เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย 45 ขอค้าน!

ตอนที่ 45 ขอค้าน!

บทที่ 3 ตอนที่ 19

 

    ที่พวกเราทำการเริ่มสืบข้อมูลผู้สูญหายก็ผ่านมาแล้ว 2 อาทิตย์

    ถึงตอนนี้ก็ทำเควสไปแล้วหลายอันแต่ก็ยังไม่เจอเบาะแสชิ้นใหญ่อะไร ทางโอริเบะก็ยังไม่เจอสิ่งนั้นที่มองหาอยู่

    เหล่าผู้ตกเป็นเหยื่อมีทุกช่วงอายุและเพศ แถมไม่เหมือนกับซาโต้ โชโกะซังที่ไม่มีความเกี่ยวโยงกับสมาคมพระแม่ดารา

    ประเภทของเขาวงกตเองก็มีหลากหลาย ถ้าต้องให้เดาล่ะก็ มีนักผจญภัยมือใหม่จริงๆที่เพิ่งจะลงทะเบียนเป็นนักผจญภัยได้ไม่เกิน 1 เดือนอยู่จำนวนมาก…..

    ในหมู่นั้น มีที่หายตัวไปในขณะที่พยายามพิชิตเขาวงกตครั้งแรกด้วยซ้ำ

    เพียงแต่ พวกเขาและพวกเธอได้ถูกผู้ใช้หมาล่าเนื้อโจมตีไม่ผิดแน่

    นั่นก็เพราะ เหล่าผู้ตกเป็นเหยื่อถูกทำลายเครื่องจักรกันหมดไม่มียกเว้น

    …..แต่ นอกเหนือจากนั้นแล้วก็ไม่สามารถหาอะไรเจอเพิ่มเติม การค้นหาเรื่องเกรมลินจากคอนเนคชั่นของอันนาก็ยังคงดำเนินอยู่และต้องใช้เวลา

    ยังไงก็ตาม ในการค้นหาที่ทำมาทั้งหมดนั้น ผมได้เห็นวิญญาณ…..หรือต้องบอกว่าความคิดที่ยังหลงเหลืออยู่ของพวกเขาเหล่านั้น

    ทำไมจู่ๆพลังจิตสื่อวิญญาณถึงได้ตื่นขึ้น ทำไมถึงเห็นได้แค่วิญญาณของผู้ตกเป็นเหยื่อของผู้ใช้หมาล่าเนื้อ ทำไมถึงมองไม่เห็นภายนอกเขาวงกต…..

    ปริศนายิ่งซับซ้อนมากขึ้นแต่ตอนนี้ตัดสินใจมองแง่บวกเอาว่าการสืบสวนยังราบรื่นไปได้ด้วยดีละกัน

    มีความสงสัยอยู่ว่ามันได้คืบหน้าไปบ้างรึเปล่า….. ในขณะที่ใช้เวลาอยู่นานไปกับความรู้สึกไม่เข้าใจและสับสนอยู่นั้นเอง…..

    วันของการแข่งมอนโคโลของผมก็มาถึง

 

 

    ภายในห้องรอของผู้เข้าแข่งขัน ผมจ้องมองไปที่การ์ดอยู่เงียบๆ

    ในมือของผมมีการ์ดของยูคิกับซุซูกะ แล้วก็เมอาที่ยังคงเป็นโซลการ์ด

    ขณะที่มองไปที่การ์ดของเมอาที่ซีดเป็นสีเทา ผมก็ถอนหายใจเล็กๆออกมา

    ถ้าเป็นไปได้…..ก็อยากจะชุบชีวิตพวกเร็นกะออกมาพร้อมกัน

    หากคิดตามสามัญสำนึก มันจะดูมีเหตุผลมากกว่าที่จะชุบชีวิตให้กับใบที่สามารถชุบชีวิตได้ก่อน

    แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากจะชุบชีวิต อยากจะต้อนรับกลับมาพร้อมๆกัน

    แต่ว่า『แคทไฟท์』จำเป็นต้องใช้การ์ดสาวมอน 3 ใบ

    ไม่ว่าจะยังไงก็จำเป็นต้องมีการ์ดสาวมอนอีก 1 ใบ

    ทว่าอันนาดูจะมีความคิดอะไรบางอย่างกับเร็นกะและเอลิซ่า การชุบชีวิตพวกเธอจึงต้องรอออกไป ดังนั้นแล้วเพื่อที่จะเข้าร่วมการแข่ง จึงต้องชุบชีวิตเมอาให้เร็วที่สุด

    ในตอนนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังขึ้นแล้วสต๊าฟก็มองเข้ามา

 

「คิทากาว่าซา~ง? การแข่งกำลังจะเริ่มแล้ว ช่วยเตรียมพร้อมด้วยนะครับ」

「…..ครับ」

 

    ผมส่ายหัวสลัดเอาความลังเลออกไปแล้วทำการชุบชีวิตการ์ดเมอา

    การ์ดเอ็มพูซ่าที่ใช้ชุบชีวิตหายไปราวกับกำลังละลาย และการ์ดของเมอาก็ค่อยๆมีสีกลับคืน

 

「เอาล่ะ ไปกันเถอะ」

 

    แล้วผมก็ออกมาจากห้องรอ

 

 

『เวลาของค่ำคืนนี้ก็มาถึงอีกครั้งแล้วครับ! การต่อสู้ที่จำกัดแค่สาวมอนสเตอร์ร่างมนุษย์ แคทไฟท์! เหล่าสาวมอนที่สวยงามและน่ารัก มาห้ำหั่นกันอย่างงดงาม! การ์ดใบไหนกันที่จะเจิดจรัสและแข็งแกร่งที่สุด!

    ผู้บรรยายสดคือผม ยูยะ ซาโต้ ทางผู้ให้ความเห็นคือโทโร่มากุโร่ซังที่คุ้นเคยครับ

    เช่นนั้นแล้วมาแนะนำตัวผู้เข้าแข่งขันกันเลยครับ! ตั้งแต่เปิดตัวก็ชนะมาอย่างต่อเนื่อง! ไม่สามารถเรียกว่าเด็กใหม่ได้อีกต่อไป! ผู้เข้าแข่งขันทาคิทากาว่ามาแล้วคร้า-บ!』

 

    พร้อมกับกับเสียงบรรยายสด ผมค่อยๆเข้าไปในพื้นที่จัดแข่ง

    สามารถได้ยินเสียงเชียร์จากแฟนขาประจำที่ได้เริ่มก่อตัวมาตั้งแต่การแข่งรอบก่อน และก็ยังมีเสียงโห่จากกลุ่มต้านแต่ก็เป็นส่วนน้อย

 

『ต่อไป ในคืนนี้จะเป็นการแข่งรอบเปิดตัว! เพื่อที่จะเป็นกราดิเอเตอร์แล้วถึงกับออกจากงานที่ทำเพื่อเป็นนักผจญภัย ด้วยสายอาชีพอันเป็นเอกลักษณ์ที่แค่ครึ่งปีก็ได้เปิดตัวในมอนโคโล! ผู้เข้าแข่งขัน ซูโนฮาร่า ไทโย(砂原太陽) มาแล้วคร้า-บ!』

 

    …..เป็นการแข่งรอบเปิดตัวงั้นเหรอ ต้องขอโทษด้วยแต่ผมเองก็จะแพ้ไม่ได้ คงต้องมอบความพ่ายแพ้ให้กับรอบเปิดตัวซะแล้ว…..

    พอคิดแบบนั้นผมก็จ้องมองไปที่ประตูของฝั่งตรงข้าม แล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อได้เห็นผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าปรากฏตัวออกมา

    รูปลักษณ์ของผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าสามารถสรุปได้ด้วยคำเดียว…..ฟาโรห์ล่ะ

    ร่างกายผิวสีแทนที่ฝึกฝนมาอย่างดี เปลือยครึ่งท่อนบน สวมใส่แค่เครื่องประดับทองและผ้าเตี่ยว ที่ศรีษะสวมเกราะหัวในแบบของตุตันคามุน

    ด้วยรูปลักษณ์อันแปลกประหลาดนั้น ทำให้เกิดเสียงอื้ออึงในพื้นที่จัดงานทันที

    กราดิเอเตอร์ของมอนโคโลนั้น เป็นเรื่องปกติที่มักจะสวมใส่ชุดคอสเพลย์เพื่อสร้างคาแรคเตอร์ แต่ว่าชุดสุดแหวกแนวขนาดนี้…..แถมยังเป็นแค่การแข่งรอบเปิดตัว เพิ่งจะเคยเห็นแบบนี้เป็นครั้งแรก

 

『…..อ-โอ้~ นี่มัน ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่า ดูกระตือรือร้นมากเลยนะครับ นี่มัน…..คอสเพลย์ฟาโรห์สินะครับ』

『ด-ดูจะเป็นเช่นนั้นครับ กราดิเอเตอร์ที่ทำชุดพิเศษเพื่อให้เข้ากันกับการ์ดเองก็มีอยู่เหมือนกัน แต่ว่านี่…..ดูจัดเต็มมากนะครับเนี่ย』

