เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย 57 เรื่องของการเกาะขาของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆแล้วไปเปิดแพ็ค – 1

ตอนที่ 57 เรื่องของการเกาะขาของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆแล้วไปเปิดแพ็ค - 1

บทที่ 3 ตอนที่ 2.1

 

「—-งั้นเหรอครับ อย่างที่คิดว่าคงจะยากเกินไป」

「ครับ ต้องขออภัยด้วยที่ไม่สามารถเป็นกำลังให้ได้」

 

    วันแรกของวันหยุดหน้าร้อน

    ที่ร้านกาแฟของสถานีฮาชิโอจิ ผมมานัดเจอกับตัวแทนจำหน่ายการ์ดโทโน่ซัง

    หัวข้อของบทสนทนาก็คือ ซัคคิวบัสที่ได้ฝากให้หาเอาไว้ก่อนหน้านี้

    เพราะได้เงินจำนวนมหาศาล 500 ล้านมาแบบไม่คาดคิด จึงทำการคิดหนักอยู่นานว่าจะเอาไปใช้ยังไงดี แต่สุดท้ายแล้วก็ตัดสินใจใช้มันเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับปาร์ตี้เหมือนอย่างที่เคยทำมา

 

    ใช่แล้ว หรือก็คือได้เวลาของการแรงค์อัพของเมอาที่ได้ถูกเลื่อนมาอย่างยาวนาน

    การที่เอลิซ่ากับยูคิที่เป็นแรงค์ D เหมือนกันได้แรงค์อัพไปแล้ว แถมด้วยซุซูกะที่มาเข้าร่วมทีหลังก็ยังเป็นแรงค์ C ทุกๆคนในปาร์ตี้ต่างก็รู้สึกได้ถึงความกระวนกระวายอย่างหนักของเธอ

    จนถึงตอนนี้มันได้ถูกพักเอาไว้เนื่องจากขาดแคลนเงินทุนและโอกาศที่จะได้มา ทว่าในตอนนี้ได้เงินมาไว้ในมือแล้ว แถมได้รับการแนะนำตัวกับโทโน่ซัง ดังนั้นการจะพักเรื่องแรงค์อัพของเธอต่อไปคงไม่ใช่ความคิดที่ดี

    เหนือสิ่งอื่นใด เธอได้เสี่ยงชีวิตในตอนที่หนีจากผู้ใช้หมาล่าเนื้อ แถมด้วยหลังจากนั้นก็ทุ่มเทให้กับปาร์ตี้ด้วยสกิลที่มอบความเจ็บปวดต่อตัวเธออย่าง『หากสาปแช่งใครก็ต้องเตรียมหลุมไว้ 2』 ตัวผมเองอยากจะมอบรางวัลให้

    ด้วยเหตุนี้ ทันทีที่เรื่องจบลงก็ได้ทำการติดต่อกับโทโน่ซังแต่….. จนถึงตอนนี้ความคืบหน้าเป็นไปไม่ค่อยจะดีนัก

 

「…..พอมาเป็นการ์ดยอดนิยมอย่างซัคคิวบัสกับเอฟล์แล้ว มันไม่ใช่อะไรที่จะสามารถหามาได้ถ้ามีเงินอยู่ล่ะนะครับ แต่ถ้าเป็นการ์ดปกติทั่วไปแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย…..」

 

    โทโน่ซังพูดมาแบบนั้นแล้วมองมาทางนี้ ผมทำการส่ายหน้าแล้วนึกขอโทษอยู่ในใจ

 

「ไม่ครับ—-ต้องขอโทษด้วยแต่ถ้าไม่ใช่『ซัคคิวบัสที่มีสกิลร่วงหล่น』แล้วคงไม่ได้」

「งั้นเหรอครับ…..」

 

    โทโน่ซังลดคิ้วต่ำลงด้วยความผิดหวังเล็กน้อย ผมรู้สึกผิดอยู่นิดหน่อยแต่ปฏิเสธที่จะยอมแพ้

    จากมุมมองของเขา คำขอของผม『การกระทำที่ไม่ยั้งคิดของเด็กที่ได้เงินจำนวนมากมาไว้ในมือและไม่รู้ถึงความเป็นจริง』คงจะมองเป็นแบบนั้นไม่ผิดแน่

    แต่ว่าสำหรับมุมมองของผมแล้ว มันคือเส้นที่ไม่อาจประนีประนอมได้อย่างเด็ดขาด

    ในจุดนี้ มันจะเป็นการง่ายหากจบเรื่องด้วยการ์ดซัคคิวบัสปกติ เงินทุนมี 500 ล้านในขณะที่ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 100 – 200 ล้าน เมอาเองก็จะได้ดีใจ

    ทว่า ในกรณีนั้น ศักยภาพในการเติบโตของเธอก็จะจบลงที่ตรงนั้น

    ซัคคิวบัสที่ว่ากันว่ายากที่จะได้มา แต่พอเป็นระดับที่สูงขึ้นไปอย่างลิลิม ระดับความยากในการได้มันมาจะยิ่งสูงมากขึ้นไปอีก ไม่สิ แทนที่จะบอกว่าได้ยากแล้ว ควรจะบอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะได้มาเลยจะดีกว่า

    อีกทางด้านหนึ่งจากเส้นทางหลักของปีศาจฝันอย่างลิลิม ก็ยังมีเส้นทางของเฮคาที*ที่เป็นจ้าวแห่งเอ็มพูซา ทว่าการ์ดนั้นก็มีราคาเป็นพันล้าน และถึงแม้ว่าความยากจะไม่เท่ากับลิลิม แต่การจะได้มาก็ยังคงยากอยู่

