บทที่ 640 คนไข้หนึ่งคนกลายเป็นสองคน
ชายวัยกลางคนรู้ดีมากว่า พูดแบบนี้คนอื่นจะไม่พอใจ!
กับตระกูลเหล่าเถียนก็ใช่ว่าจะยังไปมาหาสู่กันได้อีก
แต่…ตนจะขายลูกสาวไม่ได้!
แม้ว่าเธอจะทำอับอายแค่ไหน เลวร้ายแค่ไหน ถึงอย่างไร ก็เป็นลูกสาวของตนเอง
ถ้าจะพูดเรื่องที่ลูกสาวท้องออกมาจริงๆ ทั้งยังสูดยาเสพติดพวกนั้น ต่อไปยังจะออกเรือนได้อย่างไร
เพราะฉะนั้น เขาต้องจัดการเรื่องนี้เอง
แต่เขาก็จะให้คนตระกูลเถียนถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมไม่ได้
เห็นคนอื่นเขาเป็นอะไร ศูนย์รีไซเคิลเหรอ
ตั้งครรภ์ลูกของคนอื่นแล้วให้คนเขารับผิดชอบ
นี่ใช่เรื่องที่สมควรทำไหม
ได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคน เถียนเจิ้นอึ้งไปทันที “คือ…คุณอาครับ…ผม…”
ชายหนุ่มโบกมือ “เหล่าเถียน ขอโทษ ความจริงเรื่องนี้ผมคิดมานานมาก สถานการณ์ของเจียเจียตอนนี้อาจจะไม่เหมาะที่จะแต่งงาน เรื่องนี้เราค่อยคุยกัน พวกคุณรีบกลับไปพักผ่อนเถอะครับ ดึกมากแล้ว ทางนี้มีผมกับแม่ของเจียเจียอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วง”
พ่อของเถียนเจิ้นไม่ใช่คนโง่ แม้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็พอจะรู้สึกถึงบางอย่างรางๆ แต่…เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงพยักหน้า “อืม ต้องการความช่วยเหลืออะไรก็โทรมานะครับ”
พูดจบ ทั้งครอบครัวก็ลุกขึ้นจากไป
พร้อมกับที่คนตระกูลเถียนจากไป ชายวัยกลางคนสูดหายใจเข้าลึกๆ เรื่องนี้ คงต้องเป็นแบบนี้ไปก่อน…
และหญิงวัยกลางคนก็เข้าใจแล้วว่าเรื่องนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่ตนคิด เหล่าหยางจะต้องมีเรื่องปิดบังตนแน่!
คิดถึงตรงนี้ เธอจ้องสามีพร้อมถามอย่างเคร่งขรึม “เหล่าหยาง คุณอย่าทำฉันตกใจ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
ชายวัยกลางคนส่ายหน้า “กลับไปเดี๋ยวเล่าให้ฟัง คุณนั่งพักก่อน ผมจะเข้าไปดูลูกสาว”
หญิงวัยกลางคนได้ยินแบบนี้จะวางใจได้อย่างไร พลันพูดว่า “ฉันไปด้วยค่ะ!” จากนั้นเธอก็ตามไปโดยไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธ
เฉินชางไม่ได้ห้ามทั้งสอง ตอนนี้เรื่องราวค่อนข้างซับซ้อน ไม่ใช่เรื่องที่ว่าจะรักษาหรือไม่รักษาแล้ว!
เรื่องไปถึงขั้นที่ว่าจะทำแท้งหรือไม่ทำแล้ว
ถึงขั้นที่ว่าเฉินชางเห็นการแต่งตัวของชายหญิงคู่นี้แล้ว เขารู้สึกว่า ถ้ารู้ว่าลูกสาวไม่ได้เป็นอะไร ก็คงจะย้ายโรงพยาบาลแล้ว
ตามคาด ชายวัยกลางคนมองเฉินชางพร้อมถามว่า “หมอเฉินครับ…อาการก๊าซหัวเราะเป็นพิษรุนแรงไหมครับ ผมคิดว่าทำแท้งก่อนแล้วค่อยรักษาได้ไหมครับ”
หญิงวัยกลางคนได้ยินประโยคเหล่านี้ก็งุนงงขึ้นมาทันที “ก๊าซหัวเราะอะไร ทำแท้งอะไร”
เธอรู้สึกว่าทัศนคติต่อโลกของเธอแตกสลายแล้ว
ลูกสาวตั้งครรภ์เหรอ
และยัง…สูดก๊าซหัวเราะด้วย?
