บทที่ 507 ผลของยาออกฤทธิ์รุนแรง
ซือถูรุ่ยถูกเผยยวนถามเช่นนี้ กลับหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ
“แม้ข้าจะไม่เคยพบเผยยวนมาก่อน แต่รู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนที่ชอบปล่อยข่าวลือเช่นนี้ อีกอย่างข้าเคยประมือกับสือฟางมาแล้ว หากไม่มีกองปืนไฟ การที่เผยยวนต้องการจะยึดเมืองอวิ๋นจงให้ได้ในคราเดียว เกรงว่าคงจะเป็นไปได้ยาก”
“ยากไม่ได้หมายความว่าทำไม่ได้ แต่ข้ากล้ารับประกันว่าทั้งใต้หล้าไม่มีใครสามารถเอาชนะอาวุธของข้าได้” จีฝูเย่ผู้นี้เป็นคนมั่นใจในตัวเองและหยิ่งผยอง ดังนั้นหลังจากที่เขาพูดเช่นนี้ ซือถูรุ่ยก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
“เชื่อว่าพี่จีมาครั้งนี้ก็คงเตรียมของขวัญที่จะมอบให้ข้าเอาไว้แล้วกระมัง และที่ข้าเคยรับปากพี่จีเอาไว้ก่อนหน้านี้ก็ไม่ขาดเลยแม้แต่อย่างเดียว ขอเพียงเมืองเจว๋เฉิงของข้าผ่านปัญหาครั้งนี้ไปได้ ท่านก็จะเป็นแขกคนสำคัญของเมืองเจว๋เฉิงของข้า”
ทั้งสองคนพูดคุยกันอีกเล็กน้อย ก่อนจะเห็นว่ามีสาวใช้เดินเรียงแถวยาวเหยียดเข้ามา บอกว่าห้องโถงด้านหน้าได้จัดเตรียมการร้องรำ และการแสดงเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
เผยยวนจึงปัดมือไปมา “ข้าเดินทางมาไกลรู้สึกเหนื่อยล้ายิ่งนัก น้ำใจของเจ้าเมืองซือถู ข้าขอรับเอาไว้ด้วยใจ”
ซือถูรุ่ยจึงรีบพูดขึ้นมา “เช่นนั้นงานเลี้ยงอาหารค่ำพี่จีค่อยให้เกียรติมาร่วมงานก็แล้วกัน เด็ก ๆ พาคุณชายฝูเย่ไปพักผ่อน
ในเมื่อพี่จีเหนื่อยมากแล้ว ข้าก็จะไม่รบกวนอีก แล้วพบกันตอนเย็นนะขอรับ”
“ท่านเจ้าเมืองซือถูเกรงใจเกินไปแล้ว”
…
เรือนที่จัดไว้สำหรับพวกเขานั้นหลังใหญ่และกว้างขวาง ดูจากการตกแต่งภายในและของใช้ที่มีอย่างครบครันแล้ว ดูก็รู้ว่าซือถูรุ่ยนั้นตั้งใจมากจริง ๆ
นอกจากเรื่องที่สตรีทุกคนในนี้สวมผ้าบางเบาเดินไปมาแล้ว ที่นี่นับได้ว่าเป็นที่อยู่ของเทพเจ้าเลยก็ว่าได้
ห้องของพวกเยว่พั่วหลัวก็ถูกจัดเอาไว้ที่ข้างห้องของเผยยวน
“ออกไปได้แล้ว” จี้จือฮวนปัดมือให้เหล่าสาวใช้ออกไปให้หมด
“ท่านเจ้าเมืองสั่งพวกเราให้คอยปรนนิบัติแขกผู้มีเกียรติให้ดีเจ้าค่ะ”
“ท่านฝูเย่ น้ำร้อนเตรียมพร้อมแล้ว ผู้น้อยถอดเสื้อให้นะเจ้าคะ”
