บทที่ 583 เผยเสี่ยวเตาหึงหวง
ผีหิวโหยในบ้านต่างก็ซ่อนตัวอยู่ในห้องเพื่อหลบร้อน เมื่อได้ยินเสียงเรียกให้กินข้าวก็วิ่งออกมาโดยพร้อมเพรียง หยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างมีความสุข
อาหารของจี้จือฮวนถูกตั้งโต๊ะแยกต่างหาก เพื่อเลี่ยงไม่ให้นางอยากกินอาหารมัน ๆ ที่พวกเขากินกัน
“ท่านอาจารย์ ท่านไปดูที่นามาหรือยังขอรับ กังหันน้ำนั่นใช้งานได้หรือไม่ขอรับ?”
“มีความมั่นใจในตัวเองหน่อย เจ้าทำได้ดีมาก”
เผยยวนก็พูดขึ้นมา “ตอนนี้แตกยอดอ่อนแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไป การบุกเบิกที่ดินรกร้างก็ไม่มีปัญหาแล้ว”
เมื่อมองดูฝนที่ตกปรอย ๆ ข้างนอก ทุกคนก็รู้สึกว่าใกล้จะได้เวลาที่ต้องไปจากหลงซีแล้ว
“เว่ยเจ๋อเซิงเล่า?” จี้จือฮวนมองไปรอบ ๆ ก็พบว่ายังมีคนมาไม่ครบ
พวกจี้จือฮวนวางแผนว่าอีกสามเดือนจึงจะกลับเมืองหลวง ดังนั้นพวกเว่ยเจ๋อเซิงจึงไม่สามารถอยู่เฉย ๆ และกินข้าวเปล่า ๆ ได้
จึงติดตามเขาที่เป็นว่าที่เจ้าสำนัก ไปตั้งแผงลอยในหลายเมืองเพื่อทำอาชีพเดิม
แม้ว่ารายได้ในแต่ละวันจะไม่มากนัก แต่ก็เพียงพอสำหรับกินและดื่ม
หากให้คนรู้ว่าสำนักเทพพยากรณ์ระเหเร่ร่อนมาถึงที่นี่ คงทำให้คนรู้สึกทอดถอนใจเป็นแน่
แต่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ยังคิดว่าพวกเขาออกไปหลอกคนมีเงิน ต่างก็คิดว่าอีกเดี๋ยวต้องถามดูเสียหน่อย ว่าวันหนึ่งหาเงินได้เท่าใด
พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา
เว่ยเจ๋อเซิงถูกเผยเสี่ยวเตาหิ้วตัวกลับมาพอดี
นางเอาดาบปักลงไปตรงลานบ้านอย่างส่ง ๆ หลังจากดื่มน้ำไปสองอึก ก็รับอาหารที่ฟางซวินส่งมาให้และลงมือกินทันที
“มีอะไรกันอย่างนั้นหรือ?” ตอนที่ไป๋จิ่นกำลังกินข้าวอยู่ก็ได้เอ่ยถามขึ้นมา
เผยเสี่ยวเตาโมโหมาก “เจ้าถามเขาดูเองก็แล้วกัน!”
เว่ยเจ๋อเซิงเงยหน้าที่ดวงตาบวมช้ำขึ้นมา จากนั้นก็ก้มหน้าลงด้วยความน้อยใจ ท่าทางราวกับเด็กสาวตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งก็มิปาน
“เฮ้อ มีอะไรก็พูดกันดี ๆ สิ ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ไป๋จิ่นเอ่ยถาม ก่อนจะยัดจานข้าวใส่มือเว่ยเจ๋อเซิง เพราะกลัวว่าเผยเสี่ยวเตาจะไม่ให้เขากินข้าว
โชคดีที่นางไม่ว่าอะไร
เว่ยเจ๋อเซิงจึงมองไป๋จิ่นด้วยความซาบซึ้งใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นช้า ๆ ท่ามกลางสายตารอคอยของทุกคน “ความจริงแล้วก็ไม่มีอะไรมาก ช่วงนี้ข้ากลับมาทำอาชีพเก่า และได้รับการว่าจ้างจากแม่นางหลายท่าน ให้ช่วยคำนวณว่าชายคนรักที่หลายใจและหายตัวไปของพวกนางไปอยู่ที่ใด”
“หืม เหตุใดถึงไม่พาข้าไปด้วยเล่า!” เมื่อก่อนพวกเขาต่างทำงานนี้ด้วยกันสี่คนไม่ใช่หรือ!
