บทที่ 592 ไม่เป็นภรรยาข้า แล้วเจ้าจะเป็นภรรยาใคร
หย่งหนิงซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม ก่อนจะดึงผ้าห่มสูงขึ้นเล็กน้อย แล้วลอบพิจารณาเขาเงียบ ๆ
อาชิงเปิดหนังสือเล่มหนึ่งที่อยู่ข้างเตียงนางขึ้นมาอ่านอย่างไม่ใส่ใจ “อะไรเนี่ย นายน้อยมากรัก…”
“ไม่ได้ ๆ!” หย่งหนิงลุกขึ้นคิดจะคว้าหนังสือในมือเขามา
ทว่าอาชิงกลับชูมันขึ้น ไม่ว่านางจะเอื้อมอย่างไรก็ไม่สามารถเอื้อมได้
“ตัวแสบ ไม่ตั้งใจเรียนเพราะมัวแต่อ่านหนังสือเช่นนี้อย่างนั้นหรือ!” อาชิงเปิดหน้าแรกของหนังสือพร้อมรอยยิ้ม “ให้ข้าดูหน่อยสิว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร”
“คืนข้ามา ๆ!” หย่งหนิงปีนขึ้นไปบนตัวเขา “หากเจ้าไม่คืนให้ข้า ข้าจะไม่ยุ่งกับเจ้าอีก”
อาชิงเลิกคิ้วขึ้น “เจ้าไม่ยุ่งกับข้าแล้วเจ้าจะไปยุ่งกับใคร ภายหน้าข้าจะสู่ขอเจ้ามาเป็นภรรยา ข้าก็ต้องดูสิว่าปกติแล้วเจ้าชอบผู้ชายประเภทใด”
ใบหน้าของหย่งหนิงเปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นมาทันที “ใคร…ใครบอกว่าข้าจะแต่งกับเจ้ากัน”
อาชิงโน้มตัวเข้ามาใกล้นางแล้วพูดว่า “ไม่แต่งกับข้าแล้วเจ้าจะแต่งกับใครกัน?”
หย่งหนิงหดตัวกลับเข้าไปในผ้าห่ม “แต่งกับใครก็ได้”
อาชิงพูดอย่างสบาย ๆ “อ่อ อย่างนั้นหรือ ก็ได้ เช่นนั้นเจ้าแต่งกับใครถึงเวลาก็บอกข้าด้วย”
หย่งหนิงเริ่มไม่พอใจ “ข้าแต่งกับคนอื่นแล้วเหตุใดต้องบอกเจ้าด้วย เพื่อเชิญเจ้าไปกินเลี้ยงอย่างนั้นหรือ?”
อาชิงหัวเราะออกมา ก่อนจะเอ่ยอย่างชั่วร้ายว่า “ข้าไม่ชอบกินเลี้ยง แต่ข้าจะส่งของขวัญไปให้พวกเจ้า ส่งแมงมุมหมื่นพิษให้กับเจ้าบ่าวคนนั้น! ทั้งครอบครัวของเขาก็จะได้รับชุดห้าพิษด้วย ข้าจะฆ่าคน ไก่ รวมถึงสุนัขบ้านเขาให้หมด จากนั้นก็ชิงตัวเจ้าสาวอย่างเจ้ามาและให้อุ้มท้องลูกของข้า! จากนั้นข้าก็จะพาเจ้าไปอวดกับหลุมศพเขาด้วย!”
“…” หย่งหนิงขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว
“เหตุใดเจ้าต้องทำเช่นนี้กับคนอื่นด้วย?”
