ตอนที่44 : ตั้งแคมป์ในร่ม (1)
“มาชิโระ เริ่มจากเตรียมผักกันก่อนเลย ฉันจะปอกเปลือกมันฝรั่งเอง ส่วนเธอช่วยจัดการแครอทให้หน่อยนะ”
“รับทราบค่า!”
ผมและมาชิโระเริ่มต้นแคมป์ในบ้านด้วยการทำอาหารเย็น เราเอาวัตถุดิบที่เตรียมมาสำหรับทำแกงกะหรี่มาไว้ในครัว มาชิโระกระโดดไปมาด้วยความสนุกสนาน ผมมองเธอด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“อย่าซนจนเผลอบาดมือล่ะ”
“อื้อ ฉันจะระวังนะ”
พอผมเตือน มาชิโระก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังแล้วเริ่มปอกเปลือกแครอทด้วยมีดปอกผลไม้
มาชิโระเป็นเด็กดีมาก เธอไม่เคยทำเป็นเล่นกับเรื่องสำคัญและมักทำทุกอย่างเต็มที่เสมอ เธอเป็นแสงสว่างที่ทำให้คนรอบข้างมีพลัง พอเห็นแบบนี้แล้วผมก็มีแรงฮึดสู้ตามไปด้วย
ผมหยิบมีดและมันฝรั่งขึ้นมา ปอกเปลือกด้วยมือที่คุ้นเคยกับงานแบบนี้
ช่วงเวลาสงบนิ่งที่มีเพียงเสียงมีดกับเขียงดังขึ้น สร้างบรรยากาศเงียบสงบที่ทำให้ผมรู้สึกถึงความสุขในการอยู่กับมาชิโระ มันเรียบง่ายแต่กลับอิ่มเอม
และไม่นาน เราก็เตรียมวัตถุดิบเสร็จเรียบร้อย
“ริวสุเกะ ฉันทำเสร็จแล้วนะ!”
“ดีเลย งั้นต่อไปเรามาผัดหอมหัวใหญ่กัน พอน้ำมันเริ่มร้อนแล้ว ก็ใส่มันฝรั่ง แครอท แล้วก็ตามด้วยเนื้อลงไปตามลำดับ”
“อื้อ! ไว้ใจได้เลย!”
“ดีมาก เด็กดีๆ มาทำแกงกะหรี่ที่อร่อยสุดๆกันเถอะ”
“เอเฮะเฮะ ริวสุเกะชมว่าฉันเป็นเด็กดีด้วยอ่ะ นี่ๆ ลูบหัวให้ฉันหน่อยสิ”
“ไว้ทีหลังนะ เดี๋ยวพวกเตรื่องปรุงก็เลอะผมสวยๆของเธอหมดหรอก”
“งั้นกินข้าวเสร็จแล้วต้องลูบให้เยอะๆเลยนะ!”
“ครับๆ ตามบัญชาขององค์หญิงเลย”
“เย้!”
พอรู้ว่าจะได้รางวัลหลังจากทำอาหารเสร็จ มาชิโระก็ยิ้มอย่างสดใส
การได้ทำอาหารกับมาชิโระมันสนุกมาก เธอมีความใส่ใจในทุกอย่างที่ทำ แถมยังยิ้มให้ผมแบบไร้เดียงสา เล่นเอาผมรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่มองเธอ
ผมไม่เคยเจอใครที่ใสซื่อและน่ารักได้เท่ามาชิโระมาก่อนเลย การได้อยู่กับเธอมันมีความสุขจนผมรู้สึกว่าไม่มีใครจะมาแทนเธอได้
และในที่สุด กลิ่นแกงกะหรี่หอมกรุ่นก็ลอยฟุ้งไปทั่วห้อง ข้าวก็หุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่จัดใส่จาน ทุกอย่างก็พร้อมสำหรับมื้อพิเศษนี้
“นี่ ริวสุเกะ กินข้าวในเต็นท์กันเถอะ จะได้ดูเหมือนกำลังแคมป์จริงๆไงล่ะ?”
“นั่นสินะ ไหนๆก็จัดห้องให้ได้บรรยากาศแล้ว งั้นวันนี้ก็ทำเหมือนไปตั้งแคมป์เลยดีกว่า”
“ฉันเตรียมจานไม้กับช้อนไม้มาด้วยนะ ดูเข้ากับบรรยากาศดีเนอะ?”
“โอ้ แค่ใช้จานพวกนี้ก็ดูพิเศษขึ้นมาเลยแฮะ งั้นมาใช้ของที่มาชิโระเตรียมไว้กันเถอะ”
ผมกับมาชิโระช่วยกันตักแกงกะหรี่ใส่จาน พร้อมกับสร้างบรรยากาศให้เหมือนอยู่ในแคมป์จริงๆ หลังจากที่เตรียมเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว เราก็ยกอาหารทั้งหมดไปที่เต็นท์ในห้องนั่งเล่น
พวกเราเข้าไปนั่งในเต็นท์ วางจานแกงกะหรี่บนโต๊ะเล็กๆและนั่งหันหน้าเข้าหากัน บรรยากาศเต็มไปด้วยความพิเศษ ตอนนั้นเองที่—
“หวาา!?”
“อุก!?”
