บทที่ 407 โฉมงาม
บทที่ 407 โฉมงาม
เหล่าพ่อค้าต่างแดนถึงกับตกใจ เมื่อพบว่าหนังสือพิมพ์ที่พวกเขาถืออยู่คือกระดาษ!
ต้าเซี่ยร่ำรวยถึงเพียงนี้เชียวหรือ ถึงได้นำกระดาษออกมาขายในราคาเพียงสามอีแปะ!
“องค์หญิงเจาเสวี่ยริเริ่มสิ่งนี้ขึ้นมาได้ พระองค์ต้องเป็นอัจฉริยะเป็นแน่”
ชายชราหัวเราะเสียงแห้ง “ไม่รู้ว่าอัจฉริยะหรือไม่ แต่องค์หญิงของเราพึ่งจะห้าขวบเท่านั้น”
“ว่าอย่างไรนะ!!!”
พวกเขาตกใจอีกครั้ง เมื่อรู้ว่าองค์หญิงห้าขวบเป็นเจ้าของความคิดที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ชายชราผู้นี้คงมิได้ล้อพวกเขาเล่นกระมัง
ชายชราทำหน้าภาคภูมิใจ “พวกท่านยังไม่ต้องเชื่อข้าก็ได้ ข้าเดาว่าพวกท่านมาที่นี่เพราะเหล้าใช่หรือไม่ ต้าเซี่ยของเรามีของดีเป็นเหล้าองุ่นนี่นา”
เหล่าพ่อค้าเริ่มใจชื้น “ท่านรู้หรือไม่ว่าเราจะหาซื้อเหล้าองุ่นได้จากที่ใด”
“รู้สิ ย่านการค้ามีเหล้าที่พวกท่านต้องการวางขาย แม้จะราคาแพงมาก แต่ก็ยังเป็นที่ต้องการ ลูกค้าแต่ละคนล้วนเต็มใจทุ่มเงินเพื่อซื้อมัน แล้วพวกท่านรู้หรือไม่ว่าผู้ใดเป็นคนหมักเหล้านี้”
เดิมทีเหล่าพ่อค้าต่างแดนตั้งใจไว้ว่าจะถามชายชราถึงที่ตั้งของย่านการค้า ทว่าพวกเขากลับต้องตะลึงกับคำถามสุดท้าย
“คงไม่ใช่องค์หญิงเจาเสวี่ยอีกกระมัง”
คนที่หัวไวที่สุดในกลุ่มจึงฉุกคิดถึงความเป็นไปได้ที่น่าเหลือเชื่อ
“ท่านเดาได้ถูกต้องยิ่งนัก เป็นองค์หญิงนั่นแล เรื่องอื่นพวกท่านจะไม่เชื่อก็ได้ แต่เรื่องนี้มีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเหล้าที่องค์หญิงหมักจะวางขายที่หอการค้าอันดับหนึ่ง”
ทุกคน “!!!”
องค์หญิงผู้นี้อายุเพียงห้าขวบ แต่หมักเหล้าได้เลิศรสจนเหล่าพ่อค้าจากทุกสารทิศหรือแม้แต่คณะราชทูตยังแห่กันมาขอซื้อ ต้องเป็นคนที่มีความสามารถโดดเด่นเพียงใดกันนะ
เก่งกาจขนาดที่พวกเขายังต้องแปลกใจ เหล่าพ่อค้าไม่รีรอ รีบถามชายชราว่าย่านการค้าอยู่ที่ใด แต่ก็เอาเถอะ ถึงอย่างไรเด็กหญิงผู้มีความสามารถโดดเด่นผู้นั้นก็เป็นคนของบ้านอื่น พ่อค้าอย่างพวกเขาสนใจแค่เรื่องหาซื้อเหล้าก็พอแล้ว เพียงคว้าเหล้านั้นมาไว้ในมือได้ ผลกำไรที่ตามมาก็ต้องตกเป็นของพวกเขาอยู่ดี
ชายชราไม่พูดพร่ำทำเพลง ตอนนี้เขาถึงเวลาเลิกงานพอดี คงไม่เสียหายหากเขาจะพาพ่อค้าพวกนี้ไปที่นั่นด้วยตนเอง
เทียบกับถนนสายอื่นแล้ว ถนนย่านการค้าแห่งนี้คึกคักยิ่งนัก ทั้งการประดับประดาก็แตกต่างจากที่อื่น
เชือกเส้นยาวที่แขวนด้วยพัดกระดาษถูกขึงพาดผ่านตามท้องถนน ทั้งยังมีโคมไฟน้อยใหญ่ สีฉูดฉาด หลากหลายรูปทรงแขวนอยู่หลายจุด
งดงามตระการตายิ่ง
จนผู้คนที่เดินตามท้องถนนอดเงยหน้ามองเสียไม่ได้
ทั้งยังมีโคมไฟน้อยใหญ่แขวนเรียงรายอยู่ใต้ชายคาตามร้านค้าสองข้างทาง ร้านค้าของที่นี่ส่วนใหญ่ค่อนข้างเก่าแก่ และแต่ละร้านจะมีลูกค้าประจำ