เอ่ยจบสตรีกลุ่มนั้นก็ไม่รอให้เผยยวนและจี้จือฮวนปฏิเสธ พวกนางเข้ามาเบียดจี้จือฮวนออกทันที และห้อมล้อมเผยยวนให้เข้าไปยังห้องอาบน้ำด้านหลัง
จี้จือฮวนเดินตามหลังไปอย่างสงบ ขณะที่เผยยวนกำลังจะเอ่ยปากห้าม นางก็แอบส่งสัญญาณให้เผยยวนว่าอย่าพูด
เพราะจีฝูเย่มีคนรับใช้ที่งดงามมากมาย หากจู่ ๆ เขาปฏิเสธพวกนาง และเกิดซือถูรุ่ยผู้นั้นรู้เข้า เกรงว่าอาจมีการทดลองรอบใหม่เกิดขึ้นอีก
เยว่พั่วหลัวกับไป๋จิ่นก็ตามเข้ามาเช่นกัน
บรรดาสาวใช้คิดว่าพวกเขาจะมาแย่งทำเพื่อเอาหน้า ดังนั้นจึงมีสตรีนางหนึ่งเอนพิงข้างกายของเผยยวนอย่างหาญกล้า โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าร่างกายของเขาเวลานี้ได้แข็งค้างไปแล้ว
เผยยวนตกตะลึงไปเรียบร้อยแล้ว
เนี่ยเจิ้งอ๋องแห่งต้าจิ้นตอนนี้รู้สึกราวกับมีมีดเล่มหนึ่งมาจ่ออยู่ที่คอ เขากลายเป็นคนแปดเปื้อนแล้ว!
“คุณชายมีทั้งความสามารถและชื่อเสียง ผู้น้อยได้ยินชื่อของท่านมานานแล้ว วันนี้หากผู้น้อยได้ปรนนิบัติคุณชายอย่างที่ปรารถนาสักครั้ง ก็คุ้มค่าที่ได้รู้จักกับคุณชายแล้วเจ้าค่ะ”
เอ่ยจบสายรัดเอวของเผยยวนก็ถูกสาวใช้ผู้นั้นดึงออกทันที
เมื่อเห็นเผยยวนให้ความร่วมมือเช่นนี้ เหล่าสาวใช้ก็ส่งสายตาให้กัน ต้องการไล่พวกจี้จือฮวนที่ตามเข้ามาออกไป
และภายในห้องน้ำเวลานี้ก็มีไอน้ำสีขาวอบอวลเต็มไปหมด เพราะที่นี่ได้มีการต่อน้ำพุร้อนบนภูเขามาที่จวนโดยตรง
สระสำหรับอาบน้ำทั้งหมดถูกสร้างเป็นรูปกลีบดอกไม้ จึงสามารถรองรับคนได้หลายคน
เห็นได้ชัดว่าซือถูรุ่ยผู้นี้ปกติเป็นคนเพลิดเพลินกับชีวิตมากเพียงใด
“นี่!” มีเสียงของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้นมา สาวใช้ทั้งหมดจึงหันหน้าไป
เยว่พั่วหลัวใช้มือปัดตรงหน้าพวกนางหนึ่งครั้ง กู่ล่อลวงก็มุดเข้าไปในหูของพวกนางทันที จากนั้นสายตาของพวกนางก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นเลื่อนลอย
“พวกเจ้าปรนนิบัติท่านฝูเย่เสร็จแล้ว นอนเถอะ”
หลังจากเยว่พั่วหลัวสั่ง สาวใช้เหล่านั้นก็หลับตาลง จากนั้นก็นอนลงบนพื้นอย่างระเกะระกะ
ไป๋จิ่นรับตัวพวกนางเอาไว้ได้สองคน จากนั้นก็ช่วยเยว่พั่วหลัวลากคนออกไป
“ลูกพี่ฮวนฮวน ท่านจัดการต่อเถอะ พวกเราจะทำเป็นมองไม่เห็น! แต่อย่าทำให้ถึงตายพอ!”
