เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้ายบทที่ 515 ปฏิบัติการยามค่ำคืน

บทที่ 515 ปฏิบัติการยามค่ำคืน

บทที่ 515 ปฏิบัติการยามค่ำคืน

“ข้าคิดว่าจำเป็นมาก” เย่จิ่งฝูยกมือขึ้นและเห็นด้วย

“เพราะอะไร ลองอธิบายมาสิ?”

“ชิ!” เย่จิ่งฝูขยับเข้ามาใกล้แล้วพูดว่า “ในบทละครชอบพูดกันว่า โลกของตัวเอกมีสหายมากมายใช่หรือไม่! อีกทั้งสหายเหล่านั้นล้วนมีประโยชน์ทั้งสิ้น

เจ้าดูสิ ตอนนี้พวกเรามีคนแทบทุกสำนักแล้ว เหลือแค่คนหลอมอาวุธเท่านั้นใช่หรือไม่ ดังนั้นขาดไม่ได้จริง ๆ หากยืมคำพูดของลูกพี่ฮวนมา นี่เรียกว่า สิ่งจำเป็น!”

ทุกคนได้ฟังก็พยักหน้าเห็นด้วย “มีเหตุผลอย่างมาก”

“ท่านหมอเย่ คิดไม่ถึงว่าปากของท่านก็สามารถพูดสิ่งที่มีประโยชน์ออกมาได้ด้วย”

“…” ขอบคุณที่ชม แต่คราวหน้าไม่ต้องแล้ว

เผยยวนพยักหน้าหงึก ๆ อาชิงที่อยู่ข้าง ๆ ยื่นจุกเล็ก ๆ เข้ามา “แต่ข้ายังไม่รู้ว่าพวกท่านมีประโยชน์อะไรในกลุ่มเลยขอรับ?”

“เหตุใดถึงไม่มีประโยชน์เล่า ข้าก็คือหมูที่ปีนต้นไม้*” ไป๋จิ่นเลิกคิ้วขึ้น พลางพัดเบา ๆ เพราะผู้ชายที่เชื่อถือและไว้ใจได้ก็คือ ไป๋จิ่น!

“เช่นนั้นข้าก็คือม้าทำลายฝูง**อย่างนั้นหรือ?” เผยเสี่ยวเตาที่ชี้หน้าของตัวเอง

เพราะทุกครั้งที่นางต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิต กองทัพทหารเกราะเหล็กก็มักมีคนทำตาม นางจึงถูกจี้จือฮวนตำหนิทุกครั้ง!

เว่ยเจ๋อเซิงได้ยินดังนั้นก็ก้มหน้าลง ในฐานะหมอดูคนหนึ่ง เขาจึงเอ่ยเสียงอ่อยอย่างรู้ตัวเองดี “เช่นนั้น…เช่นนั้นข้าก็คงเป็นไม้กวนอึ***”

เซียวเซวียนจิ่นในฐานะที่เป็นคนที่คอยตักเตือนอาอิน และระวังความปลอดภัยให้นางทุกครั้ง จึงใช้เสียงที่กำลังแตกหนุ่มเอ่ยขึ้นมา “ส่วนข้าเป็นกลองถอย****”

* หมูที่ปีนต้นไม้ (上树的猪) มาจากประโยคที่ว่า ถ้าผู้ชายเชื่อถือได้ แม่หมูก็ปีนต้นไม้ได้เช่นกัน (男人靠得住 猪都能上树)

** ม้าทำลายฝูง (害群之马) หมายถึง คนที่เป็นอันตรายต่อส่วนรวม

*** ไม้กวนอึ (搅屎的棍) หมายถึง ตัวสร้างปัญหา

**** กลองถอย (退堂的鼓) หมายถึง ถอย ยกเลิก ถอนตัว

“เอาล่ะ เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว” ทุกคนมองอาเหริ่นที่อยากจะพูดบ้าง “เพราะเจ้าก็คือลาเงียบ”

เผยยวนจึงเอ่ยขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค “เช่นนั้นเสียงของพวกเจ้าก็เป็นเอกฉันท์ใช่หรือไม่?”

