บทที่ 485 ยึดเพี่ยวโจวคืนมา
เมื่อเผยยวนเห็นชาวบ้านภายในเมืองกำลังห้ำหั่นกับกองกำลังสือฟาง ก็ออกคำสั่งทันที “โจมตีเมือง!”
หลังจากได้ยินคำสั่ง กองทัพทหารเกราะเหล็กจำนวนมากก็บุกไปที่ประตูเมืองทันที!
ปืนใหญ่โจมตีกำแพงเมืองโดยตรง กองกำลังสือฟางก็ปั่นป่วนไปหมด พวกเขาถูกพวกชาวบ้านรวมพลังกันล้อมเอาไว้ หนีไปไหนก็ไม่ได้ จะฆ่าก็ฆ่าไม่ได้
“ต้อนรับกองทัพทหารเกราะเหล็ก! สังหารสือฟาง”
เสียงตะโกนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
‘ตูม!’ จากนั้นก็มีเสียงปืนใหญ่ดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมา ประตูเมืองถูกเปิดออก เมื่อกองทัพทหารเกราะเหล็กเข้าเมืองมาได้แล้วก็บุกหน้าเหมือนผ่าลำไผ่!
กองกำลังสือฟางที่หลายวันมานี้กินข้าวไม่อิ่ม จึงไม่ต้องพูดถึงเรื่องหยิบอาวุธขึ้นมาสู้กับพวกเขา เพราะแม้แต่จะวิ่งหนีก็ยังวิ่งได้ไม่ไกล!
กองทัพทหารเกราะเหล็กบุกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ปากก็ตะโกนไปด้วย “ผู้ที่ยอมจำนนเราจะไว้ชีวิต!”
กองกำลังสือฟางจึงเลือกที่จะโยนอาวุธทิ้ง และคุกเข่าอยู่กับที่เพื่อรักษาชีวิต ไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย
แต่ก็ยังมีพวกที่ดื้อรั้นและยังคงปกป้องสือฟางให้หลบหนีไปทางประตูเมืองทิศตะวันตก
ส่วนชาวบ้านต่างก็รีบหลบ เพราะคนในเมืองทุกคนต่างก็เกลียดสือฟางจึงไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่ง!
กองทัพทหารเกราะเหล็กยังคงบุกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นี่ใช่ทหารที่ใดกัน! นี่มันมือสังหารชั้นยอดชัด ๆ
ไม่ว่ากองทัพทหารเกราะเหล็กไปที่ใด ก็จะมีเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว สามารถเด็ดหัวคนมากมายได้โดยไม่เปลืองแรงเลยแม้แต่น้อย กองกำลังสือฟางไม่มีโอกาสแม้แต่จะโต้กลับ นี่คือการบดขยี้ที่สมบูรณ์แบบ
“ท่านแม่ทัพ! ท่านรีบพาคุณหนูไปก่อนเถอะขอรับ ข้าจะระวังหลังให้เอง”
รองแม่ทัพข้างกายของสือฟางผลักสือฟางไปข้างหน้า สือฟางที่ควบม้าอยู่ จึงไม่มีเวลาหันมามองเขาแม้แต่น้อย เพราะม้าได้วิ่งตะบึงไปทางประตูเมืองทางทิศตะวันตกอย่างรวดเร็ว
เขาเป็นกองกำลังทหารมาทั้งชีวิต คิดไม่ถึงว่าจะมาอยู่ในจุดนี้ได้!
เกรงว่าภายภาคหน้าคงไม่มีวันที่จะหวนกลับมาตั้งตัวเป็นใหญ่ได้อีกแล้ว พี่น้อง ลูกสาว ล้วนถูกฆ่าจนหมด…
แม้แต่กองกำลังก็ไม่เหลือแล้ว เขาจะต้องโดดเดี่ยวและตกอับเช่นนี้ไปตลอดชีวิตอย่างนั้นหรือ!
ทางด้านรองแม่ทัพนั่นก็ถือหอกยาวและหันกลับมาเตรียมเผชิญหน้ากับกองทัพทหารเกราะเหล็กตรง ๆ
“หากอยู่ในสนามรบจริง ๆ การตอบสนองที่เชื่องช้าเช่นนี้ เจ้าคงได้ตายไปแปดร้อยรอบแล้ว!”
น้ำเสียงสบาย ๆ ของชายผู้หนึ่งดังมาจากทางด้านหลัง ทันทีที่รองแม่ทัพผู้นั้นหันกลับมา เผยยวนก็ควบม้ามาอยู่ที่ด้านหลังของเขาแล้ว!
