ตอนที่7 : แม้ผมจะพยายามตัดสัมพันธ์กับเธอไปก็ตาม
ในตอนที่ผมนั่งเรียนพลางมองดูภาพการจู๋จี๋ของเหล่าตัวเอง พอรู้ตัวอีกทีก็หมดคาบซะแล้ว และตอนนี้ก็เป็นเวลาเลิกเรียน
วันนี้หลังจากมาโรงเรียน ผมก็เข้าใจสภาณการณ์ต่างๆได้ดีขึ้นจริงๆ
คำอธิบายปริศนายังคงดังก้องอยู่ในหัวผม แน่นอนว่านี่คือโลกของรอมคอมอย่างแน่นอน และชื่อของเรื่องก็คือ ‘คนที่เหล่าสาวงามหลงรักนั้นคือ ฟุเสะคาว่าคุง’
และผมก็ได้รู้แล้วว่าบทบาทของตัวเองในโลกนี้คืออะไร
ตัวผม ชินโด ริวสุเกะ เป็นตัวร้ายที่มีไว้เพื่อเป็นบันไดให้พระเอกเหยียบขึ้นไปเท่านั้น และในเนื้อเรื่อง ผมจะเป็นศัตรูกับพระเอกและเหล่านางเอกก่อนที่จะนำไปสู่อนาคตที่ล่มสลาย
และในโลกนี้ ดูเหมือนจะมีพลังบางอย่างที่บังคับให้ผมต้องทำหน้าที่เป็นตัวร้ายตามที่ถูกกำหนดไว้ มันเหมือนกับการบีบบังคับจากโชคชะตาที่คอยชักนำให้ผมทำตามเส้นทางที่ตัวละครในเนื้อเรื่องต้องประสบ ไม่ว่าจะพยายามขัดขืนยังไงก็ดูเหมือนว่าจะต้องเดินไปบนเส้นทางนั้นแน่นอน
แต่ไม่ว่าโลกนี้จะเป็นยังไง ผมก็ตัดสินใจไว้แล้ว
ผมจะเล่นเป็นตัวร้ายอีกต่อไป ผมจะใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวเองจริงๆและสร้างช่วงเวลาวัยรุ่นที่ดีที่สุดให้ได้ ถึงจะมีแต่จุดจบแบบแย่ๆที่รออยู่ ผมก็จะต้องพลิกกชะตากรรมลับมันให้ได้
ผมเดินต่อไปตามทางกลับบ้านที่ถูกย้อมด้วยแสงของดวงอาทิตย์ยามเย็นพลางคิดถึงสิ่งที่ผมต้องทำเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตของตัวเอง
ตอนนั้นเอง เสียงที่คุ้นหูก็ดังขึ้นพร้อมกับสัมผัสที่เบาๆที่หลัง
“ยะโฮ ริวสุเกะ กลับบ้านด้วยกันเหอะ”
“…มาชิโระ เธอเองหรอ?”
พอหันไป ผมก็เห็นมาชิโระ สาวแกลผมบลอนด์ที่คุ้นเคย เธอยิ้มอย่างมีเสน่ห์พลางเดินเข้ามาข้างๆและเริ่มเดินเคียงข้างผม
“เน่~ ไปที่ *ราววัน* ด้วยกันเถอะ! ไหนๆวันนี้นายก็มาโรงเรียนทั้งที ฉันเลยอยากจะฉลองอะไรหน่อยอ่ะ!”
(TL : ‘ราววัน’ เป็นทีที่รวมพวกสิ่งบันเทิงเอาไว้ คล้ายๆกับอาร์เคดในบ้านเรา แต่ที่ราววันมีทั้ง ลานโบวลิ่ง โต๊ะสนุ๊ก อุปกรณ์กับสนามกีฬาขนาดย่อม หรือถ้าเป็นที่ใหญ่ๆหน่อยก็จะมีพวกคาราโอเกะไม่ก็อาร์เคดด้วย)
“ไม่ล่ะ ขอผ่าน เอาไว้ครั้งหน้าแล้วกันนะ”
“เอ๋ งั้นคาราโอเกะล่ะ? พอเสร็จแล้วเราก็ไปเล่นเกมที่อพาร์ตเมนต์ของฉันจนดึกไง!”