อาชิงปรายตามองนางเล็กน้อย “ท่านแม่ข้าแต่งงานกับท่านพ่อข้าไปแล้ว ข้าจึงไม่สามารถแต่งกับนางได้อีก และอาจารย์ก็บอกข้าว่า หากมีคนคิดจะแย่งภรรยาของข้า ให้ใช้พิษฆ่าเขาก่อนแล้วค่อยว่ากัน ไม่โหดเหี้ยมไม่นับเป็นชายชาตรี*”
* ไม่โหดเหี้ยมไม่นับเป็นชายชาตรี (无毒不丈夫) หมายถึง ไม่โหดเหี้ยมกับศัตรูไม่นับเป็นชายชาตรี
“…คำนี้ไม่ได้เอามาใช้เช่นนี้กระมัง” หย่งหนิงสงสัย
“ไม่สำคัญ อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องเป็นของข้า” อาชิงเข้ามาใกล้ บีบจมูกของนางเอาไว้ “ยกให้คนอื่นข้าไม่วางใจ”
อาชิงหาเบาะนุ่ม ๆ มาให้นางนั่งพิง ก่อนจะชูนิ้วขึ้นมาสาธยายให้นางฟัง “เจ้าฟังนะ ข้าเลี้ยงเด็กเป็น สามารถเลี้ยงเด็กได้หลายคน ทำงานเป็น ทั้งเชื่อฟัง และรู้ความ เลือกข้าไม่ขาดทุนแน่”
หย่งหนิง “…”
เหมือนถูกเขาโน้มน้าวได้นิดหน่อยแล้ว
“ไม่ได้ พวกเรายังเด็กอยู่เลย” นางจับมุมผ้าห่ม “ในหนังสือคู่รักในวัยเด็ก ตอนหลังล้วนได้พบแม่นางน้อยที่ตกลงมาจากฟากฟ้า จากนั้นเขาก็จะหลงรักแม่นางน้อยผู้นั้น ส่วนคู่รักในวัยเด็กล้วนเป็นเพียงความรักแบบพี่น้อง”
อาชิงกะพริบตาปริบ ๆ “เจ้าพูดเหลวไหลอะไรกัน”
“ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว ภายหลังเจ้ายังจะความจำเสื่อม จำข้าไม่ได้ สุดท้ายเป็นข้าที่คอยทุ่มเททุกอย่างเพื่อเจ้า แต่เจ้ากลับไปเลือกแม่นางน้อยที่ตกลงมาจากฟากฟ้าผู้นั้น”
อาชิงเหลือบมองหนังสือในมือก่อนจะโยนมันทิ้งไป “หมู่บ้านตระกูลเฉินของเราไม่ทำเรื่องเช่นนั้น มีภรรยาแล้วยังไปรักคนที่ตกลงมาจากฟ้า เช่นนั้นต้องถูกหัวหน้าหมู่บ้านจับไปใส่กรงหมูเอาไปถ่วงน้ำแน่”
หย่งหนิงฟังเขาพูดเรื่องไร้สาระไปเรื่อย ก่อนจะหาวออกมา ตาก็เริ่มปรือลง
“ข้าจะหวีผมให้” อาชิงหยิบหวีออกมาจากกล่องในลิ้นชัก ตั้งใจที่จะถักเปียเล็ก ๆ ให้นาง “ดอกไม้ข้างนอกกำลังบานสะพรั่งงดงามอย่างมาก เดี๋ยวข้าจะไปเด็ดเอามาเสียบผมให้เจ้า เวลาที่เจ้านอนก็จะได้กลิ่นหอมของดอกไม้ด้วย”
เซียวเซวียนจิ่นขี่ม้าผ่านมา จึงเปิดม่านเพื่อดูปีศาจน้อยทั้งสองคน เมื่อเห็นอาชิงคอยปรนนิบัติหย่งหนิงอย่างขยันขันแข็ง เขาก็ต้องยกนิ้วให้กับความแพรวพราวของน้องภรรยาผู้นี้จริง ๆ
