เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย 53 สิ่งที่รอคอยอยู่นอกประตูบานนั้น – 2

ตอนที่ 53 สิ่งที่รอคอยอยู่นอกประตูบานนั้น - 2

บทที่ 2 ตอนที่ 26.3

 

「…..ย-ใหญ่」

 

    พอได้เห็นร่างของแม่แพะใกล้ๆ ร่างอันมหึมาของเธอนั้นให้ความรู้สึกอันกดดันที่ถ้าไปยืนอยู่ต่อหน้าคงได้ถูกบดขยี้แน่ๆ

    ส่วนสูง ประมาณ 20 เมตร…..ขนาดใกล้เคียงกับตึกแมนชั่น 7 ชั้น ไม่ได้สูงเว่อร์มากมายแต่มีความหนาราวกับหัวผักกาด ดูราวกับว่ามีมวลสารเท่ากับแมนชั่นเลย

    เนื่องจากมีขนาดใหญ่ จึงดูจะสูญเสียความว่องไวที่ลูกแพะมีไป แต่ด้วยความแตกต่างด้านขนาด มันก็อาจจะทำให้ความเร็วจริงๆไม่ได้แตกต่างอะไรมากนัก ต่อให้ดูเหมือนเคลื่อนไหวช้า ก็จำเป็นต้องเคลื่อนไหวหลบให้เร็วกว่าเดิมอยู่ดี เพียงแค่มีขนาดใหญ่ก็นับเป็นภัยอันตรายแล้ว

    แถมด้วยไม่เหมือนกับลูกแพะที่ไร้ขน ทั่วทั้งร่างกายแม่แพะมีขนดูแข็งแกร่งทนทานปกคลุม ทั้งขนาดที่ใหญ่และขน…..พลังป้องกันและพลังชีวิตลูกแพะคงไม่อาจเทียบได้เลย

 

「โยมิโยมิ อัญเชิญวงค์วานเลย」

 

    โอริเบะออกคำสั่งให้โยโมะซึชิโคเมะอัญเชิญวงศ์วาน แล้วจึงเกิดแอ่งน้ำสีดำค่อยๆแผ่ขยายออกมาบริเวณใต้เท้าของโยโมะซึชิโคเมะ

    จากแอ่งน้ำนั้นค่อยๆมีแขนจำนวนนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมา จากนั้นคนตายในชุดเกราะสงครามสมัยโบราณก็ออกมาทีละคน

    มันคือทักษะอัญเชิญวงศ์วานเฉพาะตัวที่ทำให้โยโมะซึชิโคเมะเป็นแรงค์ D ที่แข็งแกร่งที่สุด อัญเชิญกองทัพยมโลก

    ตามปกติทั่วไปของการอัญเชิญวงศ์วาน มักจะเป็นการอัญเชิญแบบไม่มีขีดจำกัดแต่ทีละ 1 ตัว หรือไม่ก็อัญเชิญได้จำกัดแต่ออกมาพร้อมกันในทีเดียว ทว่าอัญเชิญกองทัพยมโลกสามารถอัญเชิญออกมาได้อย่างไม่มีขีดจำกัดและได้พร้อมๆกันในทีเดียว

    แถมด้วยกองทัพยมโลกที่ถูกอัญเชิญมาคือมอนสเตอร์แรงค์ D ที่มีสกิลศิลปการต่อสู้ติดตัวมา และโยโมะซึชิโคเมะยังมีสกิลที่ช่วยเสริมความแข็งแร่งให้กับอันเดดทั้งหมดด้วย

    ถึงแม้ว่าจะมีความสามารถมากถึงขนาดนี้ แต่นักผจญภัยแทบทุกคนที่ได้มันมากลับยอมปล่อยไป การ์ดที่ได้รับความนิยมยอดแย่อันดับ 1 นั่นก็คือโยโมะซึชิโคเมะล่ะ

 

『เคียดดแค้นนน…..!』

 

    เหล่ากองทัพยมโลกที่ถูกเรียกออกมา ส่งเสียงร้องชวนขนลุกในขณะที่พุ่งตรงไปหาลูกแพะทั้ง 7

    การเคลื่อนไหวนั้น คงจะเป็นผลจากสกิลศิลปการต่อสู้ มีทั้งความว่องไวและการประสานงานกันจนยากที่จะเชื่อได้ว่าเป็นอันเดดระดับต่ำที่ไร้อัตตา ดูจะมีความแข็งแกร่งที่มากกว่ากูลธรรมดามาก

    …..แต่ท้ายที่สุดก็เป็นแค่มอนสเตอร์แรงค์ D แถมยังเป็นแค่โทเค็นอีก ไม่ใช่คู่มือสำหรับลูกแพะทั้ง 7 ที่มีความแข็งแกร่งระดับแรงค์ C

    เหล่ากองทัพยมโลกต่อสู้อย่างห้าวหาญไร้ซึ่งความกลัว ไม่ว่าจะถูกตัดแขนขาหรือแทงทะลุลำตัว ทว่าการโจมตีก็ไม่ถูกตัวพวกลูกแพะเลย ถูกจัดการทิ้งอยู่ฝ่ายเดียว

    ความเร็วในการจัดการทิ้งของพวกลูกแพะ กับความเร็วในการอัญเชิญกองทัพยมโลก ดูเหมือนว่าความเร็วในการจัดการทิ้งจะเร็วกว่า

    ถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไป โยโมะซึชิโคเมะที่เป็นร่างต้นคงถูกลอสในไม่ช้า

 

    —-แต่ว่า ด้วยการสนับสนุนจากเหล่าการ์ดของอาจารย์ มันก็เป็นอีกเรื่อง

 

    เหล่าการ์ดของอาจารย์เล็งโจมตีไปที่ลูกแพะทีละตัว จัดการพวกมันลงได้อย่างแม่นยำ

    เมื่อลูกแพะถูกจัดการลงได้ มันจะคลานออกมาจากปากขนาดใหญ่ 7 ปากที่อยู่บนท้องของแม่แพะในทันที แต่ก็มีช่วงหน่วงเวลาครู่หนึ่งก่อนที่จะสามารถกลับไปต่อสู้ได้อีกครั้ง

