ตอนที่ 2343 นายท่านกลับมาแล้ว
“เปิดประตู! เปิดประตูเดี๋ยวนี้! พวกเจ้าคิดว่าหลบอยู่ข้างในแล้วจะจบหรือ ออกมา! ออกมาคุยกับพวกข้าให้รู้เรื่อง! หากยังไม่ออกมา พวกข้าจะบุกเข้าไปแล้ว!”
ได้ยินเสียงตะโกนข้างนอก เหลิ่งซวงทนไม่ไหวทำท่าจะก้าวออกไป ทว่าไหล่กลับถูกคนคนหนึ่งกดไว้
“อย่าวู่วาม” ตู้ฝานกดไหล่นาง เตือนสติเสียงขรึม สายตามองออกไปข้างนอก “คนพวกนี้มาหาเรื่องทุกวี่ทุกวัน แม้จะออกไปก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ มีเพียงจะทำให้เรื่องราวยุ่งเหยิงขึ้นไปอีก”
“แล้วจะปล่อยพวกเขาไว้อย่างนี้หรือ” เหลิ่งซวงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา หันกลับไปมองตู้ฝานแวบหนึ่ง
“เจ้าก็น่าจะรู้ ปัญหาในตอนนี้พวกเราไม่อาจแก้ได้” ตู้ฝานทอดถอนใจ เอ่ยว่า “หวังเพียงว่าพวกเขาจะหาตัวกวนสีหลิ่นเจอโดยเร็วที่สุด พาเขากลับมาถามให้รู้เรื่อง ไม่อย่างนั้น วันเวลาเช่นนี้เกรงว่าคงต้องดำเนินต่อไปเรื่อยๆ”
เหลิ่งซวงเม้มปาก “แม้แต่องครักษ์เฟิ่งกับพวกฮุยหลางยังหาเบาะแสของเขาไม่เจอ ยังจะมีใครหาเจออีก”
ตู้ฝานเงียบ ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี เพียงเอ่ยว่า “ตอนนี้ทุกกลุ่มอำนาจเล่นงานพวกเราด้วยเรื่องนี้ หากหอยาสวรรค์ไม่มีโม่เฉินคอยคุ้มครอง เดาว่าคงทนรับแรงกดดันจากหลายฝ่ายไม่ไหวจนต้องปิดตัวลง ยามนี้นายท่านก็ไม่อยู่ สิ่งเดียวที่พวกเราทำได้ก็มีเพียงรอเท่านั้น”
ได้ยินเขาพูดถึงนายท่าน ดวงตาของเหลิ่งซวงฉายแววกังวล “นายท่านไม่มีข่าวคราวหนึ่งปีแล้ว ไม่รู้ตอนนี้อยู่ที่ใด ปลอดภัยดีหรือไม่”
ขณะกำลังเอ่ย จู่ๆ ก็เห็นเหล่าไป๋ที่เฝ้าจวนเฟิ่งมาตลอดวิ่งเข้ามา มันบินผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนสายลม มุ่งหน้าไปยังด้านหลังเรือน พวกเขายังได้ยินเสียงตื่นเต้นดีใจของมันรางๆ ด้วย
“นายท่าน! เป็นนายท่าน! ข้าได้กลิ่นกลิ่นอายของนายท่าน! ต้องเป็นนายท่านกลับมาแล้วแน่ๆ!”
เมื่อได้ยิน ทั้งสองชะงักงัน ก่อนจะวิ่งไปที่หลังเรือนโดยสัญชาตญาณ ยามมาถึงข้างหลัง พวกเขาหยุดยืนนิ่ง จ้องมองเงาร่างสีแดงที่ปรากฏอยู่กลางลานสวน เห็นนายท่านที่ไม่ได้เจอกันหนึ่งปี ดวงตาของเหลิ่งซวงแดงก่ำคลอไปด้วยน้ำใสๆ
“นายท่าน…”
“โฮก!”