จากนั้นก็ขี่ม้าเอาของอร่อยไปส่งให้อาอินต่อ
“เมื่อครู่ข้าไปตลาดซื้อผลไม้ท้องถิ่นจากโรงน้ำชามา เจ้าลองดมดูสิ”
อาอินยื่นหน้าออกมา ดมที่มือของเซียวเซวียนจิ่นเล็กน้อย จากนั้นก็กัดไปหนึ่งคำ น้ำผลไม้ที่หวานและอร่อยพลันไหลลงมาตามมุมปากจนถึงคาง
“ไม่ระวังเลย” เซียวเซวียนจิ่นหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดให้นาง
“ฝ่าบาท ด้านหน้าก็ถึงอำเภอหวยหยางแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“อืม” อาฉือเก็บฎีกาข้างกายลงไปในกล่องไม้แดง
ด้านหน้า อู๋ซิ่วที่มีหน้าที่ขับรถม้ามองดูเวลาเล็กน้อย ก่อนจะหยุดลง “ท่านอ๋องพวกเราตรงเข้าอำเภอเลยดีหรือไม่ขอรับ ไม่เช่นนั้นพอตกกลางคืนต้องพักแรมข้างนอกนะขอรับ”
เผยยวนกำลังเล่นโป๊กเกอร์เป็นเพื่อนองค์หญิงใหญ่อยู่
“เจ้าจัดการตามที่เห็นสมควรได้เลย ตอนนี้พวกเรายกให้เจ้าตัดสินใจ”
อู๋ซิ่วรู้สึกมีความสุขอย่างมาก ดูสิ! ตระกูลอู๋เคยเจริญรุ่งเรืองถึงเพียงนี้ที่ใดกัน!
ทั้งไท่ซ่างหวง องค์หญิงใหญ่ เนี่ยเจิ้งอ๋อง ฝ่าบาท ไปที่ใด ล้วนต้องฟังเขาอู๋ซิ่วทั้งนั้น!
นี่คืออะไร!
นี่คือช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ของเขาอู๋ซิ่วอย่างไรเล่า!
อู๋ซิ่วครวญเพลงและออกเดินทางต่อไป ทางด้านเอี๋ยนเฉาก็ขี่ม้ากลับมาแล้วเช่นกัน
ก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนรถม้าคันใหญ่อย่างรวดเร็ว “ไท่ซ่างหวง กระหม่อมกลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
องค์หญิงใหญ่มองไพ่ของตัวเองเล็กน้อย “ตรวจสอบพบอะไรหรือไม่?”
หลายปีที่ผ่านมาเอี๋ยนเฉาอาศัยความสามารถของตัวเอง จนได้รับป้ายพระราชทานว่าเป็นคุณชายเสเพลอันดับหนึ่งของต้าจิ้น ตอนนี้แม้แต่ข่าวสำคัญของราชสำนัก รวมทั้งการจัดการนกพิราบสื่อสารก็ล้วนอยู่ในความรับผิดชอบของเขาทั้งหมด
“กระหม่อมตรวจสอบได้ความมาไม่น้อยจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ พบว่านายอำเภอหวยหยางผู้นี้มีลุงอยู่คนหนึ่ง ซึ่งก็คือเจ้าเมืองเจียงอินที่มีหน้าที่รับผิดชอบการสืบสวนคดีขโมยเงินของทางการเมื่อเดือนก่อน!”