“อืม รับเขาไว้!”

เผยยวนจึงเปิดประตูออกไป จีฝูเย่ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที ราวกับเด็กที่รออาหาร ก่อนเดินเข้าไปหาเผยยวนแล้วเอ่ยด้วยความกระตือรือร้น “ท่านอาจารย์?”

เผยยวนกระแอมเล็กน้อย “เจ้าอยากกราบข้าเป็นอาจารย์ด้วยความจริงใจอย่างนั้นหรือ?”

จีฝูเย่สาบานต่อฟ้า “ศิษย์เพียงอยากเรียนรู้ให้ดีที่สุดขอรับ”

เผยยวนมองไปทางจี้จือฮวน “เอาล่ะ ข้าไม่เคยรับศิษย์มาก่อน แต่ข้าก็มีกฎของข้า หากเจ้าละเมิดกฎเมื่อใด ข้าจะเอาชีวิตเจ้าทันที”

จีฝูเย่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วคุกเข่าลง “ท่านอาจารย์เชิญกล่าวมาได้เลยขอรับ”

“หากเข้าสำนักของข้า ข้อแรก ห้ามทำอะไรที่เป็นการทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ข้ารู้ว่าเจ้าขายอาวุธให้แคว้นต่าง ๆ ข้าไม่รู้รายละเอียดว่าเจ้าคบค้าสมาคมกับผู้ใดบ้าง แต่ข้าขอบอกเอาไว้ก่อนว่า หากเจ้าขายให้กับพวกที่ละเมิดกฎหมายบ้านเมือง ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”

นี่เท่ากับเป็นการตัดเส้นทางทำมาหากินของจีฝูเย่ เพราะคนที่สามารถซื้ออาวุธได้ ล้วนเป็นพวกที่ตั้งตนเป็นใหญ่ คนเหล่านั้นมีสักกี่คนกันที่ทำเพื่อบ้านเมืองและราษฎรจริง ๆ

แต่เผยยวนไม่สนใจว่าเขาจะทำได้หรือไม่ เพราะจะกราบอาจารย์จี้จือฮวนก็มีเงื่อนไขเช่นนี้เหมือนกัน

หากจีฝูเย่ทำไม่ได้ เช่นนั้นก็จะได้ไม่ต้องฝืนตัวเอง

ทว่าจีฝูเย่เพียงแค่ลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมา “เงินที่ศิษย์หามาเพียงพอให้ศิษย์ใช้ได้สิบชาติแล้ว หาไม่ได้อีกก็ไม่เป็นไร ท่านอาจารย์ศิษย์จะปฏิบัติตามกฎของท่านอย่างเคร่งครัดแน่นอนขอรับ”

เอ่ยจบ จีฝูเย่ก็สั่งให้คนไปยกน้ำชามา เพื่อกราบอาจารย์อย่างเป็นทางการ

และหลังจากนั้นไม่นาน ซือถูรุ่ยก็ได้รับข่าว

“กราบอาจารย์แล้วจริง ๆ หรือ?”

“จริงขอรับ”

“เฮอะ เป็นคนแปลกประหลาดจริง ๆ”

“ท่านเจ้าเมืองขอรับ หรือว่าคนที่มาวันนี้จะเป็นจีฝูเย่ตัวจริงขอรับ?”

