เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย 51 ห้ามปากคนไม่ให้คุยไม่ได้

ตอนที่ 51 ห้ามปากคนไม่ให้คุยไม่ได้

บทที่ 2 ตอนที่ 25

 

    วันเริ่มปฏิบัติการ ณ พื้นที่ปลอดภัยของชั้นล่างสุด

    พวกเราเข้ามาในเขาวงกตตั้งแต่เช้ามืดโดยปลอมตัวเป็นพนักงานส่งของของดันเจี้ยนมาร์ทแล้วทำการรอ

 

「รุ่นพี่ กำลังอ่านอะไรอยู่เหรอส์ค่ะ?」

「หืม? อา ก็แค่นิตยสารรายสัปดาห์น่ะ」

 

    เพื่อเป็นการฆ่าเวลาก่อนหน้าที่ปฏิบัติการจะเริ่ม จึงนำนิตยสารที่หยิบมาจากร้านสะดวกซื้อตอนเดินผ่านออกมาอ่าน อันนาจึงทำการทัก ที่อยู่ด้านหลังเธอคือโอริเบะที่ยืนอยู่อย่างเงียบๆ

 

「…..ตามสืบคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในเขาวงกต! หรือนี่จะเป็นพิธีกรรมอาชญากรรมที่ทำโดยลัทธิใดลัทธิหนึ่งงั้นเหรอ! ส์สินะคะ」

 

    อันนาอ่านออกเสียงพาดหัวของหน้าที่ผมกำลังอ่านอยู่

 

「สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นข่าวจนได้ล่ะนะ」

「ก็นะ เดาว่าการควบคุมข้อมูลของทางรัฐบาลเองก็คงไม่ได้สมบูรณ์แบบอะไร….. ในทุกวันนี้ที่มีอินเตอร์เน็ต เกิดมีอะไรรั่วไหลออกมาก็ไม่สามารถหยุดมันได้อีกแล้ว」

 

    2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์ภายในสังคมมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

    ข่าวที่เกี่ยวข้องกับคดีและข้อมูลที่น่าจะถูกปิดบังเอาไว้โดยรัฐบาลมาจนถึงตอนนี้ เริ่มมีการเผยแพร่

    ทุกอย่างมันเริ่มมาจากวิดีโอที่โพสบนเน็ตโดยครอบครัวของเหยื่อเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

 

    —-ลูกชายของฉัน ไม่ได้ถูกฆ่าโดยมอนสเตอร์ในเขาวงกต แต่ถูกนักผจญภัยคนอื่นโจมตี

 

    ออกมากล่าวเช่นนี้แล้วเผยแพร่จำนวนของนักผจญภัย 1 ดาวที่หายตัวไปใน 1 ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงสมุดพกที่ถูกทิ้งเอาไว้ของลูกชายที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นไดอิ้งเมสเซส และเรียกร้องให้มีการนำข้อมูลออกมา

    วิดีโอนี้กลายเป็นประเด็นร้อนบน SNS แล้วครอบครัว, เพื่อนฝูง, และคนรักของผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายๆกัน เริ่มออกมาพูดคนแล้วคนเล่า

    กระทู้ที่เริ่มจากแค่เว็ปบอร์ดที่ไม่ระบุชื่อแห่งหนึ่ง ถูกกระแสโหมติดลมบนจนกลายเป็นงานเทศกาล

    จากจุดนี้ พวกสื่อจึงไม่มีทางเลือกเว้นแต่ต้องออกมารายงานเรื่องคดี ทั้งนิตยสารและ TV เองก็เริ่มรายงานกันอย่างพร้อมเพรียง

    ในหมู่นั้น ด้วยไดอิ้งเมสเซสที่เหยื่อทิ้งเอาไว้ และค้นพบว่าเหยื่อหลายๆคนเป็นสมาชิกอยู่ในเซอร์เคิลนักผจญภัยที่มีความเกี่ยวข้องกับสมาคมพระแม่ดารา ตัวคดีก็ถูกปฏิบัติราวกับว่าได้ยืนยันผู้ที่ก่ออาชญากรรมเป็นสมาคมพระแม่ดาราไป

    จนในที่สุดไม่กี่วันที่เพิ่งผ่านมา เพื่อตอบสนองต่อความคิดเห็นสาธารณะ เหล่าตัวแทนและผู้บริหารของสมาคมพระแม่ดาราจึงถูกตำรวจสอบปากคำ

