิ่มนวลและบอบบาง
“วิเคราะห์สถานการณ์… วิเคราะห์สถานการณ์… วิเคราะห์สถานการณ์…”
เมื่อหันไปมองกระจกข้างเตียง เงาสะท้อนที่ปรากฏคือร่างเด็กหนุ่มผมขาว ซึ่งตรงกับข้อมูลของ ‘มนุษย์’ ที่เคยถูกบันทึกไว้
“ฮาร์ดแวร์ถูกแทนที่ด้วยร่างมนุษย์… ไม่สามารถทำความเข้าใจสถานการณ์ได้… ไม่สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้…”
ชัตดาวน์ไม่ใช่แอนดรอยด์อีกต่อไป —ร่างกายของชัตดาวน์ถูกแทนที่เป็นร่างเด็กหนุ่มผมขาวโดยสมบูรณ์ ขณะนั้นเอง ชัตดาวน์ตรวจจับเสียงแจกันแตกได้ และหันไปทางต้นเสียงทันที
“ท่านควาเลีย…!”
“ตรวจพบมนุษย์”
เป็นเด็กสาวในชุดเดรสมีระบายและผ้ากันเปื้อน นั่นคือชุดเมด หากแต่ชัตดาวน์ยังไม่รับรู้คำว่า “ชุดเมด” ได้ในขณะนั้น
“ท่านฟื้นแล้ว…!”
แม้ไม่มีข้อมูลเรื่องการแสดงออกทางอารมณ์ของเธอในหน่วยความจำ แต่ชัตดาวน์กลับรู้สึกได้อย่างประหลาดว่า เด็กสาวคนนี้มีการแสดงความโล่งใจและร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจอย่างมากล้น
“ดีจริง ๆ… ดีเหลือเกิน… คอของท่านเป็นอย่างไรบ้างคะ? ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน… หลังจากที่ท่านพยายามแขวนคอตัวเอง ท่านก็ไม่ได้สติเลย…”
“ตรวจพบมนุษย์… ตรวจพบมนุษย์… ไม่สามารถทำความเข้าใจสถานการณ์ได้… ไม่สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้…”
“ท่านควาเลีย…? ท่านเป็นอะไรไปคะ?”
ชัตดาวน์ยังไม่ตระหนักว่าตนเองคือ “ควาเลีย” ที่เด็กสาวเรียกหา เพราะจากข้อมูลที่บันทึกไว้ มนุษย์ควรจะสูญสิ้นไปจากโลกแล้ว แต่กลับมีเธอคนนี้ที่กำลังมองหน้ามันอย่างสับสนอยู่ และยังมีร่างกายของตนที่ตอนนี้เป็นร่างมนุษย์อีก
ด้วยสถานการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้นี้ ทำให้เป็นเรื่องปกติที่ระบบประมวลผลของมันจะทำงานผิดปกติ
“ขอคำอธิบาย ทำไมจึงมีมนุษย์อยู่ตรงนี้?”
“เอ๊ะ… อะไรนะคะ?”
“ขอข้อมูลเพิ่มเติม ต้องการคำอธิบายเกี่ยวกับที่ตั้งปัจจุบัน กรุณาระบุพิกัด… ที่นี่คือส่วนไหนของโลก?”
“โ…โลก? ท่านพูดถึงอะไรคะ? นี่คือบ้านของท่านเองไง… จำไม่ได้เหรอคะ?”
“โลก คือดาวเคราะห์ดวงที่สามในระบบสุริยะ สถานที่ที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้”
“ที่นี่คือ…”
สีหน้าของเมดสาวซีดลงเฉียบพลัน เหมือนเธอได้รับรู้อะไรที่ร้ายแรง
“….ที่นี่ไม่ใช่โลกหรอกค่ะ… นี่คือคฤหาสน์ท่านมาร์ควิสแซนด์บ็อกซ์ แห่งราชอาณาจักรอคาเซีย… บ้านของท่าน และท่านคือควาเลีย บุตรชายคนที่สามของบ้านนี้… ท่านจำไม่ได้เลยเหรอคะ?”
“ข้อผิดพลาด… อาณาจักรอคาเซียไม่มีอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ใด ๆ และไม่มีดาวเคราะห์ที่อื่นใดที่มนุษย์สามารถอาศัยได้ถูกค้นพบ ควาเลียไม่ใช่ชื่อบัญชีที่มีอยู่… ข้อมูลชื่อตนคือ ‘ชัตดาวน์’… ไม่สามารถทำความเข้าใจสถานการณ์ได้…”
“หรือว่า… การพยายามแขวนคอตัวเอง… ส่งผลกระทบต่อสมองของท่าน…?”
น้ำตาของเมดสาวไหลริน ชัตดาวน์เฝ้ามองเธอไม่ใช่ด้วยกล้อง แต่เป็น “ดวงตา” ครั้งแรกที่ได้เห็นมนุษย์ผ่านสายตาจริง ๆ ไม่ใช่กล้องบันทึกภาพ เมดสาวคนนั้นมีหูแมวบนหัวของเธอซึ่งขัดแย้งต่อบันทึก
“วิเคราะห์สถานการณ์…”
แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้อมูลที่ได้รับจากเมดสาวจำเป็นต้องถูกนำมาจัดเรียงใหม่และใช้สร้างข้อสันนิษฐาน
สถานที่แห่งนี้คืออาณาจักรอคาเซีย ซึ่งไม่เคยถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ใด ๆ ร่างกายนี้เป็นร่างของมนุษย์ที่ชื่อว่า “ควาเลีย” และเมดสาวที่อยู่ตรงหน้าคือสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ แต่มีความแตกต่างจากข้อมูลเดิม
“วิเคราะห์สถานการณ์…”
แล้วในที่สุด ชัตดาวน์ก็เริ่มเชื่อมโยงความเป็นไปได้ข้อหนึ่งขึ้นมา
“สมมุติฐาน: ฟังก์ชันชัตดาวน์ได้ถูกส่งมาอีกโลกที่ต่างออกไปโดยปรากฎการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ ในร่างของมนุษย์ที่ชื่อควาเลียซึ่งดำรงอยู่ในมิติเวลาที่แตกต่างจากดาวโลก”
_____________________________________________________________________________________________
อาทิตย์นี้จะลง 3 ตอนนะครับ อีกตอนมาตอนเย็นนี้ หลังจากนั้นจะลง 2 ตอนต่ออาทิตย์ จะพยายามให้เป็นวันเดียวกันทุก ๆ อาทิตย์นะครับ