ตอนที่39 : แผนการฤดูร้อน
(TL : ตัวเนื้อหาของ WN มีความแตกต่างกับของ LN อยู่มากเลยนะครับ คนเขียนเขาบอกมางี้อ่ะ)
เสียงจักจั่นที่ดังมาจากนอกหน้าต่าง แสงแดดจ้าที่ลอดผ่านม่านเข้ามา
เวลาผ่านไปหลายวันนับตั้งแต่ประกาศผลสอบปลายภาค และตอนนี้ก็เข้ากลางเดือนกรกฎาคม ฤดูร้อนกำลังจะมาถึงในไม่ช้า
ในช่วงพักกลางวัน ห้องเรียนเต็มไปด้วยไอร้อนของฤดูร้อน
แม้ว่าเครื่องปรับอากาศจะเปิดทำงานอยู่ แต่สำหรับนักเรียนที่นั่งใกล้หน้าต่างก็คงรู้สึกร้อนจนทนไม่ไหว
จริงอยู่ที่นักเรียนชายที่นั่งอยู่ด้านหลังสุดติดหน้าต่าง เขาดูหมดแรงตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้
“ร้อน… ร้อนเกินไปแล้ว ถ้ายังเป็นแบบนี้ฉันคงแห้งเป็นปลาเค็มแหงเลย… ใครก็ได้ช่วยลดอุณหภูมิแอร์ลงให้เหลือ 18 องศาหน่อยเถอะ…”
เขาบ่นออกมาด้วยสีหน้าที่เหมือนคนจะตาย เขาคือพระเอกของเรื่องนี้ ฟุเสะคาวะ ไรโตะ
เสียงบ่นของเขาเรียกความสนใจจากสองสาวสวยที่นั่งอยู่ข้างและด้านหน้าของเขา
“วันนี้ร้อนจริงๆนั่นแหละค่ะ แต่ถ้าปรับอุณหภูมิเป็น 18 องศา เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”
เด็กสาวที่พูดพร้อมยิ้มอย่างอ่อนโยนคือ ฮานาซากิ ยูนะ เธอเป็นสาวสวยผมยาวสีแดง ที่ดูเรียบร้อย สง่างาม ฉลาดและมีผลการเรียนยอดเยี่ยม อีกทั้งยังเป็นไอดอลประจำโรงเรียน
“ไรโตะ นายต้องอดทนนะ ตอนกลับบ้านเดี๋ยวพวกเราซื้อไอศกรีมกันดีกว่า ถ้าอดทนได้เท่าไหร่ ไอศกรีมก็จะอร่อยขึ้นเท่านั้นแหละ”
เด็กสาวที่นั่งอยู่หน้าไรโตะและไว้ผมเปียคู่สีน้ำเงินของเธอสะบัดไปมาดูสดใส เธอคือ ฮิเมโนะ คาเร็น สาวสวยที่เต็มไปด้วยพลังและทักษะการกีฬาโดดเด่น เธอเป็นคนสดใสที่คอยนำความสนุกสนานให้กับเพื่อนในห้อง
“ไรโตะคุง มาที่ห้องสภานักเรียนเพื่อคลายร้อนดีไหมคะ? ที่นั่นคุณสามารถปรับเครื่องปรับอากาศได้ตามอุณหภูมิที่ต้องการเลยค่ะ”
เสียงเรียกจากข้างๆ ไรโตะเป็นของ ซากุระมิยะ มิยูกิ เด็กสาวที่โดดเด่นด้วยผมบลอนด์ยาวหยักศก เธอคือประธานสภานักเรียนที่เป็นที่รู้จักกันดีในโรงเรียน
เมื่อได้ยินคำพูดของซากุระมิยะ มิยูกิ ไรโตะก็เงยหน้าขึ้น สีหน้าของเขาเปล่งประกายราวกับพบโอเอซิสกลางทะเลทราย
“คุณมิยูกิ ไอเดียดีสุดยอดเลย! ตอนแรกนึกว่าจะต้องทนร้อนในห้องเรียนต่อไป ถ้าไปพักที่ห้องสภานักเรียนได้ก็ดีเลย งั้นพวกเราไปกันเถอะ!”