    ในขณะเดียวกัน ความเร็วในการอัญเชิญกองทัพยมโลกก็ค่อยๆไล่ตามทันการถูกจัดการ จำนวนกองทัพยมโลกค่อยๆเพิ่มขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย

    ดูเหมือนว่าคงไม่เป็นอะไรที่จะปล่อยเหล่าลูกแพะให้พวกอาจารย์รับมือไป

 

    อีกด้านหนึ่งทางแม่แพะนั้น ทางนี้ดูจะไม่ค่อยคืบหน้าไปซักเท่าไหร่

 

『ยูคิต่อสู้แบบคลุกวงในเพื่อดึงความสนใจของศัตรูไว้! ให้ความสำคัญอันดับแรกกับการหลบหลีก อย่าให้โดนโจมตีแม้แต่ครั้งเดียว! เอลิซ่าคอยคุ้มกันยูคิ! ถ้าหากยูคิเกิดพลาดขึ้นมาล่ะก็ให้ใช้โล่แห่งการอุทิศตนรับเอาไว้! เมอาใช้ดากเนส(Darkness) กับมิราจ(Mirage)คอยบังตามันเอาไว้! สถานะผิดปกติอาจจะไม่ได้ผลแต่ก็พอซื้อเวลาได้ชั่วครู่ก่อนที่มันจะถูกต้านทานได้! กลุ่มโจมตีด้วยเวทพยายามเล็งไปที่ใบหน้า! บดบังทัศนวิสัยมันซะ!』

 

    ขึ้นขี่ดราโกเน็ตแล้วมองจากบนฟ้าลงมายังสนามรบ ออกคำสั่งอย่างรวดเร็วต่อเนื่องผ่านลิงค์

    ที่อยู่เบื้องล่าง ทั้งระเบิดเพลิง, หอกสายฟ้า, และห่าฝนธนู โหมกระหน่ำเข้าใส่แม่แพะอย่างไม่ขาดสาย เป็นที่ตระการตามาก ทว่า…..

 

「…..ชิ ไม่รู้เลยว่าได้ผลอะไรบ้างรึเปล่า」

 

    แม้จะรับเอาการโจมตีเต็มกำลังที่ถ้าเป็นจ้าวแห่งเขาวงกตแรงค์ D ก็คงได้ถูกจัดการไปนานแล้วเข้าไป แม่แพะก็ไม่แสดงท่าทีอะไรเลย

    ร่างของอีกฝ่ายมีความใหญ่โตมากจนรู้สึกเหมือนกำลังเอามีดคัตเตอร์ไปแทงต้นไม้ใหญ่

    เนื่องจากร่างของอีกฝ่ายมีขนาดใหญ่จึงสามารถมองการเคลื่อนไหวออกได้ง่าย จนถึงตอนนี้ทางนี้จึงไม่ได้รับความเสียหายมากนัก แต่ก็สามารถเดาออกได้ว่าหากโดนการโจมตีแค่ทีเดียวคงได้เกิดเรื่องแย่สุดๆแน่

    หากรับการโจมตีตรงๆเข้าไปแม้ทีเดียว ต่อให้เป็นการ์ดแรงค์ C คงได้ความเสียหายขั้นปางตายได้เลย

    อีกทั้งแม้จะมีการเคลื่อนไหวที่อ่านออกได้ง่าย มันก็ยังมีความแตกต่างในเรื่องระยะที่เกิดจากความใหญ่โต ถ้าหากเคลื่อนไหวช้าแม้เพียงเล็กน้อยก็จะไม่สามารถหลบได้ทัน

    ไม่ว่าจะโจมตีใส่มากแค่ไหนก็ไม่มีทีท่าว่าจะได้ผล กลับกันแล้วไม่สามารถรับการโจมตีจากอีกฝ่ายได้แม้เพียงครั้งเดียว

    พวกเราค่อยๆถูกไล่ต้อนทางจิตใจเข้ามาอย่างช้าๆ

 

『…..ฟุฟุฟุ ดูเหมือนจะถึงเวลาได้ใช้สิ่งนั้นแล้วส์สินะ』

 

    จะทำยังไงดี…..ขณะที่ผมกำลังเค้นสมองอยู่นั้น จู่ๆก็ได้ยินเสียงอันนาพูดแบบซ่อนความหมายอะไรบางอย่างเอาไว้ผ่านมาทางตราเข็มกลัดที่อกเสื้อ

    มันชัดเจนมากเสียจนรู้สึกไม่อยากจะถามออกไปอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ตัดสินใจถามออกไป

    ร่อนลงมาหาอันนาที่ยืนรออยู่บนพื้นแล้วทำการถาม

 

「…..มีแผนอะไรงั้นเหรอ?」

「คิดอยู่แล้วว่าจะต้องเกิดอะไรแบบนี้…..! เลยได้ทำการฝึกฝนมาอย่างหนักกับท่าผสานเพื่อใช้กับศัตรูที่แข็งแกร่งค่ะ!」

 

    อันนาพูดพร้อมดวงตาที่เปล่งประกาย

    เธอนี่น้า…..อยากจะสวนกลับไปตรงที่บอกว่าคิดอยู่แล้วว่าจะต้องเกิดอะไรแบบนี้ แต่ก็หักห้ามใจเอาไว้แล้วทำการยืนยัน

 

「คิดว่ามีโอกาศชนะไหม?」

「แน่นอนค่ะ! ถ้าหากว่าไม่ได้ผลล่ะก็จะยอมยกตำแหน่งประธานชมรมให้เลย」

 

    โย้ช ถ้าทำถึงขนาดนั้นล่ะก็

 

『เร็นกะ หวนคืนจิตวิญญาณ! ทุกคนทำการโจมตี ดึงความสนใจของแม่แพะเอาไว้!』

 

    เร็นกะกลายร่างเป็นคิชโชเต็ง เหล่าการ์ดทั้งหลายต่างพากันโจมตีอย่างหนักหน่วงมากกว่าเติม เมื่อเห็นช่องว่าง เหล่าการ์ดของอันนาจึงพากันถอยร่นจากแนวหน้าแล้วมารวมตัวอยู่ในจุดเดียวกัน

 