 

    ทางความเห็นกับการบรรยายสดดูจะขาดๆไปเล็กน้อย

    ถึงแม้จะทำให้ผู้ชมถึงกับอึ้ง แต่ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่ากลับมีความมั่นใจพร้อมสีหน้าดูมั่นเอามาก ราวกับจะบอกว่าไม่มีอะไรที่ต้องอายเลยซักนิด

    หากมองดูดีๆก็ออกจะเป็นหนุ่มหล่อพอใช้ได้ แต่ข้างในอาจจะเป็นประเภทที่น่าผิดหวังล่ะมั้ง

 

『เอาล่ะ ถ้าเช่นนั้นเตรียมตัวเตรียมใจแล้วมาเริ่มการแข่งขันกันดีกว่าครับ! ทั้ง 2 ท่าน กรุณาอัญเชิญการ์ดออกมาได้เลยครับ!』

 

    พร้อมกันกับเสียงระฆัง ผมก็ได้อัญเชิญยูคิ, ซุซูกะ, และท้ายสุดเมอาออกมา

    เมื่อรอบข้างเห็นมอนสเตอร์ที่ผมอัญเชิญ ก็เกิดเสียงอื้ออึงพร้อมด้วยความสับสน

 

『โอ๊ตโตะ? ผู้เข้าแข่งขันคิทากาว่า มองไม่เห็นซาชิกิวาราชิกับแวมไพร์อย่างที่เคยเลยครับ!』

『ดูเหมือนหน้าใหม่ 2 ใบจะเป็นไลแคนโทรปกับคนยักษ์สินะครับ กำลังพยายามมองหาการผสมผสานใหม่ๆงั้นเหรอ นึกว่ามีซาชิกิวาราชิเป็นแกนหลักของปาร์ตี้เสียอีก แบบนี้ทำเอาคาดไม่ถึงเลยนะครับ』

『มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นรึเปล่านะครับ? แต่ไม่ว่าจะยังไง การ์ดสาวมอนใหม่ๆนี่ยินดีต้อนรับเสมอครับ!』

 

    ขณะที่ที่นั่งการบรรยายสดกำลังทำการคาดเดาอยู่ที่อื่น ผมก็ทำการจ้องเขม็งไปที่เมอา

    เมอาที่ปรากฏตัวมาพร้อมกับแสงสว่างทำการกรอกตามองไปรอบๆแล้วจึงรู้สึกตัวถึงทางนี้

 

『มาสเตอร์…..ที่นี่คือ…..』

『มอนโคโลล่ะ…..ตั้งแต่ตอนนั้น ผ่านมาแล้วเกือบ 2 อาทิตย์ได้』

『2 อาทิตย์…..แล้วพวกเร็นกะ?』

『ยังไม่ได้ชุบชีวิตให้เลย』

 

    เมอาได้ยินดังนั้นก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย

 

『งั้นเหรอ…..เน่ มาสเตอร์』

『…..มีอะไรเหรอ?』

『ชั้น…..จะไม่ยอมถ่วงแข้งถ่วงขาอีกเป็นครั้งที่ 2 ล่ะ』

 

    ดวงตาสีฟ้าเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นแรงกล้ากำลังจ้องเขม็งมาทางนี้

    ในเวลาเดียวกันนั้น การ์ดที่อยู่ในมือก็เรืองแสง

    ถึงไม่ต้องมองดูก็รู้ว่าเป็นการ์ดของใคร…..เมอาล่ะ

    ชื่อของสกิลที่ถูกสลักขึ้นมาใหม่ก็คือ เคล็ดการอยู่รอด

    พอได้เห็นชื่อ ผมก็ถึงกับเผลอเปิดตากว้าง นั่นก็เพราะมันเป็นสกิลที่โด่งดังเอามากๆ แม้จะไม่ต้องเปิดแอปดูก็สามารถเข้าใจได้

    ผมของมันคือ『เมื่อได้รับความเสียหายถึงตาย จะสามารถหลีกเลี่ยงการลอสได้โดยคงเหลือพลังชีวิตเอาไว้เล็กน้อย』ตามนี้

    เป็นสกิลที่ว่ากันว่าเมื่อตัวการ์ดนั้นๆได้รับการชุบชีวิตหลังจากการลอสจะมีโอกาศได้รับที่ยากมาก….. ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาในครั้งเดียว นี่หมายความว่าความรู้สึกของเธฮนั้นลึกซึ้งเอามากๆ…..

    -กึด-จับการ์ดอย่างแน่นแล้วพูดออกไป

 

『อา…..ผมเองก็ด้วย จะไม่ให้เห็นสภาพนั้นอีกแล้ว』

『นิฮิฮิ! ถ้าอย่างนั้นก็มาเาอชนะการแข่งขันนี่ แล้วเอาเงินไปชุบชีวิตยัยบ้านั่นกับเอลิซ่ากันเถอะ!』

 

    ทำการแลกเปลี่ยนสายตากันกับเมอาแล้วจึงหันไปมองผู้เข้าแข่งขันฝ่ายตรงข้าม แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง อีกฝ่ายยังไม่ได้ทำการอัญเชิญการ์ดใดๆออกมาเลย ทำเพียงแค่มองมาทางนี้แล้วก็ยิ้ม

 

『โอ๊~ตโตะ? ไม่รู้ว่าทำไมผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่ายังไม่ทำการอัญเชิญการ์ดออกมาเลยครับ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?』

 

    เมื่อผู้บรรยายพูดด้วยความสงสัย ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าก็ทำการพูดมาทางนี้

 

「ฟุฟุฟุ มนุษย์หมาป่าสาวนักกีฬา, ปีศาจสาวอกใหญ่สุดยั่วยวน, แล้วก็ปีศาจฝันโลลิ…..จริงอยู่ว่าเป็นเหล่าสาวมอนสเตอร์ที่ดูน่าหลงไหลมากแต่ว่า…..มันก็เท่านั้นแหละ ไม่มีความเข้ากันเลย!」

「…..ว่าอะไรนะ?」

 

    จู่ๆผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าก็วิจารณ์ปาร์ตี้ของทางนี้ ทำให้ผมเกิดความงุนงง

 

「ที่จะบอกก็คือ การเอาสาวมอนสเตอร์น่ารักๆมารวมตัวกันเฉยๆน่ะ ใครๆมันก็ทำได้ทั้งนั้น! จงออกมา! ข้ารับใช้ของข้า!」

 

    ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าประกาศออกมาเสียงดังแล้วอัญเชิญการ์ด

    ที่โผล่มาตัวแรกนั้น มีท่อนล่างเป็นสิงโตส่วนท่อนบนเป็นหญิงสาวสวยและมีปีกของอินทรี มอนสเตอร์แรงค์ C …..สฟิงซ์(Sphinx)ล่ะ

    ร-เริ่มมาก็การ์ดแรงค์ C เลยเรอะ…..!

    ขณะที่ผมทำการเตรียมพร้อมกับสิ่งที่อยู่ด้านหน้า การ์ดใบต่อไปก็ถูกอัญเชิญ

    ที่ปรากฏออกมานั้น…..เป็นสาวสวยผิวสีแทนในชุดของขาวอียิปต์โบราณ มีหูแมวอยู่ที่ด้านบนศรีษะ ในมือถือโล่และอะไรบางอย่างที่ราวกับเป็นเครื่องดนตรีที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    นั่นมันหรือว่า…..บาสเตท(Bastet)!?

    ย-แย่แล้ว ทีนี้ก็เป็นการ์ดแรงค์ C ใบที่ 2

    จู่ๆก็ถูกกดดันด้วยจำนวนของการ์ดแรงค์ C ทำให้ผมตื่นตระหนกไปครู่หนึ่ง แต่ก็ดึงสติกลับคืนมาได้

    ไม่หรอก ยังไม่เป็นอะไร ยูคิน่ะ ยังพอมีพลังเพียงพอที่จะรับมือการ์ดแรงค์ C 2 ใบได้ถ้าหากว่าใช้สกิลที่มีอย่างเต็มที่

    แต่ไหนแต่ไร การ์ดแรงค์ C ในแคทไฟท์โดยเฉลี่ยแล้วจะมี 1 ~ 2 ใบ ยังพออยู่ในขอบเขตที่คาดการ์ดไว้

    …..ความสุขุมที่ผมมีอยู่นั้น ได้ถูกเป่าหายไปเมื่อได้เห็นการ์ดใบต่อมา

 

「นะ…..!?」

 

    การ์ดใบสุดท้ายที่ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าเรียกออกมานั้นก็คือ หญิงสาวสวยผิวสีน้ำตาลที่มาพร้อมกับตัวตนอันล้นหลาม

    นี่มัน….มีลักษณะแบบเดียวกันกับเร็นกะตอนที่เป็นคิชโชเต็งเลย…..