ซือถูรุ่ยไม่สนใจเรื่องนี้อีกแล้ว “สิ่งที่ข้าต้องการไม่ใช่จีฝูเย่ เพราะสิ่งที่ข้าต้องการจริง ๆ คืออาวุธ ผู้ใดสามารถทำอาวุธวิเศษให้ข้าได้ คนผู้นั้นก็คือจีฝูเย่ ใครตัวจริงตัวปลอมจะสำคัญอะไรกัน ไปตามไช่หุ่ยมา”

“ขอรับ”

ไช่หุ่ยก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว คาดว่าคงรู้ตัวอยู่แล้วว่าซือถูรุ่ยจะต้องเรียกหาเขา ดังนั้นจึงได้รออยู่ก่อนแล้ว

“ท่านเจ้าเมือง”

ซือถูรุ่ยมองหน้าเขา “รู้ว่าควรทำเช่นไรใช่หรือไม่?”

“ท่านเจ้าเมืองโปรดวางใจ คืนนี้ข้าจะจัดการจีฝูเย่ให้จงได้ขอรับ”

“ไปเถอะ อย่าทำให้ข้าผิดหวังอีก”

ในเวลาเดียวกัน ทั้งในและนอกเมืองเจว๋เฉิงยังคงเฉลิมฉลองกันอยู่ เพราะพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของซือถูรุ่ย พลุจึงถูกจุดไม่หยุด

เยว่พั่วหลัวกับไป๋จิ่นจึงอาศัยช่วงเวลานี้ ใช้กู่ล่อลวงขโมยเสื้อผ้าของสาวใช้สองคนมา เตรียมแอบเข้าไปในเรือนหลังอื่น เพื่อตามหาชายชุดดำผู้นั้น

เยว่พั่วหลัวสวมเสื้อผ้าเหล่านี้ยังไม่เท่าไร ทว่าไป๋จิ่นที่เดิมมีรูปร่างสูงใหญ่อยู่แล้ว เมื่อสวมเสื้อผ้าเหล่านี้ ดูอย่างไรก็ดูไม่เหมือนผู้หญิงเลยสักนิด

เยว่พั่วหลัวคิดไปคิดมา จึงล้วงซาลาเปาลูกใหญ่สองลูกยัดเข้าไปในเสื้อของเขา หลังจากยัดจนเสื้อตรงหน้าอกนูนขึ้นมาแล้วจึงได้พอใจ

“ใช้ได้แล้ว ไปเถอะ!”

ไป๋จิ่นล้วงสัตว์พิษของตัวเองออกมา อย่างไรเสียเจ้าสัตว์เหล่านี้ก็จะไล่ตามพิษไปอยู่แล้ว

ขณะที่พวกเขากำลังวิ่งไปทั่วจวนซือถูอย่างรวดเร็ว อาชิงก็ลอยอยู่บนท้องฟ้าเช่นกัน

เขาถูกหานฉีอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขน พลางเอ่ยเสียงเบาขึ้นมาว่า “หานฉีฉี เจ้าต้องเงียบ ๆ ไว้นะ อย่าให้อาจารย์ทั้งสองคนจับได้ล่ะ ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็จะไม่พาข้าไปเที่ยวอีก”

หานฉีพยักหน้ารับคำ

จากนั้นอาชิงก็ลูบหน้าอกของตัวเอง ราวกับกำลังพูดกับตัวเอง แต่ความจริงเขากำลังพูดกับราชาร้อยกู่อยู่ “ไป่ไป่ เจ้าอย่าใจร้อน ข้าจะพาเจ้าไปกินของอร่อยเดี๋ยวนี้แหละ”

ในฐานะเจ้าของร่างที่ราชาร้อยกู่ใช้พัก อาชิงรับรู้ได้ถึงความปรารถนาและความกระตือรือร้นในการทำศึกในร่างกายมาตั้งแต่ตอนที่อยู่ในงานเลี้ยงแล้ว ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังยั่วยุพวกเขาอยู่

ดังนั้นจึงได้อดทนรอจนกระทั่งพวกท่านพ่อกับท่านแม่กลับมาอย่างปลอดภัย

เขา!

อาชิงน้อย!

จะเป็นไม้กวนอึเดี๋ยวนี้ อ้อไม่ใช่ เป็นทูตแห่งความยุติธรรม!