「เอาล่ะ เหล่าผู้ที่ถูกเลือกของชั้น! เริ่มต้นโอเปอเรชั่นอัลฟ่าได้!」

 

    ด้วยคำสั่ง เหล่าการ์ดของเธอก็ขยับ

    เอลฟ์ขึ้นขี่หลังเพกาซัส ดูลลาฮานเข้าสวมใส่รอบตัวเอลฟ์ การ์ดทั้ง 3 ใบกลายสภาพเป็นอัศวินหญิง 3 ประสาน

    อีกทั้งการ์ดแรงค์ D ใบอื่นๆก็เริ่มใช้พลังสนับสนุนหลายอย่างให้แก่อัศวินเพกาซัส

 

「นี่มัน…..!」

 

    ขณะที่มองดูอยู่ อัศวินเพกาซัสก็พุ่งตรงเข้าใส่แม่แพะ

    เร็ว! ด้วยความเร็วมหาศาลจนสามารถมองเห็นได้แค่เพียงเส้นของแสงจากสกิลนับสนุน อัศวินหญิงบินไปรอบตัวแม่แพะแล้วเข้าทะลวงด้วยหอกที่เธอถือเอาไว้

    ภาพนั้นราวกับว่าเป็นดาวตก

    แค่เพียงพริบตาเดียว ร่างอันมโหฬารของแม่แพะก็เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดแล้วส่งเสียงร้องออกมา

 

「แ, ม, ะ, ะ, ะ, ะ, ะ, ะ, ะ, ะ !!」

 

    โอ้ ได้ผล! ถ้าแบบนี้ล่ะก็ทำได้แน่!…..ไม่สิ แย่แล้ว!

    -ชิ้ง-! แม่แพะทำการจ้องมาทางนี้ อะไรบางอย่าง กำลังมาแล้ว…..!

 

「อันนา!」「คิย๊าา!」

 

    ก่อนจะมีเวลาได้คิดก็ทำการคว้าแขนของดึงตัวเธอขึ้นมา แล้วทะยานขึ้นบนฟ้า

    ในขณะเดียวกันนั้น ด้วยแรงอันมหาศาลพร้อมเสียงคำราม แม่แพะได้เคลื่อนผ่านจุดที่ยืนกันอยู่เมื่อครู่นี้

    แรงในการเคลื่อนที่ของมันราวกับเป็นรถไฟสายด่วน เพียงแค่แรงลมก็เพียงพอในการส่งพวกเราลอยไปในอากาศราวกับใบไม้ได้แล้ว

    ขณะที่กำลังอุ้มอันนาอยู่อย่างสุดกำลัง ก็คิดนอกเรื่องไปว่าดีจริงๆที่ใส่อานกับเข็มขัดนิรภัยให้กับดราโกเน็ตไว้

    ในที่สุด หลังจากเตรียมตัวอะไรกันพร้อมแล้วทำการมองลงไป พวกเราก็ได้เห็นเนินเขาที่ยืนอยู่เมื่อครู่หายไปทั้งหมด หลงเหลือไว้แค่เพียงแนวดินสีน้ำตาลที่เป็นเส้นทางของแม่แพะ

    พลังอะไรกันนี่…..

 

「ช-ช่วยไว้จริงๆเลยค่ะรุ่นพี่…..」

「อา…..เกือบไปแล้ว จริงด้วย แล้วพวกอาจารย์…..」

 

    ปลอดภัย สินะ โชคยังดีที่มันพุ่งไปทางทิศตรงข้ามที่พวกอาจารย์อยู่

    หลังจากการพุ่งชน แม่แพะก็ไม่ขยับเขยื้อนอะไรเลย เป็นประเภทที่ต้องเว้นช่วงหลังจากใช้ท่าใหญ่งั้นสินะ

    แม่แพะที่ไร้ซึ่งการป้องกัน ถูกอัศวินเพกาซัสเข้าโจมตีใส่อีกครั้ง

    อาจะเพราะความโกรธที่มาสเตอร์ของตนถูกเล็ง การโจมตีของอัศวินเพกาซัสจึงดูเกรี๊ยวกราดมากกว่าเดิม จนถึงขนาดที่คิดว่าอาจจะเอาชนะโดยที่ไม่ต้องรอการสนับสนุนจากอาจารย์เลยก็เป็นได้

 

「ป…..เป็นไงบ้างส์คะ ท่าไม้ตายของชั้น!」

 

    อาจจะเพื่อกลบเกลื่อนความกลัวที่รู้สึกเมื่อครู่ อันนาจึงพูดขณะที่ยืดอกซึ่งมีขนาดใหญ่สำหรับคนอายุเท่าเธอ ผมจึงยิ้มแห้งๆให้แล้ว「อา ยอดเยี่ยมมากเลย」กำลังจะพูดตอบแต่ในตอนนั้นเอง—-

 

「แแแแแ, มมมมมมม, ะ, ะ, ะ, ะ, ะ, ะ, ะ, ะ !!」

 

    เสียงร้องของแม่แพะดังขึ้นมากลบเสียง

    ในใจของผม เกิดมีภาพของการพุ่งชนนั้นขึ้นมาอีกครั้ง

    …..หรือว่า!

 

「แย่แล้ว! รีบกลับมาซะ!」

「…..เอ๋!?」

 

    ทันทีที่ผมพูดเตือน ก็เกิดมีผืนผ้าสีดำลงมาปกคลุมโดยมีแม่แพะเป็นศูนย์กลาง

    ว่าแล้วเชียว! ที่แม่แพะร้องนั้นไม่ใช่เพราะว่าเจ็บปวด แต่เป็นการคำรามด้วยความโกรธก่อนที่จะออกท่าใหญ่

    จากนั้นจู่ๆก็เกิดสิ่งปกติกับเหล่าการ์ด

 

『คุ่ก!?』

『ดราโกเน็ต!? เป็นอะไรไป!?』

『นี่มัน…..! ร่างกาย, หนัก!?』

 

    รีบให้ดราโกเน็ตที่เริ่มโซเซเสียการควบคุมลงจอดฉุกเฉิน ไม่ใช่แค่เพียงดราโกเน็ตเท่านั้นที่เจอกับสถานการณ์ประหลาด การ์ดของผมทั้งหมดต่างก็รู้สึกเช่นเดียวกัน