และคุยกันแล้วว่าแม้แต่ไก่ในบ้านก็จะไม่ปล่อยไว้
แต่สุดท้ายเขากลับแอบไปหาเงินลับหลังพวกเขาอย่างนั้นหรือ!?
เว่ยเจ๋อเซิงรู้สึกเอือมระอายิ่งนัก “พี่ไป๋ ช่วงนี้ท่านยุ่งกับการเขียนจดหมายให้สหายเพื่อหาสินสอดอยู่ไม่ใช่หรือขอรับ ข้าจะรบกวนท่านได้อย่างไรกัน”
ไป๋จิ่น “…”
ที่พูดมาก็มีเหตุผล
ช่วงนี้เพื่อหาสินสอดเหล่านั้น เขาจึงต้องยอมเสียหน้า
แต่สิ่งที่น่าหดหู่ยิ่งกว่าก็คือ หลังจากครั้งก่อนที่ถูกอาชิงศิษย์อกตัญญูเห็นเข้า ผ้ารัดหน้าอกเรืองแสงที่เพิ่งจะได้ใช้ เยว่พั่วหลัวก็ไม่ยอมให้เขามุดเข้าผ้าห่มอีกเลย
และบอกด้วยว่าเมื่อถึงเวลามาสู่ขอ หากนางท้องโตคงน่าเกลียดยิ่งนัก!
ผู้ชายที่เพิ่งได้ลิ้มลองรสสวาท ไหนเลยจะสามารถทนได้กัน
ดังนั้นเขาจึงต้องรีบรวบรวมสินสอด และย่อมไม่มีเวลาว่างไปตามหาผู้ชายหลายใจที่ไม่ได้เรื่องเหล่านั้นในหมู่บ้านกับเว่ยเจ๋อเซิง
พูดถึงตรงนี้เผยเสี่ยวเตาก็หัวเราะเยาะขึ้นมา “ตามหาผู้ชายหลายใจอะไรกัน ผู้ชายหลายใจก็เจ้าเองไม่ใช่หรือ?”
ทุกคนได้ยินดังนั้นจึงมองไปที่เว่ยเจ๋อเซิง จากนั้นก็มองไปที่เผยเสี่ยวเตา
“หาผู้ชายหลายใจอย่างนั้นหรือ แล้วเหตุใดผู้หญิงคนนั้นถึงกระโจนใส่เจ้าได้ กลางวันแสก ๆ ชายหญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน เสื้อผ้าก็สวมใส่ไม่เรียบร้อย เจ้ายังเป็นศิษย์เอกของสำนักเทพพยากรณ์ ที่คอยบอกว่าชายหญิงไม่ควรอยู่ใกล้กันอยู่หรือไม่ฮะ!” เผยเสี่ยวเตาพูดออกมายาวเหยียด แม้แต่เผยยวนเมื่อได้ฟังก็ยังตกตะลึงเช่นกัน
“มองอะไร!” ตอนนี้นางกำลังโมโหอย่างมาก
เผยยวนจึงพูดขึ้นช้า ๆ “เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเจ้าพูดอะไรเช่นนี้ ข้าจึงตกตะลึงอยู่”
“ข้าด้วย”
“ข้าก็ด้วย…”
เผยเสี่ยวเตาโมโหจนกลายเป็นเผยปักเป้าไปแล้ว เมื่อเห็นว่านางโมโหจนจะพังโต๊ะกินข้าวได้อยู่แล้ว ทุกคนจึงรีบเปลี่ยนทิศทางลมทันที
“พูดไปแล้วก็ถูก เจ้าช่วยคนตามหาคนรักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงไปกอดกับลูกค้าได้เล่า? เช่นนี้ผิดศีลธรรมนะ!”