    พูดอีกอย่างคือ เป้าหมายของผู้ใช้หมาล่าเนื้อในการสร้างความสงสัยในตัวสมาคมพระแม่ดาราแก่สาธารณะ ได้สำเร็จแล้ว

    มีความกังวลว่าตัวผู้ใช้หมาล่าเนื้อที่บรรลุเป้าหมายไปแล้วจะหนีไปกบดาน แต่ไม่รู้ว่าด้วยโชคดีหรือโชคร้าย อาชญากรรมของเขายังดำเนินต่อไป

    หนึ่งในดันเจี้ยนทูเบอร์ที่พยายามสร้างเรตติ้งสูงๆ ไม่กลับมาขณะไปทำการถ่ายวิดีโอ

    บางทีตัวเขาคงจะคิดว่า ขณะที่เรื่องมันกำลังเป็นกระแสมากอยู่แบบนี้ คงไม่มีทางที่คนร้ายจะลงมือก่อเหตุต่ออีกแน่ๆ หรือไม่ก็หลงตัวเอง คิดว่าถ้าเป็นตัวเองคงไม่เป็นอะไร…..

    และตามเคย วิดีโอของเขาถูกทำลายด้วยเกรมลินจึงไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดว่าตัวเขาคิดอะไรอยู่แต่….. ปัญหาคือ เหล่าดันเจี้ยนทูเบอร์ระดับล่างเห็นว่ามันเป็นเรื่องน่าสนใจสุดๆ พากันลงเขาวงกตแบบเดียวกัน เอาตัวรอดกลับมาได้ แล้วก็โพสวิดีโอ ซึ่งมันก็กลายเป็นกระแสไวรัล

    นี่นำไปสู่สถานการณ์ที่ดันเจี้ยนทูเบอร์ระดับล่างเริ่มลงสำรวจเขาวงกตคนแล้วคนเล่า เพื่อที่จะให้มีอะไรมาเป็นหัวข้อพูดคุย

    ถึงแม้จะมีดันเจี้ยนทูเบอร์หลายคนที่ต้องตกเป็นเหยื่อ แต่ก็ไม่สามารถหยุดกระแสได้

    ผลลัพธ์ของมันราวกับว่าเป็นการประชด ทำให้ปฏิบัติการตัวล่อของพวกเราดูไม่ผิดธรรมชาติอะไรเลย

 

    …..จะยังไงก็แล้วแต่

    ชื่อของสมาชิกครอบครัวที่ออกมาโพสวิดีโอและเรียกร้องข้อมูลที่เป็นจุดเริ่มความวุ่นวายนี้ ก็คือชิชิโด

    ชื่อของเหยื่อที่กลายเป็นประเด็นร้อนว่า เป็นเด็กนักเรียนม.ปลายผู้กล้าหาญ ผู้ทิ้งไดอิ้งเมสเซสเอาไว้แม้จะถูกโจมตีโดยอาชญากรร้ายแรง ชิชิโด เลโอ

    แน่นอนว่าผมไปร่วมงานศพของชิชิโด และพ่อแม่ของเขาก็ไม่ได้กล่าวโทษด่าทอแม้แต่คำเดียว กลับกัน「ต้องขอขอบคุณที่อุตส่าห์รับเควสเพื่อค้นหาลูกชายของพวกเราถึงแม้จะมีความเสี่ยงก็ตาม」ถูกขอบคุณมา

    การที่ชิชิโดกลายเป็นนักผจญภัยนั้น มีอิทธิพลมาจากตัวผมอย่างแน่นอน

    งานศพของเขาไม่เพียงแค่นักเรียนจากโรงเรียนเราที่มาเข้าร่วมเท่านั้น แต่มีทั้งเพื่อนฝูงของเขาจากโรงเรียนม.ต้นและประถม รวมไปถึงเพื่อนนักเลงของเขาจากนอกโรงเรียนด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้รับรู้ว่าชิชิโดมีคนที่รักเขาอยู่มากขนาดไหน

    ตอนที่จุดธูปแสดงความอาลัย อิชิโจซังมีสีหน้าที่ราวกับโกรธ…..เหงาหงอย ซับซ้อนให้ความรู้สึกแปลกๆ

    ในขณะที่ผมกำลังเหม่อลอยนึกถึงงานศพของชิชิโดอยู่นั้น…..

