เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้ายบทที่ 471 กองกำลังสือฟางกลายเป็นเชลยกลุ่มใหญ่

บทที่ 471 กองกำลังสือฟางกลายเป็นเชลยกลุ่มใหญ่

บทที่ 471 กองกำลังสือฟางกลายเป็นเชลยกลุ่มใหญ่

เผยยวนเห็นอีกฝ่ายสู้ไม่ได้และเรียกหายอดฝีมือ ก็พ่นเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะฟันดาบสังหารลงไปอย่างแรงและรวดเร็ว เหลียงจงตั้งรับกระบวนท่านี้ได้ แต่ก็ถูกเผยยวนกระแทกจนง่ามนิ้วชาไปหมด เวลานี้ม้าของเขาก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ง ยอมสยบต่ออำนาจของจ้านอิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เหลียงจงคิดจะหนี เผยยวนไหนเลยจะปล่อยให้เขาหนีไปได้ จึงนำตัวคนกลับมาอีกครั้ง!

หลังจากผ่านไปอีกไม่กี่กระบวนท่า เหลียงจงก็มีสภาพสะบักสะบอมอย่างมาก ลมหายใจปั่นป่วน!

“ข่าวลือที่บอกว่าหย่งกวานโหวแห่งต้าจิ้นดูแลกองทัพเข้มงวด แต่คิดไม่ถึงว่าลับหลังจะเป็นพวกที่ใช้วิธีการสกปรกเช่นกัน!”

เผยยวนเอ่ยเย้ยหยัน “ดีกว่าสู้ไม่ได้ก็เรียกให้คนช่วยก็แล้วกัน เจ้ายังไม่หย่านมอีกหรือ!”

เอ่ยจบก็เตะอัดไปอีกครั้ง ทำให้เหลียงจงกระเด็นไปไกล เมื่อเหลียงจงจะโต้กลับหอกเงินของเหล่าทหารเกราะเหล็กที่อยู่ข้าง ๆ ก็แทงเข้ามาทันที ทำให้เหลียงจงกลายเป็นเม่นในพริบตา และเมื่อถูกยกให้สูงขึ้น ก็พบว่าบนร่างของเหลียงจงมีหอกเงินแทงอยู่ไม่ต่ำกว่าเจ็ดเล่ม หลังจากยอดฝีมือเหล่านั้นถูกยิง เหล่ารองแม่ทัพถูกล้อมปราบ สถานการณ์การต่อสู้ที่เดิมดูน่ากังวล ก็หยุดลงในพริบตาเมื่อเหลียงจงถูกฆ่า

“ท่านแม่ทัพตายแล้ว! หนีเร็ว!”

กองกำลังสือฟางไม่ใช่คนโง่ ทุกคนล้วนทำเพื่อเลี้ยงชีพ หรือบางส่วนก็อยากติดตามพวกสือฟางเพื่อจะได้มีอนาคต มีลาภยศกับเขาบ้าง

แต่เมื่อเผชิญกับการต่อสู้ที่ดุเดือดจริง ๆ กองกำลังสือฟางเหล่านี้ก็เป็นเพียงแผ่นทรายที่แตกแยก*เท่านั้น ยิ่งไม่ต้องคาดหวังว่าพวกเขาจะต่อสู้จนตัวตายเลย

* แผ่นทรายที่แตกแยก (一盘散沙) หมายถึง แตกความสามัคคี

นี่ก็คือความแตกต่างระหว่างทหารจริง ๆ กับกลุ่มกองโจร!

กองทัพทหารเกราะเหล็กก็ไม่เชื่อเรื่องไล่สุนัขจนตรอก พวกเขาเป็นกองโจร หากไม่จับกลับมาเป็นเชลยแล้วจะรออะไรอีก!

ไม่ต้องรอให้เผยยวนสั่ง พวกเขาก็เฮโลไล่ตามไปทันที

‘ปัง ๆ ๆ !’ มีเสียงสะท้อนติด ๆ กันดังขึ้น

เป็นเสียงที่จี้จือฮวนยิงปืนด้วยลูกกระสุนเปล่าออกไป

“ใครกล้าวิ่งหนีแม้เพียงก้าวเดียว จะถูกสังหารทันที”

เพียงพริบตา กองกำลังสือฟางที่คิดจะหนีต่างก็ชะงักฝีเท้า เพราะพวกเขาล้วนเห็นมากับตาของตัวเองแล้วว่า คนเหล่านั้นอยู่ดี ๆ ก็ถูกระเบิดหัวจนตาย