    เหงื่อไหลแตกพลั่กให้กับตัวตนของเทพอันเด่นชัด ค้นหาตัวตนที่แท้จริงของศัตรู—-ใช้เวลาไม่นานก็รู้ได้ถึงตัวจริง

    สาเหตุก็เพราะ การ์ดนั้น ก่อนที่จะมาเป็นนักผจญภัย เป็นการ์ดในฝันที่อยากจะได้อยู่เสมอ

    สิ่งแรกที่เตะตามาเลยก็คือหน้าอกมโหฬารที่ใหญ่เกินกว่าจะเป็นของมนุษย์ หน้าอกนั้นใหญ่มากจนคำว่าอกโตไม่สามารถนำมาใช้อธิบายได้ ราวกับนมวัว และเพื่อเป็นสิ่งพิสูจน์ หูของหญิงสาวนั้นก็เป็นหูของวัว และที่บนศรีษะก็มีเขาวัวงอกขึ้น

    ชุดแต่งกายแบบอียิปต์ หน้าอกแสนดึงดูดอันเป็นสัญลักษณ์ของพระแม่ธรณี จานรูปดวงอาทิตย์ที่ลอยอยู่ระหว่างเขาวัว…..

    ไม่ผิดแน่…..ตัวจริงของศัตรูก็คือ มอนสเตอร์แรงค์ B, ฮาเธอร์(Hathor)

    คุ…..พอได้มาเห็นของจริงแล้วช่างเป็นหน่มน้มที่สุดยอดอะไรขนาดนี้…..ไม่ใช่สิ กดดันอะไรแบบนี้ ฮาเธอร์ที่ราคาแพงแม้แต่ในแรงค์ B ด้วยกันเอง ทำไมคนที่เพิ่งมาใหม่ถึงได้…..น-น่าอิจฉาจริงๆ…..!

    ม-ไม่ใช่สิ นั่นมันไม่เกี่ยวกัน ทีนี้ในตอนนี้ ความจริงก็คือมีการ์ดแรงค์ B 1 ใบและการ์ดแรงค์ C 2 ใบ

    นี่มัน แย่แล้ว แย่แล้วจริงๆ…..

 

『ที่ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าอัญเชิญออกมาก็คือ ไม่น่าเชื่อ มอนสเตอร์แรงค์ B! ฮาเธอออร์! ผู้มีหน้าอกระดับท็อปในหมู่สาวมอนทั้งหมด การ์ดสุดยอดนิยม! อีก 2 ใบเองก็เป็นการ์ดแรงค์ C สฟิงซ์และบาสเตท! เป็นปาร์ตี้ระดับสูงที่แทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นผู้ที่เพิ่งมาใหม่เลยครับ!』

『อืม นี่ถือเป็นงานยากสำหรับผู้เข้าแข่งขันทาคิทากาว่าแล้วล่ะครับ การเอาซาชิกิวาราชิออกไปจะเป็นการส่งผลย้อนกลับรึเปล่า?』

 

    ผู้บรรยายกำลังพูดบางอย่างอยู่แต่ว่ามันไม่เข้าหูเลย สิ่งเดียวที่พอจะได้ยินคือหน้าอก

    ตัวผมที่แสดงความปั่นป่วนมาอย่างเห็นได้ชัด ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าก็หัวเราะออกมา

   

「หุ เป็นไง นี่ก็คือปาร์ตี้สาวงามแห่งอียิปต์ล่ะ! ปาร์ตี้สาวที่ไม่มีคอนเซ็ปต์อะไรเลย มันก็แค่กลุ่มคนไร้ระเบียบนั่นแหละ!」

 

    ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าเป็นแบบนั้น ผมจึงสวนกลับไปทันควัน

 

「ขอค้าน! นั่นน่ะไม่ใช่ปาร์ตี้อียิปต์ซักหน่อย!」

「นานิ!?」

 

    ชี้นิ้วไปที่ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าทำให้เขาสะดุ้งแล้วจึงพูดต่อ

 

「นั่นก็เพราะ…..สฟิงซ์นั่นไม่ได้มาจากอียิปต์ แต่ว่ามาจากกรีซต่างหา–ก!」

「ว่า…..ยังไงนะ…..?」

 

    ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าเปิดตากว้าง

 

「สฟิงซ์ของอียิปต์จะมีลำตัวของสิงโตและใบหน้าของมนุษย์ ในขณะที่สฟิงซ์ของกรีซจะมีลำตัวของสิงโต ร่างท่อนบนของมนุษย์และปีกของอิมทรี! นั่นน่ะเป็นสฟิงซ์ของกรีซ! พูดอีกอย่างคือ ปาร์ตี้นั่นไม่ใช่ปาร์ตี้อียิปต์ยังไงล่ะ!!」

「บ-…..บ้าน่า สฟิงซ์ไม่ใช่ของเฉพาะจากอียิปต์งั้นหรอกเหรอ…..」

 

    ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าเซถอยหลัง พอเห็นเขาเป็นแบบนั้นผมก็ยิ้มอยู่ในใจ

    คุคุคุ ปั่นป่วนเข้าไป ปั่นป่วนเข้าไป…..!

    ตัวผมกำลังพยายามเพิ่มโอกาศชนะให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่คิดว่าเพียงแค่นี้จะทำให้ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าเรียกการ์ดกลับไปหรอก แต่ถ้าเกิดเป็นช่องว่างแม้เพียงเล็กน้อยก็ถือว่าดี

 

『โอ๊ตตโต้? นี่มันจู่ๆก็กลายเป็นสงครามคำพูดซะแล้ว! ถือเป็นภาพหายากในมอนโคโลเลยครับ! เอาล่ะ ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าจะพูดอะไรกลับไปกัน!』

 

    ทางผู้บรรยายเองก็ส่งลูกต่อ แต่ดูท่าผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าจะปั่นป่วนกว่าที่คิด ได้แต่กรอกตาไปมาและไม่พูดอะไรกลับ

    ตัวเขาที่เป็นเช่นนั้น สฟิงซ์จึงหันกลับไปมอง

 

「ม-มาสเตอร์…..นี่ชั้น อยู่ในปาร์ตี้นี่ไม่ได้เหรอ?」

「…..! ไม่ใช่! นั่นมันไม่จริงหรอก! ผู้เข้าแข่งขันคิทากาว่า!」

 

    พอได้เห็นสายตาของสฟิงซ์ ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าก็ดึงสติกลับคืนมาได้แล้วใช้สายตาจ้องมาทางนี้ด้วยความดุดัน

 

「สฟิงซ์นี้อาจจะไม่ได้มีรากฐานมาจากอียิปต์ก็จริง แต่ว่า ขอแค่น่ารักเท่านั้นก็พอแล้ว!」

「! น-นั่นมัน…..」

 

    ถ้าหากเป็นคำแก้ตัวครึ่ง-กลางๆ ผมก็พร้อมที่จะเถียงกลับแต่ว่า คำโต้แย้งแบบตรงไปตรงมาแบบนั้นทำเอาผมไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้

    อยากที่จะบอกอยู่หรอกว่าฝ่ายแรกที่บอกว่าแค่น่ารักแต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันมันก็ทางนั้นเองไม่ใช่เหรอ แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

    นั่นก็เพราะ ขอแค่น่ารักเท่านั้นก็พอ สำหรับมาสเตอร์ของสาวมอนสเตอร์อย่างพวกเรานั้น คือความจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

 

『โอ๊-ตโตะ คราวนี้ผู้เข้าแข่งขันคิทากาว่าถูกโต้กลับเข้าไปเต็มๆ! ถูกต้องแล้ว ที่นี่คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของสาวมอนสเตอร์ แคทไฟท์! ตราบเท่าที่น่ารักนั่นก็เพียงพอแล้ว!』

 

    พอผู้บรรยายพูดเช่นนั้น เสียบปรบมือก็ดังกระหึ่มไปทั่ว

    ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าก้มศรีษะให้กับทางนี้

 

「ผู้เข้าแข่งขันคิทากาว่า ที่ตอนแรกพูดว่าปาร์ตี้ของทางนั้นมีแค่น่ารักต้องขออภัยด้วย ตราบเท่าที่น่ารัก เท่านั้นก็พอแล้ว ทำให้รู้สึกตัวถึงเรื่องนั้น」

 

    พอพูดจบ ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าก็ยกศรีษะขึ้นมา ในดวงตาของเขาไม่มีความลังเลอีกต่อไป

    …..กะจะทำให้ปั่นป่วน กลับกลายเป็นทำให้เยือกเย็นซะแทน

    ติดกับดักแผนตัวเองเข้าซะงั้น

    แต่ว่า การแข่งขันมันยังไม่รู้ผล ศึกนี่อาจจะแพ้ แต่ว่าไม่ยกการแข่งให้หรอก

 

「ลุยกันเลย!」

 

    ด้วยเสียงของผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าเป็นสัญญาณ การต่อสู้ก็ได้เริ่มขึ้น

 

 

 

 

『ยูคิ!』

 

    ยูคิอ่านความตั้งใจของผมได้อย่างแม่นยำ เคลื่อนที่ไปด้านหลังผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าด้วยความเร็วราวกับเป็นการวาป

    ทำการโจมตีโดยตรงตั้งแต่เปิดเกม เพราะความแตกต่างมหาศาลด้านแรงค์ นี่จึงเป็นวิธีที่เร็วและดีที่สุด แผนการโจมตีจบไวเป็นอะไรที่ไม่นิยมอย่างมากในหมู่คนดู แต่คราวนี้มันช่วยไม่ได้

    เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงโจมตีอย่างรวดเร็วแต่ว่า…..