    หรือก็คือ การที่เมอาจะได้พลังของการ์ดแรงค์ B มานั้น มีหนทางเดียวก็คือหวนคืนจิตวิญญาณหรือ…..ทำลายขีดจำกัดที่ยังคงไม่รู้เงื่อนไขแน่ชัด

    เพื่อที่จะลดระยะห่างของช่องว่างด้านพลังต่อสู้ภายในปาร์ตี้ อันเนื่องมาจากเร็นกะได้สกิลทำลายขีดจำกัดมา—- และเพื่อเมอาที่พยายามจะยืนเคียงข้างกับเร็นกะที่เป็นเพื่อนรัก อยากจะเปิดโอกาศของหวนคืนจิตวิญญาณเอาไว้ให้สำหรับเธอ

 

「เกี่ยวกับซัคคิวบัสที่มีสกิลร่วงหล่น จะใช้เส้นสายที่มีอยู่ทำการค้นหาต่อไป แต่ว่าการจะได้มาหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับดวง คงต้องขอให้อดทนรอครับ…..」

「ขอความกรุณาด้วยครับ」

「แล้วก็ อาจจะเรียกว่าเป็นอะไรที่เรียกว่าของแทนที่…..」

 

    ในขณะนั้นเอง โทโน่ซังได้นำกล่องเคสของไมโคร SD การ์ดออกมาจากกระเป๋า

 

「คำขออีกอย่างทางเราสามารถดำเนินการได้สำเร็จแล้ว ด้านนี้คือข้อมูลที่ทำการร้องขอมา โปรดรับเอาไว้ด้วยครับ」

「โอ้! ขอบคุณมากครับ!」

 

    ผมรับไมโคร SD การ์ดมาแล้วนำมันใส่กับสมาร์ทโฟนทันที

    จากนั้นทำการอ่านคร่าวๆ…..

 

「…..อย่างงี้นี่เอง อย่างที่คิดว่าถึงแม้จะแรงค์อัพภายใต้เงื่อนไขเดียวกันก็มีทั้งกรณีที่สกิลร่วงหล่นถูกส่งต่อและไม่ส่งต่อ แล้วก็สกิลหวนคืนจิตวิญญาณก็เปลี่ยนกลับกลายไปอยู่ในสภาพร่วงหล่น…..งั้นรึ」

 

    ข้อมูลที่ผมได้ขอกับโทโน่ซังไปก็คือ『ข้อมูลการค้นคว้าของสกิลร่วงหล่นและหวนคืนจิตวิญญาณ』

    ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตนั้นมีข้อมูลน่าสับสนเกี่ยวกับสกิลหวนคืนจิตวิญญาณอยู่มาก อีกทั้งรายละเอียดเองก็ไม่แน่ชัด จึงได้ขอให้โทโน่ซังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับมัน

    เพราะว่าข้อมูลยังไม่ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะจึงมีค่าใช้จ่าย 10 ล้าน แต่ว่าก็คุ้มค่า

    จากข้อมูลนี้ สามารถแยกคุณลักษณะของหวนคืนจิตวิญญาณออกมาได้ 6 อย่าง

 

    อย่างที่ 1, ถ้าหากการ์ดที่ใช้แรงค์อัพมีสกิลร่วงหล่น สกิลร่วงหล่นจะไม่หายไปเมื่อแรงค์อัพ(หรือก็คือ ด้วยการใช้ซัคคิวบัสที่มีสกิลร่วงหล่นแล้วไปใช้แรงค์อัพ เมอาเองก็จะมีสกิลร่วงหล่นด้วย)

 

    อย่างที่ 2, พลังต่อสู้ที่ลดลงจากสกิลร่วงหล่นะแตกต่างไปตามแรงค์ ที่แรงค์ B คือ 200, แรงค์ C คือ 100, แรงค์ D คือ 50, แรงค์ E คือ 25 หรือก็คือลดครึ่งหนึ่ง ในปัจจุบันยังไม่มีการยืนยันในกรณีสกิลร่วงหล่นของแรงค์ A กับแรงค์ F และค่าเหล่านี้จะกลายเป็นบวกเมื่อเปลี่ยนเป็นหวนคืนจิตวิญญาณ

 

    อย่างที่ 3, เมื่อทำการแรงค์อัพให้การ์ดที่มีสกิลร่วงหล่นหรือหวนคืนจิตวิญญาณ การที่สกิลร่วงหล่นจะถูกส่งต่อหรือไม่นั้นเป็นการสุ่ม(ยังไม่พบหลักเกณฑ์ใดๆ) โดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่ถูกส่งต่อ ถ้าหากหวนคืนจิตวิญญาณถูกส่งต่อ มันจะย้อนกลับไปเป็นสกิลร่วงหล่น

 

    อย่างที่ 4, เมื่อแรงค์อัพการ์ดที่มีหวนคืนจิตวิญญาณ ไม่ว่าจะได้รับหรือไม่ได้รับสืบทอดสกิลร่วงหล่น จะได้รับสกิลที่เรียกว่าเสริมแกร่งวิญญาณ ถ้าไม่ทำการหวนคืนจิตวิญญาณแล้วแรงค์อัพขณะที่เป็นสกิลร่วงหล่น จะไม่ได้รับสกิลนี้

 

    อย่างที่ 5, ต่อให้มอบคีย์ไอเทมกับการ์ดในขณะที่กำลังทำการหวนคืนจิตวิญญาณ การแรงค์อัพ『ขั้นที่ 2』จะไม่เกิดขึ้น(อย่างเร็นกะในขณะที่หวนคืนจิตวิญญาณเป็นคิชโชเต็ง จะไม่แรงค์อัพไปมากกว่านั้น)

 