 

「…..รุ่นพี่ คิดว่าปฏิบัติการตัวล่อนี้จะได้ผลไหมคะ?」

 

    อันนาพูดพึมพำถามออกมา ใบหน้านั้นแสดงถึงความกังวลและความกลัวไม่ว่ามันจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ตาม

    แน่นอนว่าหวังว่าปฏิบัติการมันจะสำเร็จ ไม่สามารถปล่อยให้ฆาตกรต่อเนื่องสุดโฉดลอยนวลต่อไปได้อีก

    แต่ว่า ถ้าเกิดผู้ใช้หมาล่าเนื้อติดกับตัวล่อของทางนี้ ก็จะต้องมาเผชิญหน้ากับฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าคนไปแล้วกว่า 100 คน…..

    เห็นความกลัดกลุ้มอยู่แจ่มชัดบนใบหน้าของเธอ

    ไม่สิ พอมองดูดีๆแล้วไม่ใช่แค่อันนา โอริเบะที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอก็เป็นเช่นกัน

    ตอนที่ยืนยันความตั้งใจที่ร้านกาแฟดูจะไม่ได้กลัวแต่ ในตอนนี้ที่การเผชิญหน้าใกล้เข้ามา บางทีอาจจะมารู้สึกตัวอีกครั้งว่าศัตรูนั้นมีความน่ากลัวมากขนาดไหน

    พอมาคิดดูแล้ว พวกเธอเองก็เป็นแค่เด็กนักเรียนม.ปลายปีแรก…..

    มีความแข็งแกร่งกว่าเด็กผู้หญิงทั่วไปอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าความกลัวจะหายไปหมด

    สาเหตุที่ผมยังคงความสงบไว้ได้ก็ด้วยเหตุผลง่ายๆว่าเพราะผ่านความยากลำบากมามากกว่าพวกเธอ

    ต่อสู้กับชายเป่าขลุ่ยแห่งฮาเมลิน และถูกโจมตีโดยผู้ใช้หมาล่าเนื้อ เป็นผมเองที่ผิดแปลกจากการเผชิญหน้ากับความตายถึง 2 ครั้งภายในระยะเวลาสั้นๆ นักผจญภัยทั่วไปหากทำอะไรด้วยความปลอดภัยแล้วก็ไม่มาเจอสถานการณ์อันตรายหรอก

    อันที่จริง ถ้าหากเจอสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันก็แค่ตายไปก็เท่านั้น เดาว่าไม่มีโอกาศครั้งที่ 2 ให้

    ถึงแม้ว่าจะมีอายุงานของนักผจญภัยที่มากกว่าผม แต่บางทีคงจะไม่เคยเข้าใกล้ความตายจริงๆมาก่อน

    เนื่องจากอันนาเป็นลูกสาวของประธานบริษัท คงจะมีแนวทางการรับมืออันสมบูรณ์แบบอยู่ โอริเบะเองก็ฉลาด ทักษะการคำนวณความเสี่ยงมีดีมากกว่าผมอีก

    บางทีแล้ว นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่พวกเธอต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย

    …..หากเกิดกรณีฉุกเฉิน ต่อให้ต้องตายก็ต้องให้พวกเธอหนีไปให้ได้ นี่ก็คือหน้าที่ของผมในฐานะรุ่นพี่ และในฐานะลูกผู้ชายล่ะ

    ด้วยความคิดเช่นนั้น ผมจึงเผยรอยยิ้มออกไปอย่างไม่เกรงกลัว

 

「อะไรกันล่ะนั่น กลัวเหรอ? ไม่เป็นไร วางใจเถอะน่า…..มีอาจารย์มืออาชีพอยู่ทั้งคน」

 

    พอผมยืดอกพูดออกไปด้วยความภูมิใจ ทั้ง 2 คนก็มีสีหน้าตกตะลึงชัดเจน

 

「เอ๋~? ตรงนี้มันต้องเป็นมีผมอยู่ด้วยทั้งคนสิ! ไม่ก็ ผมจะปกป้องด้วยชีวิตเอง! จะไม่พยายามพูดแบบนั้นหน่อยส์เหรอคะ?」

「พูดเรื่องอะไรกัน แทนที่จะเป็นหน้าม็อบตัวประกอบอย่างผม สู้ใช้ชื่อพวกหน้าหล่อมันจะน่าจูงใจมากกว่าไม่ใช่รึไง? แถมยังเป็นมืออาชีพด้วย」

 

    แล้วอันนาก็ -ห๊ะ- เบิกตากว้าง ทำการจ้องมองผม

 

「…..จริงด้วยล่ะ!」

「โอ่ย」

 

    ถึงผมจะเป็นคนพูดเองก็เถอะ แต่มาเห็นด้วยกันโจ่งแจ้งแบบนั้นก็รู้สึกหงุดหงิดนะ…..