ราวกับแตงโมที่ระเบิดออกอย่างไรอย่างนั้น

ภาพที่น่าสยดสยองเช่นนั้น เกรงว่าทั้งชีวิตนี้พวกเขาคงลืมไม่ได้เป็นแน่

คนที่วิ่งอยู่หน้าสุดและหยุดไม่ทันถึงกับล้มลงกับพื้นจนฟันแทบหัก หลังจากได้สติก็รีบวางอาวุธลงแล้วชูมือขึ้น เพราะกลัวว่าคนแรกที่ถูกเด็ดหัวจะเป็นตัวเอง

ส่วนเผยยวนก็ไม่คิดจะบุกไปที่รังของสือฟางในวันนี้ เพราะยังต้องสะสางเรื่องในจินโจวก่อน และต้องทิ้งคนจำนวนหนึ่งเอาไว้เฝ้าเมืองด้วย ประกอบกับสถานการณ์ของเพี่ยวโจวยังต้องรอเค้นเอาข้อมูลจากปากของกองกำลังสือฟางเหล่านี้ก่อน

“จัดการคนให้เรียบร้อย”

เผยยวนออกคำสั่ง จากนั้นจ้านอิ่งก็หมุนตัวเดินไปทางจี้จือฮวน

ร่าเริงราวกับลาที่ซุกซนตัวหนึ่งก็มิปาน

เนื้อตัวของเผยยวนยังคงเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือด ก่อนจะดึงจี้จือฮวนขึ้นมาบนหลังม้าของตัวเอง

ขณะที่จี้จือฮวนกำลังจะอ้าปากพูดกับเขานั้น ก็ถูกเขาประคองใบหน้าเอาไว้แล้วจูบลงมาทันที

“ข้ามาช้าไป” หลังจากจูบเสร็จ เผยยวนก็ก้มหัวลงมาชนกับหน้าผากของนาง “เมื่อครู่เห็นเจ้าจะบุกไปข้างหน้าต่อ ข้าอยากจะเหาะไปดึงเจ้ากลับมายิ่งนัก”

จี้จือฮวนกะพริบตาปริบ ๆ “เจ้าก็มาแล้วไม่ใช่หรือ?”

“หากข้ามาไม่ทันเล่า?”

“ข้าก็จะปกป้องจินโจวจนตัวตาย”

หัวใจของเผยยวนสั่นไหว จากนั้นดวงตาของเขาก็เข้มขึ้น

พวกเขาล้วนรู้ดีว่าเมื่อคนใดคนหนึ่งอยู่ที่นี่ ก็ไม่มีทางจะเป็นทหารหนีทัพ กฎระเบียบในฐานะทหารเป็นเช่นนี้ และนิสัยของพวกเขาก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน

จี้จือฮวนไม่ได้พูดคุยกับเขานานนัก ในสนามรบยังมีงานอีกเป็นกองให้สะสาง และนางต้องไปดูแลทหารที่บาดเจ็บก่อน

เหล่าทหารเกราะเหล็กหามทหารที่ได้รับบาดเจ็บกลับมาแล้ว ทันทีที่ลู่เอี้ยนลงมาจากกำแพงเมือง ก็พบเข้ากับเย่จิ่งฝูที่พาคนของตระกูลหมอเทวดาวิ่งเข้ามา

“ค่ายทหารที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่ใด?” เย่จิ่งฝูเห็นเขาสวมชุดขุนนาง คิดว่าเขาน่าจะรู้เรื่องนี้

ลู่เอี้ยนจึงชี้ไปยังทางหนึ่ง เย่จิ่งฝูจึงพยักหน้าให้ “ขอบใจมาก”

จากนั้นนางก็วิ่งเข้าไปหาจี้จือฮวน “อาจารย์น้อย พวกเรามาแล้วเจ้าค่ะ”

จี้จือฮวน “มาได้เวลาพอดี มีทหารได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ช่วยคนสำคัญที่สุด พวกเจ้าตามข้ามา”

“เจ้าค่ะ/ขอรับ”

เย่จิ่งฝูสะพายกล่องยาเอาไว้บนบ่า ปกติแล้วคนของตระกูลหมอเทวดาเหล่านี้จะสวมแค่ชุดสีขาวเท่านั้น เรื่องมากถึงขนาดที่ไปจวนขุนนางหรือเศรษฐีก็จะต้องพิถีพิถันกับทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญ ต่อให้พวกเขาจะต้องย่ำอยู่ในโคลนก็จะให้ความสนใจคนไข้ก่อน

เหล่าชาวบ้านในเมืองจินโจวก็ถูกลู่เอี้ยนพาคนไปรับออกมาแล้ว เมื่อได้ยินว่าภายในเมืองปลอดภัย กองทัพศัตรูถูกกวาดล้าง พวกเขาก็รีบกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างมีความสุข และทุกคนก็ได้ช่วยกันสร้างบ้านเรือนขึ้นมาใหม่ ดูแลทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ซักเสื้อผ้า ทำอาหาร