“โอ้ ไรโตะคุงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งแล้วนะ”
“ไม่เสียชื่อประธานสภานักเรียนจริงๆ คุณมิยูกินี่สุดยอดเลย!”
“ถ้าอย่างงั้นไปกันเถอะ”
ด้วยเหตุนี้เอง พระเอกอย่างฟุเสะคาวะ ไรโตะจึงมุ่งหน้าไปยังห้องสภานักเรียนพร้อมกับเหล่าสาวๆ
นี่คือฉากหนึ่งจากความทรงจำของผมในเรื่อง “Fusekoi” พระเอกที่ร้อนจนทนไม่ไหวในห้องเรียน ได้ใช้เวลาที่น่ารักน่าเอ็นดูกับเหล่านางเอกคนอีนในห้องสภานักเรียน
ตอนที่ถึงฉากฮาเร็มโรแมนติกนี้ ผมก็มองดูภาพของพระเอกและเหล่านางเอกที่กำลังลุกออกห้องเรียนไปจากที่นั่งแถวหน้าสุดของผม
— นี่คือโลกของรอมคอม
Fusekoi คือโลกที่ผมได้เกิดใหม่
แต่ผมไม่ได้เกิดใหม่เป็นพระเอกเอกหรือนางเอก… ผมเกิดใหม่ในฐานะ ตัวร้าย ที่เป็นเด็กเกเร
ในช่วงแรกที่มาอยู่ในโลกนี้ ผมโดนเพื่อนร่วมชั้นและอาจารย์ในโรงเรียนดูถูกและปฏิบัติต่อผมด้วยความรังเกียจ
แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังจากผมสอบปลายภาคได้ที่หนึ่งของชั้นเรียน
เพื่อนร่วมชั้นที่เคยแสดงความเป็นศัตรูกับผม รวมถึงครูในโรงเรียน ต่างก็เริ่มเปลี่ยนท่าที
ผมตั้งใจทำตัวเป็นนักเรียนดีเด่น และเปลี่ยนลุคของตัวเองให้ดูสดใสเหมือนนักเรียนมัธยมปลายทั่วไป ผมเอาชนะพระเอกอย่างฟุเสะคาวะ ไรโตะได้ตรงๆ ในการสอบครั้งนั้น ทำให้ชื่อเสียงของผมเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
เพื่อที่จะหลุดพ้นจากบทบาทตัวร้ายและสร้างชีวิตในแบบที่ผมต้องการ ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีจนถึงตอนนี้
แต่ผมจะไม่ประมาทเด็ดขาด
ยิ่งในช่วงที่ทุกอย่างดูเหมือนจะผ่านพ้นไปด้วยดีนี้เอง ผมยิ่งต้องระวังตัวมากขึ้น
ยังมีอีกหลายคนในโรงเรียนที่มองผมเป็นศัตรู และโลกนี้อาจเคลื่อนไหวไปตามเนื้อเรื่องต้นฉบับเพื่อทำลายผมอีกครั้ง
แม้ว่าผมจะชนะฟุเสะคาวะ ไรโตะ ในการสอบปลายภาค แต่การจะหลุดพ้นจากบทบาทตัวร้ายและกลายเป็นตัวเอกยังคงอีกยาวไกล
ผมจะไม่เปิดช่องว่างให้ศัตรู และจะพยายามต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
ในตอนที่ผมตัดสินใจแบบนั้น และเอื้อมมือไปหยิบกล่องข้าวกลางวันในกระเป๋าของตัวเอง—
“ริวสุเกะ มากินข้าวด้วยกันเถอะ!!”