 

「นะ!」

 

    บาเรียทรงพีระมิดปรากฏขึ้นปกป้องผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าเข้าสกัดยูคิ 2 ครั้ง, 3 ครั้ง แม้จะพยายามซ้ำตัวบาเรียก็ไม่สะเทือน

    เอฟเฟคมันต่างไปจากอุปกรณ์เวทชนิดป้องกันที่ทางมอนโคโลมอบให้ นี่มัน…..

 

「ฟู่…..น-นึกไม่ถึงว่าจะพยายามโจมตีโดยตรงด้วยความเร็วขนาดนั้น…..บอกตามตรงว่ากลัวอยู่เหมือนกัน แต่ว่าเปล่าประโยชน์! ข้าในฐานะเป็นฟาโรห์ จะถูกปกป้องอยู่เสมอโดย『แม่นมของกษัตริย์』จากบาสเตทยังไงล่ะ!」

 

    ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าขณะที่ปาดเหงื่อก็อธิบายมาด้วยความภูมิใจ

    …..อย่างงี้นี่เอง นั่นคือสกิลของบาสเตท เดาว่าความสามารถน่าจะเป็นการป้องกันการโจมตีโดยตรงต่อมาสเตอร์ตราบเท่าที่บาสเตทยังคงอยู่

    ชิ…..ดูจะไม่ใช่แค่รวบรวมการ์ดของอียิปต์มาเฉยๆ แต่ยังคิดถึงหน้าที่ของพวกนั้นมาแล้วอย่างดีด้วย…..

    ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าความสามารถของบาสเตทจะไม่ได้มีจำกัดอยู่แค่นั้นด้วย

 

『มาสเตอร์! คำเชิญสู่ความฝันใช้กับเจ้าพวกนี้ไม่ได้ผลเลย!』

 

    เมอาที่พยายามใช้สถานะผิดปกติหลับอย่างลับๆ บอกผ่านมาทางลิงค์

    บาสเตทคือผู้พิทักษ์ของฟาโรห์และเป็นเทพีผู้ปกป้องผู้คนจากโรคร้าย ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่เฉพาะการสร้างบาเรีย แต่ยังมีความสามารถในการป้องกันสถานะผิดปกติให้กับปาร์ตี้อีกด้วย

    มัวแต่ไปอึ้งจากอิมแพคของแรงค์ B ฮาเธอร์แต่ว่า กุญแจสู่ชัยชนะน่าจะอยู่ที่การจัดการบาสเตท…..

 

「คราวนี้เป็นตาของทางนี้บ้างล่ะ! เริ่มกันเลย! เหล่าข้ารับใช้ของข้า!」

 

    ด้วยคำสั่งของผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่า การ์ดทั้ง 3 ใบเริ่มเคลื่อนไหวพร้อมกัน

    สฟิงซ์เข้ามาใกล้ด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อว่ามาจากร่างกายใหญ่โตขนาดนั้นได้ ทางด้านหลังมีฮาเธอร์ยกแขนขวาขึ้นแล้วเริ่มร่ายเวท ส่วนบาสเตท…..รออยู่ข้างๆผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่า

    เดาว่าคงจะเฝ้ามองดูสถานการณ์ หรือไม่ก็ถ้าใช้บาเรียนั่นอยู่จะไม่สามารถทำอย่างอื่นได้…..ไม่ว่าจะยังไงก็จำเป็นต้องระวังตัวเอาไว้

    ก่อนอื่น ต้องจัดการกับสฟิงซ์ที่เข้ามาใกล้พร้อมกับเสียงฝีเท้า-ตึงตึง-ซะก่อน

 

『ซุซูกะ ฝากด้วย』

『อา~ กะแล้วว่าต้องเป็นชั้น ก็นะ ช่วยไม่ได้』

 

    ซุซูกะที่ถูกเรียกชื่อ ก้าวออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย

    สฟิงซ์มีร่างกายที่เทียบได้กับช้างป่าแอฟริการวมเข้ากับท่อนล่างของสิงโต แถมยังมีความแตกต่างของพลังต่อสู้ระหว่างแรงค์ D และแรงค์ C อีกด้วย

    สำหรับเหล่าคนดูคงจะเห็นว่าเป็นการต่อสู้ที่ดูมุทะลุ แต่ว่า—-

 

「…..ฟุ!」

「นะ!?」

 

    พริบตาที่กระสุนแสงที่ถูกยิงโดยเมอาไปโดนเข้าที่ใบหน้าของสฟิงซ์ ซุซูกะอาศัยจังหวะนั้นทำการทุ่มร่างอันมโหฬารได้สำเร็จ

    สฟิงซ์-ตึง-กระแทกกับพื้นทำเอาฝุ่นตลบ

    ดูแล้วไม่ได้มีความเสียหายมากนัก แต่ทางด้านจิตใจแล้วแตกต่างกัน เพราะว่าถูกจัดการโดยคู่ต่อสู้ที่มีระดับต่ำกว่าจึงทำเอาตาค้าง

    ความสำเร็จของการเคาเตอร์นี้ แน่นอนว่าเพราะลิงค์

    ก่อนอื่นใช้ซิงโครลิงค์เพื่อเพิ่มพลังต่อสู้ให้กับซุซูกะ ประสานงานกับเมอาด้วยเทเลพาทลิงค์ ใช้เวทโจมตีพื้นฐานที่รวดเร็วเพื่อให้สฟิงซ์สูญเสียทัศนะวิสัยและเสียสมดุล อาศัยสิ่งนั้นเป็นตัวเริ่มให้กับยิวยิตสูของซุซูกะ—-

    มันคือกระแสต่อเนื่องของการรุกและรับ

 

『โอ๊ตตโต้!? นี่มันอะไรกันนี่! การเข้าปะทะกันระหว่างแรงค์ C และแรงค์ D ที่ดูยังไงก็บ้าบิ่น! ทว่า ฝ่ายที่กลับไปนอนกองกับพื้นอยู่กลับเป็นแรงค์ C สฟิงซ์ครับ!』

 

    ผู้บรรยายส่งเสียงดังขึ้นมา แต่ว่าแค่นี้มันยังไม่จบหรอก

    ซุซูกะเคลื่อนไหวเพื่อไล่ตามสฟิงซ์ที่ล้มลง

    ยกขาขวาขึ้นสูง เพื่อที่จะฟาดลงมาราวกับใบมีดกิโยตินที่คอของสฟิงซ์—ในตอนนั้นเอง

 

「!?」

 

    หอกศิลาลอยมาจากทางด้านหลังของศัตรูเข้าทะลวงร่างของซุซูกะ

 

『นานี๊–! พริบตาที่สาวคนยักษ์ของผู้เข้าแข่งขันคิทากาว่าพยายามจะไล่ซ้ำสฟิงซ์ เอิร์ธสเปียของฮาเธอร์ก็เข้ามาตัดสิน! ผู้เข้าแข่งขันคิทากาว่า นี่น่าจะเจ็บน่าดู! ถึงแม้ว่าจะมีความแตกต่างในแรงค์ของการ์ดอยู่ การ์ดใบแรกก็มาล้มลงไปซะ…..ไม่ครับ!? พอรู้สึกตัวอีกทีคนยักษ์ที่ถูกยิงทะลวงก็กลายเป็นท่อนไม้ไปซะแล้ววว!!』

 

    ด้วยเสียงประหลาดใจของผู้บรรยายสด สายตาของผู้ชมก็ตกไปอยู่ที่ท่อนไม้ที่มีหอกศิลาปักอยู่ แล้วไล่สายตาจากมันไปที่ยูคิที่กำลังใช้แขนของเธออุ้มซุซูกะอยู่

 

『นี่มัน! วิชาจักจั่นลอกคราบ! ดูเหมือนว่าไลแคนโทรปของผู้เข้าแข่งขันคิทากาว่าจะมีสกิลวิชานินจาอยู่นะครับ แถมการที่สามารถใช้วิชาจักจั่นลอกคราบก็หมายความว่าอย่างต่ำต้องเป็นวิชานินจาขั้นกลางอีกด้วย! นี่มันสุดยอดไปเลยครับ!』

『การ์ดใหม่ของผู้เข้าแข่งขันคิทากาว่าคือคุโนะอิจิงั้นหรือนี่! อย่างงี้นี่เอง ทีนี้ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมผู้เข้าแข่งขันคิทากาว่าต้องการโชว์ตัวเธอแล้วละครับ!』