    อย่างที่ 6, ต่อให้การ์ดมีแนวทางการแรงค์อัพหลายทาง โดยทั่วไปแล้วมันจะมีการตอบสนองกับคีย์ไอเทมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทว่าก็มีกรณีหายากที่การ์ดจะมีการตอบสนองกับคีย์ไอเทมหลายอย่าง และสามารถแปลงร่างไปได้หลายทาง

 

    เหล่านี้คือกฏพื้นฐานที่สามารถเรียนรู้มาได้จากการทดลอง  ข้อมูลส่วนที่เหลือดูจะเป็นข้อมูลของคีย์ไอเทมของการ์ดแต่ล่ะใบ

    ตัดสินใจว่าค่อยดูข้อมูลพวกนี้ไว้ทีหลัง หลังจากที่ยืนยันแล้วว่าข้อมูลแทบทั้งหมดที่ต้องการอยู่ภายใน ก็หันหน้าไปทางโทโน่ซังแล้วยิ้ม

 

「ขอบคุณมากครับ ช่วยได้มากทีเดียว」

「ไม่ครับไม่ครับ…..ข้อมูลเหล่านี้ถูกขายให้แค่เฉพาะกับบริษัทที่ทำสัญญาไว้กับทางเราเท่านั้น เพราะงั้นได้โปรดอย่าเผยแพร่ออกมากจนเกินไปด้วยนะครับ」

「เข้าใจแล้วครับ」

 

    โทโน่ซังบอกเตือนกันเอาไว้ก่อน ซึ่งก็ทำการพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น

    ข้อมูลนี้ เขาได้ใช้เส้นสายในฐานะของตัวแทนจำหน่ายการ์ด เพื่อทำการซื้อมันมาจากสถาบันวิจัยระดับชาติ

    ถ้าหากว่าสิ่งนี้ที่ยังไม่ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ เกิดแพร่กระจายออกไปบนอินเทอร์เน็ตหรือที่ไหนซักแห่ง ไม่ใช่แค่โทโน่ซังจะสูญเสียความน่าเชื่อถือในตัวผม แต่ความน่าเชื่อถือของตัวเขาเองในฐานะตัวแทนจำหน่ายการ์ดก็จะสูญเสียไปด้วย

    แต่ไหนแต่ไรแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอยากจะเอาข้อมูลที่อุตส่าห์จ่ายไปถึง 10 ล้านไปแจกฟรีๆหรอก

    จะเก็บข้อมูลนี้เอาไว้อย่างปลอดภัยที่บ้านแล้วไม่เอาออกไปดูที่อื่น

    จู่ๆ สีหน้าของโทโน่ซังก็ผ่อนคลายลงแล้วพูด

 

「…..ก็นะ ภายใน 2 ~ 3 ปี บางบริษัทก็คงจะเริ่มนำมาขายในรูปแบบของแอพ แล้วข้อมูลก็จะรู้กันอย่างกว้างขวางเองนั่นแหละครับ」

 

    แต่จะให้รอนานขนาดนั้นไม่ได้ ผมในตอนนี้ ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับหวนคืนจิตวิญญาณ

    สิ่งที่ซื้อมา ก็รวมไปถึงเวลา 2 ~ 3 ปีนั่นด้วย

 

「…..แต่ถึงกระนั้นแล้ว ลำบากแย่เลยนะครับ นึกไม่ถึงว่าโรงเรียนจะมีเขาวงกตปรากฏขึ้นมา」

 

    ขณะที่กำลังพักหลังจากการเจรจาซื้อขายเสร็จสิ้นแล้ว จู่ๆโทโน่ซังก็พูดขึ้นมา

 

「จริงๆเลยครับ…..โชคยังดีที่เป็นประเภทโลกอื่นทั่วไป ถ้าหากว่าเป็นประเภทพิเศษแบบโตเกียวโดมแล้วล่ะก็ นักเรียนทั้งหมดคงได้ถูกย้ายโรงเรียนแน่ๆเลย」

 

    ถ้าหากว่าเขาวงกตปรากฏขึ้นที่บ้านหรือสำนักงาน เจ้าของสถานที่จะถูกมอบตัวเลือกว่าจะยอมย้ายไปยังสถานที่ซึ่งรัฐบาลจัดเอาไว้ หรือจะอยู่อาศัยต่อโดยยอมแลกกับการให้ติดตั้งเกท

    โดยส่วนใหญ่แล้ว หากเขาวงกตปราฏขึ้นที่บ้านธรรมดา เจ้าของจะเลือกอย่างแรก แต่ถ้าไปปรากฏในตึก, โรงเรียน, หรือสำนักงานอื่นๆ เจ้าของจะเลือกอย่างหลัง แต่ทว่าทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของเขาวงกตที่ปรากฏ เจ้าของอาจจะถูกบังคับให้ต้องเลือกอย่างแรกได้

 

    นั่นก็คือเขาวงกตประเภทพิเศษที่ผสานเข้ากับพื้นที่และอาคารที่มีอยู่ก่อนแล้วให้กลายเป็นดันเจี้ยน อย่างเช่นโตเกียวโดมที่เป็นที่ตั้งสำหรับมอนโคโล

 

    ถ้าเป็นเขาวงกตประเภทโลกอื่นทั่วไปแบบที่พวกผมไปกันอยู่เป็นปกติ ก็เป็นไปได้ที่ภาคเอกชนจะดูแลมันได้ ตราบเท่าที่ทางเข้าถูกควบคุมเอาไว้ด้วยเกท แต่ตัวเขาวงกตประเภทพิเศษจะรุกล้ำไปยังพื้นที่รอบๆ แปรเปลี่ยนให้กลายเป็นดันเจี้ยน มันจึงมีความเสี่ยงที่แม้แต่เด็กๆก็สามารถบุกรุกเข้าไปได้ถ้าหากว่าต้องการ