เมื่อเห็นสีหน้าหวาดกลัวของเขา เผยยวนก็ยกมุมปากขึ้น ทันทีที่มุมปากโค้งขึ้นมา ดาบยาวของเขาก็ฟันเข้าที่คอของรองแม่ทัพผู้นั้นทันที แม้กระทั่งถูกฟันและหมดลมหายใจไปตรงนั้น เขาก็ยังไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองตายได้อย่างไร
เผยยวนหิ้วหัวคนเอาไว้ในมือ จากนั้นก็หมุนตัวกลับไปเอ่ยกับเหล่าทหารมากมายที่อยู่ด้านหลังแล้วตะโกนขึ้นมา “กฎของกองทัพ กฎเหล็กยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ใครที่ยอมจำนนและทิ้งอาวุธตอนนี้ ข้ารับปากว่าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า แต่หากผู้ใดขัดขืนก็จะมีจุดจบเช่นนี้”
พูดจบเขาก็ชูหัวคนขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะโยนลงไปตรงกลางวงของพวกเขา
สือฟางที่อยู่ด้านหน้าย่อมได้ยินประโยคนี้เช่นกัน กองกำลังสือฟางที่ประตูเมืองทิศตะวันตกก็เลือกที่จะวางอาวุธลงอย่างเงียบ ๆ
ยอมจำนนแล้ว
พวกเขาแค่อยากจะมีชีวิตรอด
ใครให้ข้าวกิน พวกเขาก็จะติดตามคนนั้น
สือฟางดึงบังเหียนเอาไว้แน่น แม้แต่องครักษ์ที่ตามหลังเขามาก็ไม่ไปด้วยอีก แต่อย่างน้อยก็ไม่หันมาเล่นงานเขา
สือฟางดวงตาแดงก่ำ มองดูพวกเขาแล้วเอ่ยขึ้นมา “ข้าดีกับพวกเจ้าไม่น้อย! พวกเจ้าเชื่อว่ากองทัพทหารเกราะเหล็กจะไว้ชีวิตพวกเจ้าจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?”
“กองทัพทหารเกราะเหล็กแม้ว่าจะเป็นกองทัพศัตรู แต่พวกเขาก็ไม่เคยผิดคำพูด”
“เหตุผลนี้ทั้งใต้หล้าต่างก็รู้ดี ท่านแม่ทัพไม่เข้าใจหรือขอรับ ผู้ที่สูญเสียหัวใจของประชา ก็จะสูญเสียใต้หล้า”
“ยิ่งกว่านั้นหากเราตาย ท่านแม่ทัพจะสามารถจำว่าพวกเราเป็นใครได้อีกอย่างนั้นหรือขอรับ แม้แต่พี่น้องที่ติดตามท่านตายด้วยน้ำมือของเผยยวน ท่านก็ยังไม่สามารถล้างแค้นให้พวกเขาได้เลย”
พวกเขาไม่ใช่สุนัขของสือฟาง ถึงช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ เกรงว่าแม้แต่สือฟางเองก็คงไม่เชื่อว่าตัวเองจะสามารถหวนกลับมาตั้งตัวเป็นใหญ่ได้อีกแล้วกระมัง?
ภรรยาและลูกของพวกเขาล้วนอยู่ในเมืองอวิ๋นจงที่เพี่ยวโจว
สือฟางเป็นสุนัขที่ไร้เจ้าของแล้ว ไม่คุ้มค่าที่จะสละชีวิตเพื่อเขาอีกแล้ว
เสียงฝีเท้าม้าของเผยยวนดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง ทั้งยังแฝงไว้ซึ่งความโอหังอีกด้วย
สือฟางก็ไม่ได้หนีต่ออีก ก่อนจะหันหน้าไปมองทางเผยยวน “เผยยวน ชีวิตนี้ข้าไม่ได้เป็นคนดีอะไร และคนที่ถูกข้าสังหารก็มีมากจนนับไม่ถ้วน บัดนี้พ่ายแพ้ให้กับเจ้าก็ถือว่าสมควรแล้ว”
เขาลงจากหลังม้าและวางสือซุ่ยซุ่ยที่อยู่ด้านหลังลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง ทว่าด้านข้างกลับมีทหารชั้นผู้น้อยที่อยากได้เงินรางวัลอยู่ เขาจึงถืออาวุธเข้าไปเพื่อต้องการจะลอบสังหารสือฟาง
“ข้าไม่ได้คิดจะขัดขืน ข้าเพียงอยากให้ลูกสาวของข้ามีสถานที่พักผ่อนที่สะอาดสะอ้าน”
เผยยวนใช้ดาบสังหารหยุดทหารชั้นผู้น้อยเอาไว้
ในสนามรบ การให้เกียรติอีกฝ่ายถือเป็นคุณธรรมของเขา
ยิ่งไปกว่านั้น สือฟางก็ไม่ได้ขัดขืน แต่กำลังลูบไล้ใบหน้าศพลูกสาวของเขาอยู่
สือฟางจะทำอะไร เผยยวนเองก็พอจะเดาได้แล้ว
ส่วนสือฟางที่เห็นการกระทำของเผยยวนก็เข้าใจได้เช่นกัน น่าเสียดายที่ซุ่ยซุ่ยของเขาตาบอด ไปเลือกผู้ชายอย่างเซี่ยเซวียน หากนางเลือกผู้ชายที่มีจิตใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่สักคนในกองกำลัง ซุ่ยซุ่ยก็คงจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้
ต่อให้เขาจะปกป้องเมืองนี้เอาไว้ไม่ได้ แต่เขาเชื่อว่าจะสามารถปกป้องซุ่ยซุ่ยให้หนีไปได้อย่างแน่นอน
เขาหยิบหวีไม้ด้ามหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ จากนั้นก็หวีผมข้างขมับของซุ่ยซุ่ยให้เรียบร้อย
เผยยวนรออย่างอดทน กองกำลังสือฟางที่อยู่ด้านหลังก็วางอาวุธลงแล้ว และกองทัพทหารเกราะเหล็กก็กำลังยึดอาวุธของพวกเขาอยู่ เพราะกลัวว่าจะมีคนไม่กลัวตายจับชาวบ้านเป็นตัวประกันอีก
สือฟางหวีผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้เงยหน้าขึ้นแล้วพูดออกมา “แม่ทัพเผยรับปากข้าสักอย่างได้หรือไม่?