โชคดีที่ยาในมิติพิเศษของจี้จือฮวนมีปริมาณมาก

นางรู้อยู่แล้วว่าต้องมีวันนี้ จึงได้ปลูกเอาไว้ล่วงหน้า ตอนนี้ก็ได้ใช้ประโยชน์แล้ว

ทั้งเมืองจินโจวต่างตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นของยาขมชนิดต่าง ๆ แต่ในใจของทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความสุขที่รอดจากหายนะมาได้ จี้จือฮวนไม่ได้หลับมาหลายวันแล้ว เย่จิ่งฝูจึงบอกให้นางไปพักผ่อน

อาชิงกับอาอินก็มาช่วยขนสมุนไพรและยุ่งจนหัวหมุนไปหมด เมื่อเห็นจี้จือฮวนหลับอยู่ที่มุมหนึ่ง อาอินก็หยิบผ้าห่มผืนเล็กไปห่มให้นาง ตั้งใจว่าจะเฝ้าท่านแม่อยู่ตรงนี้

ลู่เอี้ยนมาหาจี้จือฮวนด้วยความรีบร้อน ทว่าเมื่อเห็นร่างกายผอมบางที่เหนื่อยล้าของนาง ก็พูดไม่ออกขึ้นมาดื้อ ๆ

“ใต้เท้าท่านนี้มีอะไรอย่างนั้นหรือ?” เย่จิ่งฝูที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยถามขึ้นมา

ลู่เอี้ยนมองหน้านาง “แม่ทัพจางอาการไม่ค่อยดี ข้าจึงอยากจะเชิญพวกเจ้าไปดูอาการหน่อย”

เย่จิ่งฝูมองจี้จือฮวนเล็กน้อย กำลังคิดจะบอกว่านางจะไปดูให้เอง แต่จี้จือฮวนก็ลืมตาขึ้นมาเสียก่อน “ข้าไปเองดีกว่า เจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่เถอะ”

เย่จิ่งฝูพยักหน้ารับคำ

จี้จือฮวนหยิบกล่องยาน้อยขึ้นมา แล้วพูดกับอาอินที่ตามมา “อยู่กับพี่เซวียนจิ่นของเจ้า อย่าวิ่งเพ่นพ่านล่ะ”

“เจ้าค่ะ ท่านแม่”

จี้จือฮวนพับแขนเสื้อขึ้น “ท่านแม่ทัพเป็นอะไรไปอย่างนั้นหรือ?”

ลู่เอี้ยนเอ่ยอย่างร้อนรน “ช่วงที่เฝ้าเมืองเขาไม่ได้นอนเลย ประกอบกับมีอายุมากแล้ว เมื่อพวกท่านมาถึงก็เอาแต่เป็นห่วงพวกท่าน จึงเหนื่อยล้าทั้งกายใจ อาการบาดเจ็บจึงกำเริบขึ้นมาอีก ไข้ขึ้นสูงไม่ยอมลดเลย และตอนนี้ก็มีอาการเพ้อด้วย”

จี้จือฮวนพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะรีบเดินไปที่จวนของแม่ทัพจาง

เดิมทีคิดว่าที่จวนคงจะมีคนคอยปรนนิบัติไม่น้อย ทว่ากลับมีแค่พ่อบ้านแก่ ๆ คนหนึ่ง กับแม่บ้านอีกหนึ่งคนเท่านั้น แม้แต่เด็กรับใช้และสาวใช้ที่คอยปรนนิบัติก็ไม่มี

จวนแม่ทัพที่ใหญ่โตกลับว่างเปล่า ได้ยินเพียงเสียงนกร้องเท่านั้น

“ญาติของแม่ทัพจางเล่า?”

“แม่ทัพจางไม่เคยแต่งงาน เขารับเลี้ยงเด็กในตระกูลมาเป็นลูกบุญธรรมคนหนึ่ง ตอนนี้ไปรับตำแหน่งอยู่ที่ปินโจว”

ปินโจวกับจินโจว อยู่ไกลกันคนละทิศ

เกรงว่าคงเป็นเรื่องยากที่จะได้พบกันสักครั้ง

“แม่ทัพจางไม่เคยแต่งงานอย่างนั้นหรือ?” จี้จือฮวนรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

ลู่เอี้ยนพยักหน้ารับอย่างอึดอัด “ในอดีตแม่ทัพจางเคยมีคู่หมั้น เพียงแต่เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นเสียก่อน จนเขายากที่จะลืมได้ จึงละทิ้งอนาคตอันสดใสในเมืองหลวง และหนีมาอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องจินโจว”

จี้จือฮวนก็ไม่ได้ถามรายละเอียดเพิ่มอีก เพราะนางไม่ได้อยากรู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น เมื่อไปถึงข้างเตียงของแม่ทัพจางแล้ว จึงพบว่าเขานอนไม่ได้สติและมีการเพ้อจริง ๆ