    พอจ้องกลับไปเล็กน้อย อันนาก็ส่งรอยยิ้มหยอกล้อมา

 

「ก็แหม~ ก็มันจริงนี่นาที่รุ่นพี่มีหน้าม็อบตัวประกอบ」

「กุนุนุ…..ตัวเองก็แค่มีหน้าตาดูดีนิดหน่อยล่ะน้า~」

 

    พอพูดไปแบบนั้น โอริเบะก็เอามือมาวางที่ไหล่ของผม

 

「ไม่จำเป็นต้องเศร้าไปหรอกค่ะรุ่นพี่ อาจจะมีใบหน้าม็อบตัวประกอบก็จริงแต่รุ่นพี่ก็มีจุดขายที่พลังจิตสื่อวิญญาณอยู่ไม่ใช่เหรอค่ะ」

 

    ไม่สิ ต่อให้ถูกชมแบบนั้นมาก็เถอะ…..ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆให้ บอกตามตรงว่าเป็นความสามารถที่ไม่ค่อยน่าดีใจซักเท่าไหร่

    …..แต่เอาเถอะ ก็เท่านั้นแหละ ดูเหมือนว่าพวกอันนาจะผ่อนคลายลงแล้ว

 

「แต่ว่า คุณพี่สาวของรุ่นพี่คันนาซูกิที่เป็นเหยื่อล่อจะไม่เป็นอะไรเหรอ?」

「ไม่เป็นอะไรหรอก ก็เป็นถึงพี่สาวของอาจารย์ แล้วเหนือสิ่งอื่นใดยังเป็นอดีตกองกำลังป้องกันตัวเองด้วยนี่นา」

 

    ก่อนหน้าที่จะเริ่มปฏิบัติการ ก็ได้เจอหน้ากับพี่สาวของอาจารย์…..อากิระซังที่รับหน้าที่เหยื่อล่อแล้ว เป็นสาวสวยที่มีหน้าตาที่ไม่สามารถระบุเพศได้ ตรงกันข้ามกับอาจารย์อย่างสิ้นเชิง

    ในขณะที่อาจารย์มีความสวยงามที่ไม่สามารถระบุเพศด้วยลักษณะที่ไม่ทั้งกำยำหรืออ้อนแอ้น คุณพี่สาวนั้นตัวสูงและมีร่างกายที่ฝึกฝนมาอย่างดีราวกับนักเล่นกล้ามหญิง แต่ก็มีหน้าอกและบั้นท้ายที่ใหญ่ มีเสน่ห์ของผู้หญิงแต่ก็ยังมีบรรยากาศแบบผู้ชายอยู่ด้วย

 

「ถ้าคุณพี่น่ะไม่เป็นอะไรหรอก」

 

    ในตอนนั้นเอง อาจารย์ที่กำลังทำหน้าที่อยู่ห่างๆก็ร่วมบทสนทนา

    หน้าที่ก็คือ ตรึงจ้าวแห่งเขาวงกตเอาไว้

    ถ้าหากจ้าวแห่งเขาวงกตถูกจัดการลง เกทสำหรับกลับจะปรากฏ

    เมื่อเป็นเช่นนั้น ประตูที่อยู่ด้านหน้าเกทจะถูกล็อคเอาไว้จนกว่าจ้าวแห่งเขาวงกตจะกำเนิดขึ้นมาใหม่ ทำให้นักผจญภัยคนใหม่ไม่สามารถเข้าเขาวงกตได้ ถึงจะรู้สึกผิดต่อเฮลล์ฮาวด์คุงจ้าวแห่งเขาวงกตอยู่ แต่ก็ได้ตัดสินใจหักแขนขาแล้วตรึงตัวเอาไว้

 

