บทที่ 437 ยายเฒ่ามังกร
ลมทะเลในเวลากลางคืนมาพร้อมกับความหนาวเย็นของฤดูหนาว ละอองคลื่นซัดเรือลำน้อยที่ล่องลอยอย่างไร้ที่พึ่ง เยว่พั่วหลัวรู้สึกว่าตัวเองโคลงเคลงไปมาจนแทบจะอาเจียนออกมาอยู่แล้ว ก่อนจะรู้สึกว่าตัวเรือเกิดการกระแทก น่าจะชนตรงไหนเข้าสักแห่ง จากนั้นก็สงบลง
คาดว่าคงถึงที่หมายแล้ว และก็เป็นจริงดังคาด เมื่อมีคนลากนางออกไป ร่างกายก็ไม่มีอะไรคลุมป้องกันเอาไว้ เมื่อกระแทกเข้ากับสิ่งกีดขวางบนเรือ เยว่พั่วหลัวจึงแยกเขี้ยวออกมาแต่ไม่ได้ขยับ ในใจก็พลันคิดถึงวิธีฆ่าอีกหลายวิธีให้กับเจ้าสุนัขเหล่านี้
ผ่านไปสักพัก ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไร เพราะพูดด้วยภาษาที่นางฟังไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเยว่พั่วหลัวก็รู้สึกว่าตัวเองถูกแบกขึ้นมา บนชายหาดไม่ได้ราบเรียบ คนที่แบกนางเวลาเดินจึงโงนเงนตามไปด้วย เยว่พั่วหลัวกลอกตามองบนอยู่ในกระสอบ ไม่รู้ว่าเจ้าสุนัขไป๋จิ่นมากับนางด้วยหรือไม่ หรือถูกจับแยกกันตอนที่ขึ้นเรือแล้ว
ขณะที่เยว่พั่วหลัวรอจนเกือบจะหลับนั้น เสียงร้องของหมูเหยี่ยวล่าเหยื่อก็ดังขึ้นในอากาศ นางพลันกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที คิดว่าเจ้าหมูบินนี่คงออกไปหาอาหารกลางดึกเป็นแน่ แต่เวลาที่ต้องทำงาน เจ้าหมูบินก็ไม่เคยพลาดเลยสักนิด
“ฮือ ๆ ๆ ๆ…” หลังจากนั้นไม่นาน เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของสตรีก็ดังขึ้นที่ข้างหู เยว่พั่วหลัวจึงหูผึ่งขึ้นมาทันที จากนั้นนางก็ถูกแรงมหาศาลโยนลงบนก้อนหินอย่างแรง จนทำให้ดวงตาของเยว่พั่วหลัวมองเห็นดาวได้รำไร คำสบถติดอยู่ที่ลำคอแล้ว
ก่อนที่จะมีคนกระชากกระสอบออกอย่างแรง เมื่อเยว่พั่วหลัวมองดูชัด ๆ ก็พบว่าเป็นผู้ชายรูปร่างเตี้ยล่ำ เนื้อตัวสกปรกสองสามคน คาดว่าคงสูงไม่ถึงอกของไป๋จิ่นด้วยซ้ำ มีรอยแผลเป็นจากมีดบนใบหน้า บนแขนมีรอยสัก ผิวถูกแดดเผาจนดำคล้ำ อีกคนหนึ่งมีคางค่อนข้างแหลม คิ้วหนา ตาตี่ ร่องจมูกเหนือริมฝีปากยาว ใบหน้ากว้าง ทว่ากลับมีริมฝีปากบางและเล็กมาก ดูจากท่าทางก็รู้แล้วว่าเป็นคนที่โหดเหี้ยม ให้ความรู้สึกที่เหี้ยมโหดอย่างมาก
ชายทั้งสองคนคิดไม่ถึงว่าเยว่พั่วหลัวจะตื่นขึ้นแล้ว พวกเขาพูดคุยกันอีกครู่หนึ่ง จากนั้นก็ใช้สายตากวาดมองรูปร่างของเยว่พั่วหลัวเล็กน้อย แล้วจึงดีดนิ้วขึ้นมา
เยว่พั่วหลัวรู้สึกสับสนเล็กน้อย ก่อนจะเห็นหญิงชราหลังค่อมคนหนึ่งค่อย ๆ เดินออกมาจากส่วนลึกของถ้ำ “สินค้าใหม่หรือ?”
น้ำเสียงของหญิงชราผู้นั้นราวกับเครื่องสูบลมเก่า ๆ ที่ถูกคนชักออก ฟังแล้วทำให้คนรู้สึกอึดอัดยิ่งนัก แต่เยว่พั่วหลัวฟังออกว่าภาษาที่นางพูดเป็นภาษาทางการของต้าจิ้น กลับเป็นชายหน้าตาอัปลักษณ์สองคนนั้นที่ไม่คุ้นเคยกับภาษาทางการเท่าใดนัก จึงพูดด้วยสำเนียงที่แปลกประหลาดออกมา
“เป็นสินค้าใหม่ เอาคนไว้ที่เจ้าก่อน รอพรุ่งนี้ลูกพี่ตื่นแล้ว พวกเราจะมาเอาคนไป”
“เป็นสินค้าอะไร?”