ส่วนไช่หุ่ยก็กำลังมาที่เรือนของพวกเขาเช่นกัน

คลาดกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น

เผยเสี่ยวเตาเพิ่งออกมาจากห้องของจี้จือฮวน เว่ยเจ๋อเซิงก็เอ่ยขึ้นมา “กล่องดำใบเล็กนี้ไม่ใช่ของธรรมดา เจ้าระวังหน่อยล่ะ”

“วางใจเถอะ ข้าเรียนรู้และใช้เป็นแล้ว”

ทันทีที่นางกดปุ่ม ลำแสงสีแดงเหล่านั้นก็ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในตอนกลางคืน

เผยเสี่ยวเตาไม่เคยเล่นของที่สนุกเช่นนี้มาก่อน จึงพาวิ่งไปทั่วทุกที่อย่างมีความสุข เตรียมให้ลำแสงส่องไปทั่วทุกมุมของเรือนหลังนี้

ส่วนไช่หุ่ยก็เพิ่งจะปล่อยหนอนกู่ไม่กี่ตัวออกไป ลำแสงสีแดงสายหนึ่งก็พาดผ่าน ‘ฉ่า ๆ ๆ!’

หลังจากได้ยินเสียงนั้น ไช่หุ่ยก็ได้กลิ่นไหม้ เมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นควันสีดำเล็ก ๆ หลายจุดตรงบริเวณที่เมื่อครู่เขาวางหนอนกู่ไป เมื่อลมพัดขี้เถ้าของหนอนกู่ก็ปลิวหายไป

!!!

หนอนกู่ของเขา!!

ไช่หุ่ยลำคอตีบตัน!

คิดไม่ถึงว่าจีฝูเย่ผู้นี้จะเจ้าเล่ห์เพทุบายเพียงนี้ คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าวันนี้จะมีคนแอบเข้ามา!

ไม่สามารถประมาทคนผู้นี้ได้อีกแล้ว

ไช่หุ่ยจึงตัดสินใจเข้าไปด้วยตัวเอง

เผยเสี่ยวเตากำลังตื่นเต้นอยู่ จึงถือกล่องรังสีอินฟราเรดนั่นมาเปลี่ยนให้เป็นลำแสงหลายประเภท นอกจากนี้ยังหันขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกหนึ่งรอบ ไช่หุ่ยที่เพิ่งกระโดดขึ้นมาก็เห็นลำแสงจากทางหางตา ทว่าเขายังไม่ทันรวบรวมกำลังภายใน ก็ถูกแสงส่องมาโดนแล้ว

เขาจึงกระโดดกลับอย่างรวดเร็ว สุดท้ายไม่ทันระวังเอวเกิดเคล็ด จึงมีกลิ่นไหม้โชยมาจากใบหน้าและศีรษะ เขาไม่มีเวลาสนใจกำลังภายในที่ย้อนกลับจนกระอักเลือดออกมา ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ริมแม่น้ำโดยอาศัยแสงไฟที่ส่องมา

ใบหน้านอกจากมีรอยไหม้จนเป็นตารางเก้าช่องแล้ว ผมที่เดิมก็มีอยู่ไม่มากยังไหม้จนเกือบหมด เหลือฝั่งนี้หย่อมหนึ่ง ตรงนั้นอีกหย่อมหนึ่ง!

“น่าเจ็บใจ! น่าเจ็บใจจริง ๆ! ข้าจะฆ่าเจ้า!”

ไช่หุ่ยโมโหเป็นอย่างมาก จึงล้วงหนอนกู่ทั้งหมดของตัวเองออกมา และกลับไปที่เรือนของเผยยวนอีกครั้ง

ในตอนนั้นเอง เยว่พั่วหลัวกับไป๋จิ่นก็รู้ที่พักของไช่หุ่ยแล้ว

“เจ้าแก่ผู้นี้โหดเหี้ยมจริง ๆ ดอกไม้ในสวนนี้ล้วนเป็นดอกไม้ในหมู่บ้านของพวกเจ้ากระมัง?”