    ด้วยเหตุนี้ จึงมีกฏอยู่ว่าเขาวงกตประเภทพิเศษทุกแห่ง ไม่มีข้อยกเว้น จะถูกทางประเทศยึดเอาไว้แล้วล้อมรอบด้วยกำแพงสูงเพื่อควบคุมจัดการ

    แน่นอนว่าหากเขาวงกตประเภทพิเศษปรากฏขึ้นที่โรงเรียน เหล่านักเรียนที่ไปเรียนโรงเรียนนั้นจะต้องถูกจับแยกไปยังหลายๆโรงเรียน

    แม้มันจะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ มันก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับนักเรียนที่ต้องถูกบังคับให้ย้ายโรงเรียน และต้องแยกจากโรงเรียนและเพื่อนๆที่คุ้นเคย

 

「ที่มาเกิดเรื่องก่อนวันหยุดหน้าร้อนก็ถือว่าเป็นโชคดีในโชคร้ายเลยนะครับ」

「ครับ แต่ว่านะ ในแต่ละปีก็มีเกิดขึ้นประมาณ 200 แห่งได้ แล้วเขาวงกตเองก็มีแนวโน้มจะปรากฏในสถานที่ที่มีคนชุกชุมอีกด้วย」

「ได้ทราบแรงค์ของเขาวงกตแล้วรึยังครับ?」

「ไม่เลย ยังคงทำการสำรวจกันอยู่ล่ะนะ」

「โฮ่…..ถ้าใช้เวลามากกว่า 1 อาทิตย์ ก็คงเป็นแรงค์ C ขึ้นไปหรือไม่ก็ดันเจี้ยนลับ นี่น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับคิทากาว่าซังรึเปล่าครับ?」

「เป็นงั้นเหรอครับ…..?」

 

    ด้วยคำของโทโน่ซัง ผมจึงเอียงคอ

 

「สถานที่จำพวกโรงเรียน มักจะไม่ชอบให้บุคคลภายนอกผ่านเข้าไป ในกรณีส่วนใหญ่แล้ว นักผจญภัยมืออาชีพจะได้รับการว่าจ้างเพื่อดูแลเขาวงกต แต่ถึงอย่างนั้น การว่าจ้างมืออาชีพก็ไม่ได้ฟรีเช่นกัน …..ถ้างั้นแบบนั้นแล้ว?」

「อย่างงี้นี่เอง…..ด้วยการแลกเปลี่ยนเงื่อนไขบางอย่าง นักผจญภัยภายในโรงเรียนจะทำให้ฟรีๆ ไม่ก็ในราคาที่ต่ำเพื่อช่วยเหลือด้านการดูแลจัดการ สินะ」

「แน่นอนว่า เว้นแต่จะถูกอนุมัติให้เป็นดันเจี้ยนลับล่ะนะครับ」

 

    ฟุมุ ถ้าหากเป็นไปตามที่โทโน่ซังว่ามา ชมรมนักผจญภัยก็จะมีเขาวงกตแรงค์ C 1 แห่งผูกขาดเป็นของตัวเอง

    การที่สามารถลงสำรวจโดยที่ไม่ต้องแข่งขันกับทีมมืออาชีพอื่น ถือว่าเป็นข้อดีสำหรับพวกเราที่เป็นทีมมืออาชีพหน้าใหม่

    ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของทางโรงเรียน แต่บางทีชมรมนักผจญภัยก็อาจจะได้รับการอนุมัติก่อตั้งอย่างเป็นทางการก็ได้…..

    อย่างงี้นี่เอง…..เพราะแบบนี้อันนาถึงได้ไม่มีสมาธิจดจ่อกับการเรียนเพื่อทำการสอบสินะ ในใจของผมเองก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง

 

 

 

 

『ในที่สุดก็จบแล้วสินะ…..คุยกันนานจริงเชียว』

 

    ทันทีที่บอกลาโทโน่ซังแล้วออกมาจากคาเฟ่ ก็มีเสียงพูดกับผม

    เสียงของคนที่มองไม่เห็นตัวดังก้องมาที่ในหัวโดยตรง ผมทำการตอบกลับไปด้วยความคิดเช่นกัน

 

『ก็ถึงได้บอกไงว่าให้รออยู่ข้างในการ์ดน่ะ…..เร็นกะ』

『อยู่ข้างในจนเบื่อแล้ว เพราะงั้นก็เลยไปมองดูลูกค้าคนอื่นๆในร้านดีกว่าน่ะสิ』

『เป็นงั้นหรอกรึ ถ้างั้นแล้วได้ยินอะไรน่าสนใจมารึเปล่าล่ะ?』

『อืม…..นั่นสินะ มีชายแก่กับผู้หญิงวัยรุ่นนั่งอยู่เฉียงๆกับนายใช่ไหมล่ะ?』

『อา…..พอคิดดูแล้วมันก็มีชายแก่ดูท่าทางเหนื่อยๆกับเด็กผู้หญิงที่ดูน่าจะอยู่ม.ปลายอยู่นะ…..』

 

    จำเกี่ยวกับตาลุงไม่ค่อยได้ แต่จำเด็กผู้หญิงได้ว่าค่อนข้างน่ารักแล้วก็มีหน้าอกใหญ่

 

『อืม ตาลุงคนนั้นน่ะ ดูเหมือนจะตื่นขึ้นมาเช้านี้แล้วเจอว่าเมียหนีตามชู้ไปแล้วเอาเงินทั้งหมดไปอีก』

『เอาจริงดิ』

 

    อุหวา…..ช่างน่าเศร้า

 