“นั่นสิ ต่อให้จะไม่มีเงินเจ้าก็ไม่สามารถขายร่างกายได้นะ ผู้ชายที่ไม่รักตัวเองก็เหมือนผักเน่า”
เว่ยเจ๋อเซิงฟังแล้วอยากจะร้องไห้จริง ๆ “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ผู้หญิงคนนั้นทั้ง ๆ ที่ข้าทำนายว่านางยังไม่พบเนื้อคู่ แต่นางกลับเอาแต่บอกว่ามีคนรักแล้ว ข้าสงสัยจึงตามไปดู เพราะข้าไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำนายผิด ใครจะคิดว่าเมื่อไปถึงในตรอก นาง…นางจะกลายเป็นสัตว์ร้าย…”
ทุกคนจึงหัวเราะขึ้นมา แต่เผยเสี่ยวเตากลับแค่นเสียงเย็น “ต้องเป็นเพราะเจ้าไม่ระวังตัว วัน ๆ เอาแต่ออกไปข้างนอก ทำให้คนที่คิดร้ายสบโอกาส”
ทุกคนต่างก็รู้ดีอยู่แก่ใจ นี่ใช่คำพูดจากใจจริงที่ใดกัน นางก็แค่หึงหวงเท่านั้น แต่เขินอายเกินกว่าที่จะบอกว่าตัวเองชอบเว่ยเจ๋อเซิง ตอนนี้จึงหึงจนไม่รู้ว่าควรระบายออกมาเช่นไร
เผยเสี่ยวเตายิ่งพูดก็ยิ่งโมโห และกินข้าวไม่ลงอีก จึงลุกขึ้นเดินจากไปทันที
เว่ยเจ๋อเซิงมองอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ก่อนจะรีบตามไป
ส่วนพวกศิษย์พี่ศิษย์น้องของสำนักเทพพยากรณ์ที่เพิ่งกลับมาจากการช่วยชาวบ้านตามหาแม่ไก่ที่หายไป หรือช่วยคำนวณว่าในท้องของสุนัขที่บ้านพวกเขาเป็นลูกของสุนัขบ้านใดกัน ก็บังเอิญเดินเข้าประตูมาพอดี
‘ฟิ้ว’ เผยเสี่ยวเตาเดินผ่านหน้าพวกเขาไป
เพิ่งจะหันหน้าไปก็มีเสียง ‘ฟิ้ว’ ดังขึ้นมาอีกครั้ง เป็นเว่ยเจ๋อเซิงที่วิ่งผ่านหน้าพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว
สำนักเทพพยากรณ์ “???”
หรือวันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทิน?
นี่ถือเป็นลางของโชคร้ายชัด ๆ!
อาชิงทอดถอนใจ “เฮ้อ ผู้ใหญ่อย่างพวกท่านช่างซับซ้อนจริง ๆ ไม่เหมือนข้า ต่อไปข้าจะแต่งงานกับท่านแม่เท่านั้น พวกเราไม่มีทางทะเลาะกันแน่นอน!”
ไป๋จิ่นมองศิษย์โง่ของตัวเองแวบหนึ่ง พลางคิดว่า ยังดีที่เจ้าเด็กนี่แซ่เดียวกับเผยยวน ไม่อย่างนั้นคงถูกหักคอไปแล้วกระมัง!
