บทที่ 578 คลอดเด็กน่ารัก ๆ
มัวเอ๋อร์เก๋อซางเดินไปที่ริมคันนา เมื่อเขานั่งลงก็ได้ยินเพียงเสียงอุทานอย่างเขินอายดังมาจากด้านข้าง
เขาหันหน้าไปมองด้วยความสงสัย ก็เห็นเอี๋ยนเฟินฟางโผล่หน้าออกมาจากหลังต้นไม้ และเดินมาทางเขาอย่างกระมิดกระเมี้ยน “น้ำให้ท่าน”
มัวเอ๋อร์เก๋อซางพูดขึ้นมา “ขอบใจมากน้องชาย!”
เอี๋ยนเฟินฟางบิดตัวไปมาเล็กน้อย “ไม่เป็นไรขอรับ ท่าทางองอาจของท่านแม่ทัพในสนามรบ ข้ายังจำได้ดีอยู่เลยขอรับ!”
เอี๋ยนเฉาเพิ่งกินข้าวกลางวันเสร็จ จึงเดินออกมาแคะฟัน ก็พลันเห็นท่าทางบอบบางของน้องชายตัวเองเข้า
จึงสะกิดฉู่จิ้นหนึ่งทีแล้วพูดขึ้นมา “น้องชายข้าทำอะไรกัน?”
ฉู่จิ้นกำลังศึกษาวิธีปลูกมันเทศอยู่ เพราะตอนนี้พระชายาได้แบ่งค่ายทหารออกเป็นชั้นเรียน และมอบหมายหน้าที่ให้พวกเขาเรียบร้อยแล้ว หากพืชของใครปลูกออกมาได้ดี ปลายปีจะมีวันหยุดให้ และสามารถกลับไปเยี่ยมบ้านได้
ได้ยินดังนั้นฉู่จิ้นก็มองไปทางลูกคนรวยที่มาจากเมืองหลวงผู้นี้ “ข้าก็ไม่ทราบเหมือนกัน ว่าแต่คุณชายเอี๋ยนมาหลงซีมือเปล่าหรือขอรับ?”
ฉู่จิ้นตอนนี้เหมือนเปิดประตูรับแขกอย่างไรอย่างนั้น ใบหน้าราวกับเขียนเอาไว้ว่า ‘มามือเปล่าอย่างนั้นหรือ ตอนที่เซียวซื่อจื่อมายังรู้จักเอาเสบียงมาด้วยเลย?!’
เอี๋ยนเฉาเรอออกมาหนึ่งที “คนที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงในเมืองหลวงข้าได้รายงานไปเกือบหมดแล้ว และข้าก็เห็นว่าพวกเจ้าต้องการคนข้าจึงได้มาที่นี่ คนมีความสามารถอย่างข้า ไหนเลยยังต้องเอาของขวัญมาด้วยอีก”
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นข้อแก้ตัว เพราะความจริงก็คือ เงินที่ตระกูลเอี๋ยนติดค้างเผยยวนนั้น ยังใช้คืนไม่หมด
ต่อให้จะมีเบี้ยหวัดจากราชสำนัก แต่ก็ไม่เพียงพอจะเลี้ยงดูทั้งครอบครัวได้
ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าหวงไท่ซุนและไท่ซ่างหวงประกาศว่า ต้องการรับสมัครคนมีความสามารถมาประจำการเพื่อช่วยหลงซี โดยจะเพิ่มรางวัลให้เป็นสองเท่า
เขาจึงได้มาที่นี่อย่างไรเล่า
ด้วยดวงตาที่เฉียบคมของเขา เขาจะดูสิว่าใครจะกล้าฝ่าฝืนระเบียบวินัยอีก!
เขาจะจดลงสมุดบันทึกเล่มเล็กให้หมด!
ภาพลักษณ์ลูกผู้ดีมีเงินก็เป็นวิธีตบตาคนอื่นที่ดีที่สุดของเขา สองสามวันมานี้อย่ามองว่าเขาเอาแต่กินจนอ้วนขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะเนื้อที่เขากินไปนั้นไม่มีทางเปล่าประโยชน์อย่างแน่นอน!
เขาตั้งใจปลอมตัวเข้าไปในโรงเหล้า บ่อน หอนางโลม เพื่อสืบเรื่องซุบซิบของเจ้าหน้าที่ที่มาหลงซีเหล่านั้น
แม้แต่เพื่อนบ้านใกล้เคียงของเจ้าหน้าที่พวกนั้น เขาก็สืบมาหมดแล้ว
บนโลกนี้ยังมีงานใดที่ได้เงินดีกว่าการรายงานอีกหรือไม่?
แน่นอนว่าไม่มีแล้ว!
เขาเอี๋ยนเฉาจะใช้ความสามารถที่ดีเลิศนี้ให้ถึงที่สุด!
จัดการคนเลวที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงในต้าจิ้นให้หมดไป!