ซุ่ยซุ่ยของข้านางเป็นแค่สตรีที่ไร้เดียงสาคนหนึ่ง ข้าทำอะไรแม้ว่านางจะรู้ทว่าก็ไม่สามารถห้ามข้าได้ แต่นางก็ไม่เคยทำร้ายผู้ใด วัน ๆ รู้จักแต่การเย็บปักถักร้อย ตอนนางเด็ก ๆ มีชีวิตที่ลำบาก โตมาก็เลือกผู้ชายผิดทำให้ต้องชดใช้ในสิ่งที่เลือก แม่ทัพเผย ท่านช่วยให้นางมีศพที่สมบูรณ์จะได้หรือไม่?”
“ลูกสาวของเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์ เรื่องศพเจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ให้คนย่ำยีศพของนางอย่างแน่นอน” เผยยวนพยักหน้ารับคำ
และเขาเองก็ไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาให้เป็นคนใจดำอำมหิตเช่นนั้น ที่จะทำร้ายสือซุ่ยซุ่ยที่เป็นผู้บริสุทธิ์ได้ลงคอ ยิ่งไปกว่านั้น สือฟางเองก็ได้ยอมจำนนแล้ว
สือฟางพยักหน้าให้เขา ก่อนจะมองไปที่ใบหน้าของสือซุ่ยซุ่ย “ซุ่ยซุ่ย พ่อไม่ดีเอง พ่อทำให้เจ้ามีความสุขไม่ได้”
จากนั้นสือฟางก็เอาผ้าสีขาวมาคลุมให้สือซุ่ยซุ่ย เสร็จแล้วก็ลุกขึ้นยืนและประสานมือให้เผยยวน
“แม่ทัพเผยมีความกล้าหาญและน้ำใจเช่นนี้ สือฟางพ่ายแพ้ให้กับท่านและขอยอมรับจากใจจริง”
เอ่ยจบสือฟางก็หยิบขวานขึ้นมา แล้วมองดูเมืองอวิ๋นจงที่ตอนนั้นเขายึดครองมาได้ด้วยการบังคับอีกครั้ง ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ เขาไม่อยากตายด้วยน้ำมือของคนอื่น ดังนั้นเขายอมฆ่าตัวตายเสียยังดีกว่า และเกรงว่าเผยยวนคงไม่ให้เวลาเขาจัดการเรื่องงานศพของซุ่ยซุ่ยด้วยตัวเองอีกแล้ว
แต่อย่างน้อยเขาก็รับปากแล้ว นี่จึงถือเป็นจุดจบที่ดีที่สุดแล้ว
“ซุ่ยซุ่ย! พ่อมาแล้ว!”
เอ่ยจบ สือฟางก็ยกขวานขึ้นมา ปาดคอฆ่าตัวเองทันที
เลือดสีแดงฉานพุ่งออกมา ทำให้ผ้าขาวที่คลุมร่างของสือซุ่ยซุ่ยถูกย้อมจนเป็นสีแดงไปด้วย
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง สือฟางก็ล้มลงกับพื้น
“โจรเฒ่าสือฟางตายแล้ว!”
“สือฟางตายแล้ว! ในที่สุดพวกเราก็เป็นอิสระแล้ว!”
ในเวลานี้ชาวบ้านจำนวนมากต่างตะโกนขึ้นมาจนดังกึกก้อง
ในที่สุดพวกเขาก็จะได้ใช้ชีวิตเหมือนคนอื่น ๆ แล้ว!
เผยยวนปัดมือ สั่งให้คนเข้าไปเก็บศพ
“ท่านอ๋อง พบร่างของเซี่ยเซวียนถูกพวกชาวบ้านเหยียบจนตาย ควรจัดการศพของเขาเช่นไรดีขอรับ?”
“อย่างไรเสียเขาก็เป็นสายเลือดของไท่ซ่างหวง ฝังศพให้ดี”
“ขอรับ”
เผยยวนหมุนกายนำธงทหารของต้าจิ้นปักลงบนเขตแดนเมืองอวิ๋นจงอีกครั้ง
นับแต่นี้ไปราษฎรเพี่ยวโจวจะได้กลับคืนสู่บ้านเกิด! ไม่ถูกขูดรีดจากผู้บุกรุกอีกต่อไปแล้ว
.
.
.