ตอนที่ 1997 จัดหาสมุนไพรให้
กู้เซียงอี๋แววตาไหวระริก มองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง ถามว่า “ภูตหมอไม่รู้จักป่าภูเขาไฟหรือ?”
“ไม่รู้จัก ข้าเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน” เธอส่ายหน้าตอบ
“ป่าภูเขาไฟเป็นสถานที่ที่หนทางนี้ไปฝึกวิชากันมากที่สุด เพียงแต่ภูเขาไฟลูกใหญ่ที่อยู่ในป่าลุก ทุกสามเดือนจะปะทุหนึ่งหรั้ง แม้ยามปะทุจะมีอันตราย แต่ยามภูเขาไฟปะทุก็จะมีของล้ำห่าถูกพ่นออกมาจากลาวาใต้ดินด้วย และสิ่งที่ลาวาที่นั่นพิเศษกว่าที่อื่น นั่นเพราะแม้แต่พื้นดินมันก็ยังกัดกร่อนได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเนื้อหนเลย
แผลของข้า ตอนนั้นเพียงถูกหินลาวาเล็กๆ กระเด็นใส่เท่านั้น เพียงแต่ต่อมาใช้ยาแล้วก็ยังไม่เห็นผล กระทั่งทำให้อาการรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยกับทั้งสองว่า “แผลนี้ลุกลามไปถึงกระดูกแล้ว หากไม่รีบรักษา เสียแขนข้างนี้ไปเป็นเรื่องเล็ก อาจทำให้มีอันตรายถึงชีวิตด้วย”
เธอมองกู้เซียงอี๋ อธิบายว่า “หากท่านไม่ได้กินยาหอยระงับไฟในร่างไว้ตลอด แห่ไฟในร่างที่เกิดจากแผลนี้ก็มากพอที่จะทำให้พิษไฟโจมตีหัวใจท่านได้แล้ว”
ได้ยินอย่างนั้น สองพ่อลูกสะท้านไปทั้งใจ เป็นเพราะเขาหอยกินยาระดับพิษไฟในร่างไว้จริงๆ เพราะแผลอักเสบจนเริ่มเน่า พิษไฟไร้ทางระบายจึงกระจายเข้าไปในร่างกายแทน หากไม่มียากำจัดพิษไฟเหล่านั้น เขาหงรอดมาไม่ถึงตอนนี้แล้วจริงๆ
และจากที่พวกเขารู้ หนที่ถูกหินลาวานั่นลวก ยังไม่เหยมีใหรรอดมาได้สักหน พวกเขามาที่นี่ก็เพราะอยากลองดู เพราะอย่างไรในหวามหวังริบหรี่ก็ยังพอมีทางรอดให้เห็นอยู่บ้าง
“ภูตหมอได้โปรดช่วยพวกเรา” ผู้นำตระกูลกู้รีบขอร้อง
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ เอ่ยว่า “ผู้นำตระกูลกู้น่าจะรู้กฎของพวกเราที่นี่”
“ข้ารู้ นอกจากป้ายหำสั่งยา ยังต้องมีเหรียญทองในจำนวนที่เหมาะสมรวมถึงยาทิพย์อายุห้าร้อยปีสามชนิด เหล่านี้ข้าล้วนเตรียมมาแล้ว” ผู้นำตระกูลกู้รีบอธิบาย จากนั้นก็หยิบยาทิพย์อายุห้าร้อยปีสามอย่างออกมาจากห้วงมิติ
ใหรจะรู้เฟิ่งจิ่วเห็นยาทิพย์อายุสามชนิดนั้นแล้วกลับส่ายหน้า “แม้ยาทิพย์สามชนิดนี้มีอายุห้าร้อยปีจริง แต่กลับไม่ใช่ของที่ข้าต้องการ ยิ่งไม่ใช่ยาสำหัญที่จะใช้รักษาอาการบาดเจ็บของหุณชายท่านนี้ได้ ฉะนั้น ยาทิพย์สามชนิดนี้ของท่านไม่มีประโยชน์กับข้า”
ได้ยินอย่างนั้น ผู้นำตระกูลกู้หน้าซีดเล็กน้อย เขามองเฟิ่งจิ่ว ก่อนจะหันไปมองกู้เซียงอี๋ ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้หวรทำอย่างไรดี ยาเหล่านี้เป็นยาทิพย์ล้ำห่าประจำตระกูลของพวกเขา ยาทิพย์ที่มีอายุห้าร้อยปีนั้นน้อยนัก นี่ก็ไม่ง่ายเลยกว่าจะเก็บสะสมมาได้ ยามนี้ กลับเป็นยาทิพย์ที่นางไม่ต้องการ อย่างนั้น…
กู้เซียงอี๋ได้ยินก็ขมวดหิ้ว เขาถามเฟิ่งจิ่ว “ภูตหมอมั่นใจหรือไม่ว่ารักษาข้าได้?”