เยว่พั่วหลัวเองก็สงสัยเช่นกัน “คนผู้นี้ดูเหมือนจะรู้จักสำนักกู่ของข้าและสำนักพิษของเจ้าเป็นอย่างดี หรือว่าเขาจะมีความเกี่ยวข้องกับพวกเราอย่างนั้นหรือ?”

.

.

.

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

Score 10
Status: Completed
หน่วยสืบราชการลับ—จี้จือฮวนเกิดใหม่เป็นตัวประกอบในนิยายที่ได้แต่งกับเทพสงครามเป็นแม่เลี้ยงของ 3 วายร้ายแต่กลับต้องตายตั้งแต่ต้นเรื่อง ในเมื่อปฏิเสธชะตาไม่ได้ขอแค่ไม่ตายก็จะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม! จี้จือฮวน–หน่วยสืบสวนราชการลับระดับ S ในโลกล้ำยุค จู่ ๆ ก็ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นตัวประกอบหญิงในนิยายที่เคยอ่าน(แต่ไม่จบ) ซึ่งตายตั้งแต่ยังไม่พ้นสามบทแรก! เธอคนนี้แต่งงานกับเผยยวนได้รับสมญานาม ‘เทพสงครามแห่งความตาย’ และเป็นแม่เลี้ยงของเด็กแสบสามคน จี้จือฮวนปฏิเสธชะตากรรมนองเลือด ขอแค่มีชีวิตรอดปลอดภัย อยู่ต่อไปก็พอ แต่เรื่องกลับไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะตัวประกอบที่เธอกำลังเป็นอยู่ดันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ลูกเลี้ยงทั้งสามกลายเป็นตัวมากเล่ห์ จอมมารร้าย ซึ่งจะนำพาพวกเขาไปสู่จุดจบอันเศร้าสลดเมื่อทั้งสามโตขึ้น…นั่นก็คือความตายอย่างน่าอนาถ ในเมื่อเลือกไม่ได้ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เธอจะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม! . โชคดีสวรรค์ยังมีตา เธอมีทักษะทุกอย่าง ทั้งงานฝีมือ ทักษะการเพาะปลูกและทำนาที่สามารถหาเงินเพื่อใช้เลี้ยงครอบครัวได้ ยิ่งกว่านั้น เธอมีของดีที่สุด คือมิติพิเศษที่ช่วยให่เธอหยิบยืมอะไรก็ได้จากโลกอนาคตติดตัวมาด้วย! . เอาล่ะ! ในฐานะอดีตสายลับระดับสุดยอด ใครหน้าไหนก็หยามกันไม่ได้! ต่อให้เป็นสวรรค์ก็เถอะ หากคิดจะฆ่าเธอทิ้ง เธอจะชิงสังหารสวรรค์ก่อน! . . ต่อมาลูกชายคนโตที่ตั้งแต่เด็กสุดแสนจะเงียบขรึมกลับได้ขึ้นเป็นกษัตริย์! นักรบจอมพลังซึ่งเป็นลูกสาวคนที่สองก็กลายเป็นแม่ทัพหญิงคนแรกที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ผู้ที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดในใต้หล้า แม้แต่ลูกชายคนเล็กก็กลายเป็นแพทย์หนุ่มผู้เชี่ยวชาญสารพัดพิษ ร่างกายของเขาทนทานต่อพิษทั้งปวงอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้ . . จี้จือฮวนรู้สึกว่าตนเองไร้ประโยชน์ในฐานะสาวงามที่ถูกราชสำนักและประชาชนผลักไสอย่างไร้ความปรานี เธอจึงจำต้องทำให้ตัวเองเป็นสตรีที่น่าเกรงขาม เป็นที่หวาดกลัวต่อราชสำนักและประชาชนเมื่อทุกคนนึกถึง!

Options

not work with dark mode
Reset