“‘อันนั้นก็ขอผ่านเหมือนกัน”
พอผมยังปฏิเสธต่อ มาชิโระก็หยุดเดิน
เมื่อหันไปหามาชิโระ ผมก็เห็นว่าเธอกำลังมองมาที่ผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล
“……ทำไมล่ะ? วันนี้ริวสุเกะดูแปลกไปนะ? ถึงปกติก็เย็นชาอยู่แล้วก็เถอะ แต่เมื่อก่อนพอฉันชวนไปเล่นก็ไม่เคยปฏิเสธเลยนะ เราเล่นเกมด้วยกันจนดึก แล้วทำไมอยู่ๆถึงเปลี่ยนไปล่ะ…?”
ถึงมาชิโระจะชวนผมไปเล่นด้วยเพราะเจตนาดี แต่ผมก็มีเหตุผลที่ปฎิเสธเธออย่างเย็นชาอยู่ นั่นเพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ถึงจะรู้สึกผิดแต่ผมก็ต้องปฏิเสธคำชวนของเธอต่อไป
“ขอโทษนะมาชิโระ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาทำอะไรแบบนั้นแล้ว”
“ไม่ใช่เวลาสำหรับเรื่องแบบนี้เหรอ…? แล้วที่ไม่ตอบกลับพวกโคกะหรือโอบะมันเป็นเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม? เหมือนว่านายพยายามจะแก้ปัญหาบางอย่างอยู่เลย… หรือว่านายไปมีเรื่องกับใครมางั้นเหรอ!?”
มาชิโระทำสีหน้าเครียด เธอหน้าหน้าซีดแล้วจับที่ไหล่ของผมก่อนจะเขย่าไปมาแล้วถามด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความกังวล
“เปล่าหรอก แค่ตอนนี้ฉันไม่สนอะไรพวกนั้นแล้วน่ะ”
“ไม่สนใจแล้วเหรอ? หมายความว่าไง? ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ—นี่อธิบายให้ฟังหน่อยสิ!”
มาชิโระดูเหมือนจะยังไม่เข้าใจคำพูดของผม เธอถามขึ้นเสียงดัง แต่สำหรับผมแล้ว ผมไม่สามารถอธิบายสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นให้ออกมาเป็นคำพูดได้เลย
สุดท้ายแล้วพวกเราจะต้องพ่ายแพ้ โลกนี้บังคับให้ผมต้องเดินตามเส้นทางในเนื้อเรื่องงต้นฉบับที่จะต้องเป็นศัตรูกับพระเอกและเหล่านางเอก แสดงความชั่วร้ายอย่างเปิดเผยจนสุดท้ายก็ตกเป็นจำเลยของสังคม
การพูดเรื่องนี้ออกไปมันมากเกินไป มาชิโระคงจะต้องตกใจและสับสนแน่ๆ บางทีเธออาจจะคิดว่าผมเป็นบ้าแล้วพาผมไปโรงบาลด้วยซ้ำ
แต่ผมจะต้องทำทุกอย่างเพื่อหลีกหนีอนาคตที่จะพังทลายนี้ จากนั้นก็จะใช้ชีวิตวัยรุ่นในโลกนี้อย่างมีความสุขและถูกต้องให้ได้ ผมจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้มันเป็นไปตามที่ผมตั้งใจไว้
“มาชิโระ ถึงจะรู้จักกันมานาน แต่ฉันอธิบายเป็นคำพูดไม่ออกจริงๆ”
“อะไรกัน? ริวสุเกะ…”
ผมโบกมือให้มาชิโระด้วยที่ทำหน้าเศร้าอยู่และพูดต่อพร้อมกับหันหลังให้เธอ
การที่ผมต้องปฏิเสธเธอแบบนี้ นั่นเพราะมันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตของมาชิโระ
ในเนื้อเรื่อง หลังจากที่ผมพบกับความพ่ายแพ้ มาชิโระก็จะเดินตามเส้นทางเดียวกับผมและพบกับความพ่ายแพ้จนกลายเป็นจำเลยสังคมเหมือนกัน
มาชิโระจะสาบานว่าจะแก้แค้นพระเอกที่ลงโทษผมในฐานะตัวร้าย เธอะยืนหยัดเป็นศัตรูเพื่อขัดขวางพวกเขา แต่สุดท้ายเธอก็จะต้องพ่ายแพ้และถูกบังคับให้ออกจากเนื้อเรื่องไป
ถ้าพวกเราจบความสัมพันธ์กันตรงนี้ โอกาสที่มาชิโระจะหลีกเลี่ยงอนาคตที่ล่มสลายไปได้ก็มีอยู่
ถึงผมจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงอนาคตที่พังทลายของตัวเองได้ แต่ผมก็ไม่อยากให้มาชิโระต้องพบกับตอนจบที่เศร้าเหมือนในเรื่องต้นฉบับ ผมอยากให้เธอมีชีวิตที่มีความสุขและได้รับสิ่งที่สมควรได้รับ
เพราะแบบนั้น ผมเลยตัดสินใจจะตัดสัมพันธ์กับเธอซะตรงนี้
“นี่ มาชิโระ มีเรื่องนึงที่ฉันเก็บเงียบไว้ตลอด”
“อะไรล่ะ?”
“จริงๆแล้วฉันไม่ค่อยชอบพวกสาวแกล”
“เอ๋…..?”
“การแต่งตัวที่ดูฉูดฉาดแล้วทำตัวเหมือนไม่จริงจังอะไร ตรงส่วนนั้นฉันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เอาจริงบางครั้งตอนคุยกับพวกเธอฉันก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน ตั้งแต่ตอนนั้นฉันเก็บเงียบมา แต่จริงๆแล้วฉันชอบผู้หญิงที่ดูเรียบร้อยแล้วดูเป็นแม่บ้านแม่ศรีเรือนมากกว่า ฉันชอบผมสีดำเป็นธรรมดามากกว่าสีทอง แล้วก็อยากให้ใส่ชุดนักเรียนให้ถูกต้องด้วย ไม่ใช่ชุดที่หลวมๆที่ขัดกับกฎโรงเรียน การแต่งหน้าจัดๆก็เหมือนกัน ผู้หญิงที่ฉันชอบคือผู้หญิงที่จริงจังและดูเรียบร้อยต่างหาก”
“ระ ริวสุเกะ?”
“เพราะงั้นแหละ ฉันเลยไม่อยากเข้าไปข้องเกี่ยวกับเธออีกแล้ว ลาก่อนนะ”
ผมบอกกับมาชิโระที่ยืนนิ่งอยู่ด้วยความตกใจ ก่อนจะเริ่มขยับเท้าแล้วเดินต่อไปอีกครั้ง
ตอนนี้ผมน่าจะตัดความสัมพันธ์กับมาชิโระออกไปได้อย่างแน่นอนแล้ว ผมบอกกับตัวเองว่าการทำแบบนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อปกป้องเธอจากอนาคตที่ล่มสลาย ถึงจะรู้สึกผิดกับเธอก็เถอะแต่ผมก็รีบหันหลังแล้วเดินกลับบ้านไป
แต่จากนั้นเพียงไม่กี่วิ เสียงฝีเท้าที่วิ่งบนพื้นยางมะตอยก็ดังขึ้นก่อนจะมาหยุดข้างๆผม
“อะไรเกัน? เพราะงั้นนายเลยเย็นชากับฉันมาตลอดเลยหรอ? ถ้างั้น นายควรบอกให้เร็วกว่านี้สิ ไม่น่าเงียบไว้เลยน้าา”
เมื่อผมหันไปตามเสียงนั้น ภาพที่เห็นคือมาชิโระที่ยืนอยู่ตรงนั้น เธอยิ้มให้ผมโดยไร้ซึ่งความกังวลใดๆพลางมองขึ้นมาที่ผมด้วยรอยยิ้มที่ไม่เปลี่ยนแปลง
“ชิ ไม่ได้ยินที่ฉันบอกรึไง?”