 

    สกิลวิชานินจานับว่าเป็นที่นิยมอย่างมากในมอนโคโล ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าเป็นสกิลท้องถิ่นของญี่ปุ่น โดยเฉพาะสาวมอนสเตอร์ที่มีสกิลวิชานินจาจะถูกเรียกว่าคุโนะอิจิ และถึงแม้จะมีแค่สกิลวิชานินจาขั้นพื้นฐานมูลค่าจะเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าจากราคาตลาดเลยทีเดียว

    แค่นี้อาจจะยังไม่พอจะกลบความแปลกที่เร็นกะไม่อยู่ไปได้หมด แต่อย่างน้อยก็พอใช้ข้ออ้างว่าอยากจะให้ยูคิเป็นจุดเด่นได้อยู่

 

「อา~ ช่วยไว้ได้มากเลย อิจฉาพวกที่มีสกิลหายากจริงๆเลยน้า」

「รู้สึกเหมือนไม่ได้ถูกขอบคุณอยู่เลยนะฮะ…..」

 

    ซุซูกะดันยูคิออกไปอย่างรวดเร็วและลุกขึ้นยืน ด้านยูคิก็ทำหน้าแบบอธิบายไม่ถูกอยู่

 

「…..แต่ว่ามาสเตอร์ จะทำยังไงกันดีล่ะ? ทั้งความแตกต่างด้านแรงค์กับสถานะผิดปกติไม่ได้ผล แบบนี้จะไม่แย่ไปหน่อยเหรอ?」

 

    ในตอนนั้น เมอาก็ทำการถามโดยแฝงความร้อนรนเอาไว้

 

「อา ก็…..มันก็แย่อยู่หน่อยจริงๆแหละ แต่ยังพอมีช่องทางให้ใช้ประโยชน์อยู่」

 

    ในระหว่างการปะทะกันครั้งนี้ มี 2 อย่างที่สังเกตุเห็น

    อย่างแรก การประสานงานกันที่ไม่ค่อยดีของอีกฝ่าย ถึงแม้จะรู้สึกได้ว่าการ์ดของอีกฝ่ายพยายามจะประสานงานกัน แต่ก็รู้สึกได้เพียงแค่ว่าเป็นการกระทำของการ์ดนั้นๆเอง

    พูดอีกอย่างคือ เป็นการเคลื่อนไหวของการ์ดโดยไม่ได้ใช้ลิงค์

    ที่ผู้บรรยายสดบอก ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าเพิ่งได้เป็นนักผจญภัยมาแค่ครึ่งปีเท่านั้น

    เป็นอายุงานที่เกือบจะเท่ากันกับผม แต่ถ้าอ้างอิงจากอาจารย์แล้วล่ะก็「ถ้าหากว่าสามารถไปถึงเทเลพาทซึ่งเป็นพื้นฐานของลิงค์ได้ภายในครึ่งปี นั่นก็ถือว่าเร็วแล้ว」

    โดยพื้นฐานแล้วดูเหมือนว่าประสาทการใช้ลิงค์จะมีแนวโน้มการพัฒนามากที่สุดในช่วงวัยรุ่น แต่กรณีผมอาจจะพูดได้ว่าพัฒนาได้รวดเร็วมากกว่าคนในวัยเดียวกันเสียอีก

    ไม่ว่าจะเป็นใครย่อมต้องมีสิ่งที่ทำได้ดีอยู่ซักอย่าง

    นอกจากนี้…..ทำการสังเกตุผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่า

    โดยประมาณ…..เดาว่าอยู่ในช่วงอายุ 20 ปลายๆ หรือไม่ก็ 30 ต้นๆ

    อ้างอิงจากอาจารย์「การเติบโตของลิงค์จะหยุดที่ช่วงอายุประมาณ 30」ว่ากันว่าถ้าหากแค่เทเลพาทก็สามารถที่จะเรียนรู้ได้โดยไม่จำกัดอายุ แต่หากเป็นระดับที่สูงกว่าซิงโครลิงค์แล้วนั้นเป็นไปไม่ได้จนกว่าจะฟื้นฟูอายุขัยด้วยของอย่างอมฤตเสียก่อน

    หรือก็คือ มีความเป็นได้อย่างสูงว่าผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าไม่สามารถใช้งานลิงค์ได้ หรือหากใช้ได้ก็ยังคงได้ไม่เต็มที่

    ความแตกต่างกันในด้านของการประสานงานด้วยลิงค์ นั่นก็คืออย่างแรก

 

    อย่างที่ 2 คือ จนถึงตอนนี้บาสเตทยังไม่แสดงท่าทีว่าจะเคลื่อนไหวใดๆเลย

    เป็นแค่การยืนคุ้มกันอยู่ข้างๆมาสเตอร์งั้นเหรอ แต่ว่า มีถึงสกิลบาเรียอยู่แล้วการที่จะให้คอยอยู่ข้างๆมันออกจะผิดธรรมชาติอยู่หน่อย อย่างน้อยๆก็น่าจะสนับสนุนจากทางด้านหลังให้ แต่ถ้าไม่ทำล่ะก็ แสดงว่าสกิลบาเรียนั่นสามารถใช้ได้ก็ต่อเมื่ออยู่ใกล้ๆเท่านั้น….. หรือไม่ก็ไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ขณะใช้งานบาเรีย

    …..ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่า จากการโจมตีทีเผลอของยูคิในตอนแรกเริ่มดูจะไปสั่นประสาทเอามาก นึกไม่ถึงเลยว่าจะทำให้บาสเตทมาทำหน้าที่คุ้มกันอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้

    ดูเหมือนว่าการโจมตีทีเผลอนั้นจะไม่ได้เปล่าประโยชน์ไปทั้งหมด ถ้าหากว่าไม่สามารถแบ่งกำลังรบของบาสเตทมาใช้ได้แล้วล่ะก็ จะสามารถให้ซุซูกะกับเมอาทั้ง 2 ใบไปรับมือกับสฟิงซ์ได้ จากนั้นก็ให้ยูคิรับมือกับฮาเธอร์ แบบนี้ก็พอจะต่อสู้ได้อย่างทัดเทียมไประยะหนึ่งได้

    แต่ว่า…..เปิดตัวมาก็เป็นการรวมตัวของ BxCxC เลยเนี่ย อย่ามาล้อกันเล่นนะ! ก็มีคิดแบบนั้นอยู่ แต่พอมาพิจารณาดูแล้ว สถานการณ์นี้ก็ไม่ถือว่าแย่เท่าไหร่นัก

    นั่นเพราะว่ามอนโคโลเป็นสถานที่ที่ไม่มีอันตรายต่อชีวิต, เป็นสถานการณ์ที่มีโอกาศลอสต่ำ, และสามารถได้รับประสบการณ์การต่อสู้กับแรงค์ที่สูงกว่าอย่างปลอดภัย

    ปัญหาก็คือ อยากจะใช้อัญเชิญวงศ์วานแท้จริงแต่ว่า…..

 

「ไม่เอาจะดีกว่าแหะ…..」

 

    เป็นสกิลที่ไม่อยากจะเปิดเผยออกต่อหน้าสื่อซักเท่าไหร่ เหนือสิ่งอื่นใดการจะมาใช้ที่นี่กับสกิลที่น่าจะเป็นไพ่ตายในการต่อสู้กับผู้ใช้หมาล่าเนื้อ คงเป็นอะไรที่โง่สิ้นดี

    อีกทั้ง ภายใต้เงื่อนไขของแคทไฟท์ที่จำกัดเฉพาะการ์ดสาวมอน การเรียกไลแคนโทรปผู้ชายที่ถึงแม้จะเป็นวงศ์วานแต่ก็เกือบๆจะไม่ได้แล้วนั้นก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลอยู่ดี

    ที่ใช้ได้คือ วิชานินจาขั้นสูง, จ้าวอาณาเขต, และทำลายขีดจำกัด…..ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ล่ะนะ

    รู้สึกผิดต่อผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าที่เป็นการเปิดตัวของเขาแต่ มาพยายามจัดการเขาอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนเจอผู้ใช้หมาล่าเนื้อละกัน

 

    —-แล้วการต่อสู้ก็เข้าสู่ภาวะคุมเชิงนับแต่นั้นเรื่อยมา

 

    เป็นไปตามที่ผมคาดการณ์ บาสเตทดูจะไม่สามารถกระทำการอย่างอื่นได้ขณะใช้งานสกิลบาเรีย ทำให้การต่อสู้อยู่ในรูปแบบ สฟิงซ์ VS ซุซูกะกับเมอา, และยูคิ VS ฮาเธอร์

    ความแตกต่างกับทางฝั่งนั้นคือ สฟิงซ์กับฮาเธอร์กำลังแยกกันต่อสู้ ในขณะที่ฝั่งเราแม้จะดูเหมือนว่าแยกกันสู้อยู่ก็ตาม แต่ในความเป็นจริงทั้ง 3 ใบกำลังร่วมมือกันอยู่

    แต่ถึงอย่างนั้นความแตกต่างของพลังต่อสู้โดยยึดตามแรงค์ก็มีมาก ทางฝั่งเราพยายามอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อที่จะรับมือและคงสถานการณ์เอาไว้ให้ได้

    แต่ว่าสำหรับทางผู้ชมแล้วมันดูจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด ภายในสถานที่ก็ดูมีชีวิตชีวา

 

「แต่ว่า…..」

 

    พึมพำออกมาเบาๆ ยูคิดูจะรับมือกับฮาเธอร์ได้มากเกินกว่าที่คาดเอาไว้…..