หนึ่งปีก่อนตอนที่เฟิ่งจิ่วจากไป เจ้าเสือขาวที่ยังเป็นเสือตัวน้อยๆ ยามนี้ได้เติบโตกำยำแข็งแกร่งแล้ว เวลานี้มันคำรามเสียงดังโฮก ยกเท้าหน้าพยายามปีนป่ายตัวเฟิ่งจิ่ว ยังแลบลิ้นออกมาเลียด้วย แสดงให้เห็นถึงความตื่นเต้นและดีใจของมัน
“เอาละๆ อย่าเลียไปเรื่อย หน้าข้ามีแต่น้ำลายเจ้าเต็มไปหมดแล้ว” เฟิ่งจิ่วทำหน้ารังเกียจ มุมปากกลับหยักยกน้อยๆ ใบหน้าเปื้อนยิ้ม
เธอลูบหัวของเจ้าเสือขาวที่ตอนนี้ตัวโตแล้ว เอ่ยว่า “เด็กดี ไปเล่นทางนั้นไป” สิ้นเสียง เหล่าไป๋ก็กระโจนเข้ามา
“นายท่าน นายท่าน ท่านหายไปหนึ่งปีแล้ว พวกข้าคิดถึงท่านมาก”
เหล่าไป๋อยากเข้าไปหอมเธอ แต่กลับถูกหลบไปเสียก่อน จึงอดไม่ได้ที่จะมองเธอด้วยสายตาน้อยเนื้อต่ำใจไม่ได้ “นายท่าน ท่านลำเอียง”
“เอาล่ะ อย่าเพิ่งเอะอะโวยวาย” เฟิ่งจิ่วตบหัวเสี่ยวไป๋เบาๆ ก่อนจะหันไปมองเหลิ่งซวงกับตู้ฝาน
“นายท่าน ท่านกลับมาเสียที”
ตู้ฝานเห็นเธอ เผยให้เห็นสีหน้าโล่งใจ ในที่สุดก็ยังได้เห็นนายท่านกลับมาอย่างปลอดภัย ไม่ว่าอย่างไร ได้เห็นนายท่านกลับมาอย่างปลอดภัยก็วางใจแล้ว
“ใช่ ข้ากลับมาแล้ว”
เธอหยักยิ้มมุมปาก มองทั้งสองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เห็นเหลิ่งซวงน้ำตารื้น จึงก้าวเข้าไป ถามหยอกล้อว่า “เหลิ่งซวง เป็นอะไรไป หรือตอนที่ข้าไม่อยู่มีใครรังแกเจ้า”
………………………………….
ตอนที่ 2344 ไปกับข้า
“นายท่าน” เหลิ่งซวงปาดน้ำตา เอ่ยว่า “เหลิ่งซวงดีใจ ในที่สุดก็ได้เห็นนายท่านปลอดภัยกลับมา นายท่าน ท่านกลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว”
“นายท่าน หากท่านยังไม่กลับมาอีกต้องแย่แน่” เหล่าไป๋สอดปากอยู่ข้างๆ
เฟิ่งจิ่วยักคิ้ว “อะไรแย่”
เหล่าไป๋กำลังจะพูด ก็ได้ยินตู้ฝานชิงตัดบทก่อน “นายท่าน ท่านเพิ่งกลับมาจะพักก่อนหรือไม่ เรื่องพวกนี้อีกเดี๋ยวค่อยพูดก็ยังไม่สาย ถ้าอย่างไร ข้าให้คนไปเตรียมอาหาร ท่านพักก่อนแล้วค่อยคุยกัน ดีหรือไม่”
“ไม่ต้องแล้ว ระหว่างที่ข้าไม่อยู่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นหรือ พวกเจ้าว่ามาเถอะ!” เธอเดินไปนั่งที่โต๊ะในลานสวน หน้าตาจริงจังเหมือนกำลังรอฟังเขาเล่าอย่างละเอียด
ตู้ฝานจึงเล่าว่า “เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนั้นต้วนเยี่ยมาที่หอยาสวรรค์เพื่อบอกเรื่องนายท่านให้พวกเราทราบ ทุกคนต่างก็ร้อนใจคิดหาหนทาง ต่อมาคุณชายโม่เฉินบอกว่านี่เป็นเคราะห์ แต่ก็เป็นโชคด้วย บอกพวกเราว่าไม่ต้องเป็นห่วง ในเมื่อคุณชายก็พูดเช่นนี้แล้ว พวกข้าจึงคิดว่า ก่อนที่นายท่านจะกลับมาต้องดูแลหอยาสวรรค์ และดูแลจวนให้ดี”