“เอ๊ะ ได้ยินสิ ตกใจหมดเลย นึกว่าจะเป็นเรื่องอะไรซะอีก อยู่ๆริวสุเกะก็บอกว่าชอบผู้หญิงแบบไหนเฉยเลย เกินไปหน่อยนะนั่นน่ะ”
“แล้วทำไมถึงทำเป็นไม่สนใจล่ะ? ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ชอบเธอ”
“เรารู้จักกันมาตั้งแต่ประถมแล้วนะ จริงๆแล้วฉันก็รู้แหละว่าทำอะไรสักอย่างให้นายไม่ชอบอ่ะ ก็นายมักจะเย็นชาใส่ฉันนี่นา แต่บางครั้งนายก็ยังใจดีกับฉัน ขนาดตอนนี้นายก็พยายามไล่ฉันไปเพราะคิดถึงฉันใช่มั้ยล่ะ? ฉันไม่รู้หรอกว่าเพราะอะไร แต่แค่เห็นหน้านายที่ดูเศร้าขนาดนั้นก็รู้แล้วล่ะ”
มาชิโระยังคงยิ้มอย่างสดใสพลางจ้องตาผมตรงๆ ก่อนจะพูดออกมาอย่างมั่นใจ
“แต่เอาเถอะ แบบนี้นี่เองสินะ ถ้านายไม่ชอบฉันเพราะแค่เป็นสาวแกลล่ะก็ แบบนั้นก็ง่ายหน่อยแหละ”
มาชิโระยิ้มให้ผมพลางใช้นิ้วเล่นปลายผมตัวเอง จากนั้น เธอก็กางแขนแล้วหมุนไปรอบๆอย่างร่าเริง
ชายกระโปรงของเธอปลิวไสวเผยให้เห็นเรียวขาขาวนวล เธอไม่ใส่ใจกับสายตาของผมที่มองมาเลยแม้แต่น้อย กลับกัน เธอยิ้มบางๆก่อนจะหันมาพูดกับผม
“รอหน่อยนะ ส่วนที่ริวสุเกะไม่ชอบน่ะ เดี๋ยวฉันจะไปปรับปรุง”
“….หา?”
“งั้น เรื่องเที่ยวเล่นตอนกลางคืนก็เอาไว้ครั้งหน้าแล้วกันนะ ฉันเองก็ต้องกลับไปเตรียมตัวเหมือนกัน เห็นว่านายดูยุ่งๆด้วย พรุ่งนี้ถ้ามาโรงเรียนก็ฝากตัวด้วยล่ะ!”
“ดะ เดี่ยวสิ มาชิโระ—“
ผมมองตามหลังเธอที่วิ่งหนีไปโดยไม่สนใจเสียงของผม และในที่สุดผมก็เข้าใจ
ความสัมพันธ์ระหว่าง ชินโดะ ริวสุเกะ และ อามานัทสึ มาชิโระ ที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยประถม ไม่ว่าจะพยายามตัดขาดเท่าไหร่ ถึงจะบอกว่าไม่ชอบหรือทำตัวเย็นชา เธอก็ยังไม่ยอมทิ้งผมไปพร้อมกับเผยรอยยิ้มที่สดใสของเธอ
เราสองคนถูกกำหนดให้พ่ายแพ้ไปด้วยกันงั้นหรอ?
หรือว่ามีวิธีอื่นที่เราสองคน—ผมกับมาชิโระ—จะสามารถพลิกโชคชะตาและมีความสุขด้วยกันได้นะ?
ตอนนี้ผมยังนึกวิธีนั้นไม่ออกเลย
สิ่งที่ผมรู้คือ เด็กสาวที่ชื่อว่า มาชิโระ จะเป็นเพิ่อนสมัยเด็กของ ชินโด ริวสุเกะ ตลอดไป และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นความสัมพันธ์ทั้งสองคนจะไม่มีวันขาดออกจากกัน
(TL : ช่วงแรกๆจะน่าเบื่อหน่อย แต่พอหลังๆนี่หวานมากเลยล่ะ)