เสียงฟ้าร้องดังสนั่นจากนอกหน้าต่างทำให้ผมกับมาชิโระสะดุ้งตกใจไปพร้อมกัน
ทันใดนั้นเอง ไฟฟ้าทั้งหมดในบ้านก็ดับลง ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความมืดสนิท
“ระ ริวสุเกะ…ไฟดับเหรอ?”
“เหมือนจะใช่ รอเดี๋ยวนะ”
ผมลุกขึ้นและมองออกไปข้างนอกก่อนจะเห็นว่าทั้งไฟถนนและบ้านเรือนรอบข้างก็ถูกความมืดกลืนไปหมด ดูเหมือนว่าฟ้าผ่าจะเป็นสาเหตุและอาจใช้เวลาสักพักกว่าไฟจะกลับมา
“ตั้งใจจะขัดขวางกันขนาดไหนเนี่ย…”
ผมพึมพำกับตัวเองอย่างเหนื่อยใจ ฟ้าฝนดูเหมือนจะจงใจขัดขวางความสนุกของผมกับมาชิโระไปซะทุกอย่าง ตั้งแต่ฝนตก ฟ้าผ่า แล้วตอนนี้ไฟก็ดับอีก
ในตอนที่ผมกำลังคิดหาทางแก้ เสียงของมาชิโระก็ดังขึ้นจากในเต็นท์
“ดับหมดเลยหรอ…”
“อ่าา มองไปทางไหนก็มืดหมดเลย ฉันว่าไฟไม่น่ากลับมาเร็วๆนี้หรอก”
“อะไรกัน….ฉันแค่อยากกินข้าวเย็นกับริวสุเกะเองนะ”
“ต้องทำอะไรสักอย่างล่ะนะ ไม่งั้นมีหวังแกงกะหรี่เย็นหมดแน่”
ผมพยายามคิดหาทางออก แต่อยู่ๆเสียงตบมือเบาๆก็ดังขึ้นจากในเต็นท์ พอผมหันไปมอง แสงไฟอบอุ่นจากตะเกียง LED ก็ส่องสว่างออกมา
มาชิโระยิ้มกว้างพลางถือโคมไฟ LED อยู่ในมือ
“ริวสุเกะ อาจจะไม่เป็นไรก็ได้ ฉันเตรียมตะเกียงสำหรับตั้งแคมป์ไว้ด้วยล่ะ”
“โอ้ งั้นหรอ! ตั้งแคมป์ทั้งที จะลืมตะเกียงได้ยังไงเนอะ”
“นี่ไงล่ะ! มีแสงไฟแล้ว เราก็ยังกินแกงกะหรี่ร้อนๆได้อยู่นะ”
“เก่งมากเลยมาชิโระ เตรียมตัวมาดีจริงๆ”
“เย้~ ถูกชมอีกแล้ว งั้น…ช่วยลูบหัวฉันหน่อยได้ไหม?”
“อ่า จะลูบให้เยอะๆเลย”
“อื้อ~”
ผมเอื้อมมือไปลูบหัวมาชิโระเบาๆ เธอหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข สีหน้าของเธอน่ารักจนผมอดยิ้มไม่ได้
“พอไฟดับแบบนี้ บรรยากาศก็เหมือนอยู่ในแคมป์จริงๆเลยนะ ถึงจะอยู่ในบ้านก็เถอะ”
“ใช่ๆ พอไม่มีไฟฟ้ามันทำให้รู้สึกเหมือนเรากำลังตั้งแคมป์จริงๆเลยล่ะ”
“เป็นแคมป์ลับๆของเราแค่สองคน…รู้สึกสนุกจัง”
“นั่นสินะ ไม่ต้องสนว่าคนอื่นจะคิดยังไง อยู่ด้วยกันแบบนี้แหละสบายใจที่สุดแล้ว”
“งั้นคืนนี้ฉันจะอ้อนริวสุเกะให้เต็มที่เลยนะ”
(TL : นี่มัน…)
เธอพูดพร้อมกับย้ายตัวมานั่งข้างผม แขนของเธอคล้องเข้ากับแขนผม ก่อนเงยหน้ามองผมด้วยรอยยิ้ม
ในความมืดสลัว แสงจากตะเกียงทำให้ผมเห็นใบหน้าที่น่ารักและสดใสของเธอ หัวใจผมเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้
เธอขยับตัวเข้ามาใกล้กว่าเดิม พร้อมกับถูแก้มเบาๆที่ไหล่ผมเหมือนลูกหมาที่กำลังอ้อนเจ้าของอยู่
มาชิโระที่ทำตัวแบบนี้น่ารักเกินไปแล้ว
“มากินแกงกะหรี่กันเถอะ เดี๋ยวมันจะเย็นซะก่อน”
“อื้อ จะกินล่ะนะคะ!”
เราสองคนเริ่มทานแกงกะหรี่ด้วยกันท่ามกลางแสงจากตะเกียง LED ส่องสว่างไหวไปมา มันทั้งให้ความรู้สึกอบอุ่นและสงบในเวลาเดียวกัน
ในความมืดที่เงียบสงบนี้ เราสองคนยิ้มให้กันและเพลิดเพลินกับแคมป์ลับในบ้านที่แสนพิเศษนี้ไปด้วยกัน