    …..ไม่สิ มียูคิเป็นข้อยกเว้นอยู่

    เหล่าการ์ดของอันนาเองก็ไม่ถูกยกเว้น ถึงแม้ว่าอัศวินเพกาซัสจะไม่ได้ร่วงตกลงไป แต่ก็เห็นได้ชัดว่าขาดพละกำลัง

    เมื่อสบโอกาศเช่นนี้ก็ไม่มีทางที่แม่แพะจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ ทำการฟาดกรงเล็บขนาดใหญ่เข้าใส่

 

「ทาเนีย!」

 

    เมื่อได้ยินเสียงอันนา เอลฟ์ก็ทำการเอนตัวออกไปทางด้านหน้าเพกาซัส ถึงแม้ว่าจะสามารถหลบการโจมตีตรงๆไปได้ ทั้งเอลฟ์กับดูลลาฮานก็ร่วงลงสู่พื้น ลำตัวของเพกาซัสเกิดรอยแผลลึก เมื่ออันนาเห็นแบบนั้นก็ส่งเสียงดังขึ้นมา

 

「อิลยา! ดันเจี้ยนเทโอ!」

 

    พริบตาถัดมา เสียงของการลอสก็ดังขึ้นมาจากกระเป๋าของอันนา

 

「นั่น, มัน…..สกิลแบบนี้, ข้อมูล…..」

「รีบเปลี่ยนตัวซะ! ให้การ์ดที่ยังปลอดภัยอยู่กลับมา!」

「! ทาเนีย!」

 

    พอได้ยินผมตะโกน อันนาก็ลุกลี้ลุกลนพยายามจะให้เอลฟ์กลับมา แต่ว่าดูเหมือนขาของเธอจะหักตอนตกลงมา การเคลื่อนไหวของเธอจึงเชื่องช้า

    แล้วแม่แพะก็ทำการไล่ตามมา มันเหวี่ยงขาหน้าที่ราวกับต้นไม้ใหญ่ลงมา—-

 

「ทาเนียยยยยยยย!」

 

    เสียงตะโกนของอันนากลายเป็นเสียงร้องแห่งความเจ็บปวด

    เธอที่เป็นแบบนั้น ผมจึง…..

 

「ไม่เป็นไร ทันเวลาพอดี」

 

    ที่อยู่เบื้องหน้าของผมนั้น คือยูคิที่กำลังอุ้มเอลฟ์เอาไว้อยู่

    วิชาจั่กจั่นลอกคราบทันแบบเส้นยาแดงผ่าแปด

 

「อะ…..」

 

    อันนาเมื่อเห็นก็โล่งอก แล้วทรุดตัวลงไปนั่ง

    ถ้าหากว่าใช้ลิงค์ก็สามารถยืนยันความปลอดภัยของการ์ดได้ แต่…..ดูเหมือนจะตื่นตระหนกมากเสียจนไม่ทันคิด

 

「แต่ว่า…..」

 

    ไอ้แรงดึงดูดนี้มันอะไรกัน? ความรู้สึกที่สัมผัสได้จากเหล่าการ์ดคือร่างกายหนักขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่ากลายเป็นหิน ยิ่งไปกว่านั้น รู้สึกราวกับว่าพลังกายยังถูกสูบออกไปอย่างช้าๆด้วย

    การที่ยูคิไม่ได้รับผลเพียงคนเดียว บางทีคงจะเป็นเพราะผลจากผู้กล้าตัวน้อย…..

    …..หินกับการดูดซับ งี้นี่เอง นี่คือการจำลองฉากของเทพนิยายตอนที่หมาป่าถูกยัดหินใส่ท้อง!

    ในขณะที่ผมเพิ่งจะรู้ถึงตัวจริงของสถานะผิดปกติที่เหล่าการ์ดได้รับผลกระทบ แม่แพะก็ได้มีการเคลื่อนไหวใหม่

    มันคว้าเอาลูกแพะตัวหนึ่งจากลูกแพะทั้ง 7 แล้ว-กร้วมกร้วม-เริ่มทำการกลืนกินมันเข้าไป

    ขณะที่กำลังตกตะลึงกับการกระทำของแม่แพะในการกินลูกของตัวเอง บาดแผลตามร่างกายของมันก็ฟื้นฟูอย่างรวดเร็วจนไม่เหลือร่องรอยใดๆ

 

「เอาจริง, ดิ…..」

 

    ถึงกับต้องพึมพำออกมา

    โชคยังดีที่ลูกแพะที่ถูกกินไม่มีทีท่าว่าจะคืนชีพกลับมา แต่ว่ายังมีลูกแพะอีกถึง 6 ตัว หมายความว่า นี่จะต้องทำความเสียหายอย่างหนักให้อีกถึง 6 ครั้งงั้นเหรอ?

    แย่แล้ว ทั้งพลังเวทและพลังกายของการ์ดไม่ได้ไร้ขีดจำกัด ถ้าการต่อสู้ยืดเยื้อออกไป จะเป็นฝ่ายเราที่เสียเปรียบ

    เหงื่อเย็นๆไหลผ่านปลายคาง

    นี่น่ะเหรอ พลังของอิเรกูลาห์เอ็นเคาเตอร์แรงค์ B…..

 

『…..โอ่ย อุทามาโร่』

 

    ในตอนนั้นเอง เร็นกะทำการเรียกผ่านทางลิงค์มา

 

『มีอะไรรึ?』

『………………..』

 

    พอผมถามกลับไป เร็นกะดูจะลังเลซึ่งเป็นเรื่องแปลกสำหรับเธอ…..

 

『นาย จะสามารถเชื่อใจชั้นโดยไร้ซึ่งข้อสงสัยได้ไหม?』

『หมายความว่ายังไง?』

『………………..』

 

    เร็นกะไม่ตอบ รู้สึกว่าการพูดคุยของพวกเรากำลังถูกซุซูกะกับยูคิฟังอยู่อย่างใจจดใจจ่อ

    ไม่รู้ว่ากำลังวางแผนอะไรกันอยู่แต่…..

 

『อา จะเชื่อในตัวเธอเอง』

 

    ผมจึงตอบไปด้วยความจริงใจ

 

『งั้นเหรอ…..』

 

    เร็นกะพึมพำเบาๆ แต่ใบหน้าของเธอดูจะมีความสุข…..