เอ่ยจบเขาก็หยิบมันเทศแห้งในอ้อมแขนของฉู่จิ้นมา ก่อนจะเดินไปกินไป
…
ทางด้านเย่จิ่งฝูก็พาเหล่าศิษย์พี่ศิษย์น้องของตระกูลหมอเทวดา ไปหาสมุนไพรหายากบนภูเขาหิมะและทุ่งหญ้า
เขตชายแดนเช่นนี้คนที่เก็บสมุนไพรไปขายมีน้อยมากจริง ๆ ไม่สู้พวกเขาไปหาเองจะดีกว่า
และมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ขอมาเก็บสมุนไพรกับพวกเขาด้วย คนของตระกูลหมอเทวดาไม่สนใจเรื่องชื่อเสียงลาภยศอยู่แล้ว จึงสอนวิธีแยกแยะสมุนไพร วิธีการทำ การเอาไปขายให้ร้านขายยา หรือเก็บไว้ใช้เองให้กับชาวบ้านอย่างเต็มใจ
และเนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด ลู่เอี้ยนจึงได้ขึ้นเขาไปกับพวกเขาด้วย อันที่จริงเรียกว่าคอยตามเย่จิ่งฝูตลอดเวลาจะถูกกว่า
“อ๊ะ อันตรายเกินไป อันนี้ข้าจัดการเอง” ลู่เอี้ยนเป็นคนที่ฉลาด ประกอบกับอยู่กับเย่จิ่งฝูในร้านขายยามานานเพียงนั้น สมุนไพรส่วนใหญ่เขาจึงรู้จักดี
เขาหยิบจอบอันเล็กของนางมา ก่อนจะช่วยนางเก็บ
ศิษย์ของตระกูลหมอเทวดากลุ่มหนึ่งโผล่หัวออกมาจากหลังต้นไม้อย่างเงียบ ๆ
โดยชะโงกหัวออกมาซ้อนกันเรียงเป็นแถวแนวตั้ง
“ใช่แล้ว เจ้าดูเอวนั่นสิ แข็งแรงมากจริง ๆ ขนาดนี้ยังก้มลงไปได้”
“อืม แม่ข้าบอกว่าต้องแต่งกับผู้ชายเช่นนี้จะได้มีลูกหลาย ๆ คน”
สำเนียงท้องถิ่นที่จู่ ๆ ก็ดังขึ้นมาทำให้บรรดาศิษย์ของตระกูลหมอเทวดาต่างก็สะดุ้งตกใจ เมื่อพบว่าเป็นพวกผู้หญิงที่ตามพวกเขามาเก็บสมุนไพรด้วย ทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“แม่เจ้ายังบอกอะไรอีก?”
ผู้หญิงคนนั้นเล่นเปียผมที่พาดบ่าของตัวเองไปมา “แม่ข้ายังบอกอีกว่าต้องหาคนที่เป็นบัณฑิต บัณฑิตมีความรู้ ลูกก็จะได้ไม่ต้องเป็นชาวนา บัณฑิตมีเหตุผล มีอนาคต ภายหน้าจะได้เป็นขุนนาง ใต้เท้าลู่เป็นขุนนางใหญ่แล้ว นี่ยังไม่ใช่สามีที่ดีอีกอย่างนั้นหรือ?
และถ้าหากพ่อขี้เหร่ลูกก็จะหน้าตาขี้เหร่ด้วย แต่ใต้เท้าลู่หล่อเหลาเพียงนี้ ต้องมีลูกหน้าตาน่ารักอยู่แล้วไม่ใช่หรือ พาไปไหนมาไหนก็น่าภาคภูมิใจจะตายไป”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ คนของตระกูลหมอเทวดาจู่ ๆ ก็เริ่มจินตนาการขึ้นมา!
ใช่แล้ว มีเด็กน้อยหน้าตาน่ารักคอยวิ่งตามหลังพวกเขา!
ใครมองแล้วจะไม่ชื่นใจบ้าง!
ผู้หญิงคนนั้นเห็นเหล่าหมอเทวดามีดวงตาเปล่งประกายราวกับหมาป่าก็รู้สึกตกใจ และคิดว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปหรือไม่
ส่วนทางด้านนี้ เย่จิ่งฝูเห็นลู่เอี้ยนเดินไปทางริมหน้าผามากขึ้นเรื่อย ๆ จึงรีบพูดขึ้นมา “อย่าไปไกลเพียงนั้น มันอันตราย”
ลู่เอี้ยนหันกลับมา นัยน์ตาดอกท้อเปล่งประกายเจิดจ้า “เอ๊ะ เจ้าเป็นห่วงข้าด้วยหรือ?”