เสียงใสร้องเรียกผมดังขึ้นพร้อมกับประตูห้องเรียนที่ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว ทุกสายตาในห้องหันไปยังที่มาของเสียงนั้นทันที และพวกเขาต่างก็ต้องสะดุดกับความงามของเด็กสาวคนหนึ่ง
ผมดำเงางามยาวสยายถึงกลางหลัง ดวงตาสีฟ้าใสระยิบระยับราวกับอัญมณี ขนตายาวงอนดึงดูดสายตาให้จดจ้องไปที่ดวงตาคู่โตกลมโตที่ดูชุ่มชื้น ริมฝีปากสีชมพูอ่อนดูอวบอิ่ม
ใบหน้าที่สวยงามราวกับรูปปั้น ผิวพรรณขาวผ่องราวกับหิมะ เรือนร่างสูงโปร่งเพรียว และทรวดทรงอันเย้ายวนที่ขยับไหวทุกครั้งที่ก้าวเดิน ทำให้ไม่เพียงแต่เด็กผู้ชายเท่านั้น แม้แต่เด็กผู้หญิงก็ยังอดที่จะอิจฉาไม่ได้
เด็กสาวผู้เปี่ยมด้วยความงามราวกับเทพธิดานั้นกำลังมองมาที่ผมด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ทุกครั้งที่เธอก้าวเดิน หน้าอกอันอวบอิ่มของเธอก็สั่นไหวไปตามจังหวะ เป็นที่จับจ้องไม่เพียงแค่สายตาของเหล่าผู้ชายเท่านั้น กระทั่งผู้หญิงเองก็ยังมองด้วยความอิจฉา
เด็กสาวผู้มีรูปลักษณ์ที่สามารถเรียกได้ว่างดงามไร้ที่ติเช่นเธอ ดึงดูดสายตาทุกคู่ในห้องเรียน และในขณะที่เธอยิ้มอย่างสดใสเธอก็ก้าวตรงมาหาผม
เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่สำคัญของผม และยังเป็นเด็กสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนนี้…ไม่สิ อาจจะสวยที่สุดในโลกด้วยซ้ำ
พอมาชิโระสบตากับผม เธอก็ดูดีใจพลางกระโดดโลดเต้นแล้ววิ่งตรงมาหาผมทันที
“ริวสุเกะ วันนี้ก็รบกวนหน่อยนะ”
“อ่า มาชิโระ วันนี้ฉันทำข้าวกล่องเผื่อเธอไว้แล้วด้วยล่ะ”
“หวาา ขอบคุณมากนะริวสุเกะ! จริงๆแล้วฉันหิวมากเลยอ่ะ…อยากกินเร็วๆจัง!”
เมื่อเธอลากเก้าอี้มานั่งข้างผม ผมก็ส่งข้าวกล่องอีกกล่องให้เธอ มาชิโระรับมันด้วยสองมือราวกับเป็นของสำคัญ
เธอกอดข้าวกล่องไว้แน่นเหมือนกอดตุ๊กตา แล้วก็ยิ้มไร้เดียงสาอย่างมีความสุข เมื่อเห็นเธอแบบนั้น ฉันก็อดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะเริ่มเปิดข้าวกล่องของตัวเอง
“ฉันทำตามที่เธอขอไว้เมื่อวานด้วยนะ วันนี้เลยใส่แฮมเบิร์กกับไข่ม้วนเข้าไป แล้วก็มีมะเขือเทศเชอร์รี่นิดหน่อย”
“ยอดเลย เอะเฮะเฮะ ฉันชอบริวสุเกะที่สุดเลย”
“ยัยปากหวานเอ้ย…”
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็เผลอยิ้มกว้างออกมาอยู่ดี ในตอนที่ที่มาชิโระเปิดฝาข้าวกล่องของเธอ ดวงตาสีฟ้าใสของเธอก็ส่องประกาย
จากนั้นเธอก็หยิบตะเกียบลายน่ารักที่มีรูปแมวขึ้นมาถือไว้พร้อมพนมมือ
“จะกินล่ะนะคะ!”