 

『ซิงโครซะ อุทามาโร่ กับชั้น มาซิงโครสมบูรณ์แบบ 100% กัน』

『ซิงโคร? แต่ว่า…..』

 

    ด้วยความสามารถของผมในตอนนี้ ต่อให้อยู่ในสภาพดีที่สุด ขีดจำกัดก็ได้แค่ 80% เท่านั้นเอง

    อีกอย่าง ไม่ว่าจะเชี่ยวชาญการซิงโครมากขนาดไหน ก็ว่ากันว่า 99% คือมากที่สุดแล้ว การที่จะลดบาเรียที่ปกป้องมาสเตอร์ให้เป็น 0 มันไม่น่าจะเป็นไปได้

    เร็นกะหันกลับมา จ้องผมตรงเข้าไปในดวงตาแล้วพูด

 

『ถ้าหากว่าเป็นพวกชั้นในตอนนี้แล้วล่ะก็ไม่เป็นไรหรอก —-เชื่อสิ』

『เข้าใจแล้ว』

 

    ผมพยักหน้า ปิดตาลง ทำการซิงโครกับเร็นกะเงียบๆ

    70, 80, 90…..

    อัตราการซิงโครเพิ่มขึ้นอย่างราบรื่นจนทำเอาสงสัยว่าที่ทำกันผ่านๆมามันคืออะไร

    แต่ว่า 99%…..ในท้ายที่สุด พวกเราก็มาชนเข้ากับกำแพงบางๆแต่ทว่ามีความมั่นคง

 

「นี่มัน…..」

 

    ถ้าจะให้บรรยายออกมาเป็นภาพล่ะก็ มันคือประตูที่ถูกปิดอย่างแน่นหนาเอาไว้ด้วยโซ่

    เมื่อลองแตะดู สัญชาตญาณมันก็ร้องเตือนไม่ให้เปิดมัน

    สิ่งนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อหยุดผม แต่มีไว้เพื่อปกป้องผมจากสิ่งที่อยู่ด้านนอกประตู

    แต่ว่า…..มันทำให้ผมยิ้มแห้งๆออกมา

    วันนี้ เป็นวันที่มีความเกี่ยวข้องกับประตูเยอะจริงๆ ในความฝันมีประตูที่คนตายมาหา ในความจริงที่คฤหาสน์ก็มีประตูที่เรียกหมาป่ามา แล้วในท้ายที่สุดก็มีประตูของลิงค์อีก

    ถ้างั้นล่ะก็ นี่เองก็เป็นกับดักด้วยล่ะมั้ง

    ถ้าเหตุการณ์ในวันนี้ ไม่สิ ตั้งแต่เหตุการณ์ที่ถูกผู้ใช้หมาล่าเนื้อโจมตี ถูกเตรียมเอาไว้ก็เพื่อจะให้ผมได้เปิดประตูบานนี้ล่ะก็ ถ้างั้นสิ่งที่รอคอยอยู่นอกประตูก็คือ…..

   

「—-แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็เชื่อใจเร็นกะล่ะ」

 

    พริบตาที่ผมพูดเช่นนั้น โซ่ทั้งหมดก็แตกออกเป็นชิ้นๆ ผมได้ก้าวผ่านกำแพง 99%—-แล้วซิงโครอย่างสมบูรณ์แบบกับเร็นกะ

    เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ภาพที่ได้เห็นก็ถูกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

    ที่ผมได้เห็นนั้น คือเส้นทางสู่ความเป็นไปได้ของทุกสิ่ง เส้นทางที่มีความเป็นไปได้ต่ำจะอยู่ไกลออกไป ส่วนเส้นทางที่มีความเป็นไปได้สูงจะอยู่ใกล้ ความเป็นไปได้มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตัวผมสามารถเคลื่อนที่เข้าใกล้หรือออกห่างจากเส้นทางเหล่านั้นได้ด้วยการชั่งน้ำหนักโชคดีและโชคร้าย

    แน่นอนว่าปริมาณโชคดีของคนๆหนึ่งมีจำกัด ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมอันยิ่งใหญ่ของโลกได้…..

    ผมมองไปที่แม่แพะ

    ที่ตรงนั้น เส้นทางเป็นไปได้ที่จะจัดการแม่แพะสามารถมองเห็นได้อย่างแจ่มชัด

    การที่สามารถมองเห็นเส้นทางในการจัดการ ก็หมายถึงการที่สามารถมองเห็นจุดอ่อนและวิธีการสำหรับจัดการมันไปด้วย

    วิธีการจัดการแม่แพะที่ไวที่สุดและดีที่สุด ก็คือการใช้พลังทำลายที่มากที่สุดยิงเข้าใส่จุดอ่อน ซึ่งก็คือมดลูดของมัน

    ทว่าเส้นทางที่นำไปสู่ความสำเร็จนั้นช่างแคบและห่างไกล

    สาเหตุมาจากพลังทำลายที่ขาดไปของทางฝั่งเรา ด้วยสิ่งที่มีอยู่ในมือของทางเราตอนนี้ ไม่สามารถที่จะทะลวงท้องแม่แพะได้

    ผลก็คือ วิธีที่น่าเชื่อถือที่สุดก็คือการค่อยๆลดจำนวนของลูกแพะไปเรื่อยๆ แต่นั่นก็มีความน่าจะเป็นอยู่มากที่จะเกิดความสูญเสียกับใครบางคน

 

    —-ผิ้ง

 

「อั่ก…..!」

 

    แล้วการซิงโครกับเร็นกะก็หลุดออกและมาพร้อมกับอาหารปวดหัวอย่างรุนแรง

    …..ดูเหมือนว่าสภาพของผมในปัจจุบัน จะสามารถมองเห็นความเป็นไปได้ในระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น

    เร็นกะที่เอามือกุมหัวอยู่เช่นกันได้ถามมา

 

『คุ…..เห็นรึเปล่า?』

『อา…..』

『ดูเหมือนว่า…..จะต้องจัดการภายในดอกเดียวสินะ』

『อา แต่ว่า…..』

 

    มีพลังทำลายไม่พอ…..