เย่จิ่งฝูกลอกตามองบน “ใครเป็นห่วงเจ้ากัน เพราะเจ้าแย่งจอบน้อยของข้าไปต่างหากเล่า”
“อ้อ อย่างนี้นี่เอง เช่นนั้นข้าคืนให้เจ้าก็ได้ ข้าจะเก็บด้วยมือเปล่าก็แล้วกัน”
เอ่ยจบลู่เอี้ยนก็หันกลับมาแล้วส่งจอบคืนให้นางจริง ๆ ตั้งใจที่จะโน้มตัวลงไปเก็บสมุนไพรด้วยมือเปล่า
ลู่เอี้ยนยื่นมือมา พร้อมกับถอนหายใจ “เฮ้อ ข้ารู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเลย หากมีจอมยุทธ์หญิงที่ชอบช่วยเหลือผู้อ่อนแอช่วยดึงข้าเอาไว้ก็คงจะดี~”
ได้ยินดังนั้นเส้นเลือดบนขมับของเย่จิ่งฝูก็ถึงกับเต้นตุบ ๆ ก่อนจะยื่นมือออกไปดึงเขาเอาไว้
ลู่เอี้ยนคิดไม่ถึงว่าจะง่ายดายเพียงนี้ ก่อนจะบีบมือนั้นเบา ๆ อย่างเหลือเชื่อ อืม มือนุ่ม ๆ แสดงว่าเป็นมือของนางจริง ๆ
เย่จิ่งฝูใบหน้าแดงเรื่อ “เร็ว…เร็วหน่อย!”
“อืม~” ลู่เอี้ยนตอบไปส่ง ๆ เพราะความเร็วนั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับที่เอาเต่างุนงงมาบรรยายแทนได้เลยทีเดียว
ชาวบ้านและบรรดาศิษย์ที่แอบสังเกตพวกเขาอยู่ ต่างก็จ้องมองอยู่นานแล้ว
“เขาขยับหรือยัง?”
“ขยับแล้ว แต่เห็นไม่ค่อยชัดเท่าใดนัก เจ้าดูดี ๆ สิ เมื่อครู่เขายังกะพริบตาสามครั้งด้วย!”
“หืม? ศิษย์พี่สาม สายตาของท่านเหตุใดถึงได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ เช่นนี้เล่า?”
“ก็ข้าบอกแล้วว่ายากระจ่างตานั่นใช้ดีมาก ให้เจ้ากินเจ้าก็กินไปสิ”
“ข้าขอสักเม็ดได้หรือไม่?”
“ได้!”
“เลิกทะเลาะกันได้แล้ว! รีบดูต่อเร็วเข้า ใต้เท้าลู่เข้าใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว!”
ทุกคนกลั้นหายใจและเพ่งสมาธิ
ลู่เอี้ยนอยู่ห่างจากสมุนไพรไกลขึ้นเรื่อย ๆ ทว่ากลับอยู่ใกล้เย่จิ่งฝูมากเรื่อย ๆ
‘หอมเลย! หอมเลย!’ มีคนทนไม่ไหวจนตะโกนขึ้นมาในใจ
ศิษย์หลานที่น่ารักของพวกเขาก็จะได้ออกมาลืมตาดูโลกเสียที!
“ลู่เอี้ยน” เสียงของเย่จิ่งฝูดังขึ้น
ร่างของลู่เอี้ยนชะงักไปทันใด “หืม?”
ก่อนเย่จิ่งฝูจะยิ้มให้เขาน้อย ๆ “เจ้าอยากตายหรือ!?”
ลู่เอี้ยนเห็นนางหยิบกระบองแบบยืดได้หดได้อันหนึ่งออกมาจากทางด้านหลัง ก็กลับไปอยู่ที่เดิมในทันที แล้วรีบเก็บสมุนไพรด้วยความเร็วสูง
ในใจก็แอบสาปแช่งจีฝูเย่ไปด้วย อยู่ดี ๆ ก็เอาอาวุธมาให้เย่จิ่งฝูเป็นกอง และนางก็เอามาใช้กับเขาเช่นนี้!
ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าตระกูลลู่ของเขาจะมีสะใภ้ ต้องมาสิ้นทายาทเพราะเจ้าหมอนี่จริง ๆ อย่างนั้นหรือ?
…
จีฝูเย่ยังไม่รู้ว่าลู่เอี้ยนอยากจะฆ่าเขาให้ตาย เพราะเขากำลังศึกษาเกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องสูบน้ำ และโครงสร้างของพัดลมไฟฟ้าร่วมกับเจิ้งต้าเฉียงอยู่
“เจ้าว่าเราเป็นคนเหมือนกัน หัวของท่านอาจารย์เหตุใดถึงได้ฉลาดล้ำเลิศเช่นนี้กัน?”
เจิ้งต้าเฉียงกลับไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เขาคิดก็คือ เป็นคนเหมือนกัน ทว่าช่างไม้คนอื่นไหนเลยจะมีแบบร่างมากมายเช่นเขากัน!
“คุณชายจี ท่านไม่ต้องคิดเช่นนั้นแล้ว เพราะท่านถือเป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตระกูลจีแล้ว ในหมู่บ้านเราไม่ต้องกลัวว่าจะขอภรรยาไม่ได้อีก”
จีฝูเย่ “…”
ขอบคุณ ปลอบใจได้ดีมาก
“แต่ไม่รู้เพราะอะไร ข้ารู้สึกว่ารอบ ๆ ตัวมีไอสังหารวนเวียนอยู่ตลอดเวลา เจ้ารู้สึกหรือไม่?”
เจิ้งต้าเฉียงส่ายหน้า “ข้าไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย!”
.
.