มาชิโระพูดอย่างร่าเริงพลางคีบไข่ม้วนเข้าปาก แล้วสีหน้าของเธอก็เปล่งประกายสดใสขึ้นอีก เธอเอามือแตะแก้มแล้วพูดอย่างมีความสุข
“หวา…ฉันชอบไข่ม้วนที่ริวสุเกะทำที่สุดเลย นุ่มฟูแล้วก็หวานเค็มกำลังดี สุดยอดเลยล่ะ…”
“พูดเกินจริงไปแล้ว…แต่เอาเถอะ ถ้าเธอชอบก็ดีแล้วล่ะ”
“เอะเหะเหะ ก็อร่อยจริงๆนี่นา ขอบคุณนะที่ทำให้ฉันทุกวันนะ”
เธอพูดพร้อมส่งยิ้มหวานให้ผมแบบมองตาไม่กะพริบ
ให้ตายสิ…รอยยิ้มนั้นมันน่ารักเกินไปแล้ว ไข่ม้วนยังติดแก้มอยู่เลย แถมเธอยังไร้เดียงสาเหมือนนางฟ้าตลอดเลย เพื่อนสมัยเด็กคนนี้เนี่ยน้า…
ในขณะที่ใจผมเต้นแรง มาชิโระก็คีบแฮมเบิร์กเข้าปาก เธอดูพอใจกับรสชาติของมันมากและยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
“อื้อ~ ข้าวกล่องของริวสุเกะยังไงก็สุดยอด!”
“ถ้าเธอพอใจก็ดีแล้วล่ะ กินให้เต็มที่เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“อื้ม!”
มาชิโระพูดพร้อมใช้ตะเกียบคีบข้าวกล่องที่ผมทำอย่างตั้งใจ การได้เห็นเธอมีปฏิกิริยาเหมือนลูกหมาตัวเล็กๆแบบนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าความพยายามในการทำข้าวกล่องนั้นคุ้มค่า
ตั้งแต่ช่วงก่อนสอบปลายภาค ผมก็เริ่มทำข้าวกล่องให้มาชิโระ และนั่นทำให้ทักษะการทำอาหารของผมพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าผมจะมีพื้นฐานการทำอาหารที่ดีจากชาติก่อน แต่ด้วยการทำอาหารให้ครอบครัวและมาชิโระบ่อยขึ้น ทักษะของผมก็ยิ่งเฉียบคมขึ้นเรื่อยๆ
ในระหว่างที่ผมลิ้มรสอาหารที่ตัวเองทำและชื่นชมกับความอร่อยที่ออกมา มาชิโระที่หยุดใช้ตะเกียบกลับจ้องมองมาทางผม
“หืม…มาชิโระ เป็นอะไรเหรอ? มีอะไรที่ไม่ชอบรึเปล่า?”
“อ๊ะ เปล่าๆ อาหารที่ริวสุเกะทำฉันชอบทุกอย่างนั่นแหละ! แค่กำลังคิดว่า อีกไม่นานก็จะถึงช่วงปิดเทอมฤดูร้อนแล้วสิน้าา”
“อ่อ นั่นสินะ สอบปลายภาคก็จบแล้ว อีกไม่นานก็จะหมดเทอมหนึ่งแล้วล่ะ”
“นี่ๆริวสุเกะ ปิดเทอมหน้าร้อนจะทำอะไรรึเปล่า? หรือว่าตอนนี้ตารางแน่นหมดแล้ว?”