    ต่อให้การ์ดทั้งหมดของผมโจมตีพร้อมกันก็ไม่สามารถทะลวงการป้องกันของแม่แพะได้ ถ้าหากว่ารวมพลังจากการ์ดของอาจารย์กับโอริเบะก็พอจะมีความเป็นไปได้ แต่ในกรณีนั้นจะทำให้การป้องกันของฝั่งเราอ่อนลงและมีความเป็นไปได้สูงว่าพวกอาจารย์จะเสียชีวิตได้

 

『ไม่หรอก ทำได้แน่ โอ่ย ซุซูกะ!』

 

    เร็นกะประกาศออกมาอย่างหนักแน่นแล้วเรียกหาซุซูกะ

 

『จะมัวซึมไปถึงเมื่อไหร่ มาให้ยืมพลังซะดีๆ! รู้นะว่าจริงๆแล้วก็อยากจะมาเข้าร่วมกลุ่มกับพรรคพวกอยู่น่ะ! ยัยคนเก็บตัวนี่!』

『นะ!?』

 

    ซุซูกะหน้าแดงไปจนถึงใบหู

 

『ค-ใครกัน…..!』

『เงียบไปเลย! ใครได้เห็นมันก็รู้ทั้งนั้น! เลิกเอาแต่จิกกัดอยู่รอบนอกแล้วพูดมาเลยว่าอยากจะเป็นพรรคพวกด้วยกันซักที!』

『อ๋า~ พูดไปซะแล้ว…..』

 

    เมอาพึมพำมาเบาๆด้วยความหงุดหงิด

    …..เรื่องที่ซุซูกะอยากจะมาเข้าร่วมกลุ่มพรรคพวกด้วย แต่ว่าไม่ยอมซื่อตรงกับตัวเองนั้น ทุกๆคนรู้สึกตัวดีอยู่แล้ว

    แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น พอพวกเราพยายามชวนเข้ามา เธอก็จะชิ่งหนีเล่นตัวหยั่งกับแมว ทำให้รับมือด้วยลำบากเอามากๆ

    แต่ทุกคนก็ยังคงรอคอยเพื่อให้ซุซูกะรู้สึกคุ้นชินกับพวกเราอยู่ แต่…..ดูเหมือนในที่สุดเร็นกะจะหมดความอดทนเข้าแล้ว

 

『หล่อนเองก็ชอบอุทามาโร่ใช่ไหมล่ะ!』

『…..อา โธ่! เข้าใจแล้วน่า! เพราะงี้แหละพวกชอบเปิดเผยตัวเองถึงได้…..!』

 

    ซุซูกะขยี้หัวแล้วร้องตะโกน

    ในตอนนั้นเอง การ์ดของซุซูกะก็เปล่งแสง พอเอาออกมาดู ที่ตรงนั้นก็มีชื่อของสกิลถูกสลักอยู่ตามที่คาดไว้ —-มิตรภาพร่วมมือ

    อมยิ้มขึ้นที่มุมปาก ในที่สุดก็ซื่อตรงขึ้นมาแล้วสินะ

    เร็นกะแปลงร่างจากคิชโชเต็งกลายเป็นโคคุอันเท็น

    ด้วยเสียงอันแหบแห้ง เร็นกะพูดออกมา

 

『ลุยกันเลย…..!』『จ้าจ้า…..』

 

    มิตรภาพร่วมมือ—-『โลกามลายสูญยามราตรี』x『ความรักที่มากเกินไปแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังร้อยเท่า』

    ฝนสีดำโปรยปราย แม่แพะที่โดนมันเข้าไปเต็มๆ—-แต่ว่าไม่ได้แสดงอาการผิดปกติใดๆเลย

    ซึ่งก็แน่นอน นั่นเพราะว่ามันไม่ได้สร้างความเสียหายโดยตรงแต่อย่างใด แต่เป็นการลดความสามารถด้านการป้องกันทั้งหมดของแม่แพะต่างหาก

    ส่วนการโจมตีที่จะตามมา…..

 

『ยูคิ!』

『ฮะ…..!』

 

    ซิงโคร บางทีอาจจะเพราะการฟูลซิงโครที่ทำไปเมื่อครู่นี้ เลยทำให้จับเคล็ดอะไรบางอย่างได้ แต่อย่างที่คิดว่า 99%—-ยังไม่สามารถทำการฟูลซิงโครได้ แต่ก็สามารถไปได้สูงถึง 90% อย่างง่ายดาย

    เอาล่ะ ลุยกันเลย

    —-ชุดหมาป่า กลายร่างจากสาวน้อยเป็นมนุษย์หมาป่า

    —-ยามจันทราเต็มดวง สำหรับไลแคนโทรปที่พลังต่อสู้เพิ่มขึ้นตามข้างขึ้นข้างแรมของดวงจันทร์แล้ว คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงที่สามารถแสดงพลังออกมาได้ถึงขีดสุด

    —-ทำลายขีดจำกัด ร่างกายของยูคิค่อยๆขยายขึ้นจากขนาดปกติ

    พอเธอกลายร่างเสร็จ ที่ตรงนั้นก็มีมนุษยหมาป่าร่างยักษ์สูง 7~8 ม. ยืนอยู่

 

「ก๊าชชชชชชชช!!!!」

 

    —-การตื่นขึ้นของสัญชาตญาณ พร้อมด้วยเสียงเสียงคำรามที่ราวกับเสียงฟ้าผ่า ขีดจำกัดของกล้ามเนื้อถูกปลดออกแล้วร่างกายก็ขยายขนาดมากขึ้นไปอีก

    ยูคิที่ปลดปล่อยศักยภาพทุกอย่างออกมา ก้มตัวลงราวกับการง้างธนู

 

「แมะะะะะะะะะะะะ!!」

 

    พอมาถึงจุดนี้แม่แพะก็ดูจะเกิดความร้อนรน ทำการสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่—-แล้วพ่นลมหายใจร้อนแรงออกมาราวกับเลเซอร์บีม ด้วยยูคิในตอนนี้อยู่ในท่วงท่าที่รวบรวมพลังทั้งหมดอยู่ในการโจมตีทีเดียว จึงไม่สามารถที่จะหลบหลีกได้—-แต่ว่า