「เป็นคนที่ต่อให้ฆ่าก็ฆ่าไม่ตายหรอก อย่างที่รู้ๆกันว่ามันมีเส้นแบ่งระหว่างกองกำลังป้องกันตัวเองกับนักผจญภัยอยู่นั่นแหละ」

 

    อ้างอิงจากอาจารย์ ลิงค์นั้น ดั้งเดิมแล้วเป็นเทคโนโลยีของกองกำลังป้องกันตัวเองที่รั่วไหลออกมาสู่ภาคเอกชน

    เพราะแบบนั้น ระดับการฝึกของกองกำลังป้องกันตัวเองที่ถูกฝึกอย่างทะลุปรุโปร่งถึงวิธีการใช้งานลิงค์ กับนักผจญภัยพลเรือนที่ได้แค่หยิบจับเทคโนโลยีที่รั่วไหลจึงแตกต่างกัน….. ความแตกต่างของทักษะมันห่างชั้นกัน

    แน่นอนว่าอาจารย์เอง ได้เรียนรู้ลิงค์มาจากคุณพี่สาวอากิระซัง แต่ว่าที่ได้เรียนรู้ก็แค่สิ่งที่รั่วไหลออกมาสู่สาธารณะแล้วเท่านั้น อย่างอื่นนอกเหนือจากนั้นยังถูกเก็บเป็นความลับ ไม่ถูกสอนให้

    หรือก็คือ อากิระซังสามารถใช้ทักษะที่เหนือไปยิ่งกว่านั้นได้

 

「แต่ว่า ต่อให้จะเก่งเรื่องลิงค์มากขนาดไหนก็ตาม ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของการ์ดมันก็แย่ได้อยู่ส์ไม่ใช่เหรอคะ?」

「ถ้าเรื่องนั้นก็ไม่เป็นอะไรหรอก เพราะดูเหมือนว่าจะได้รับการ์ดแรงค์ B แลกเปลี่ยนกับสวัสดิการหลังเกษียณมาน่ะ」

 

    ภายในกองกำลังป้องกันตัวเอง การ์ดจะถูกจัดสรรให้ตามยศและความสามารถ แต่ก็ได้ยินมาว่าสามารถรับมอบการ์ดเหล่านั้นออกมาได้ตอนเกษียณ

    เงินเดือนของกองกำลังป้องกันตนเองซึ่งเป็นข้าราชการพลเรือนของประเทศ จะถูกกำหนดเอาไว้ด้วยกฏหมาย ซึ่งไม่มีข้อยกเว้นแม้แต่กับสมาชิกทีมที่ต้องทำงานในเขาวงกตที่อันตราย พวกเขาอาจจะได้รับเบี้ยเลี้ยง แต่ในด้านของรายได้แล้ว นักผจญภัยได้เยอะกว่ามาก

    พวกเขาถูกบังคับให้รับการฝึกอันแสนเข้มงวด, ต้องอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์มากมาย, และเงินเดือนที่ได้ยังต่ำยิ่งกว่านักผจญภัยทั่วไปมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่รอดไปได้นาน

    ตรงนั้นเองที่ทางรัฐบาลเตรียมขนมหวานเอาไว้ ในช่วงเวลาที่เกษียณ การ์ดจะถูกมอบให้โดยอิงจากระยะเวลาที่รับใช้ชาติและผลงาน

    ในกองกำลังป้องกันตัวเอง การ์ดที่ถูกจัดสรรในการทำภารกิจจะมีขั้นต่ำที่แรงค์ C และขึ้นอยู่กับความสามารถ คุณอาจจะได้รับจัดสรรการ์ดแรงค์ B มาให้

    ดูเหมือนว่าถ้าหากเป็นการ์ดแรงค์ C 1 ใบ จะสามารถได้รับมอบมาหากรับใช้ชาติเป็นเวลา 3 ปี ถ้าหากว่าต้องการจะเป็นนักผจญภัยแล้วล่ะก็ มันก็มีแนวคิดช่องทางที่เร็วกว่าอย่างการเข้าร่วมกองกำลังป้องกันตัวเองเป็นเวลาไม่กี่ปี แทนที่จะทำงานอย่างหนักเพื่อสะสมเงินอยู่

    แน่นอนว่าหากทำผลงานได้ดีขณะที่ยังอยู่ภายในกองกำลัง ทั้งจำนวนและแรงค์ของการ์ดที่จะได้รับมอบก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