“ตารางของฉันเหรอ…อืม ยังไม่มีเลยแฮะ”
ผมไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับการใช้เวลาช่วงปิดเทอมฤดูร้อนเลย สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวคือการผ่านวันปิดภาคเรียนอย่างปลอดภัย เมื่อเช็กดูปฏิทินในสมาร์ทโฟนก็พบว่ามันว่างเปล่า ไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลยสักนิด
ตอนนั้นเอง ผมก็คิดได้ว่า บางทีช่วงปิดเทอมฤดูร้อนอาจเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ตัวเองแทนบทบาทของตัวร้าย
ในโลกของรอมคอม ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนถือเป็นช่วงเวลาแห่งความโรแมนติกของนักเรียนมัธยมปลาย เป็นฤดูกาลที่เต็มไปด้วยกิจกรรมสนุกๆมากมาย
สำหรับพระเอกในรอมคอม ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนมักเต็มไปด้วยเหตุการณ์น่าตื่นเต้น เช่น การเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ การพัฒนาความสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งพบเจอคนพิเศษ ฤดูร้อนนี้จึงเป็นเหมือนขุมทรัพย์ของเหตุการณ์สำคัญในชีวิต
ถ้าผมสามารถใช้เวลาช่วงปิดเทอมฤดูร้อนได้อย่างเหมาะสมและทำให้รู้สึกเหมือนชีวิตพระเอกมากขึ้น มันอาจสร้างการเปลี่ยนแปลงในโลกใบนี้ก็ได้
แต่…จะเริ่มจากตรงไหนดี? ผมยังไม่มีแผนอะไรเลย
ในโลกก่อนของผม ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนคือช่วงเวลาที่ใช้หมดไปกับการเล่นเกมหรือดูอนิเมะในห้อง จินตนาการว่าตัวเองอยู่ในเหตุการณ์สนุกๆแบบในนิยายหรือเกมอาจทำได้ง่าย แต่พอต้องลงมือทำจริง มันกลับยากซะเหลือเกิน
ในตอนที่ผมกำลังคิดหนักเรื่องนี้ มาชิโระก็มองมาด้วยสายตาคาดหวัง ดวงตาของเธอเปล่งประกายราวกับเด็กน้อย
“นี่ริวสุเกะ ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนนายว่างอยู่ใช่ไหม? ยังไม่มีแผนจะไปเที่ยวที่ไหนใช่รึเปล่า?”
“อ่า…ใช่ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรนะ”
“จริงเหรอ!? ถ้าอย่างงั้น—“
มาชิโระหยุดพูดพลางหน้าแดงเล็กน้อย เธอเหลือบมองผมอย่างเขินอายก่อนจะหลบตาแล้วพูดด้วยเสียงเบาๆ
“ฉัน…ฉันอยากไปเที่ยวกับเรียวสุเกะเยอะๆ อยากไปทะเล…อยากไปแคมป์ปิ้ง แล้วก็อยากไปเทศกาลฤดูร้อนด้วย…บะ…แบบนั้นล่ะมั้ง”
เธอพูดพร้อมเอานิ้วทั้งสองจิ้มกัน ท่าทีที่ดูเขินอายและน่ารักของเธอทำให้ผมอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้
ปกติแล้วมาชิโระมักจะพูดว่า “ดีล่ะ ตัดสินใจแล้ว! ไปด้วยกันเถอะ!” อย่างมั่นใจ แต่คราวนี้เธอดูเขินอายผิดปกติ
ในตอนที่ผมกำลังสงสัย มาชิโระก็แหงนหน้าขึ้นมองฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
“ไม่ได้เหรอ…?”