 

『ไม่ปล่อยให้ทำหรอกค่ะ』

 

    พวกเรายังมี โล่ที่แสนพึ่งพาได้ของปาร์ตี้เราอยู่ เอลิซ่ายืนขวางระหว่างยูคิกับแม่แพะ สร้างโล่สีขาวขึ้นมาป้องกันลมหายใจเอาไว้

    โล่แห่งการอุทิศตน ไม่ใช่สกิลสำหรับป้องกันการโจมตีของศัตรู แต่เป็นสกิลที่ลดทอนความเสียหาย แล้วรับมันเอาไว้ด้วยตัวเอง

    ทั่วทั้งร่างของเอลิซ่าถูกเผาจนไหม้เกรียม เกิดไอน้ำสีขาวลอยขึ้นมา มีผิวหนังใหม่ถูกฟื้นฟูขึ้นภายใต้นั้นแต่มันก็ระเหยไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

    มันคือการต่อสู้ระหว่างว่าลมหายใจของแม่แพะจะชนะ หรือว่าตัวเธอจะสามารถทนรับด้วยเลือดที่เก็บสะสมเอาไว้

    แม้แต่หน่วยฟื้นฟูอย่างเร็นกะเอง เนื่องจากไม่สามารถยกเลิกโลกามลายสูญยามราตรี จึงไม่สามารถขยับได้

    ขณะที่เหล่าพวกพ้องเฝ้ามองพร้อมภาวนา ผู้ที่ชนะการประจัญหน้ากัน—ก็คือแม่แพะ

    คุ…..ได้แค่นี้งั้นรึ เลือดที่สะสมเอาไว้เกือบจะหมดแล้ว การเดิมพันล้มเหลว

    ในขณะที่ผมกำลังจะให้เอลิซ่าถอยไปนั้นเอง

 

「—-อาร์ม」

 

    ด้วยเสียงนั้น ชุดเกราะได้เข้าไปสวมร่างของเอลิซ่า พร้อมด้วยพลังสนับสนุนหลายอย่างหลั่งไหลเข้าใส่ตัวเธอ

 

「อันนา…..!」

「อะฮะฮะ….. ในฐานะประธานชมรม มันก็ต้องแสดงด้านดีๆให้เห็นกันซักหน่อยสิ」

 

    อันนาพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ จากนั้นได้เกิดวงเวทขึ้นที่ใต้เท้าของเอลิซ่า แล้วบาดแผลของเธอก็ถูกรักษาในทันที

 

『—-ขอโทษที่การสนันสนุนล่าช้า แต่อย่างน้อยก็ได้ส่งอะราเดียไปทางนั้นแล้วนะ』

 

    อาจารย์พูดผ่านตราเข็มกลัด

    ด้วยการเพิ่มพลังป้องกันจากแปลงอุปกรณ์ของดูลลาฮาน และการคุ้มครองจากผู้พิทักษ์แม่มดอะราเดีย เอลิซ่าได้ฟิ้นฟูกลับมาอย่างสมบูรณ์

    เท่านี้ไม่ว่าลมหายใจจะพ่นมานานแค่ไหนก็ไม่มีทางจะจัดการเธอลงได้อีก

    และแล้วลมหายใจก็ค่อยๆแผ่วลงและ…..จบลง

    ตัวแม่แพะ ตัวชะงักค้างจากการพ่นลมหายใจและไม่สามารถขยับได้

    หน้าท้องเปิดเผยและไร้ซึ่งการป้องกัน

    ในตอนนั้นเอง ลูกกระสุนนามว่ายูคิก็ได้ยิงออกไป

    กระสุนสังหารเป่าจนเกิดรูขนาดใหญ่ที่ท้องของแม่แพะ—- คว้าเอาตัวผู้ใช้หมาล่าเนื้อที่อยู่ภายในท้องของเธอออกมา

 

「แมะะะะะ…..!」

 

    ด้วยแกนกลางที่ถูกแย่งชิง อิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์『หมาป่ากับลูกแพะทั้งเจ็ด』ก็เริ่มแตกสลายและทำลายตัวเองไป

    ในขณะเดียวกัน โลกที่ถูกย้อมไปค่อยๆคืนกลับมาเป็นเขาวงกตดั้งเดิม

    ระหว่างที่อันนากับโอริเบะหมดแรงล้มลง ผมทำการมองไปรอบๆอย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการซุ่มโจมตี แล้วในที่สุดก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

    …..จบแล้ว สินะ ศัตรูสุดแกร่ง…..ที่ไม่เคยเผชิญหน้ามาก่อน ไม่ได้รู้สึกถึงความสำเร็จ มีเพียงแค่ความรู้สึกว่างเปล่า

 

『…..มาสเตอร์』

 

    ในตอนนั้นเองที่ยูคิกลับมา พร้อมกับผู้ใช้หมาล่าเนื้อในอ้อมแขน ดูเหมือนจะหมดสติ ร่างกายไม่ขยับเขยื้อน ที่หน้าอกขยับขึ้นและลงอย่างช้าๆ

 

「รุ่นพี่ คนคนนี้ ผู้ใช้หมาล่าเนื้อ…..งั้นเหรอส์คะ?」

 

    อันนาถามแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

    ตัวจริงของผู้ใช้หมาล่าเนื้อที่ได้เห็นเป็นครั้งแรก เป็นผู้หญิงวัยรุ่นธรรมดาๆ ไม่มีอะไรที่เหมือนกับนักบุญของสมาคมพระแม่ดาราเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าตอนหลับอย่างสงบนั้นช่างไร้เดียงสาจนยากที่จะเชื่อได้ว่าเป็นสัตว์ประหลาดที่สังหารคนไปกว่า 100 คน

 

「รุ่นพี่ อันนา ดูนี่สิ」

 

    พอหันไปตามเสียงของโอริเบะ ก็เห็นในมือเธอถือการ์ด 1 ใบ ยื่นมาให้และเมื่อทำการรับเอามา ที่เห็นอยู่นั้นก็คือการ์ดของหมาป่ากับลูกแพะทั้งเจ็ด

    เป็นการ์ดที่ให้ความรู้สึกแปลกๆโดยมีแค่ภาพที่เหมือนกับปกของหนังสือภาพ

    นี่มัน การ์ดของอิเรกูลาห์เอ็นเคาเตอร์…..อย่างงั้นเหรอ?