“อย่าเพิ่งส่งไปให้ยามากุจิตอนนี้ เพราะไม่นานมานี้เขาเพิ่งจะทรมานตัวประกันที่หัวหน้าต้องการตายไป ทำให้ต้องสูญเสียเงินก้อนโต ช่วงนี้ลูกพี่จึงไม่อยากเห็นหน้าเขา”
ดวงตาที่ปูดโปนของหญิงชรากวาดมองร่างของเยว่พั่วหลัวอย่างเลื่อนลอย ก่อนจะเผยรอยยิ้มที่ดูโรคจิตออกมา “รู้แล้ว”
เมื่อผู้ชายสองคนนั้นจากไปแล้ว หญิงชราก็ลากกระสอบของเยว่พั่วหลัวแล้วเดินเข้าไป ทั้งยังมองกลับมาที่นางเป็นครั้งคราว ลำคอก็ส่งเสียงหัวเราะที่ดูมีความสุขและสนุกสนานออกมา
เยว่พั่วหลัวอยู่สำนักกู่ เรื่องสกปรกอะไรบ้างที่ไม่เคยเห็น บางคนเพื่อจะฝึกกู่ถึงกับเอาร่างกายของตัวเองเป็นที่ให้หนอนกู่ทดสอบยา หากไม่เป็นฝีที่หัว ก็มักจะปากเบี้ยว จมูกเบี้ยว หรือตาเบี้ยว และหญิงชราผู้นี้อย่างมากก็เป็นได้แค่พวกตัวกระจ๊อกเท่านั้น ทว่าเทพธิดาของสำนักกู่ที่ตัวเล็กแต่กินเก่งทั้งยังเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ เวลานี้น้ำตากำลังเปียกชุ่มขนตาอยู่ พลางมองหญิงชราตาปริบ ๆ ราวกับกำลังขอร้องให้หญิงชราปล่อยเจ้าตัวน้อยที่น่าสงสารและไร้เดียงสาเช่นนางไป~
หญิงชราเมื่อเห็นท่าทางหวาดกลัวของนางก็พอใจเป็นอย่างมาก พลางเอ่ยปลอบเสียงเบา “อยู่กับข้าสบายกว่าอยู่ข้างนอกเสียอีก”
ขณะที่นางเคลื่อนไหว เยว่พั่วหลัวก็มองดูบริเวณโดยรอบอย่างละเอียด ด้านในถ้ำแห่งนี้ถูกตกแต่งด้วยผ้าจำนวนมาก จึงดูเหมือนแท่นบูชา อีกทั้งยังดูชื้นเล็กน้อย และมีเสียงสะท้อนของน้ำที่หยดลงมาเป็นระยะ
หญิงชราใช้ไม้เท้าค้ำยันขณะเดินเข้าไปด้านใน เยว่พั่วหลัวยังสามารถมองเห็นฉากบังลมที่งดงาม รวมถึงภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่แขวนอยู่บนผนังถ้ำ ซึ่งไม่ได้เข้ากับเกาะร้างแห่งนี้แม้แต่น้อย
แต่ในไม่ช้าสายตาของเยว่พั่วหลัวก็แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมา เมื่อบนกำแพงมีศพของผู้หญิงจำนวนมากแขวนเอาไว้ พวกนางเปลือยกายและตายอย่างไร้ศักดิ์ศรี มีสภาพการตายทุกรูปแบบ อีกทั้งยังสกปรกอย่างมาก เพียงมองดูก็สามารถจินตนาการได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกนางก่อนตายบ้าง
“ไม่ต้องกลัว ขอเพียงเจ้าเชื่อฟังก็จะไม่เป็นเช่นนี้” หญิงชราพูดคุยกับนางโดยเสแสร้งทำเป็นใจดี
เยว่พั่วหลัวแสร้งหลับตาลงด้วยความกลัว แต่ความจริงแล้วนางกำลังสูดดมกลิ่นยาในอากาศอยู่ อวัยวะภายในของศพผู้หญิงเหล่านี้คงถูกควักออกมาจนหมดแล้ว และถูกเอามาทำเป็นเครื่องประดับของหญิงชรา นางเพลิดเพลินกับการเฝ้าดูร่างกายที่สดใหม่ของหญิงสาวเหล่านี้เน่าเปื่อยไปอย่างช้า ๆ
ไม่นานเยว่พั่วหลัวก็ได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นนั่นอีกครั้ง ก่อนจะเห็นว่ามีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่