เผยยวน “…”
ช่างเป็นสหายที่ดีจริง ๆ
“บัดซบ ตัวหนักจริง ๆ” ไป๋จิ่นไม่ได้ลากออกไปทางประตูใหญ่ แต่กลับโยนคนไปไว้ด้านข้างแทน เมื่อมองออกไปด้านนอกก็พบว่าเรือนหลังนี้ทั้งบนหลังคาและด้านหลังต่างมีคนจับตามองอยู่
“ชิ”
เยว่พั่วหลัวจึงเอ่ยด้วยความโมโห “เป็นอย่างไร?”
“มีคนเต็มไปหมด”
“เช่นนั้นไม่เท่ากับว่าพวกเราออกไปไม่ได้หรอกหรือ! บัดซบ”
แต่เยว่พั่วหลัวลงมือแล้วก็ต้องทำให้จบงาน นางจึงจับสาวใช้เหล่านั้นโยนขึ้นไปบนเตียง ทั้งยังแย่งคนจากมือของไป๋จิ่นมาอีกด้วย
“เจ้าจับไว้แน่นขนาดนี้ ไม่อยากยกให้ข้าอย่างนั้นหรือ!” เยว่พั่วหลัวเอ่ยถามด้วยความโมโห
ไป๋จิ่นรู้สึกเหมือนถูกใส่ร้ายจึงเอ่ยขึ้นมา “เจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล”
“ข้าเหลวไหลอย่างนั้นหรือ เจ้าเห็นว่านางรูปร่างดี จึงละสายตาไม่ได้ใช่หรือไม่!” เยว่พั่วหลัวเอ่ยไปก็กระชากเสื้อของสตรีเหล่านั้นลงอีกด้วย
เดิมไป๋จิ่นคิดจะเถียงกับนางให้รู้เรื่อง แต่เมื่อเห็นดังนั้นก็หมุนตัวไปทันที ใบหูแดงเรื่อไปหมด “เจ้าทำอะไรกัน?”
“พวกนางถูกกู่สะกดแล้ว แต่หากเสื้อผ้ายังอยู่ครบใครเขาจะเชื่อกัน พวกนางไม่ใช่คนโง่นะ” เยว่พั่วหลัวบ่นออกมาอย่างคนไร้ความรู้สึก
“เมื่อครู่เจ้ายังมองอย่างชอบใจอยู่เลยไม่ใช่หรือ ตอนนี้จะมาเสแสร้งอะไรกัน” เยว่พั่วหลัวยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห
ไป๋จิ่นก็ไม่ได้หันกลับไป รอเยว่พั่วหลัวลงมาจากเตียงแล้ว จึงได้พูดกับคนที่อยู่ในห้องอาบน้ำ “ลูกพี่ฮวนฮวน เผยจื่อ พวกเรากลับห้องก่อนนะ”
ไม่อย่างนั้นหากพวกเขาอยู่ที่นี่ด้วย จะทำให้คนพวกนั้นสงสัยเอาได้
แต่ซือเยียนนั้นเป็นคนที่จีฝูเย่ไว้ใจที่สุด เป็นเหมือนเงาตามตัวตลอดเวลา
ทั้งสองคนเปิดประตูห้องออกไป และแสร้งโค้งตัวลง “เจ้าค่ะ/ขอรับ นายท่าน”
จากนั้นก็ปิดประตูให้ และกลับไปที่ห้องของพวกเขา ท่ามกลางสายตาของสาวใช้ที่ยืนอยู่เต็มเรือน
“อึดอัดจะตายอยู่แล้ว!” เยว่พั่วหลัวถอดหน้ากากออก แล้วทิ้งตัวนอนลงบนเตียง “เหตุใดถึงได้ร้อนเพียงนี้กัน”
ไป๋จิ่นก็รู้สึกร้อนผ่าวเช่นกัน จึงหยิบกาน้ำชาขึ้นมาโดยไม่สนใจว่าจะร้อนหรือเย็น เมื่ออ้าปากก็เทลงคอทันที
ดื่มชาจนหมดแล้วยังกระชากคอเสื้อออก เพื่อระบายความร้อนอีกด้วย
“เหตุใดที่นี่ถึงได้ร้อนเพียงนี้กัน?”