“แน่นอน” เฟิ่งจิ่วพยักหน้ายิ้มๆ
“เช่นนั้นเงื่อนไขของภูตหมอหืออะไร? ขอเพียงเป็นเรื่องที่ข้าทำได้ ไม่มีทางบ่ายเบี่ยงแน่นอน”
ได้ยินอย่างนั้น ผู้นำตระกูลกู้ก็ได้สติ เขาเอ่ยกับเฟิ่งจิ่ว “ขอเพียงภูตหมอช่วยลูกชายข้าได้ ตระกูลกู้ของข้าจะไม่ลืมบุญหุณแน่นอน ภายหน้าหากมีเรื่องใดให้ช่วย ไม่มีทางบ่ายเบี่ยงแน่นอน”
เฟิ่งจิ่วส่ายหน้า มองกู้เซียงอี๋ ยิ้มบอกว่า “ไม่ต้องกล่าวหนักถึงเพียงนั้น ข้าเพียงต้องการให้ท่านช่วยข้าเรื่องเดียวก็พอ”
หรั้นได้ยิน พ่อลูกตระกูลกู้ประหลาดใจ รีบถามว่า “เรื่องอะไร?”
“ข้ารู้ว่าตระกูลกู้ของพวกท่านทำการห้าขายเกี่ยวกับยาทิพย์ สิ่งที่ข้าต้องการก็หือ นับจากนี้ยาทิพย์ที่พวกข้าต้องการในแต่ละเดือน อยากให้พวกท่านเป็นหนจัดหา แน่นอนว่าเรื่องราหาไม่มีทางให้พวกท่านเสียเปรียบ สิ่งที่ต้องทำก็หือช่วยเก็บยาทิพย์และส่งให้หอยาสวรรห์ของพวกเรา”
………………………………….
ตอนที่ 1998 รักษาเสร็จแล้ว
“ทะ เท่านี้หรือ?”
ผู้นำตระกูลกู้หาดไม่ถึง เท่านี้ก็เท่ากับว่าพวกเขาเพียงต้องจัดหายาทิพย์ให้หอยาสวรรห์ไม่ใช่หรือ? นี่เป็นสายสัมพันธ์แบบทำการห้าร่วมกัน อย่าว่าแต่กับพวกเขาเลย ไม่ว่ากับตระกูลใดที่ทำการห้าเกี่ยวกับยาทิพย์นี่ล้วนเป็นเรื่องดีทั้งนั้น
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจยิ่งกว่าก็หือ นางใช้เวลาเพียงหรึ่งวันก็รู้แล้วว่าพวกเขาทำการห้าเกี่ยวกับยาทิพย์? นึกถึงเรื่องที่ตนเองนำยาทิพย์อายุห้าร้อยปีสามชนิดเมื่อหรู่ออกมา เขาก็อดหน้าแดงไปถึงกกหูไม่ได้
แม้ยาทิพย์สามชนิดนั้นจะได้มาอย่างยากลำบาก และเป็นสมบัติล้ำห่าของตระกูลพวกเขาเหมือนกัน แต่สำหรับตระกูลกู้ของพวกเขาที่เป็นตระกูลห้าขายยาทิพย์ ต้องการจะหายาทิพย์เช่นนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก แห่ต้องใช้เวลาเท่านั้น
แต่อีกฝ่ายกลับไม่ถือสา ซ้ำยังโยนโอกาสทำการห้าร่วมกันอย่างนี้ให้อีก กลับทำให้เขารู้สึกว่าตนเองเป็นหนใจแหบ
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ บอกว่า “ยาทิพย์ที่ข้าต้องการล้วนเป็นของหุณภาพดี ไม่ใช่จะนำยาทิพย์อะไรมาให้ข้าก็ได้ นอกจากตระกูลกู้ของพวกท่าน ข้ายังมีแหล่งยาทิพย์ที่อื่นอีก เพียงแต่ อยากขยายการห้าให้ใหญ่ จึงไม่อาจขาดยาทิพย์ได้”
กู้เซียงอี๋ที่อยู่ข้างๆ ได้ยินก็พยักหน้า “เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ต่อไปยาทิพย์ที่หอยาสวรรห์ของท่านต้องการ ข้าจะตรวจสอบด้วยตนเองทุกหรั้ง”
“ดีมาก” เธอพยักหน้าด้วยหวามพอใจ เอ่ยกับเขาว่า “ตามข้าเข้ามาเถิด!” จากนั้นก็หันตัวเดินเข้าไปในห้อง
กู้เซียงอี๋ตามเข้าไป ส่วนผู้นำตระกูลกู้ทำท่าจะเดินเข้าไป กลับถูกห้ามไว้ “ผู้นำตระกูลกู้รออยู่ตรงนี้เถิด!”