จี้จือฮวนจึงให้พวกเขาไปรออยู่ด้านนอก จากนั้นก็หยิบยาแก้อักเสบและยาลดไข้ออกมาจากกล่องยาน้อยให้แม่ทัพจางกิน และฉีดยาให้เขาหนึ่งเข็ม พร้อมกับหยิบแผ่นลดไข้ออกมาจากในมิติเพื่อแปะลดไข้ให้กับเขา

ลู่เอี้ยนรออยู่ด้านนอกอย่างร้อนรน ก่อนจะเห็นเผยยวนที่ทำงานเสร็จมาที่นี่ด้วย เขายังไม่ทันได้ถอดชุดเกราะด้วยซ้ำ “ลู่เอี้ยน”

“เผยยวน!” ลู่เอี้ยนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา “คิดไม่ถึงว่าการได้พบเจ้าอีกครั้ง จะเป็นตอนที่เมืองจินโจวเกิดความวุ่นวายเช่นนี้”

“อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้เลย แม่ทัพจางเป็นอย่างไรบ้าง?”

“พี่สะใภ้ยังอยู่ด้านใน ข้าเองก็กำลังเป็นกังวลอยู่”

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

Score 10
Status: Completed
หน่วยสืบราชการลับ—จี้จือฮวนเกิดใหม่เป็นตัวประกอบในนิยายที่ได้แต่งกับเทพสงครามเป็นแม่เลี้ยงของ 3 วายร้ายแต่กลับต้องตายตั้งแต่ต้นเรื่อง ในเมื่อปฏิเสธชะตาไม่ได้ขอแค่ไม่ตายก็จะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม! จี้จือฮวน–หน่วยสืบสวนราชการลับระดับ S ในโลกล้ำยุค จู่ ๆ ก็ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นตัวประกอบหญิงในนิยายที่เคยอ่าน(แต่ไม่จบ) ซึ่งตายตั้งแต่ยังไม่พ้นสามบทแรก! เธอคนนี้แต่งงานกับเผยยวนได้รับสมญานาม ‘เทพสงครามแห่งความตาย’ และเป็นแม่เลี้ยงของเด็กแสบสามคน จี้จือฮวนปฏิเสธชะตากรรมนองเลือด ขอแค่มีชีวิตรอดปลอดภัย อยู่ต่อไปก็พอ แต่เรื่องกลับไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะตัวประกอบที่เธอกำลังเป็นอยู่ดันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ลูกเลี้ยงทั้งสามกลายเป็นตัวมากเล่ห์ จอมมารร้าย ซึ่งจะนำพาพวกเขาไปสู่จุดจบอันเศร้าสลดเมื่อทั้งสามโตขึ้น…นั่นก็คือความตายอย่างน่าอนาถ ในเมื่อเลือกไม่ได้ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เธอจะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม! . โชคดีสวรรค์ยังมีตา เธอมีทักษะทุกอย่าง ทั้งงานฝีมือ ทักษะการเพาะปลูกและทำนาที่สามารถหาเงินเพื่อใช้เลี้ยงครอบครัวได้ ยิ่งกว่านั้น เธอมีของดีที่สุด คือมิติพิเศษที่ช่วยให่เธอหยิบยืมอะไรก็ได้จากโลกอนาคตติดตัวมาด้วย! . เอาล่ะ! ในฐานะอดีตสายลับระดับสุดยอด ใครหน้าไหนก็หยามกันไม่ได้! ต่อให้เป็นสวรรค์ก็เถอะ หากคิดจะฆ่าเธอทิ้ง เธอจะชิงสังหารสวรรค์ก่อน! . . ต่อมาลูกชายคนโตที่ตั้งแต่เด็กสุดแสนจะเงียบขรึมกลับได้ขึ้นเป็นกษัตริย์! นักรบจอมพลังซึ่งเป็นลูกสาวคนที่สองก็กลายเป็นแม่ทัพหญิงคนแรกที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ผู้ที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดในใต้หล้า แม้แต่ลูกชายคนเล็กก็กลายเป็นแพทย์หนุ่มผู้เชี่ยวชาญสารพัดพิษ ร่างกายของเขาทนทานต่อพิษทั้งปวงอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้ . . จี้จือฮวนรู้สึกว่าตนเองไร้ประโยชน์ในฐานะสาวงามที่ถูกราชสำนักและประชาชนผลักไสอย่างไร้ความปรานี เธอจึงจำต้องทำให้ตัวเองเป็นสตรีที่น่าเกรงขาม เป็นที่หวาดกลัวต่อราชสำนักและประชาชนเมื่อทุกคนนึกถึง!

Options

not work with dark mode
Reset