บางคนถูกขังอยู่ในกรงโดยไม่มีเสื้อผ้าปกปิดร่างกายแม้แต่ชิ้นเดียว ในวันที่อากาศหนาวเหน็บเช่นนี้ พวกนางทำได้เพียงขดตัวที่สั่นเทาเพื่อหวังให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น อีกด้านหนึ่งก็ถูกตีจนมีบาดแผลทั่วทั้งร่างกาย ยังมีบางคนที่ร่างโชกไปด้วยเลือดนอนหายใจรวยรินอยู่ตรงนั้น
เมื่อพวกนางเห็นหญิงชราลากเยว่พั่วหลัวเข้ามา สายตาก็เผยประกายสิ้นหวัง
นั่นเป็นความสิ้นหวังที่น่าเศร้าจนทำให้จิตใจด้านชา เพราะพวกนางรู้ว่าตัวเองคงไม่ได้รับการช่วยเหลืออีกแล้ว
เยว่พั่วหลัวถูกหญิงชราโยนเข้าไปอยู่รวมกับกลุ่มหญิงสาวเหล่านั้น พวกนางส่งเสียงกรีดร้องพร้อมกับเบี่ยงตัวหลบ ปล่อยให้เยว่พั่วหลัวกลิ้งไปกับพื้นหนึ่งตลบ ผมยาวของนางจึงเลอะไปด้วยเลือด เยว่พั่วหลัวขมวดคิ้ว พลางสูดหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมบอกตัวเองว่า ข้าจะอดทน
อึดใจต่อมา หญิงชราผู้นั้นก็เดินเข้ามาและจะถอดชุดนอนของนางออก โดยที่ในมือของนางถือชามขนาดใหญ่สีดำ ด้านในมีฟองขึ้นมา “ดื่มยานี่ซะ ผ่านคืนนี้ไป เจ้าก็จะเป็นคนของเกาะผีแห่งนี้แล้ว จากนี้ไปไม่มีทางเส้นเดิมอีกแล้ว อนาคตจะเป็นการเริ่มต้นทางเส้นใหม่”
ทันทีที่เยว่พั่วหลัวได้กลิ่นก็รู้ว่านั่นคือยากล่อมประสาทชั้นต่ำ หลังจากดื่มมันแล้วจะทำให้มีอาการประสาทหลอน และแสดงพฤติกรรมที่คาดไม่ถึงออกมา หากดื่มมากเกินไป มีโอกาสสูงที่จะเป็นบ้าได้ หลังจากนั้นก็จะไม่สามารถขัดขืนได้อีก
ขณะที่เยว่พั่วหลัวกำลังลังเลว่าจะลงมือตอนนี้ดีหรือไม่ ก็มีชายกลุ่มหนึ่งมาจากอีกฟากหนึ่งของถ้ำ และดูเหมือนว่าดื่มเหล้ากันจนเมามายแล้ว ก่อนจะเปิดม่านแล้วเอ่ยถามขึ้นมา “ยายเฒ่ามังกร มีสินค้าใหม่มาอย่างนั้นหรือ?”
ขณะที่พวกเขาเอ่ยถาม สายตาก็มองสำรวจที่กลุ่มหญิงสาว พลางมองไปที่คนในกรงก่อนหนึ่งรอบ
“นั่นเป็นสินค้าชั้นดีที่จะส่งไปให้ท่านมัตสึโมโตะ”
คนกลุ่มนั้นจึงชักมือกลับในทันที เยว่พั่วหลัวคิดในใจ ท่านมัตสึโมโตะอะไรนั่น เกรงว่าคงจะเป็น ฟุมิโอะ มัตสึโมโตะ ที่เผยยวนกล่าวถึงเป็นแน่ ที่แท้ผู้หญิงที่ถูกจับตัวมาล้วนต้องผ่านการตรวจสอบโดยยายเฒ่ามังกรผู้นี้ก่อน จึงจะถูกส่งเข้าไปในเขตของมัตสึโมโตะนั่นได้
“ส่งไปให้ท่านมัตสึโมโตะอีกแล้ว เช่นนั้นมีสินค้าที่เหลือจากการคัดเลือกหรือไม่ ข้าว่าชิ้นนี้ก็ไม่เลว” ชายผู้นั้นชี้มาที่เยว่พั่วหลัว
ยายเฒ่ามังกรคิดจะปฏิเสธ แต่เยว่พั่วหลัวกลับหัวเราะเบา ๆ ปรายตามองไปทางชายกลุ่มนั้นด้วยสายตาที่ยั่วยวน และแสร้งทำท่าทางอึกอัก นางมองจนคนกลุ่มนี้เกิดไฟราคะลุกโชนขึ้นมาในใจ
ยายเฒ่ามังกรหรี่ตาลง คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่ถูกพามาครั้งนี้จะเป็นพวกที่ชอบยั่วยวนเช่นนี้ด้วย
ทว่าชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นกลับไม่สนใจยายเฒ่ามังกรอีกต่อไป รีบแบกเยว่พั่วหลัวขึ้นมาทันทีแล้วเดินออกจากถ้ำไป แม้จะไกลออกไปแล้วแต่ก็ยังสามารถได้ยินเสียงหัวเราะของพวกเขาได้
.