    ดูเหมือนว่าจะมีคนเก่งๆบางคนในนั้นที่ได้รับมอบการ์ดแรงค์ B มาภายในเวลาไม่ถึง 10 ปี แนวคิดที่ว่าสามารถได้รับการ์ดแรงค์ B มาภายในเวลา 10 ปีจึงเป็นข้อเสนอที่ดูน่าสนใจทีเดียว

    อากิระซังที่เห็นได้ชัดว่าอายุ 20 กลางๆ ด้วยความจริงที่ว่าได้รับมอบการ์ดแรงค์ B มาทั้งๆที่อายุยังน้อย นั่นหมายความว่าเป็นคนที่มีความสามารถมาก

 

「อย่างงี้นี่เอง ถ้าเป็นงั้นก็คงไม่เป็นอะไรส์ล่ะนะ」

 

    ในขณะที่อันนาพูดอยู่ตอนนั้นเอง -ปิ๊บปิ๊บปิ๊บปิ๊บ-! เสียงสัญญาณเตือนก็ดังขึ้น

 

「…..ดูเหมือนจะได้เวลาเริ่มปฏิบัติการแล้วล่ะนะ」

 

    อาจารย์บอก

    จากตรงนี้ไป นักผจญภัยเหยื่อล่อจะเว้นระยะเวลาค่อยๆเข้าวงกตไปเรื่อยๆ

    สาเหตุที่ต้องเว้นระยะเวลาก็เพราะถ้าเริ่มเข้าเขาวงกตพร้อมๆกันหมดมันจะสะดุดตาเกินไป

    อากิระซังมีลำดับในการเริ่มเข้าเขาวงกตในอีก 2 ชม. แต่มันก็มีโอกาศที่ผู้ใช้หมาล่าเนื้อจะติดกับเหยื่อล่อคนอื่นแล้วทำการเคลื่อนย้ายหนีไปอีกเขาวงกตอยู่ เพราะงั้นจึงต้องเตรียมพร้อมเอาไว้

    ผมที่คิดแบบนั้นจึงกำลังจะเรียกเร็นกะกับยูคิที่เล่นลูกบอลเคมาริ*กันอยู่ไม่ไกลนัก และในตอนนั้นเอง

 

『!?』

 

    จู่ๆ แรงสั่นสะเทือนขนาดใหญ่ก็เข้ามาปะทะพวกเรา

    แผ่นดินไหว!? บ้าน่า เขาวงกตมันไม่น่าจะมีแผ่นดินไหวนี่นา!

    การสั่นสะเทือนรุนแรงมากจนถึงขั้นไม่สามารถทนยืนอยู่ได้ เมื่อพวกเราหมอบคลานอยู่กับพื้น ที่ว่างในอากาศค่อยๆบิดเบี้ยวไปต่อหน้าต่อตาพวกเรา

    นี่มัน…..หรือว่า ผู้ใช้หมาล่าเนื้อเคลื่อนย้ายมาที่นี้! บ้าน่า เร็วเกินไปแล้ว!

    กว่าเหยื่อล่อจะเริ่มเข้าเขาวงกต แล้วศัตรูที่ดูลาดเลารายงานกลับไป แล้วกว่าผู้ใช้หมาล่าเนื้อจะมาถึงอีก มันน่าจะยังพอมีเวลาเหลืออยู่อีกนี่นา!

    นี่มัน เพิ่งจะเริ่มเข้ากันมาเอง!…..หรือว่า

    ในตอนที่ผมนึกคำตอบได้ อาจารย์ที่น่าจะได้คำตอบเช่นเดียวกันจึงตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิด

 

「โธ่เว้ย! มีทีมอื่นชิงลงมือไปก่อนแล้ว…..!」

 

    ถ้าหากว่าผู้ใช้หมาล่าเนื้อรออยู่ใกล้ๆกับเขาวงกตอยู่เสมอล่ะก็ เหยื่อล่อที่น่าจะมีโอกาศมาติดกับมากที่สุดก็ต้องเป็นลำดับแรก และทีมที่น่าจะมีโอกาศจับได้มากที่สุด ก็แน่นอนว่าต้องเป็นทีมของเหยื่อล่อคนแรกที่ติดกับ

    ได้ยินมาว่าตอนที่มีการตัดสินใจลำดับการเข้าไปของเหยื่อล่อ มีการถกเถียงกันอย่างหนักว่าใครจะเป็นคนแรก

    ถ้าหากว่ามีทีมที่ต้องการรางวัล MVP 2 พันล้านแล้วเมินตารางเวลาในการส่งเหยื่อล่อออกไปแล้วล่ะก็…..!