คิดถึงตรงนี้ หญิงวัยกลางคนรู้สึกหายใจถี่ขึ้นมา
ฐานะของครอบครัวพวกเขาใช้ได้เลย ไม่อย่างนั้น…ก็คงไม่ส่งลูกสาวออกนอกประเทศ
ที่ผ่านมาก็เคยได้ยินเพื่อนรอบตัวหลายคนบอกว่าต่างประเทศมีการ ‘สูดก๊าซหัวเราะ’
แต่…
เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับลูกสาวตน
ที่สำคัญที่สุดคือ สำหรับตน ลูกสาวเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่ายมาโดยตลอด
แม้แต่เถียงยังน้อยมาก!
จะทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร
ตั้งครรภ์!
สูดก๊าซหัวเราะ!
นี่เป็นเรื่องที่เด็กสาววัยรุ่นเสเพลไม่รู้ความในอเมริกาทำกันไม่ใช่เหรอ
เจียเจียเรียนมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในอเมริกาด้วยนะ
คิดถึงตรงนี้ หญิงวัยกลางคนรู้สึกหัวใจบีบรัด รับไม่ได้ขึ้นมาทันที ยิ่งคิดยิ่งเศร้าใจ ยิ่งคิดยิ่งโกรธ ด้วยความไม่ระวังจึงล้มลงพื้น
เฉินชางเองก็อึ้งไปทันที!
คนไข้หนึ่งคนกลายเป็นสองคน …
หญิงสาวนั่งอยู่บนเตียงคนไข้ สีหน้าเรียบเฉย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่จู่ๆ เห็นแม่ล้มลงพื้น ก็ตกใจจะลุกขึ้น
แต่เพราะแขนขาอ่อนแรงจึงล้มลงพื้นไปด้วย ในปากสะอื้น “แม่ หนูผิดไปแล้ว…”
แผนกฉุกเฉินตกอยู่ในความวุ่นวายทันที
เฉินชางจนปัญญา รีบเรียกเล่อเล่อมาเริ่มการกู้ชีพรอบใหม่
หลังจากหญิงวัยกลางคนได้รับไนโตรกลีเซอรีน อาการเจ็บที่หน้าอกก็บรรเทาลง
หลังจากตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแล้วไม่พบอาการกล้ามเนื้อหัวใจตาย มีแค่อาการโรคเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอเล็กน้อย เพราะอารมณ์ตื่นเต้น ทำให้ปวดเพราะหลอดเลือดหัวใจตีบ
หลังจากสูดออกซิเจนนานกว่าสิบนาที ในที่สุดรอยย่นระหว่างคิ้วของผู้หญิงก็คลายลง
ส่วนหญิงสาวก็ถูกอุ้มขึ้นเตียงแล้ว
หลังจากวุ่นวายกันพักใหญ่ ในที่สุดทั้งครอบครัวก็สงบลง
ตอนนี้คนที่กังวลที่สุดไม่ใช่พวกเฉินชาง แต่เป็นชายวัยกลางคนคนนั้น
ตอนแรกลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ และยังเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ทั้งครอบครัวดีใจมาก
แต่…เห็นสภาพเธอตอนนี้ ชายวัยกลางคนกลับผิดหวังเล็กน้อย
ตอนนี้เอง หญิงวัยกลางคนก็ดึงออกซิเจนออกของตนออก พร้อมพูดว่า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เป็นไรค่ะ!”