『แถมด้วยอีกฝ่ายนั้นยังเป็นลูกน้องคนโปรดอีกด้วย…..』

『น่าเศร้าแบบดับเบิ้ลเลย…..งั้น ได้คุยเรื่องพวกนี้กับตัวลูกสาวงั้นเหรอ?』

『หืม? ผู้หญิงนั้นไม่ใช่ลูกสาวหรอกนะ แต่เป็นเมียน้อยของตาลุงต่างหาก』

 

    ห๊ะ? บ้าจริง เห็นใจไปโดยเปล่าประโยชน์เลย

 

    ขณะที่มุ่งหน้าไปสถานีก็ทำการฟังเรื่องราวที่เร็นกะไปได้เห็นกับได้ยินมาจากลูกค้าคนอื่นๆ

 

『…..แล้ว วางแผนจะไปที่ไหนล่ะ?』

『อืม อา ไปกิลล์ล่ะ อยากจะเปิดแพ็คหลังจากที่ผ่านมาได้แล้วซักพัก』

 

    พอผมบอกไป ตัวตนของเร็นกะที่ส่งผ่านทางลิงค์มาก็รู้สึกเปลี่ยนไป

 

『หรือว่า วางแผนจะใช้ไอ้นั่นรึ?』

『อา เพอร์เฟคลิงค์…..อยากจะลองควบคุมโชคชะตาภายนอกเขาวงกตดูน่ะ』

『โอ่ยโอ่ย นี่นาย จะดูถูกการบิดเบือนของความสัมพันธ์แห่งเหตุและผลมากไปหน่อยไหม?』

『รู้ถึงความเสี่ยงดีอยู่หรอก เพราะงั้นเลยจะไม่ควบคุมโชคชะตาไปมากเกินกว่าโชคดีที่ทำการสะสมมา แบบนั้นจะทำให้เกิดการบิดเบือนน้อยที่สุดใช่ไหมล่ะ?』

 

    พลังของเพอร์เฟคลิงค์และการควบคุมโชคชะตา จริงอยู่ว่ามีความเสี่ยงที่ไม่อาจมองข้ามไปได้

    『บททดสอบ』ที่โผล่ออกมาจากการสะสมของการบิดเบือนของความสัมพันธ์แห่งเหตุและผล บางครั้งมันจะเข้าจู่โจมในรูปของโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่เกินไปกว่าปาฏิหาริย์ ที่ได้นำมาด้วยการควบคุมโชคชะตาเสียอีก

    ถ้าใช้อย่างไม่เหมาะสมแล้วล่ะก็ จะนำมาซึ่งการทำลายตัวเอง

 

    แต่ทว่านั่น หากมองในมุมมองที่แตกต่างออกไปแล้วล่ะก็  มันก็ขึ้นอยู่กับว่าใช้งานมันยังไง

 

    ตราบเท่าที่ไม่ได้ยืมโชคดีมาล่วงหน้า การบิดเบือนของความสัมพันธ์แห่งเหตุและผลก็จะมีเล็กน้อย

    การบิดเบือนเล็กน้อยนี่ จะหายไปเมื่อเวลาผ่านไป 2 – 3 อาทิตย์

    หรือก็คือ ตราบเท่าที่ยังอยู่ในอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยแล้วใช้มันเดือนละครั้ง ก็สามารถใช้ความสามารถนี้ได้โดยปราศจากความเสี่ยง

 

『แล้ว ทำไมต้องเป็นแพ็คของกิลล์ด้วย? ไม่สนับสนุนให้ใช้ความสามารถนี้กับการพนันเสี่ยงดวงหรอกนะ』

『ทั้งหมดทั้งมวลก็จากการคำนึงถึงประสิทธิภาพและความเสี่ยงที่ข้อมูลจะรั่วไหลไงล่ะ』

 

    หากเป็นการได้การ์ดมาจากการสำรวจเขาวงกตแล้ว ผมที่ส่วนใหญ่ทำได้แค่การโซโล่แรงค์ D นั่นหมายถึงว่าการ์ดที่ดีที่สุดที่จะได้ก็คือการ์ดแรงค์ C

    ในกรณีที่ไปท้าทายเขาวงกตแรงค์ C ก็มีโอกาศจะได้การ์ดแรงค์ B อยู่ แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะพิชิตด้วยตัวคนเดียว แล้วของรางวัลก็จำเป็นต้องแบ่งให้กับนักผจญภัยที่ทำการสำรวจด้วยกัน

    พวกอันนาเองก็ต้องรู้สึกตัวเกี่ยวกับความสามารถของเร็นกะแน่ๆ ถ้าหากว่าการ์ดแรงค์ B ที่น่าจะดรอปได้ยาก เริ่มมีการได้มาในทุกๆเดือนๆ

    ถึงแม้ว่าจะบอกเรื่องขลุ่ยของฮาเมลินกับทุนคนในชมรมนักผจญภัยไปแล้ว แต่อย่างที่คิดว่าไม่อยากจะบอกเรื่องความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์ของเร็นกะ

    ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจพวกเธอ แต่การเชื่อใจมันไม่ได้หมายความว่าต้องเปิดเผยทุกอย่าง

    ดังนั้นเมื่อพิจารณาถึงสถาณการณ์ทุกอย่างแล้ว ผลประโยชน์สูงสุดที่สามารถได้จากการพิชิตเขาวงกต คำนวณแล้วจะออกมาได้เป็นการ์ดแรงค์ C 1 ใบต่อเดือน

 

    เช่นนั้นแล้ว พอมาเป็นเรื่องการ์ดแพ็คของกิลล์ จะมีโอกาสประมาณ 30% ที่จะได้การ์ดแรงค์ D, และต่ำกว่า 1% ที่จะได้การ์ดแรงค์ C

    มองแว่บแรกคือโอกาศที่จะได้การ์ดแรงค์ C จาก 1 แพ็คราคา 1 ล้านนั้นมีต่ำกว่า 1% แต่เพราะว่าผมสามารถควบคุมโชคชะตาได้ นี่ถือว่ามีโอกาศที่สูงมาก