    และแล้ว ในตอนนั้นเอง

 

「โอ่~~ย มันเกิดอะไรกันขึ้น!?」

 

    จากบันไดทางขึ้น อากิระซังและเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจค่อยๆลงมาเรื่อยๆทีละคน

    ด้วยการที่หมาป่ากับลูกแพะทั้งเจ็ดถูกจัดการ การแยกโดดเดี่ยวพื้นที่ก็หายไปด้วย ทำให้สามารถเข้ามาได้

    ถ้าเป็นอิเรกูลาห์เอ็นเคาเตอร์ปกติ มันจะสามารถเข้ามาได้แต่ไม่สามารถออกไปได้ แต่คราวนี้ดูจะไม่สามารถทำได้ทั้งเข้าและออก

 

「…..ช้าจริงเชียว คุณพี่」

 

    อาจารย์พูดพร้อมถอนหายใจ ซึ่งพวกเราก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆให้

    และแล้ว การต่อสู้กับผู้ใช้หมาล่าเนื้อที่ดูเหมือนจะยาวนานแต่กลับสั้น ก็มาถึงจุดจบ

 

 

 

 

【Tips】หมาป่ากับลูกแพะทั้งเจ็ด ส่วนที่ 2

    เฟสที่ 3 คือศึกต่อสู้ตัดสินกับศัตรูที่เลือกไว้ในเฟสที่ 2

    ในกรณีที่เปิดประตู จะเป็นตามเทพนิยาย หลังจากที่หมาป่ากินลูกแพะแล้ว หมาป่าจะถูกฆ่าโดยแม่แพะ ในขั้นตอนนี้ วิญญาณของเหล่ามาสเตอร์ที่ถูกกักขังอยู่ภายในท้องของหมาป่าจะตื่นขึ้นมา แต่แม่แพะและลูกแพะอมตะทั้ง 7 จะเข้าโจมตี แม่แพะมีความแข็งแกร่งมหาศาลและพลังชีวิตที่สูง สามารถฟื้นฟูตัวเองอย่างสมบูรณ์ได้ด้วยการกินลูกแพะ จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่ยืดเยื้อไปได้ สิ่งเดียวที่ช่วยคือลูกแพะที่ถูกกินจะไม่คืนชีพกลับมา

 

    ในกรณีที่ทำลายนาฬิกาลูกตุ้ม จะเป็นการฆ่าลูกแพะตัวที่เจ็ด แม่แพะจะไม่รู้ถึงการโจมตีของหมาป่า เหล่าลูกแพะจะยังคงอยู่ภายในท้องของหมาป่าและไม่สามารถออกมาได้อีก กลายเป็นศึกสุดท้ายของนักผจญภัยกับหมาป่า หมาป่าจะฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์จากลูกแพะที่กินเข้าไป แต่การต่อสู้จะง่ายกว่าจากที่ไม่มีลูกแพะทั้งเจ็ดอยู่ อีกทั้งพลังชีวิตก็มีน้อยกว่าแม่แพะ การเคลื่อนไหวในช่วงแรกก็เชื่องช้าเพราะตัวหนักจากการกินลูกแพะ ทว่าเมื่อจัดการไปเรื่อยๆ ตัวมันก็จะค่อยๆเบาลงและเก่งกาจมากขึ้นๆ

 

    ในกรณีที่นักผจญภัยพลาดสกิลปริศนาทั้งหมดในเฟสแรก ศัตรูจะเข้าโจมตีทั้งคู่ แม่แพะพร้อมลูกแพะอมตะทั้งเจ็ด และหมาป่าที่ตัวเบาตั้งแต่เริ่มต้น เป็นนรก

 

    นอกจากนี้ หากเป็นในแรงค์เดียวกันแล้ว『ชายเป่าขลุ่ยแห่งฮาเมลิน』จะแข็งแกร่งกว่า『หมาป่ากับลูกแพะทั้งเจ็ด』 ความแข็งแกร่งของอิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์『หมาป่ากับลูกแพะทั้งเจ็ด』จะอยู่ในระดับต่ำจนถึงปานกลาง

เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย

เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย

Score 10
Status: Completed
ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ในโลกคู่ขนานของญี่ปุ่น จู่ๆ เขาวงกตได้ปรากฏขึ้น ที่ซึ่งมอนสเตอร์โผล่ออกมา ในช่วงแรกเริ่มนั้นเขาวงกตไม่ได้ต่างอะไรไปจากภัยพิบัติ แต่สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปด้วยทรัพยากรที่เขาวงกตผลิต และตัวตนของ 'การ์ด' ที่ตกจากมอนสเตอร์ กลายเป็นช่วงแห่งการกอบโกย การ์ดมอนสเตอร์ที่สามารถอัญเชิญมอนสเตอร์ออกมาได้ดั่งใจนึก เหล่านักผจญภัยที่ใช้พลังของการ์ดเพื่อพิชิตเขาวงกต ถ่ายทอดสถานการณ์เหล่านั้นด้วยดันเจี้ยนTV, โคลอสเซียมที่มอนสเตอร์ต่อสู้กัน..... สิ่งเหล่านี้กระตุ้นความสนใจในตัวผู้คน แล้วก่อนที่จะรู้ตัวนักผจญภัยก็กลายเป็นอาชีพที่ผู้คนใฝ่ฝันจะเป็น คิทากาว่า・อุทามาโร่ เด็กม.ปลายสายม็อบ เห็นเพื่อนที่น่าจะเป็นสายม็อบเดียวกัน หลังจากที่เป็นนักผจญภัยแล้วกลับถีบตัวไปอยู่ในกลุ่มท็อบได้ จึงตัดสินใจที่จะเป็นนักผจญภัยด้วยตัวเอง อุทามาโร่ เพื่อที่จะได้แรร์การ์ดไปอวดทุกคนได้จึงเดิมพันชีวิตกับกาชาสุดบ้าระห่ำราคา 1 ล้านเยน ทว่า---?

Options

not work with dark mode
Reset