    เพราะว่ามัวแต่ยุ่งอยู่กับการสืบสวนคดีและกังวลว่าจะถูกโจมตีจากผู้ใช้หมาล่าเนื้อ ทำให้ไม่สามารถเพิ่มค่าประสบการณ์ได้ พลังต่อสู้ของเธอจึงยังอยู่ที่เกือบๆถึงขีดจำกัดการเติบโตของแรงค์ C

    ตามปกติแล้วจากความต่างกันด้านพลังต่อสู้น่าจะไม่สามารถเทียบชั้นได้แต่ว่า จนถึงตอนนี้ยูคิกำลังรับมืออยู่กับฮาเธอร์ที่น่าจะเป็นคู่ต่อสู้แรงค์ B ตัวจริง

    ในทางตรงกันข้าม ยังมีช่องพอที่จะไปสนับสนุนซุซูกะกับเมอาอยู่เป็นช่วงๆอีกต่างหาก

    ดั้งเดิมที ระหว่างฮาเธอร์ที่เป็นประเภทแนวหลังกับยูคิที่เป็นประเภทแนวหน้า ในสถานการณ์แบบ 1 ต่อ 1 ยูคิจะมีความได้เปรียบมากกว่า แต่…..ต่อให้คำนึงถึงเรื่องนั้นเธอก็ต่อสู้ได้ดี

    อีกทั้ง ยังมีที่น่ากังวลว่าฮาเธอร์ใช้งานเพียงแค่เวทมนตร์โจมตีขั้นกลาง

    ตามปกติหากคิดถึงสเตตัสของฮาเธอร์ที่เป็นการ์ดที่ผมชื่นชมแล้วล่ะก็ ถ้าจำไม่ผิดฮาเธอจะต้องมีสกิลเวทมนตร์โจมตีขั้นสูงเป็นสกิลติดตัว

    ทั้งๆที่เป็นอย่างนั้น การที่ไม่ได้ใช้งานมันเลยจนถึงตอนนี้ก็หมายความว่า…..

 

「อย่างที่คิด…..มีสกิลร่วงหล่น สินะ?」

 

    …..แต่ไหนแต่ไรก็มีข้อสงสัยเรื่องผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าที่ไม่ได้อยู่ในสายอาชีพมาก่อน มีการ์ดระดับสูงอย่างฮาเธอร์ได้

    ถึงแม้จะเป็นผู้ใหญ่วัยทำงานที่มีเงินทุนมากกว่าเด็กนักเรียนก็ตาม แต่ราคาของฮาเธอร์นั้นมากเกินกว่าพันล้าน เป็นราคาที่ยากจะซื้อได้ต่อให้เป็นคนที่มีฐานะในระดับหนึ่งก็ตาม

    ถ้างั้นแล้ว ก็มีคำตอบเดียว เหมือนกันกับผม…..ถูกรางวัลจากการเปิดการ์ดแพ็คของกิลล์

    การ์ดแพ็คของกิลล์นั้น ว่ากันว่ามีการ์ดแรงค์ B อยู่ด้วย ถึงแม้โอกาศมันจะน้อยกว่าการถูกลอตเตอรี่ก็เถอะ

    ถ้าหากผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าได้ฮาเธอร์มาจากแพ็คของกิลล์แล้วล่ะก็…..อย่างงี้นี่เอง ชุดแปลกๆนั่นของเขาก็พอจะเข้าใจได้

    ตัวผมเองก็ด้วย มีหลายๆกรณีที่จะได้รับอิทธิพลจากการ์ดแรร์ใบแรกที่ได้

    ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ลงท้ายด้วยการสร้างปาร์ตี้โดยมีการ์ดนั้นเป็นศูนย์กลาง

    …..ก็นะ ถึงกับเปลี่ยนคาแรกเตอร์ตัวเองจากอิทธิพลของการ์ดมันก็ออกจะเกินไปหน่อย

    อีกทั้ง เมื่อครึ่งปีก่อนตอนที่ผมกับผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าได้เป็นนักผจญภัย ในเวลานั้นตัวแพ็คยังมีพวกสกิลร่วงหล่นรวมอยู่

    ถ้าหากฮาเธอร์ได้มาจากแพ็คและมีสกิลร่วงหล่น ก็ไม่น่าแปลกใจหากสกิลเวทมนตร์โจมตีขั้นสูงจะถูกลดระดับลงกลายเป็นสกิลขั้นกลาง

    ยังได้ยินมาด้วยว่าการลดลงของพลังต่อสู้จากสกิลร่วงหล่นของแรงค์ B มีมากกว่าของแรงค์ C

    ดูเหมือนการลดลงของพลังต่อสู้จากสกิลร่วงหล่นจะคิดเอาตามแรงค์ โดยที่แรงค์ D คือลดลง 50, แรงค์ B ลดลง 200

    ขีดจำกัดการเติบโตของฮาเธอร์คือ 1,400 ถ้าหากลดลงจากตรงนั้น 200 ล่ะก็ ด้วยการเพิ่มพลังจากซิงโครลิงค์และความเข้ากันระหว่างแนวหน้ากับแนวหลัง มันก็เป็นความแตกต่างที่แม้แต่ยูคิก็สามารถก้าวผ่านได้

    อีกทั้ง โชคดีที่เมื่อวานพระจันทร์เต็มดวง พูดได้ว่าศักยภาพของยูคินั้นเกือบที่จะอยู่จุดสูงสุด

    แถมด้วยยูคิยังมีไพ่ตายอย่างร่างมนุษย์หมาป่า

    นี่มัน อาจจะชนะจริงๆก็ได้…..

    ชั่วขณะที่ผมมีความคาดหวังขึ้นมาลางๆนั้นเอง

 

「ทำได้ดีสมแล้ว ผู้เข้าแข่งขันคิทากาว่า! แต่ว่า ช่วงเวลาในการเฝ้าดูมันหมดแค่นี้ล่ะ! เอาเลย สฟิงซ์!」

「ค่ะ!」

 

    ในที่สุดผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าก็เคลื่อนไหว

    สฟิงซ์ตรงไปทางเมอาแล้วเปิดปาก

 

「—-ขอถามเอ็มพูซ่าตรงนั้น」

 

    แย่แล้ว…..! ลางสังหรณ์ไม่ดีวิ่งไหลผ่านสันหลัง

    หากคนญี่ปุ่นได้ยินคำว่าสฟิงซ์แล้วล่ะก็ จะต้องคิดไปถึงตำนานของการถามปริศนาและผู้ที่ไม่สามารถตอบได้จะต้องถูกกลืนกิน

    ไม่รู้รายละเอียดมากนักเกี่ยวกับสกิลนั้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่พอจะเดาได้ว่าจะสร้างความเสียหายอะไรบางอย่างแก่ผู้ที่ไม่สามารถตอบปริศนาได้

    ถ้าหากว่าเป็นคำถามอันโด่งดังอย่าง『สิ่งใดที่เดินในตอนเช้าด้วย 4 ขา, ตอนบ่าย 2 ขา, และตอนค่ำ 3 ขา』ก็คงจบได้เร็ว แต่มันไม่ได้ง่ายดายแบบนั้น…..

    นั่นเพราะสกิลที่มีคำตอบหรือเงื่อนไขเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายอย่างปริศนาของสฟิงซ์ มักจะไม่ถูกนำมาใช้ในรูปแบบดั้งเดิม

    อย่างน้อยๆ ตัวคำถามน่าจะถูกเปลี่ยน…..

    สฟิงซ์เผยรอยยิ้มดูชั่วร้ายขึ้นบนใบหน้าอันสวยงาม

 

「หากพูดถึงชีวิต สามารถแปลได้เป็นการต่อสู้ แล้วหัวใจของมันคือ?」

 

    อ-เอ๋!? รู้สึกว่าแตกต่างไปจากที่คิดไว้นิดหน่อยนะ! ไม่สิ มันก็ถือว่าเป็นปริศนาเหมือนกันอยู่หรอก!

 

「10, 9, 8…..」

 

    แถมยังมีเวลาจำกัดอีก!