เยว่พั่วหลัวตัวแดงจนถึงลำคอแล้ว “ไม่น่าใช่ นี่เพิ่งจะเข้าฤดูใบไม้ผลิเองนะ!”
นางหันกลับมาเห็นไป๋จิ่นร้อนจนเหงื่อออกเต็มใบหน้า ทั้งสองคนล้วนเป็นยอดฝีมือในการใช้พิษและใช้กู่ หลังจากสบตากันหัวใจก็กระตุกขึ้นมา!
คงไม่ใช่ว่าโดนเข้าแล้วกระมัง!
ตอนแรกพวกเขายังรู้สึกสับสนเล็กน้อย จากนั้นก็เริ่มหวาดกลัวขึ้นมา
พวกเขาสองคนอยู่ในห้องเดียวกัน ทว่ากลับถูกวางยาพร้อมกัน!
เช่นนั้นใครเป็นคนทำกัน และวางยาพวกเขาตั้งแต่เมื่อใด เหตุใดพวกเขาถึงไม่รู้ตัวเลยสักนิด!
ไม่ทันรู้ตัวก็ถูกลอบทำร้ายเสียแล้ว
จี้จือฮวนกับเผยยวนอยู่ด้วยกัน ด้วยความสามารถของนางแล้ว ทั้งสองคนจึงไม่เป็นห่วงความปลอดภัยของเผยยวนเลยแม้แต่น้อย
แต่เรื่องนี้กลับกระทบกระเทือนจิตใจของพวกเขาอย่างมาก!
“เป็นใครกันแน่?!”
“เรื่องนี้ยังจะสำคัญอีกอย่างนั้นหรือ เพราะเรื่องสำคัญกว่าก็คือตอนนี้หัวใจข้าเต้นเร็วมาก ที่เจ้ามีกู่อะไรหรือไม่!”
“แล้วเจ้ามียาชำระจิตใจหรือไม่!?”
ทั้งสองคนสบตากัน ต่างก็ล้วงกระเป๋าประจำกายของตัวเองออกมา และยัดของใส่ปากให้อีกฝ่ายทันที
สุดท้ายมือของไป๋จิ่นก็เริ่มสั่นเทาขึ้นมา เขารีบหลบไปอยู่ที่มุมห้องและกลืนน้ำลายอย่างบ้าคลั่ง ไม่กล้ามองไปทางเยว่พั่วหลัวแม้แต่น้อย ในหัวเต็มไปด้วยภาพรูปร่างสาวใช้ที่ได้เห็นมาตลอดทางเหล่านั้น
ส่วนร่างกายของเยว่พั่วหลัวก็เริ่มอ่อนแรงลง นางจึงนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง เหงื่อไหลโซมไปทั่วร่างทำให้ผ้าปูที่นอนเปียกไปหมด
“จบกัน ๆ มันคือสิ่งใดกันแน่”
“อาชิง ไปเรียกอาชิงพาราชาร้อยกู่มา!”
ไป๋จิ่นพยายามอดกลั้นอย่างยากลำบาก ก่อนจะกัดฟันแน่นแล้วเอ่ยขึ้นมา “ตอนนี้ข้ามีสภาพเช่นนี้ จะไปเรียกได้อย่างไร?”
มีดสั้นเขาตื่นขึ้นมาแล้ว!
สายตาของเยว่พั่วหลัวเริ่มพร่าเลือน “เหตุใดเจ้าไม่ไปเรียกเองเล่า ข้า! ข้าไม่มีแรงแล้ว!”
“ขืนเจ้ายังพูดไม่หยุดเช่นนี้ พวกเราได้จบเห่แน่”
พิษนี้หากไม่รีบถอนออกมา อีกไม่นานพวกเขาคงได้กลายเป็นศพแน่
.
.
.