    นั่นเพราะว่าอัตราการดรอปการ์ดแรงค์ C นั้นอยู่ที่ประมาณ 0.1%

    สำหรับพวกผมที่สามารถเปลี่ยนอัตราดรอปของการ์ดแรงค์ C ให้เป็น 100% ด้วยการแลกเปลี่ยนโชค 1 เดือน การจะเปลี่ยนโอกาสต่ำกว่า 1% ให้เป็น 100% ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร

 

    อีกทั้ง การ์ดแพ็คของกิลล์นั้น ในทุกๆ 12 ล็อต จะมีอย่างน้อยการ์ดแรงค์ B 1 ใบ หรือไม่ก็การ์ดที่เป็นที่นิยมอย่างเอลฟ์หรือซัคคิวบัสอยู่

    นี่เทียบเท่ากับการถูกรางวัลล็อตเตอรี่โดยที่มีรางวัลที่ 1 เป็นแรงค์ B, และมีซัคคิวบัสและเอฟล์เป็นรางวัลที่ 2 และ 3

    เนื่องจากแพ็ค 1 ล็อตจะถูกทำขึ้นมาในแต่ละเดือน งั้นในช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่งของ 1 ปี จะมีการเติมซองที่ถูกรางวัลไป 1 ครั้ง

    การเติมจะถูกทำไปเรื่อยๆไม่ว่าจะซองที่ถูกรางวัลจะถูกหยิบออกไปแล้วหรือไม่ในปีก่อน

 

『หรือก็คือ?』

『—-มีโอกาศที่ซัคคิวบัสที่มีสกิลร่วงหล่นจะยังคงหลับไหลอยู่ภายในแพ็คไงล่ะ』

 

    กว่าที่ผมจะค้นพบหวนคืนจิตวิญญาณ แรร์การ์ดที่อยู่ภายในการ์ดแพ็ค ส่วนใหญ่แล้วจะมีสกิลด้านลบอย่างสกิลร่วงหล่น

    ด้วยการค้นพบหวนคืนจิตวิญญาณ แพ็คของกิลล์จำนวนมากได้ถูกซื้อไป แต่ก็ไม่คิดว่าจะถูกซื้อไปทั้งหมดหรอก

    ในหมู่นั้น『ซัคคิวบัสที่มีสกิลร่วงหล่น』จะยังคงหลับไหลอยู่ ความเป็นไปได้ก็ไม่ได้เป็นศูนย์ซะทีเดียว

    …..ก็นะ ถึงความเป็นไปได้จะไม่ใช่ศูนย์ แต่ความเป็นไปได้มันก็เกือบจะเป็นศูนย์นั่นแหละ

    ต่อให้จะยังเหลืออยู่ การจะได้มาก็คงยากต่อให้ใช้การควบคุมโชคชะตาก็ตามที

    แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีหนทางอื่นที่จะได้มาซึ่ง『ซัคคิวบัสที่มีสกิลร่วงหล่น』แล้ว มันเป็นหนทางเดียว

    ใช่ เพื่อเมอาแล้ว ผมจึงไม่มีทางเลือกนอกจากไปเปิดแพ็คเท่านั้น!

 

『—–แล้ว ความจริงล่ะ?』

 

    หลังจากที่ผมอธิบายยืดยาวไปทั้งหมด เร็นกะก็ตอบมาด้วยคำพูดแสนเย็นชา

    ถึงแม้จะไม่สามารถมองเห็นได้เพราะว่าผลของสกิลซ่อนแอบ แต่ก็สามารถเห็นภาพเธอกำลังจ้องมองมาด้วยสายตาแบบที่กำลังมองหมูที่อยู่ในฟาร์ม ผมจึงรู้สึกลนลาน

 

『ค-ความจริงอะไร…..เมื่อกี้ก็คือที่คิดจริงๆแล้วไงล่ะ? ความจริงล้วนๆไม่มีโกหกเลยนี่นา?』

『เลิกตอแหลไปเลย ดวงตานั่นลุกโชนไปด้วยความอยาก นายน่ะ ก็แค่อยากจะเปิดกาชาเท่านั้นใช่ไหมล่ะ』

『อุ่ก…..!?』

 

    โดนเข้าเต็มๆ ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากร้องคราง

    อย่างที่คิด เจตนาของผมมันเห็นกันได้ชัดๆ

    ใช่ อย่างที่เธอบอก ถึงจะสาธยายไปมากมาย แต่อันที่จริงผมก็แค่อยากจะเปิดแพ็ค

    นับตั้งแต่ครั้งเดียวที่ได้พวกเร็นกะมา ผมก็ไม่ได้ซื้อแพ็คอีกเลย

    นั่นเพราะ ส่วนหนึ่งคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกรางวัลใหญ่หลายๆรอบ และอีกส่วนก็เพราะกังวลว่าถ้าถูกรางวัลอีก จะคุมตัวเองไม่อยู่

    ความรู้สึกนั้นในตอนที่เดิมพันเงิน 1 ล้านเยนที่เป็นเงินที่มีทั้งหมด แล้วจับได้พวกเร็นกะมา…..

    ความประหลาดใจ, ความปลาบปลื้ม, ความสุข, ความรู้สึกสำเร็จ…..สามารถรู้สึกได้อย่างแจ่มชัดถึงสารบางอย่างที่ไม่น่าจะถูกหลั่งออกมาจากสมองได้

 

    มันคือ การเสพติดอย่างหนึ่ง…..