“ช่วงนั้นก็ถือว่าเงียบสงบดี ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้น กระทั่งมีวันหนึ่ง กวนสีหลิ่นได้รับจดหมายแล้วบอกว่าจะออกไปสักครั้ง แต่เมื่อไปแล้วก็ไม่กลับมาอีก แม้พวกข้าจะส่งองครักษ์เฟิ่งออกไปตามหาก็ไร้ข่าวคราวของเขา กระทั่งหลายเดือนต่อมา กลับมีข่าวหนึ่งแพร่ออกมา” เล่ามาถึงตรงนี้ เขาก็เงียบไป
“ว่าต่อไป” เฟิ่งจิ่วเอ่ยขึ้น เอาสุราออกจากห้วงมิติมาดื่ม สายตาลึกซึ้งเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
“มีข่าวลือบอกว่าไม่รู้เพราะอะไรกวนสีหลิ่นลงมือกับคนของสี่สำนักเซียนใหญ่ เขาฆ่าคนที่มีตำแหน่งไม่ธรรมดาในสำนักของคนพวกนั้น นอกจากนี้ ยังเล่นงานคนของตระกูลใหญ่บางตระกูลอย่างต่อเนื่องด้วย ก่อให้เกิดความโกรธแค้นจากทุกฝ่าย ฝูงชนเรียกร้องความเป็นธรรม”
เขามองนายท่านแวบหนึ่ง เห็นสีหน้ายังคงเหมือนเดิม มองไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ จึงเอ่ยว่า “พวกข้าล้วนคิดว่าเรื่องนี้ผิดปกติ ด้วยอุปนิสัยของกวนสีหลิ่นไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้ได้ เพียงแต่ พวกเราตามหาเขาเกือบหนึ่งปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยเจอเบาะแสของเขาเลย กลับได้ยินแต่ข่าวลือที่ว่าเขาสังหารคนไปทั่วแพร่ออกมาเรื่อยๆ”
เฟิ่งจิ่วนั่งฟังเรื่องราวเหล่านี้ นัยน์ตาไหวระริก ถามว่า “ตอนนี้โม่เฉินอยู่ที่ไหน”
“พักนี้เขาอยู่ที่หอยาสวรรค์ตลอด เพราะมีหลายกลุ่มอำนาจกำลังจ้องเล่นงานหอยาสวรรค์ของเราอยู่ โชคดีที่มีคุณชายโม่เฉินคุ้มครองอยู่ ไม่อย่างนั้นคนพวกนั้นคงลงมือกับหอยาสวรรค์ไปนานแล้ว”
“ช่างนึกไม่ถึงเลยจริงๆ!” เธอดื่มสุราหนึ่งอึก ลุกขึ้นยืน มือเขย่าน้ำเต้าเบาๆ เอ่ยว่า “ข้ายังคิดว่าตอนนี้คงไม่มีใครกล้าเล่นงานหอยาสวรรค์แล้ว นึกไม่ถึง ข้าไม่อยู่แค่ปีเดียว กลับโกลาหลวุ่นวายไปหมด”
“ข้าน้อยละอายใจนัก” ตู้ฝานก้มหน้า
“ตั้งแต่เมื่อกี้ข้าก็ได้ยินเสียงเคาะประตูตะโกนหาเรื่องจากข้างนอกแล้ว คนพวกนั้นเป็นใครอีก” เธอถาม ก่อนดื่มสุราอีกหนึ่งอึก
“เป็นคนของกลุ่มอำนาจเล็กๆ บางกลุ่ม บอกว่าพวกเขาเองก็มีคนถูกกวนสีหลิ่นฆ่าเหมือนกัน พักนี้ไม่ว่าที่ใดมีคนถูกฆ่า ล้วนบอกกันเป็นเสียงเดียวว่าเป็นฝีมือกวนสีหลิ่น ไม่ใช่ร้องขอการชดเชย ก็มาหากวนสีหลิ่นเพื่อคิดบัญชี” ตู้ฝานก้มหน้ารายงาน
“พวกเจ้าก็ปล่อยไว้เช่นนี้หรือ” เฟิ่งจิ่วเหลือบมองตู้ฝานแวบหนึ่ง
“ยังหากวนสีหลิ่นไม่เจอ หากทำอะไรพวกเขา พวกข้ากลัวว่าเรื่องราวจะบานปลายใหญ่โต ฉะนั้น…” เขาเองก็รู้ว่าแก้ปัญหาได้ไม่เหมาะสม แต่นี่เขาเองก็ไร้หนทางเช่นกัน
“ไปเถอะ! ออกไปดูกับข้าหน่อย” เธอสาวเดินออกไปข้างนอก