เธอพูดพร้อมกับสายตาหวานฉ่ำจนผมถึงกับหยุดหายใจไปแปปนึง
การที่มาชิโระทำท่าทางน่ารักแบบนี้เพื่อขอร้องอะไรสักอย่าง มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ยิ่งพอมันเป็นความไร้เดียงสาโดยธรรมชาติของเธอ มันยิ่งทำให้ผมยอมแพ้ได้ง่ายๆ
ด้วยนิสัยร่าเริงสดใสที่เธอมีอยู่แล้ว การที่เธอมีมุมขี้อายแบบนี้ยิ่งทำให้เธอน่ารักสุดๆ และมันทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะอยากตอบรับทุกคำขอของเธอ
ยิ่งไปกว่านั้น คำขอของมาชิโระเป็นสิ่งที่ผมรอคอยมาตลอด
การใช้เวลาช่วงฤดูร้อนกับมาชิโระ เด็กสาวที่สวยที่สุดในโลก
แค่คิดถึงการไปตั้งแคมป์กับเธอ ไปทะเล หรือไปงานเทศกาลฤดูร้อนด้วยกัน มันก็ทำให้หัวใจผมเต้นแรงแล้ว
“ถ้ามาชิโระอยากไป ฉันก็พร้อมจะไปกับเธอทุกที่นั่นแหละ แต่ไหงเธอดูเขินกว่าปกติล่ะ? ปกติเธอไม่ได้เป็นแบบนี้นี่นา”
“คือ…ก็…แหม…แบบว่า…”
มาชิโระพูดพลางยิ้มเขิน เธอหันมามองผมด้วยใบหน้าที่แดงเรื่อ
ผมไม่ได้คิดไปเองแน่ เธอดูเขินกว่าปกติจริงๆ ใบหน้าของเธอส่องประกายด้วยความดีใจอย่างชัดเจน
จากนั้นมาชิโระก็พูดออกมาเบาๆ
“ก็…ฉันไม่เคยทำอะไรที่ดูเป็นช่วงหน้าร้อนกับริวสุเกะมาก่อนเลย ฉันก็เลยกลัวว่านายอาจจะปฏิเสธอ่ะ…แต่ฉันดีใจจริงๆนะ… ปีนี้ฉันอยากใช้เวลาช่วงปิดเทอมฤดูร้อนกับริวสุเกะ แล้วก็สร้างความทรงจำดีๆด้วยกัน”
พูดจบเธอก็ยิ้มกว้างเหมือนดอกไม้ที่เบ่งบาน ใบหน้าของเธอบอกชัดเจนว่าเธอตื่นเต้นกับการใช้เวลาช่วงปิดเทอมฤดูร้อนกับผม
และพอผมมาคิดดูดีๆ ในความทรงจำแล้ว ผมไม่เคยใช้เวลาวันหยุดฤดูร้อนกับมาชิโระสักครั้งเลยนี่นะ
ผมใช้เวลาช่วงปิดเทอมเหมือนวันธรรมดา และไม่เคยชวนมาชิโระไปทำอะไรพิเศษ แต่เธอกลับอยากที่จะสร้างความทรงจำในหน้าร้อนกับผมตลอดมา
ผมไม่มีทางปฏิเสธความต้องการนั้นได้ และมันทำให้ผมรู้สึกดีที่เธอคิดแบบนั้น
ผมหันไปมองเธอด้วยรอยยิ้มบางๆและตอบกลับอย่างแน่วแน่
“เอาสิ! ไปทะเล ไปตั้งแคมป์ แล้วไปงานเทศกาลฤดูร้อนด้วยกันทั้งหมดเลย ฉันสัญญาเลย”
“อื้อ ขอบคุณนะ ริวสุเกะ ดีใจจังเลย!”
เมื่อได้ยินคำตอบของผม มาชิโระจับมือผมแน่นแล้วกระโดดไปมาด้วยความดีใจ
แค่เห็นเธอดีใจเหมือนลูกหมาน่ารักๆแบบนี้ มันก็ทำให้ผมตั้งตารอช่วงปิดเทอมฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงแล้ว
ผมตัดสินใจแล้ว ว่าผมจะใช้ช่วงเวลาปิดเทอมนี้ไปกับมาชิโระและสนุกกับช่วงเวลาฤดูร้อนที่ไม่เหมือนตัวร้ายอีกต่อไป!