พูดจบ เธอก็ลงจากเตียงใส่รองเท้าก่อนจะมองเฉินชาง “คุณหมอคะ…ลูกสาวฉันอาการรุนแรงไหมคะ ฉันได้ยินมาว่ายานั่นสูดมากไปจะพิการได้ เป็นเรื่องจริงไหมคะ”
เฉินชางพยักหน้า ไม่ได้ปฏิเสธ
แต่สถานการณ์ของหญิงสาวในตอนนี้ก็ไม่ได้แน่ใจขนาดนั้น
พูดถึงตรงนี้ หญิงวัยกลางคนน้ำตานองหน้า “ลูก…ทำไมหนูถึงไปแตะต้องของแบบนั้น หนูไม่รู้เหรอว่ามันเป็นยาเสพติด”
หญิงสาวส่ายหน้าไม่หยุด พร้อมพูดอย่างสะอึกสะอื้น “ตอนแรกหนูก็ไม่รู้ แต่พวกเขาบอกว่ามันไม่มีสารเสพติด อีกอย่าง…ไม่มีผลเสียต่อการทำงานของอวัยวะสำคัญอย่างพวกปอด ตับ ไต และไม่เสพติด…หนูเลยลองดู ก็รู้สึกว่าไม่เป็นอะไร”
“ถึงอย่างไร…ในห้องทดลองของเราก็เห็นสิ่งนี้อยู่บ่อยๆ หนูเลยไม่ได้สนใจ และคิดไม่ถึงเลยจริงๆ อีกอย่างพวกเขาต่างพากันสูดมัน ทั้งยังบอกว่ามันอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่และดื่มเหล้า หนูเลยลองดู…”
หลังจากชายวัยกลางคนได้ยินแล้วพลันมองเฉินชางอย่างประหม่า “คุณหมอครับ ก๊าซหัวเราะนี้มันคืออะไร แม้ผมเคยได้ยิน แต่ก็ไม่ได้มีความรู้มากนัก…”
ความจริงที่หญิงสาวพูดไม่ผิด แต่มันแค่ด้านเดียว
เฉินชางอธิบาย “ความจริง ที่เธอพูดก็ไม่ผิด ก๊าซหัวเราะคือก๊าซไนตรัสออกไซด์ เดิมทีเป็นยาสลบที่ใช้ในการดมยาสลบทางเดินหายใจ และไม่มีการกระตุ้น ไม่มีผลข้างเคียงต่ออวัยวะสำคัญ เช่น ตับ หัวใจ ม้าม ปอด ไต!”
“ถึงขั้นที่มันไม่ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพหรือการย่อยสลายในร่างกาย ส่วนใหญ่ยังคงถูกขับออกจากร่างกายด้วยการหายใจเอาตัวยาดั้งเดิมออก และมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ระเหยออกจากผิวหนัง ไม่มีการสะสมนอกจากนี้
“หลังจากสูดเข้าสู่ร่างกายใช้เวลาเพียงสามสิบถึงสี่สิบวินาที ก็เกิดผลลัพธ์ในด้านการแก้ปวด ฤทธิ์ยาแก้ปวดแรงแต่ฤทธิ์ยาชาอ่อน คนไข้จะอยู่ในภาวะที่รู้สึกตัว หลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยาชาทั้งร่างกาย และฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังการผ่าตัด”
พูดถึงตรงนี้ เฉินชางพลันถอนหายใจ “ใช้ในปริมาณน้อยไม่เป็นไร แต่คนที่สร้างมันขึ้นมาไม่ได้คิดว่าจะมีคนเอาไปเป็นของเล่น ยิ่งไม่คิดว่าจะมีคนสูดในปริมาณที่มากขนาดนี้ กลายเป็นความบันเทิง!”
“ก็เหมือนกับที่เธอก๊าซหัวเราะเป็นพิษในตอนนี้ อาการหลักคือการขาดวิตามินบี 12 เป็นเวลานาน หลังการขาดวิตามินบี 12 จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของการทำลายเซลล์ประสาท ส่งผลต่อพวกประสาทสั่งการ ในระยะยาวอาจนำไปสู่ความพิการได้”
“แต่จากการตรวจความเร็วชักนำของเส้นประสาทสั่งการและคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อของเธอในตอนนี้ สถานการณ์ของเธอถือว่าไม่รุนแรงมาก ผมคิดว่าผลการรักษาจะดีมาก!”