 

「อุทามาโร่!」「มาสเตอร์!」

 

    ในตอนนั้นเองที่พวกเร็นกะซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกลนักรีบวิ่งเข้ามาหาผม

    กับพวกเธอที่มีสีหน้าเคร่งเครียดจึงบอกสถานการณ์คร่าวๆออกไป

 

「…..ผู้ใช้หมาล่าเนื้อจะมาแล้ว! เตรียมตัวให้พร้อม!」

 

    ผมตะโกนออกไป แต่ทว่าเร็นกะนั้น—-

 

「ไม่ใช่เรื่องนั้น! สัมผัสนี่มัน…..อิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์ต่างหาก!」

 

    ตะโกนกลับมาเช่นนั้น

 

 

 

 

【Tips】ซีเคร็ทลิงค์(Secret Link)

    เทคโนโลยีที่เรียกว่าลิงค์นั้น ดั้งเดิมทีถูกใช้ในทางทหารแต่ได้มีการรั่วไหลออกมาสู่สาธารณะ เมื่อลิงค์กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างของนักผจญภัยแล้ว ทางรัฐบาลจึงตัดสินใจว่าสมควรที่จะแบ่งปันเทคโนโลยี ที่ซึ่งมีการรั่วไหลออกไปสู่สาธารณะแล้วให้แก่ครอบครัวและเพื่อนสนิท โดยมีเงื่อนไขว่าไม่แพร่กระจายไปอย่างพร่ำเพรื่อ

    ทว่าเทคโนโลยีที่สูงเกินไปกว่านั้นยังคงถูกควบคุมไว้อย่างเข้มงวด ซึ่งลิงค์เหล่านั้นที่ว่ากันว่าสามารถใช้โดยผู้มีประสบการณ์ทางการทหารเท่านั้นและถูกเรียกว่าซีเคร็ทลิงค์

 

 

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

เคมาริ – การละเล่นเดาะลูกบอลหนังของญี่ปุ่นสมัยโบราณ

https://en.wikipedia.org/wiki/Kemari

เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย

เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย

Score 10
Status: Completed
ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ในโลกคู่ขนานของญี่ปุ่น จู่ๆ เขาวงกตได้ปรากฏขึ้น ที่ซึ่งมอนสเตอร์โผล่ออกมา ในช่วงแรกเริ่มนั้นเขาวงกตไม่ได้ต่างอะไรไปจากภัยพิบัติ แต่สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปด้วยทรัพยากรที่เขาวงกตผลิต และตัวตนของ 'การ์ด' ที่ตกจากมอนสเตอร์ กลายเป็นช่วงแห่งการกอบโกย การ์ดมอนสเตอร์ที่สามารถอัญเชิญมอนสเตอร์ออกมาได้ดั่งใจนึก เหล่านักผจญภัยที่ใช้พลังของการ์ดเพื่อพิชิตเขาวงกต ถ่ายทอดสถานการณ์เหล่านั้นด้วยดันเจี้ยนTV, โคลอสเซียมที่มอนสเตอร์ต่อสู้กัน..... สิ่งเหล่านี้กระตุ้นความสนใจในตัวผู้คน แล้วก่อนที่จะรู้ตัวนักผจญภัยก็กลายเป็นอาชีพที่ผู้คนใฝ่ฝันจะเป็น คิทากาว่า・อุทามาโร่ เด็กม.ปลายสายม็อบ เห็นเพื่อนที่น่าจะเป็นสายม็อบเดียวกัน หลังจากที่เป็นนักผจญภัยแล้วกลับถีบตัวไปอยู่ในกลุ่มท็อบได้ จึงตัดสินใจที่จะเป็นนักผจญภัยด้วยตัวเอง อุทามาโร่ เพื่อที่จะได้แรร์การ์ดไปอวดทุกคนได้จึงเดิมพันชีวิตกับกาชาสุดบ้าระห่ำราคา 1 ล้านเยน ทว่า---?

Options

not work with dark mode
Reset