เพียงแต่พื้นถนนนั้นแตกต่างจากถนนสายหลักที่ปูด้วยดินปูน เพราะที่นี่ปูด้วยอิฐ
อิฐแต่ละก้อนวางเรียงรายกันเป็นลวดลายสวยงามแปลกตา ทั้งสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนมาเดินเที่ยวชม
ที่นี่จึงมิใช่เพียงถนนย่านการค้าทั่วไป ถนนหลายสายในเมืองหลวงก็ปูด้วยอิฐเช่นกัน ซึ่งมันก็เป็นไปตามที่เสี่ยวเป่าเคยบอก มันเข้ากับเรือนแถวนั้นและสวยงามกว่า
ถนนย่านการค้าแห่งนี้จึงครึกครื้นมาก แน่นอนว่าร้านค้าที่คึกคักที่สุดก็ต้องเป็นหอสุราอันดับหนึ่ง และอีกสามร้านที่อยู่ภายใต้ชื่อเดียวกันคือร้านเครื่องเคลือบลายงาม ซึ่งเป็นร้านขายเครื่องเคลือบดินเผา
เป็นเครื่องเคลือบดินเผาสุดวิจิตรงดงาม โดยเฉพาะแจกันคอยาวที่งดงามราวกับหญิงโฉมสะคราญ
แน่นอนว่าในร้านมีตุ๊กตากระเบื้องเคลือบหญิงงามวางขายด้วย เป็นเหล่าเทพธิดาและหญิงงามที่เสี่ยวเป่ารู้จัก ไม่ว่าจะเป็นเจ็ดเทพธิดา เทพธิดาฉางเอ๋อ หรือสี่สาวงาม เป็นต้น ทั้งเหล่าช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญการทำเครื่องเคลือบดินเผายังเริ่มจับแนวทางได้แล้ว ฝีมือก็พัฒนาขึ้นตามลำดับ จนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบรุ่นใหม่ ๆ มีความวิจิตรงดงามและสมจริงมากยิ่งขึ้น อย่าว่าแต่ลูกค้าคนอื่นเลย เสี่ยวเป่าเองก็ยังชอบมากเช่นกัน
ถึงขั้นเก็บตุ๊กตากระเบื้องเคลือบไว้ในคลังสมบัติส่วนตัว
ร้านแรกที่ชายชราพาเหล่าพ่อค้ามาเยือนก็คือร้านเครื่องเคลือบลายงาม ทันทีที่ก้าวขาเข้าไปในร้าน เหล่าตุ๊กตากระเบื้องเคลือบสีสันสดใส งดงามแปลกตาที่วางอยู่บนชั้นวางโบราณพลันดึงดูดสายตาพวกเขาไว้จนลืมเดิน
สายตาหลายคู่จับจ้องสินค้าในร้านด้วยความหลงใหล บางคนถึงขั้นรีบควักเงินออกมาพร้อมประกาศกร้าวว่าต้องการซื้อพวกมัน!
ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบล้วนงดงามราวเทพธิดา อย่าว่าแต่ซื้อกลับไปสะสมเลย ซื้อไปเป็นของกำนัลให้ผู้หลักผู้ใหญ่ก็ยังได้ นำออกมาอวดก็ไม่มีขายหน้า
เถ้าแก่ในร้านดูไม่แปลกใจกับเหตุการณ์นั้นเลยสักนิด เพียงเงยหน้าขึ้นมาชี้แจง “หากต้องการซื้อสินค้ากรุณาเข้าแถว ตอนนี้ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบชุดโฉมงามขาดตลาด ที่พวกท่านเห็นอยู่ในตอนนี้เป็นตัวจัดแสดง หลังงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของฝ่าบาท พวกมันจะถูกส่งไปประมูลที่โรงน้ำชาเทียนเป่า ทั้งในต้าเซี่ย… ข้าไม่ควรบอกเลยแต่… ในใต้หล้านี้มีเพียงสามชุด ส่วนชื่อและเรื่องราวของพวกนาง พวกท่านสามารถอ่านได้ที่ป้ายตรงชั้นวาง แต่ห้ามเอาติดมือกลับไปด้วย หากอ่านไม่ออกก็สามารถไปฟังที่โรงน้ำชาเทียนเป่าได้ ที่นั่นจะมีคนคอยเล่าเรื่องราวของพวกนางให้ฟัง”
เหล่าพ่อค้ามองหน้ากันเลิ่กลั่ก พวกเขาแทบไม่เข้าใจสิ่งที่เถ้าแก่ร่ายยาวออกมาเมื่อครู่
ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบเหล่านี้มีเรื่องราวด้วยหรือ
ผู้รู้หนังสือเดินเข้าไปอ่านทันที
“อันนี้ข้ารู้ ไซซีหนึ่งในสี่ยอดหญิงงาม ความงามที่ทำให้ฝูงปลายังต้องจมลงสู่ใต้น้ำ น่าเสียดายที่เราไม่มีโอกาสได้เห็นความงามเช่นนี้”
“ส่วนนั่นคงเป็นหวังเจาจวิน ช่างเขียนภาพผู้นั้นน่าชังยิ่งนัก หากไม่ใช่เพราะคนผู้นั้น นางคงไม่ต้องถูกแต่งตั้งเป็นองค์หญิงเพื่อไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์”
“เตียวเสี้ยนกับลิโป้นับว่าเป็นวีรบุรุษคู่หญิงงาม”
“หยางอี้หวนคือผู้ใด ข้าไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อน นางต้องงดงามเพียงใดถึงได้ทำให้จักรพรรดิผู้เป็นบิดาลงทุนแย่งลูกสะใภ้ของตนโดยไม่สนศีลธรรม”
“งดงาม งดงามมากจริง ๆ”
“สินค้าทางด้านนี้เป็นตุ๊กตากระเบื้องเคลือบชุดเทพธิดา เทพธิดาฉางเอ๋อ เจ็ดเทพธิดา…”
ในขณะที่พวกเขากำลังตื่นตาตื่นใจ ด้านเถ้าแก่เพียงยกจอกชาขึ้นดื่มด้วยท่าทางสบายอารมณ์พร้อมเอ่ยชี้แนะ “เจ็ดเทพธิดาเองก็มีเรื่องเล่าเช่นเดียวกัน หากทุกท่านอยากฟังก็ให้ไปที่โรงน้ำชาเทียนเป่า จะมีคนคอยเล่าเรื่องราวที่ละเอียดกว่านี้”
“หากเถ้าแก่ไม่ขายตุ๊กตากระเบื้องเคลือบชุดโฉมงาม แล้วสินค้าที่เหลือเล่า”
แจกันและเครื่องเคลือบดินเผาในร้านล้วนงดงามไม่ต่างกัน ผู้ใดได้ย่างกรายเข้ามาในร้านเป็นต้องเพลิดเพลินจนลืมเวลาเชียวล่ะ
“แน่นอนว่าสินค้าเหล่านั้นเราขาย ทุกท่านสามารถสั่งจองสินค้าได้เลย สินค้าทุกชิ้นติดราคากำกับไว้ที่ด้านล่าง หากถูกใจก็แจ้งจำนวนที่ต้องการ แล้วข้าจะเขียนใบสั่งซื้อพร้อมวันเวลาจัดส่งให้ก่อน สินค้าจะจัดส่งให้ภายหลัง ใบสั่งซื้อที่ทุกท่านได้รับไปจะต้องเก็บรักษาให้ดี ทางเราขอแจ้งไว้ก่อนเลยว่าร้านเราจะพิจารณาจากใบสั่งซื้อไม่ใช่ตัวบุคคล แล้วจะส่งมอบสินค้าก็ต่อเมื่อแสดงใบสั่งซื้อนี้เท่านั้น และผู้ที่สั่งซื้อจะต้องวางเงินมัดจำบางส่วนก่อน ทุกท่านไม่ต้องกังวลว่าจะถูกหลอก ร้านของเราไม่โกงแน่นอน”
พ่อค้ามองป้ายราคาด้านล่างพลันรู้สึกประหลาดใจ ทำเช่นนี้ก็ได้หรือ
นี่คงเป็นกลยุทธ์ทางการค้าขาย ต่อไปพวกเขาอาจจะนำแนวทางนี้ไปใช้เช่นเดียวกัน
เพราะการติดป้ายบอกราคาไว้อย่างชัดเจนเป็นการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า และไม่ต้องกังวลว่าจะถูกหลอก
แม้เครื่องเคลือบเหล่านี้จะมีราคาแพงกว่าเครื่องเคลือบทั่วไป แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับพ่อค้าต่างแดนอย่างพวกเขา
หากพวกเขาได้เครื่องเคลือบที่ประณีต งดงาม และมีเอกลักษณ์เช่นนี้กลับไปขายคงได้ราคาดีไม่น้อย ถึงตอนนั้นพวกเขาก็จะทำกำไรได้อีกมากโข!
“เถ้าแก่ ข้าต้องการชุดชามสีกลีบบัว สีคราม สีครามน้ำทะเล และสีไล่ระดับอย่างละสิบชุด แล้วก็แจกันคอยาวสามสิบชุด…”