เรือนเล็กตระกูลกู้ที่วุ่นวายมาทั้งวัน ในที่สุดก็เข้าสู่ความสงบ
หมอหลวงตรวจชีพจรให้กับจี้จือฮวน “ครรภ์ของพระชายาแข็งแรงดี เด็กก็แข็งแรงมาก แต่สามเดือนแรกนี้พระชายายังต้องระวังให้มากนะขอรับ”
“ขอบคุณท่านหมอหลวงมาก”
เผยยวนเดินมาส่งหมอหลวงที่หน้าประตู และเนื่องจากเวลานี้จี้จือฮวนตั้งครรภ์ จึงทำให้เด็กทั้งสองคนไม่สามารถมานอนกับนางได้แล้ว
จากนั้นเผยยวนก็ไปตักน้ำล้างเท้ามา ก่อนจะนั่งยอง ๆ ช่วยล้างเท้าให้นางจนสะอาด แล้วจึงเอาน้ำออกไปเททิ้ง
ตอนที่กลับมา จี้จือฮวนยังคงนั่งอยู่ภายใต้แสงเทียน นางเลิกเสื้อคลุมออก สวมเพียงเสื้อเนื้อบางที่แนบไปกับร่างเท่านั้น ในมือก็ไม่รู้ว่ากำลังทาน้ำมันอะไรอยู่ โดยลูบไปมาบนหน้าท้องของตัวเอง
“เจ้าเจ็บที่ใดอย่างนั้นหรือ?” เผยยวนเอ่ยถามด้วยความตกใจ
แต่เมื่อมองดูหน้าท้องที่เรียบตึงนั่น ก็ไม่เห็นบาดแผลอะไรเลย
“เปล่า ข้าแค่ทาน้ำมันป้องกันรอยแตกลายก็เท่านั้น ข้าเห็นแตงโมที่อาชิงกินวันนี้จึงกลัวว่าหากลูกตัวใหญ่ หน้าท้องจะเป็นลายเหมือนแตงโมเอาได้” อย่างไรเสียนางก็ยังสนใจเรื่องความสวยความงามอยู่
ยิ่งไปกว่านั้นร่างกายนี้ก็เพิ่งสิบเจ็ดปีเท่านั้น ดังนั้นนางจึงอดกังวลเกี่ยวกับการรักษาในสมัยโบราณไม่ได้
เผยยวนรับน้ำมันมาถูไปกับฝ่ามือเพื่อทำให้มันอุ่นขึ้น ก่อนจะทาให้นางอย่างอ่อนโยน
“หากผู้ชายสามารถคลอดลูกได้ก็คงดี”
เขาลูบท้องของนางที่ยังไม่นูนขึ้นมา “ลูกรัก เจ้าต้องเป็นเด็กดี อย่าแกล้งแม่เจ้าให้มากนักล่ะ”
จี้จือฮวนจับมือเขาเอาไว้ “ยังเหลืออีกเดือนครึ่ง หากครบกำหนดแล้วพวกเรารีบเดินทางกลับเมืองหลวงกันเถอะ ข้าคิดถึงอาฉือมากจริง ๆ”
เผยยวนยิ้มออกมา ก่อนจะกอดนางเอาไว้แนบอกแล้วหอมแก้มนางหนึ่งที “ตกลง เอาตามที่เจ้าว่า”
รอพวกลูก ๆ โตแล้ว พวกเขาก็จะมีเวลาว่างมากขึ้น ตอนนั้นพวกเขาคงจะได้ออกไปท่องเที่ยวทั่วใต้หล้า เมื่ออายุมากขึ้นก็จะเป็นแค่คู่รักธรรมดา ๆ ใช้ชีวิตในลานบ้านเล็ก ๆ ที่หมู่บ้านตระกูลเฉินหลังนั้น
แต่พวกเขาก็คาดหวังอยากให้เวลาเดินช้าลงอีกสักหน่อย เพื่อที่พวกเขาจะได้อยู่กับลูก ๆ ไปนาน ๆ