 

    ด้วยเหตุนี้ ผมจึงตัดสินใจที่จะอยู่ให้ห่างจากการ์ดแพ็คของกิลล์

    แม้ในตอนที่ได้เป็น 3 ดาวแล้วและสามารถซื้อการ์ดแพ็คได้จำนวนมากก็ตาม ไม่เคยพยายามที่จะซื้อมันเลย

    หากว่าซื้อการ์ดแพ็คแล้วสะสมการ์ดโดยไม่ต้องลงแรงใดๆ อาศัยแค่เพียงโชคจากเร็นกะ ผมคงจะต้องตกลงสู่ความเสื่อมโทรมแน่ๆ…..มีลางสังหรณ์อยู่แบบนั้น

    เพราะงั้น ผมจึงตัดสินใจลืมเรื่องการ์ดแพ็คแล้วพยายามอย่างหนักมาจนถึงตอนนี้

 

    ……….แต่ว่า มัน ถึงขีดจำกัดแล้ว! ขีดจำกัดของความอดทน!

    มันจะมีใครหน้าไหนที่ไม่ไปเล่นพนันทั้งๆที่รู้ว่าจะสามารถชนะได้แน่นอนอยู่บ้าง?

    อย่างน้อยผมก็ทำไม่ได้ล่ะ

 

    นี่น่ะมันคือ โบนัส…..! สำหรับความพยายามอย่างหนักที่ทำมาจนถึงตอนนี้ รางวัลประจำเดือนไงละ…..!

    มันจะต้องนำไปสู่การเพิ่มกำลังรบได้แน่ๆ อันที่จริงแล้วถ้าไม่ไปเปิดมันน่าจะแย่กว่า…..!

    ใช่ นี่น่ะมันคือหน้าที่ไปแล้ว…..!

    เป็นส่วนหนึ่งของงานในฐานะมาสเตอร์…..!

 

『เพราะแบบนั้นแล้ว ไม่ว่าใครจะว่ายังไง ผมก็จะเปิดแพ็คล่ะ…..!』

『อืม…..สงสัยว่าจะเป็นผลย้อนกลับจากที่อดกลั้นเอาไว้ ทะลักออกมาในคราวเดียวสินะ』

 

    พอได้เห็นผมประกาศกร้าว เร็นกะก็เอามือกุมขมับ(รู้สึกได้ผ่านลิงค์)

 

『แต่ว่า ไม่ได้หรอก นายน่ะ โชคชะตามันเหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงมากเกินไป ควรจะเก็บโชคดีเอาไว้เผื่อตอนโชคร้ายที่คาดไม่ถึง』

 

    พอเร็นกะพูดแบบนั้นมา ก็รู้สึกได้ถึงความตั้งใจนั้นผ่านมาทางลิงค์

    คุ…..ต่อให้อยากจะใช้ควบคุมโชคชะตามากขนาดไหน แต่ถ้าปราศจากความร่วมมือของเร็นกะแล้วก็ไม่สามารถทำเพอร์เฟคลิงค์ได้

    ถ้าเป็นแบบนี้งั้นก็ไม่มีทางอื่น

    ผมมองไปรอบๆ แล้วมุ่งลึกเข้าไปในตรอกร้าง

    เมื่อผมถึงทางตันที่ไร้ซึ่งผู้คนและไม่มีกล้องวงจรปิด เร็นกะก็ปรากฏตัวออกมาในชุดกิโมโน

    เธอมองลงมาขณะที่กำลังเอามือกอดอก ผมพนมมือเข้าไว้ด้วยกันแล้วก้มหัวลงต่ำ

 

『ข-ขอร้องล่ะ! ขอแค่ครั้งนี้ ขอลองใช้แค่ครั้งนี้เท่านั้น! การทดลองมันก็จำเป็นไม่ใช่เหรอ?』

『ไม่จำเป็นต้องทดลองหรอก ตอนหมาป่ากับลูกแพะทั้งเจ็ดก็ใช้งานได้ปกติดี หรือว่าไม่เชื่อใจในพลังของชั้นงั้นรึ?』

『เปล่านะ เชื่อใจอยู่แล้ว! แต่ว่า มันอาจจะมีอะไรแตกต่างกันระหว่างภายในกับภายนอกเขาวงกตน่ะสิ! ถ้าหากว่าใช้ขณะอยู่นอกเขาวงกตในตอนที่จะเกิดเรื่องหรืออุบัติเหตุแล้วใช้ไม่ได้ผล มันจะเป็นปัญหาเอาได้ไม่ใช่เหรอ?』

『ถ้าถึงตอนนั้นชั้นจะเข้าช่วยเอง』

 

    คุ เอาไม่ลงเลย…..! เร็นกะนี่หัวรั้นมากกว่าที่คิดเอาไว้ซะอีก

    …..ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากจะทำแบบนี้เลย

    ผมตัดสินใจ ใช้มาตรการสุดท้ายต่อเร็นกะ

 

『เร็นกะ~~! อย่าพูดแบบนั้นสิ ตอนนี้ก็ช่วยหน่อยเถอะ~』

 

    —-ท่าไม่ตายลับ ร้องไห้งอแง…..!