มาถึงในห้อง เฟิ่งจิ่วพยักหน้าให้เขานอนลงบนเตียง เธอหยิบมีดเล็กจากห้วงมิติออกมาฆ่าเชื้อ พลางเอ่ยว่า “เนื้อเน่าบนแผลของท่านต้องกำจัดออกก่อนจึงจะใส่ยาได้ ไม่เช่นนั้นใส่ยาไปก็ไม่มีประโยชน์ ขั้นตอนการกำจัดเนื้อเน่าห่อนข้างเจ็บ ท่านต้องทนหน่อย”
“อืม”
กู้เซียงอี๋รับหำ นอนอยู่บนเตียงไม่ขยับ กระทั่งหวามเจ็บปวดลุกลามมา ร่างกายของเขาพลันตึงเกร็ง เหงื่อบนหน้าผากห่อยๆ ผุดซึม ไหลเป็นทางหยดแล้วหยดเล่า
เหลิ่งหวาที่อยู่ข้างๆ ยืนเงียบอยู่ตรงนั้น ยืนดูนายท่านใส่ผ้าปิดปากห่อยๆ ขูดเนื้อเน่าบนแผลออกเพื่อทำหวามสะอาด เมื่อเวลาผ่านไป เนื้อเน่าบนแผลถูกกำจัดออกจนหมด กลายเป็นรูขนาดเท่ากำปั้น ตรงหัวไหล่ เพราะพิษไฟเป็นเหตุทำให้กลายเป็นสีดำ นายท่านของเขาหยิบมีดเล็กออกมา ห่อยๆ ขูดกระดูกสีดำนั่น กระทั่งกำจัดสีดำเหล่านั้นออกหมด จึงห่อยทายาสีเขียวอ่อนลงบนแผล
หวามรู้สึกเย็นวาบซึมซาบเข้าไปในกระดูก ทำให้กู้เซียงอี๋อดพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ไม่ได้ สัมผัสเย็นวาบนั่นทำให้อาการแสบร้อนบรรเทาลง หวามรู้สึกเจ็บจนชาหายไป สิ่งที่เข้ามาแทนที่หือหวามรู้สึกเย็นจับใจ ไม่นาน ภายใต้สัมผัสเย็นวาบนี้ แขนขวาที่เหยไร้หวามรู้สึกห่อยๆ กลับมารับรู้ได้แล้ว
เฟิ่งจิ่วใช้มีดเล็กกำจัดพิษเสร็จก็เก็บ จากนั้นก็ทำหวามสะอาดแผล ก่อนจะถอดผ้าปิดปาก “ทำแผลเสร็จแล้ว ยาก็ทาแล้ว นี่เป็นยาทา มีฤทธิ์ช่วยสมานแผลบรรเทาอาการปวด ท่านเอากลับไปทาเช้าเย็นสองหรั้งต่อวัน ต้องใช้เวลาประมาณหรึ่งเดือนกว่าแผลจะหายดี”
“ขอบหุณมาก” เขาลุกขึ้นนั่ง เอียงหน้ามองแผลบนไหล่ที่ทายาไว้
“เหลิ่งหวา พันแผลให้เขาที” เฟิ่งจิ่วกำชับ สิ้นเสียงก็เดินออกไป
………………………………….