 

「เอ็ตโต, เอ็ตโต…..」

 

    เมอากรอกตาไปมาด้วยความสับสน

 

『ท-ทำยังไงดีมาสเตอร์! ไม่เข้าใจเลย!』

『พยายามเข้าเมอา! บางทีพวกผมเองอาจจะไม่มีสิทธิที่จะตอบเหมือนกัน!』

 

    เนื่องจากได้เจาะจงชื่อเมอาออกมา ในพริบตาที่คนอื่นพูดคำตอบแทน จะต้องมีบทลงโทษอะไรบางอย่างเกิดขึ้นไม่ผิดแน่

    ในตอนนี้ ไม่มีทางเลือกนอกจากให้เธอใช้ความรู้ที่มี

 

「5, 4, 3…..」

「อ-อา…..! ท-ที่ลำบากคือไม่ว่าฝ่ายไหนก็เป็นผู้แพ้!」

 

    เมอาเข้าตาจนต้องพูดคำตอบออกมาแต่ว่า…..

 

「เจ้าโง่! คำตอบก็คือ…..เป็นการดีที่ได้รู้ตนเอง!」

 

    สฟิงซ์หัวเราะยิ้มเยาะ ในตอนนั้นเอง สีข้างของเมอาราวกับว่าถูกอะไรบางอย่างกัดกระชากจนเลือดสาดกระเซ็น

 

「คั่ก…..!」

「เมอา!」

『อู…..ม-มาสเตอร์』

『รอก่อนนะ! จะให้กลับมาเดี๋ยวนี้แหละ!』

 

    บาดแผลของเมอาถือเป็นความเสียหายหนักแต่ก็ไม่มากพอที่จะทำให้ลอส แต่ว่าเนื่องจากไม่มีใครที่สามารถใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูได้ จึงต้องให้กลับเข้าการ์ดกันเอาไว้ก่อน

    ขณะที่คิดแบบนั้นและกำลังจะเรียกเธอกลับมา เมอาก็ขอให้รอก่อน

    อะไรกัน…..?

 

『ด-เดี๋ยวก่อน…..』

『อะไรอีกละ!?』

『ค-คำตอบ คืออะไร?』

『เอ๋? คำตอบ?…..เอ็ตโต บางที สิ่งสำคัญก็คือค้นหาสิ่งที่ชอบได้สำหรับทุกฝ่าย ล่ะมั้ง?』

『อ-อย่างงี้นี่เอง…..ไม่ใช่สิ รอเดี๋ยวก่อน! ชั้นยังพอมีเวลา ถึงจะแค่เกือบๆก็เถอะ! ขอใช้สกิลนั้นหน่อยเถอะ!』

 

    สกิลนั้น…..หากสาปแช่งใครก็ต้องเตรียมหลุมไว้ 2 นั่นน่ะเหรอ แต่ว่า…..

    ขณะที่ผมลังเล ความมุ่งมั่นเอาเร้าร้อนก็ส่งผ่านมาจากเมอา

 

『สกิลมีไว้เพื่ออะไร!? ถ้าจะเอามาไว้แค่ประดับ มันก็ไม่มีความหมายที่คืนชีพมาเป็นครั้งที่ 2 เลย! ต่อให้ไม่มีอะไรพิเศษเหมือนยัยนั่น…..เมอาก็อยากจะไปยืนอยู่เคียงข้างนะ!』

『เมอา…..』

 

    เสียงร่ำร้องขณะกระอั่กเลือด ผ่านทางลิงค์ สามารถรู้สึกได้ถึงปมความห่างชั้นของเธอที่มีต่อเร็นกะและ….. เหนือสิ่งอื่นใด มิตรภาพของพวกเธอ

 

『…..ก็ดีเลยไม่ใช่เหรอไง ปล่อยให้ทำไปเถอะ』

 

    คนที่พูดมาก็คือ ซุซูกะที่กำลังรับมือการบุกของสฟิงซ์อยู่คนเดียว

 

『หรือจะบอกว่า…..พวกที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ จะไม่มีสิทธิมีความทะนงเลยแม้แต่นิดเดียวงั้นเหรอ?』

『ไม่ใช่…..』

 

    ผมส่ายหัวแล้วพูดกับเมอา

 

『เข้าใจแล้ว จากนี้ไป มีอะไรก็ใช้ไปให้หมดได้เลย …..เข้าใจนะ?』

『แน่นอน!』

 

    เมอาพยักหน้าให้อย่างแรง แล้วตัวของเธอก็เริ่มปกคลุมด้วยแสงสีดำ หากสาปแช่งใครก็ต้องเตรียมหลุมไว้ 2 เป้าหมายนั้น…..แน่นอนว่าคือบาสเตท

 

「นะ! ค่อก!」

「บ-บาสเตท!?」

 

    ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าตกใจเมื่อบาสเตทจู่ๆก็ได้รับบาดแผลลึกที่สีข้าง

 

「ฮี่ฮี่ สม…..น้ำหน้า」

 

    พอพูดจบ เมอาก็กลายเป็นบอลแสงลอยกลับมาสู่การ์ด

    ทำได้ดีมาก ที่เหลือปล่อยเป็นหน้าที่พวกเราเอง

 

『ซุซูกะ ยูคิ!』

『…..ก็นะ การที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษก็เลยต้องพยายามทำให้เต็มที่ใช่ไหมล่ะ?』

『ปล่อยให้ผมจัดการเองฮะ!』

 

    การเสียสละของเมอาทำให้กำลังใจของปาร์ตี้เพิ่มขึ้น ซึ่งปรากฏในรูปแบบของค่าอัตราซิงโครที่เพิ่มสูงขึ้น

    ซุซูกะอาศัยจังหวะที่บาสเตทได้รับความเสียหายฉับพลัน ทำการทุ่มสฟิงซ์ออกไป จากนั้นใช้มือใบมีดเฉือนตาขวาซ้ำ

 

「คุ….! ยังหรอก!」

 

    แต่ว่าผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าก็ไม่ได้ดูอยู่เฉยๆ ถึงแม้ว่าจะเกิดอาการสั่นไหวไปชั่วครู่ แต่ก็สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

 

「ฮาเธอร์! รักษาบาสเตท!」

「ค่า~…..『หยาดแห่งรักของมารดา』」

 

    กลิ่นนมอันหอมหวานลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ แล้วของเหลวเรืองแสงก็โปรยปรายลงบนตัวบาสเตทที่กำลังเลือดไหลด้วยความเจ็บปวด

    สกิลติดตัวของฮาเธอร์…..『หยาดแห่งรักของมารดา』รึ

    ความสามารถคือ ฟื้นฟูสมบูรณ์ให้คนหนึ่งคน ทั้งบาดแผล, พละกำลัง, พลังเวท, และแม้แต่จำนวนการใช้สกิล สามารถฟื้นฟูได้ทั้งหมด

    มองแว่บแรก เหมือนจะมีความเข้ากันได้แบบย้อนกลับกับฝนอมฤตของเร็นกะ แต่จะต่างจากฝนอมฤตที่จุดแข็งของมันคือสามารถใช้งานได้หลายครั้งต่อวัน….. แต่ดูเหมือนว่าจะมีรายละเอียดจำกัดเรื่องจำนวนการใช้สกิลที่สามารถใช้ได้ด้วย

    ความเสียหายที่เมอาอุตส่าห์สร้างโดยการเสียสละตัวเอง กำลังจะถูกฟื้นฟูในไม่ช้า

 

「…..ฟู่」

 

    เมื่อเห็นดังนั้นผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าตรงมุมปากก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม—-แล้วรอยยิ้มนั่นก็ต้องชะงัก

    ด้านหลังของบาสเตทที่เพิ่งจะได้รับการฟื้นฟู ยูคิกำลังเหวี่ยงแขนขวาเข้าใส่

    เรื่องที่นอกเหนือจากเวทมนตร์ฟื้นฟูธรรมดาของฮาเธอร์แล้วยังมีสกิลฟื้นฟูสมบูรณ์อยู่อีกนั้น เป็นอะไรที่รู้อยู่ก่อนแล้ว ก็เพราะว่าเป็นการ์ดในฝันน่ะแหละ เพราะงั้น ต่อให้บาสเตทได้รับความเสียหายก็คาดเอาไว้อยู่แล้วว่าผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าจะต้องฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว

    ดังนั้นแล้ว จำเป็นต้องทำการโจมตีซ้ำหลังจากที่ได้ฟื้นฟู

    และก็ ถึงจะต่างจากฝนอมฤตที่ใช้ได้หลายครั้ง ทว่า 『หยาดแห่งรักของมารดา』เองก็มีเวลาคูลดาวน์

    ไม่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

 

『เอาเลย ยูคิ』

「โออออออ้!」

 

    การโจมตีอันรุนแรงของยูคิ ทะลวงอกของบาสเตท

    จากจุดนี้ถ้าซ้ำเข้าไปอีกก็จะทำให้ลอสได้…..แต่ผมไม่ทำถึงขนาดนั้นแล้วให้ยูคิถอยกลับมาทันที ในแคทไฟท์ ถือว่าเป็นมารยาทที่จะไม่ทำให้การ์ดอีกฝ่ายต้องลอส

    ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าดูจะเข้าใจว่าได้รับการมองข้าม และถึงแม้ว่าจะเจ็บใจแต่เขาก็ให้บาสเตทกลับเข้าการ์ดไปแต่โดยดี

    ถึงแม้『หยาดแห่งรักของมารดา』จะติดเวลาคูลดาวน์และไม่สามารถใช้ได้ แต่ตัวฮาเธอร์ก็ยังมีเวทมนตร์ฟื้นฟูธรรมดาอยู่ ทว่าหากใช้มันไปทางนี้ก็คงจะไม่มีทางเลือกเสียแต่ต้องทำให้ลอสจริงๆ ความใจเย็นของผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่านับว่าช่วยเอาไว้ได้มากทีเดียว

 

「……………」

 

    รักษาระยะห่างแล้วจ้องตากับผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่า

    เท่านี้ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าก็ไม่มีทางป้องกันการโจมตีโดยตรงแล้ว….. แต่ถึงอย่างนั้น เงื่อนไขก็แค่กลับมาเท่าเทียมกัน การ์ดเองก็เป็น 2 ต่อ 2

    ที่เหลือก็แค่หาหนทางว่าจะโจมตีโดยตรงยังไง…..และหนทางนั้นก็มองเห็นแล้ว

 

『ยูคิ!』

『ฮะ! วิชาแยกร่าง!』

「นะ!?」

 

    ผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าตกใจที่จู่ๆได้เห็นยูคิแยกร่างออกเป็น 5 คน

    ยูคิทั้ง 5 ต่างพากันวิ่งเข้าหาผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าในทันที

 

「คุ!」

 

    ฮาเธอร์สาดกระสุนเข้าใส่เหล่ายูคิ แต่พวกเธอต่างวิ่งซิกแซกทำให้เล็งเป้าไม่ได้ ส่วนกระสุนที่บังเอิญโดนก็ทะลุผ่านตัวไป

    ร่างแยกที่สร้างโดยวิชาแยกร่างนั้นไม่มีแก่นสาร

 

「คุ ถ้างั้นก็…..!」

 

    เมื่อรู้สึกตัวว่าไม่สามารถหยุดเหล่ายูคิที่กำลังเข้าใกล้ได้ ฮาเธอร์จึงเปลี่ยนเป้าหมาย เล็งโจมตีโดยตรงที่ผมแทน

    ถึงจะเป็นศัตรูแต่ก็ตัดสินใจได้ไม่เลว แต่ว่า…..

 

「บ้าน่า…..!?」

 

    กระสุนที่ฮาเธอร์ยิงออกมา ทะลุผ่านร่างกายของผมไป

    ผมที่『อยู่ใต้ดิน』และกำลังมองผ่านทางลิงค์ก็ได้แต่ยิ้ม

    ตัวผมที่ยืนอยู่ด้านบนเวทีมาตั้งแต่เริ่มการแข่ง เป็นร่างแยกที่ยูคิสร้างขึ้นและใช้วิชาแปลงกายทับเอาไว้

    ตัวจริงของผมที่ระวังการโจมตีโดยตรง หลบอยู่ในช่องว่างใต้ดินที่ยูคิใช้วิชาดำดินสร้างขึ้น

    และ…..

 

『เท่านี้ก็จบกันเสียที ยูคิ!』

 

    ยูคิอาศัยร่างแยกเป็นตัวหลอกล่อเพื่อมุ่งไปหาผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่า กระโจนเข้าใส่ทางด้านหลัง

    -เพล๊ง-ด้วยเสียงแหลมดังก้อง บาเรียที่ปกป้องผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่าแตกสลาย

    นั่นหมายถึงจุดสิ้นสุดของการแข่ง

 

『ตัดสินนนนนนน! สมแล้วที่เป็นผู้เข้าแข่งขันคิทากาว่า! ก้าวข้ามความแตกต่างของแรงค์การ์ดแล้วเอาชนะ! เป็นการแสดงจิตวิญญาณของรุ่นพี่ให้เห็นครับ!』

 

    เสียงบรรยายสดดังก้องและเสียงปรบมือจากเหล่าผู้ชมก็ดังเต็มสนาม

    จบซักที…..

    หลังจากโผล่ออกมาจากใต้ดิน ผมก็ทรุดตัวลงแล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก

    ลำบากจริงๆ…..คิดไม่ถึงว่าแรงค์ B จะโผล่ออกมาในการแข่งของระดับ 3 ดาว….. ถ้าหากอีกฝ่ายสามารถใช้งานลิงค์ได้ชำนาญล่ะก็ คงได้แพ้แน่ๆ

    รู้สึกดีใจที่อุตส่าห์เอาชนะมาได้…..

    ในตอนนั้นเอง -ฟุ่บ-จู่ๆก็มีเงามาบัง พอเงยหน้าขึ้นดูก็เห็นผู้เข้าแข่งขันซูโนฮาร่ากำลังยื่นมือออกมาให้ทางนี้

 

「ฟุ เป็นการแข่งที่ดี นายเอง ก็มีความรักต่อการ์ดเหมือนกันนะ」

「…..อา ทางนั้นเองก็มีความรักต่ออียิปต์ดีเหมือนกันนั่นแหละ」

 

    ผมจับมืออย่างแนบแน่นกับผู้เข้าแข่งขันฝ่ายตรงข้าม

    เท่านี้ ผมที่ไม่มีพวกเร็นกะอยู่ ก็สามารถเอาชนะในมอนโคโลผ่านไปได้

 

 

 

【Tips】สกิลปริศนา

    สกิลที่มอบปริศนาหรือการทดสอบให้แก่อีกฝ่ายนั้นจะถูกเรียกว่าสกิลปริศนา ตัวสกิลจะถูกสร้างขึ้นโดยอิงตามเรื่องเล่าและตำนาน แต่ถ้าหากคำตอบและวิธีแก้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางแล้วล่ะก็ ตัวเนื้อหาและลักษณะของคำถามจะเปลี่ยนไป นั่นเพราะว่าสกิลปริศนาไม่ได้ทำเพื่อแสวงหาความรู้ แต่เพื่อทดสอบความกล้าหาญและสติปัญญา

    สกิลปริศนานั้นมีหลายเงื่อนไขในการแสดงผล และผลของมันหลายๆอย่างก็ล้วนทรงพลัง

 

 

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

บาสเตท (Bastet)  จากตำนานอียิปต์, เทพีแห่งการคุ้มครอง และความอุดมสมบูรณ์ มีลักษณะส่วนศรีษะเป็นแมวและมีร่างกายเป็นมนุษย์

https://en.wikipedia.org/wiki/Bastet

 

ฮาเธอร์ (Hathor) จากตำนานอียิปต์, เทพีแห่งความรัก ความงาม ความสุข และการเต้นรำ มีลักษณะรูปร่างเป็นสตรี บนศีรษะมีเขาวัวและดวงอาทิตย์อยู่ตรงกลาง สัญลักษณ์ประจำตัวคือวัว

https://en.wikipedia.org/wiki/Hathor  

 

 

เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย

เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย

Score 10
Status: Completed
ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ในโลกคู่ขนานของญี่ปุ่น จู่ๆ เขาวงกตได้ปรากฏขึ้น ที่ซึ่งมอนสเตอร์โผล่ออกมา ในช่วงแรกเริ่มนั้นเขาวงกตไม่ได้ต่างอะไรไปจากภัยพิบัติ แต่สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปด้วยทรัพยากรที่เขาวงกตผลิต และตัวตนของ 'การ์ด' ที่ตกจากมอนสเตอร์ กลายเป็นช่วงแห่งการกอบโกย การ์ดมอนสเตอร์ที่สามารถอัญเชิญมอนสเตอร์ออกมาได้ดั่งใจนึก เหล่านักผจญภัยที่ใช้พลังของการ์ดเพื่อพิชิตเขาวงกต ถ่ายทอดสถานการณ์เหล่านั้นด้วยดันเจี้ยนTV, โคลอสเซียมที่มอนสเตอร์ต่อสู้กัน..... สิ่งเหล่านี้กระตุ้นความสนใจในตัวผู้คน แล้วก่อนที่จะรู้ตัวนักผจญภัยก็กลายเป็นอาชีพที่ผู้คนใฝ่ฝันจะเป็น คิทากาว่า・อุทามาโร่ เด็กม.ปลายสายม็อบ เห็นเพื่อนที่น่าจะเป็นสายม็อบเดียวกัน หลังจากที่เป็นนักผจญภัยแล้วกลับถีบตัวไปอยู่ในกลุ่มท็อบได้ จึงตัดสินใจที่จะเป็นนักผจญภัยด้วยตัวเอง อุทามาโร่ เพื่อที่จะได้แรร์การ์ดไปอวดทุกคนได้จึงเดิมพันชีวิตกับกาชาสุดบ้าระห่ำราคา 1 ล้านเยน ทว่า---?

Options

not work with dark mode
Reset