 

    ผม-หมับ-เข้าไปกอดขาอันเรียบเนียนของเร็นกะเอาไว้

 

『ขอร้องล่ะขอร้องล่ะขอร้องล่ะ! ถ้าทำให้ครั้งนี้ ต่อไปจะงดไป 6 เดือนเลย~』

『เดี๊- นี่นาย!?』

 

    เร็นกะตกใจแล้วคว้าหัวของผมไว้ แต่ก็ไม่ได้ดึงออกหรือเตะทิ้งแต่อย่างใด

    แยงกี้ซาชิกิวาราชิตนนี้ กับคนที่เปิดใจให้ครั้งหนึ่งแล้วจะใจอ่อนอย่างมาก

 

『นี่นาย ทำแบบนี้ไม่อายบ้างรึไง! ในฐานะผู้ชายน่ะ!』

『ยัยบ้า! มันก็ต้องอายแน่นอนอยู่แล้วสิ!』

 

    เร็นกะหน้าแดงแล้วตะโกน ผมก็-ชิ้ง-เบิกตากว้างแล้วตะโกนกลับ

 

『คิดว่าผมอายุเท่าไหร่กัน! 16 แล้วนะรู้ไหม!? ไม่ใช่ 6ขวบ! ถ้าถูกเห็นแบบนี้ล่ะก็ คงอยู่ในเมืองนี้ไม่ได้อีกแล้วแน่ๆ!』

『เอ๋อ๋…..? งั้นก็เลิกทำสิ…..』

『ถึงมันจะน่าอายแต่…..ทำเท่ไปมันก็ไม่ได้อะไร! ถ้าหากว่าสามารถได้ผลลัพธ์แล้วล่ะก็ ชื่อเสียงจะทิ้งไปได้ จะให้ผมเลียเท้าเธอก็ได้ ไอ้เจ้านี่!』

『เอ๋อ๋~…..? ห-หรือว่าดูแล้วสมชายดี…..?』

 

    เร็นกะดูท่าทางสับสนจริงๆ ซึ่งหาได้ยาก นี่มัน…..ได้เรื่องแล้ว! กระแสมันกำลังมาทางนี้!

    ผมลดโทนเสียงลง มองช้อนขึ้นด้วยแววตาละห้อย

 

『นะ? ขอร้องล่ะ…..เป็นคำขอร้องชั่วชีวิตเลย นะ?』

『มูมูมู…..』

 

    เร็นกะลังเลอยู่พักหนึ่ง ริมฝีปากเล็กๆของเธอกระตุก แต่แล้วก็พูดออกมา

 

『ช่วยไม่ได้น้า…..แค่ครั้งนี้เท่านั้นนะ』

 

    พูดมาราวกับว่ายอมแพ้พร้อมกับลูบหัวของผม

 

    …..ทำได้แล้ว!

 

 

 

【Tips】เขาวงกตแบบพิเศษ

    ไม่เหมือนกับเขาวงกตปกติที่เป็นมิติอันแตกต่างซึ่งอยู่ผ่านเกทไป มันคือคำสามัญสำหรับเขาวงกตที่เข้ารุกล้ำพื้นที่และสิ่งปลูกสร้างซึ่งมีอยู่ก่อน ให้กลายเป็นรูปแบบของเขาวงกตนั้นไป

    เขาวงกตแบบพิเศษจะมีคุณลักษณะคือ ไม่มีมอนสเตอร์หรือกับดักใดๆระหว่างทาง ,และมีเพียงจ้าวแค่ 1 ตัวปรากฏขึ้นเท่านั้น เพื่อเป็นการชดเชย จ้าวที่เขาวงกตสร้างขึ้นมาจะมีความแข็งแกร่งที่มากกว่าบบปกติทั่วไป

    อีกทั้ง แม้ว่าภายนอกจะมองดูแล้วปกติ แต่ก็มีหลายกรณีที่เมื่อก้าวเท้าเข้าไปแล้ว ภายในกลับขยายออกกว้างขึ้นอย่างมาก ดันเจี้ยนโตเกียวโดมเองก็เช่นกันที่ภายในมีสนามกีฬาอยู่จำนวนมาก ถูกเปลี่ยนให้เป็นสนามประลอง ซึ่งแต่ละรายการโทรทัศน์จะมีสนามเป็นของตัวเองและมีการจัดงานแข่งขันกันทุกวัน

 

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

เฮคาที / Hecate

จากตำนานกรีก, เทพีแห่งเวทมนตร์ ไสยศาสตร์ มนตร์ดำ เครื่องราง วิญญาณและทางแยก (ทางสามแพร่ง)

https://en.wikipedia.org/wiki/Hecate

 

เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย

เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย

Score 10
Status: Completed
ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ในโลกคู่ขนานของญี่ปุ่น จู่ๆ เขาวงกตได้ปรากฏขึ้น ที่ซึ่งมอนสเตอร์โผล่ออกมา ในช่วงแรกเริ่มนั้นเขาวงกตไม่ได้ต่างอะไรไปจากภัยพิบัติ แต่สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปด้วยทรัพยากรที่เขาวงกตผลิต และตัวตนของ 'การ์ด' ที่ตกจากมอนสเตอร์ กลายเป็นช่วงแห่งการกอบโกย การ์ดมอนสเตอร์ที่สามารถอัญเชิญมอนสเตอร์ออกมาได้ดั่งใจนึก เหล่านักผจญภัยที่ใช้พลังของการ์ดเพื่อพิชิตเขาวงกต ถ่ายทอดสถานการณ์เหล่านั้นด้วยดันเจี้ยนTV, โคลอสเซียมที่มอนสเตอร์ต่อสู้กัน..... สิ่งเหล่านี้กระตุ้นความสนใจในตัวผู้คน แล้วก่อนที่จะรู้ตัวนักผจญภัยก็กลายเป็นอาชีพที่ผู้คนใฝ่ฝันจะเป็น คิทากาว่า・อุทามาโร่ เด็กม.ปลายสายม็อบ เห็นเพื่อนที่น่าจะเป็นสายม็อบเดียวกัน หลังจากที่เป็นนักผจญภัยแล้วกลับถีบตัวไปอยู่ในกลุ่มท็อบได้ จึงตัดสินใจที่จะเป็นนักผจญภัยด้วยตัวเอง อุทามาโร่ เพื่อที่จะได้แรร์การ์ดไปอวดทุกคนได้จึงเดิมพันชีวิตกับกาชาสุดบ้าระห่ำราคา 1 ล้านเยน ทว่า---?

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset