เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราชบทที่ 455 หน่วยเสินอิง

บทที่ 455 หน่วยเสินอิง

บทที่ 455 หน่วยเสินอิง

บทที่ 455 หน่วยเสินอิง

เด็กหนุ่มที่เห็นเสี่ยวเป่าเบิกตากว้าง “ไม่ใช่หรอก ข้ามองอย่างไรแม่นางน้อยคนนั้นก็อายุเพียงแค่แปดหรือเก้าขวบเท่านั้นเอง”

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เด็กหนุ่มคนอื่นต่างก็มีสีหน้าเหลือเชื่อปรากฏขึ้นมาเช่นกัน

แม้ว่าจะเก่งกาจสักเพียงใด แต่สาวน้อยตัวเล็กอายุเพียงแปดหรือเก้าขวบจะฝึกวิหคเทวะได้อย่างไร

“พวกเจ้าอย่าหลงเชื่อเลย”

เจ้าของร้านที่โดนสงสัยก็ไม่ได้อารมณ์เสีย ชายชราอยู่ ณ ที่นั้นพลางเอ่ยว่า

“อันที่จริงแล้ว เดิมทีตอนแรกพวกข้าก็ไม่เชื่อ แต่ก่อนที่วิหคเทวะจะถูกส่งไปยังค่ายทหาร สาวน้อยคนนั้นได้รับการปกป้องทุกครั้งเมื่อนางออกไปข้างนอก พวกข้าทุกคนจึงต่างพากันคิดว่านกพวกนั้นต้องโดนฝึกให้เชื่องโดยผู้ฝึกสัตว์ที่เชี่ยวชาญจากบ้านของคุณหนูตระกูลกง เพียงแต่ว่า วิหคเทวะมีหลายชนิด มีทั้งเหยี่ยวไห่ตงชิง นกเค้าอินทรี อินทรีทอง…”

เขาเอ่ยนับทีละตัว เด็กหนุ่มหลายคนต่างพากันตกตะลึง ช่างมีหลากหลายชนิด นอกจากนี้บางตัวก็เลื่องชื่อ พวกเขาต่างไม่เคยได้ยินหรือเห็นด้วยตาตนเองมาก่อน

“นกล่าเหยื่อเช่นนี้ไม่สามารถถูกเลี้ยงโดยมนุษย์ได้หรอก ไม่ว่าผู้ฝึกนกจะเชี่ยวชาญขนาดไหนก็มิสามารถทำได้ นอกจากนี้ หากอาณาจักรต้าเซี่ยของพวกเรามีคนฝึกนกผู้เก่งกาจเช่นนั้น ป่านนี้พวกเราอาจเอาชนะพวกซยงหนูป่าเถื่อนไปได้นานแล้ว แล้ววิหคเทวะพวกนั้นเพิ่งปรากฏตัวในช่วงสองปีที่ผ่านมา และพวกมันต่างก็ถูกส่งมาจากบ้านของคุณหนูตระกูลกง”

“นั่นอาจไม่ใช่นกที่พวกเขาเลี้ยงให้เชื่องก็เป็นได้นะ”

พ่อค้าส่งเสียงหัวเราะขึ้นมา “แต่ก่อนหน้านกพวกนั้น คุณหนูตระกูลกงยังได้ฝึกเสือสองตัวด้วย แต่ละตัวก็แสนเชื่อง ตัวหนึ่งสีดำและตัวหนึ่งสีขาว ล้วนเป็นเสือหายากทั้งสองตัว พวกมันตัวใหญ่กว่าเสือธรรมดาทั่วไปอยู่หลายเท่า ไม่ต้องสงสัยเลย เสือสองตัวนั้นเชื่อฟังเพียงคำพูดของนางเท่านั้น นอกจากนี้ยังเคยได้ยินพวกบ่าวรับใช้เอ่ยกันว่า เสือทั้งสองตัวนั้นต่างถูกคุณหนูเลี้ยงจนเชื่องด้วยมือของนางเอง พวกเขาไม่มีคนฝึกสัตว์อยู่ที่จวนด้วยซ้ำ”

“โอ้…”

ในขณะนี้ เด็กหนุ่มหลายคนต่างรู้สึกสั่นสะท้าน เพียงแต่… เพียงแต่เป็นเช่นนั้นได้อย่างไรกัน

เด็กหญิงแค่เพียงคนเดียว สาวน้อยอายุประมาณแปดเก้าขวบ!

“หากยังไม่เชื่อ บางทีพวกเจ้าอาจลองไปดูให้เห็นกับตาตรงนั้นก็ได้”

เด็กหนุ่มหลายคนต่างพากันจ้องมองด้วยแววตาสงสัย นัยน์ตาฉายแววอยากรู้อยากเห็นอย่างปิดไม่มิด

เถ้าแก่ร้านไม่ได้เอ่ยสิ่งใดอีกต่อไป เพียงแค่บอกให้พวกเขาไปหาทำเลดี ๆ เสียหน่อย ถึงตอนนั้นก็จะเข้าใจเอง

เพื่อการนี้ คุณชายหลายคนที่แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยเสื้อผ้าอย่างดีจึงเอ่ยถามหาสถานที่ที่สามารถมองเห็นวิหคเทวะได้เป็นอย่างดี สุดท้ายจึงเลือกเดินเข้าร้านอาหารใหญ่ที่สุด แล้วเลือกห้องส่วนตัวที่เห็นวิวงามที่สุด

เมื่อมาถึงหลังมื้ออาหารกลางวัน ด้วยความคาดหวังเต็มเปี่ยม จุดสีดำเล็ก ๆ ก็ปรากฏขึ้นตรงที่ห่างไกล

ทำให้คนที่คุ้นเคยตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น “มาแล้ว มาแล้ว พวกวิหคเทวะมากันแล้ว!”

ผู้คนเต็มท้องถนนไปหมด แต่ทุกคนก็พร้อมใจกันหลีกทาง แล้วหลบอยู่ใต้ชายคาบ้านแทน ทั้งสองข้างของริมฝั่งฟากถนน มีบางส่วนได้เข้าไปอยู่ในห้องส่วนตัวของโรงน้ำชาหรือเหลาอาหารบางแห่ง

ภาพตรงหน้าช่างเหมือนกลุ่มผู้ชื่นชอบ เกรงว่าทั่วทั้งอาณาจักรต้าเซี่ย มีแต่ฮ่องเต้ องค์ชายและองค์หญิง ท่านแม่ทัพและเหล่าขุนนางที่มีชื่อเสียงเท่านั้น จึงจะได้รับการปฏิบัติเช่นนี้

แต่เป็นความชื่นชอบที่แตกต่าง บรรดาคนพวกนั้นชอบวิหคเทวะกันยิ่งนัก พวกกลุ่มผู้ชื่นชอบน้อยใหญ่ต่างพากันคลั่งไคล้

ในที่สุด เมื่อวิหคเทวะเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ รูปลักษณ์ของพวกมันก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน

พวกวิหคเทวะต่างคาบตะกร้าเอาไว้ในปาก มันร่อนลงมาเกาะตรงชายคาทั้งสองด้านของถนน

การร่อนลงของนกล่าเหยื่อจำนวนห้าสิบตัวช่างน่าตื่นตาตื่นใจนัก ไม่ต้องเอ่ยถึงผู้คนในเมืองหน้าด่านจะตื่นเต้นกันมากสักแค่ไหน ขนาดผู้คนที่มองจากที่ไกล ๆ ยังรู้สึกตื่นเต้นเลย

สิ่งที่บุรุษชื่นชอบคือพวกนกล่าเหยื่อและสัตว์ดุร้ายพวกนี้ และที่สำคัญที่สุดคือพวกมันต่างเป็นกองพลทหาร ดังนั้นจึงไม่ทำร้ายคน เช่นนี้แล้วบุรุษคนไหนจะไม่ชอบกันเล่า

อย่าว่าแต่บุรุษเลย หญิงสาวเองก็ชื่นชอบมากเช่นกัน

เนื่องจากนกล่าเหยื่อไม่เพียงแค่ดูดีเท่านั้น แต่ยังหล่อเหลาสง่างามมากด้วย!

นกล่าเหยื่อที่ยืนอยู่บนชายคาบ้านต่างเพิกเฉยต่อเสียงและสายตาของทุกคนที่จ้องมองมาอย่างกระตือรือร้น สายตาของพวกมันจับจ้องไปยังแผงขายของเหล่านั้นที่วางอยู่ข้างล่าง

ในขณะนี้ พวกนายพรานต่างจ้องมองวิหคเทวะด้วยแววตาคลั่งไคล้

พวกเขาเก็บเนื้อเอาไว้เป็นอย่างดี เมื่อมีคนมาขอซื้อก็ไม่ยอมขาย เนื่องจากอยากเก็บไว้ขายให้กับวิหคเทวะพวกนี้!

หลังจากนั้น ภายใต้การนำของเหยี่ยวไห่ตงชิง นกล่าเหยื่อที่เหลือก็ต่างพากันกางปีกแล้วร่อนลงไปยังแผงขายของ

พวกมันต่างแข็งแรงและตัวใหญ่ ในหมู่ผู้คนตัวที่สะกดสายตาคือตัวที่ดูดีที่สุด และเหยี่ยวไห่ตงชิงผู้เลื่องชื่อตัวนั้น

พวกมันไม่ใช่วิหคเทวะที่ตัวใหญ่ที่สุด แต่เป็นหัวหน้าของหน่วยเสินอิงทุกตัว

นอกจากนี้ยังมีอินทรีทองที่รูปลักษณ์โดดเด่นเป็นพิเศษด้วย ใช่แล้ว มันคือเสี่ยวไต

นอกจากนี้ยังมีอินทรีทองตัวอื่นที่อยู่ในหน่วยเช่นกัน แต่เจ้าตัวนี้สูงใหญ่กว่าอินทรีทองตัวอื่นมากทีเดียว

ผู้คนที่ได้เห็นมันต่างอุทานออกมา ช่างเป็นอินทรีทองที่ตัวใหญ่อะไรเช่นนี้ สูงใหญ่เกือบเท่าบุรุษโตเต็มวัยคนหนึ่งเลย

“เห็นว่าอินทรีทองสามารถขยุ้มพวกซยงหนูที่ตัวกำยำบินขึ้นไปได้ด้วยใช่หรือไม่?”

มีคนกำลังพูดคุยอย่างตื่นเต้น พวกมันตัวใหญ่เสียจริง ดูแล้วมีความสง่าผ่าเผยยิ่งนัก

“ใช่ และพวกเจ้าคงไม่รู้เป็นแน่ ได้ยินมาว่าผู้ที่เลี้ยงอินทรีทองคือองค์ชายห้าล่ะ!”

“ว้าว!”

อินทรีทองเป็นขององค์ชายห้านี่เอง สมแล้วที่เป็นถึงองค์ชาย!

แน่นอนว่าสิ่งที่พวกวิหคเทวะชอบก็คือเนื้อ หลังจากที่พวกมันทราบว่าเจ้าหินก้อนเล็ก ๆ นี้สามารถนำไปแลกเนื้อกับมนุษย์ได้ ทุกเดือนจึงจะมีหนึ่งวันที่พวกมันหยุดล่าแล้วมาแลกซื้อเนื้อสัตว์แทน

แผงขายเนื้อสัตว์แทบทุกชนิดเป็นที่โปรดปรานในหมู่วิหคเทวะ คนพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นนายพรานประจำท้องที่ และได้เนื้อสดใหม่มา พวกนกไม่ได้ซื่อบื้อ สุดท้ายแล้วพวกมันสามารถรู้ถึงความสดของเนื้อได้ดีกว่ามนุษย์เสียอีก

และแล้วแผงลอยพวกนี้ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกอิจฉาเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

Score 10
Status: Completed
จากลูกเป็ดขี้เหร่สู่การเป็นองค์หญิงคนสุดท้องแห่งราชวงศ์ ความน่ารักของซูเสี่ยวเป่าพร้อมจะพิชิตใจทุกคนแล้ว! นิยายแปลเรื่อง เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช ผู้แต่ง :垂耳兔 หลังจากภูตพฤกษาตัวน้อยตายลง นางก็มาเกิดในยุคสมัยโบราณ และหลงคิดไปว่าตนเองเป็นเพียงเด็กลูกชาวบ้านแถบชนบทธรรมดา ๆ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าท่านพ่อที่นางไม่เคยพบหน้ามาก่อนจะมีภูมิหลังยิ่งใหญ่ปานนี้ เขา…ถึงกับเป็นราชาของแผ่นดิน! เสี่ยวเป่าที่อายุเพียงสามขวบถูกพาตัวไปยังพระราชวังทันทีหลังจากที่แม่ของนางสิ้นชีพลง แล้วนางก็กลายเป็นองค์หญิงน้อย สตรีเพียงหนึ่งเดียวท่ามกลางพี่ชายแปดคน!

Options

not work with dark mode
Reset