เอี๋ยนเฉาดื่มน้ำแก้กระหายไปหนึ่งอึก “ทุกท่านลองเดาดูสิพ่ะย่ะค่ะว่าเป็นอย่างไรต่อ เงินของทางการสองแสนตำลึงหายไป เดิมควรเป็นเรื่องใหญ่และต้องถูกราชสำนักตำหนิ ทว่าอนุของนายอำเภอหวยหยางกลับซื้อบ้านรวมทั้งร้านค้าหลายร้าน ทั้งในเจียงหนาน เมืองหลวง รวมถึงหลงซีที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วในตอนนี้
ที่แปลกที่สุดก็คือ เมื่อห้าปีก่อน เงินทางการของที่นี่ก็ถูกขโมยและเป็นฝีมือของลุงหลานสองคนนี้เช่นกัน แต่ชื่อเสียงของพวกเขาที่นี่กลับเป็นข้าราชการที่ใสซื่อมือสะอาด เป็นข้าราชการที่ดีและมีชื่อเสียง ทว่าบ้านเรือนกลับอยู่ในสภาพทรุดโทรม แต่ภายนอกกลับเลี้ยงหญิงสาวเอาไว้มากมาย แต่ละคนล้วนเป็นคนในครอบครัวท้องถิ่นที่ร่ำรวย” เอี๋ยนเฉาหยิบรายชื่อหลายแผ่นออกมาจากแขนเสื้อ
“ดูสิพ่ะย่ะค่ะ นี่เป็นกิจการที่ลูก ๆ ของพวกเขาทำในที่ต่าง ๆ เป็นแค่เจ้าเมืองกับนายอำเภอตัวเล็ก ๆ กลับมีชีวิตที่ดีกว่าขุนนางขั้นหนึ่งของราชสำนักเสียอีก”
เอี๋ยนเฉาอิจฉาจนเสียสติไปแล้วจริง ๆ!
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ความฝันของเขาก็คือการเป็นขุนนางใหญ่ที่ทุจริต
ทว่าสุดท้ายความฝันกับความจริงกลับสวนทางกัน!
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ! ดังนั้นต้องฆ่า ฆ่า และก็ฆ่า! ด้วยความริษยานี้ เขาต้องกำจัดคนพวกนั้นทิ้งให้หมด!
“ทำได้ดี กลับไปข้าจะลดใบยืมหนี้ให้เจ้าหนึ่งใบ” เผยยวนเอ่ยขึ้นช้า ๆ
เอี๋ยนเฉาซาบซึ้งในพระคุณอย่างยิ่ง “โอ๊ะ ช่างซาบซึ้งใจยิ่งนัก
ครั้งต่อไปช่วยลดให้ข้าสักสองใบเถิด ตอนนี้ครอบครัวมีข้าเป็นเสาหลักแค่คนเดียว ท่านก็รู้ เป็นลูกผู้ดีนั้นไม่ง่ายเลย ตอนนี้ทั้งครอบครัวมีตั้งหลายสิบคน และข้าก็ยังมีลูกด้วย” เขาลอบส่งสายตาให้เผยยวนไม่หยุด
“อย่ามาส่งสายตาให้ข้าเช่นนี้ ไม่ได้ผลหรอก” เผยยวนไม่อยากจะบอกว่าเขาดูไม่รู้เรื่อง
แต่ว่าเจ้าหน้าที่ทุจริตเหล่านั้น นับว่าโชคร้ายแล้ว~~~
อู๋ซิ่วสะบัดแส้ม้า “ย่ะ!”
วันนี้ก็ถือเป็นวันล้างบางคนชั่วอีกวัน!
เวลานี้เผยอวิ่นเกอตื่นแล้ว จึงอ้อนจะให้ท่านแม่กอด จี้จือฮวนจึงรับนางมากอดไว้
เยว่พั่วหลัวมองเด็กน้อย แล้วเอ่ยด้วยความเป็นกังวลว่า “ลูกสาวของพวกเราเหตุใดถึงได้เป็นเช่นนี้กัน ผอมอย่างกับลูกหนูอย่างไรอย่างนั้น”
จี้จือฮวนพูดขึ้นมา “แต่นางได้นิสัยมาจากเจ้า กินอะไรก็ต้องกินสองชุด ข้าว่าอีกไม่นานคงแข็งแรงกว่าพี่ชายของนางเป็นแน่”
เสี่ยวเกอเอ๋อร์ที่พิงอยู่ในอ้อมแขนของจี้จือฮวน ก็กำลังเล่นป้ายคำสั่งอันหนึ่งอยู่
จี้จือฮวนเห็นดังนั้นก็เลิกคิ้วขึ้น “ใครเป็นคนให้สิ่งนี้กับเจ้ากัน?”
.
.