ตอนที่38 : บทส่งท้าย (จบบที่1)
พวกเราทั้งสี่คนเดินไปตามถนนที่ทอดยาวไปไกล ที่ในตอนนี้กำลังถูกย้อมด้วยแสงอาทิตย์ยามเย็น
แม้จะเป็นเส้นทางกลับบ้านที่คุ้นเคย แต่สำหรับผมแล้ว มันกลับเป็นช่วงเวลาพิเศษ
ข้างๆผมมีมาชิโระ เรโอะ และนิชิคาว่าอยู่ด้วย
ผมเดินไปพลางลิ้มรสความสุขเล็กๆน้อยๆที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่กลับมีความหมายสำหรับผม
แล้วระหว่างที่เราเดินไปช้าๆ เรโอะก็หันไปคุยกับนิชิคาว่า
“เคียวยะ พกลูกบาสมาจากชมรมอีกแล้วหรอ? ถ้าไปร้านอาหารกันมันจะเกะกะเอานะ”
“ไม่ได้ๆ เรโอะ อย่างน้อยถึงฉันจะไม่ได้ซ้อมแต่ก็ขอแตะมันหน่อยสิ มันทำให้จิตใจสงบนะ”
“ให้ตายสิ….”
“ไม่เป็นไรหรอก พรุ่งนี้จะเอาไปเก็บที่ห้องชมรมให้เรียบร้อยเอง ไม่ต้องห่วง วันนี้เป็นวันสำคัญของริวสุเกะนะ”
“ก็จริง งั้นวันนี้ผมจะปล่อยไปก่อนแล้วกัน”
นิชิคาว่าหยิบลูกบอลที่สะพายอยู่บนไหล่ออก เรโอะก็มองมาด้วยสายตาที่ทั้งเอือมระอาและเอ็นดู เมื่อเห็นทั้งสองคนคุยกันแบบนั้น ผมกับมาชิโระก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
“เน่ๆ ริวสุเกะ เราจะไปร้านอาหารครอบครัวกันใช่มั้ย? งั้นถ้าเอาเป็นร้านกาแฟที่ไปด้วยกันครั้งก่อนล่ะเป็นไง?”
“ร้านที่วาดรูปบนกาแฟสวยๆนั่นน่ะเหรอ?”
“อื้อ ใช่ๆ ทั้งเรโอะคุงกับนิชิคาว่าคุงต้องชอบแน่ แล้วเราลองขอให้พี่พนักงานทำลาเต้อาร์ตฉลองวันพิเศษให้ริวสุเกะเป็นพิเศษดูตะได้ไหมนะ?”
“ฮ่าๆ ลาเต้อาร์ตฉลองวันพิเศษให้ฉันเหรอ? ฟังดูดีเหมือนกันนะ”
“งั้นตกลงนะ! ไปกันให้หมดเลย!”
“ผมเห็นด้วยกับคุณมาชิโระนะ ผมเองก็สนใจลาเต้อาร์ตเหมือนกัน”
“ลาเต้อาร์ตคืออะไรอ่ะ? กินได้เหรอ?”
“มันคือเครื่องดื่มในร้านกาแฟน่ะ พอสั่งไปแล้วเค้าจะวาดรูปให้ด้วย น่าสนุกดีนะ”
“เห วาดรูปให้หรอ น่าสนใจแฮะ ถ้าขอให้เขาวาดรูปบาสให้จะได้ไหมนะ?”
“นิชิคาว่าคุงเนี่ยชอบบาสมากจริงๆเลยนะ ถ้าขอดีๆ รับรองว่าเขาต้องวาดให้แน่ๆเลย”
“วะ หว่า! คะ คุณมาชิโระ! อดใจรอไม่ไหวแล้วครับ!!”
“ฮ่าฮ่า นิชิคาว่าคุงพูดติดอ่างอีกแล้ว”
พวกเราหัวเราะออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นปฏิกิริยาของนิชิคาว่า รู้สึกสนุกมากเลย ถนนหนทางธรรมดาๆที่เคยเดินผ่าน ในตอนนี้กลับดูสวยงามกว่าสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆทั่วโลกซะอีก
แล้วพวกเราก็เดินไปยังคาเฟ่ที่เคยมาด้วยกันก่อนหน้านี้
ระหว่างทางไปคาเฟ่ พอเห็นสวนสาธารณะใหญ่ๆอยู่ใกล้ๆ นิชิคาว่าก็เปิดปากพูดขึ้นมาพร้อมกับเดาะบาสในมือ
“นี่ๆ ยังมีเวลาเหลืออีกเยอะเลยนะ ไปเล่นบาสที่สวนสาธารณะตรงนั้นกันไหม? นั่นไง ที่สนามตรงนั้นน่ะ”
“เคียวยะ อยากเล่นบาสมากเลยนะเนี่ย แต่ว่าเอาเถอะ ผมก็อยากเล่นบาสเก็ตบอลกับริวสุเกะมานานแล้วเหมือนกัน”
“ฉันจะเล่น! ถึงจะเห็นแบบนี้ แต่ตอนประถมฉันเคยเป็นตัวจริงทีมบาสเก็ตบอลหญิงนะ”
“คุณมาชิโระก็เคยเล่นบาสด้วยเหรอ ดีเลย งั้นเราเล่น 2 ต่อ 2 กันไหม”
“ฉันก็อยากเล่นด้วยเหมือนกัน ตั้งแต่สอบเสร็จก็ขลุกอยู่แต่ในห้องอ่านหนังสือมาตลอด อยากออกไปออกกำลังกายให้เหงื่อออกบ้างแล้ว”
“เย้! งั้นมาแบ่งทีมกันเถอะ! เอาแบบจับฉลากให้แฟร์ๆเลยนะ!”
พวกเราเห็นด้วยกับข้อเสนอของมาชิโระแล้วก็เดินเข้าไปในสวนสาธารณะใกล้ๆ
ภายในสวนสาธารณะที่ถูกย้อมด้วยแสงอาทิตย์ยามเย็นนั้นเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน และลมที่พัดมาเบาๆ ทำให้รู้สึกเย็นสบาย
ระหว่างที่พวกเราวางของไว้บนม้านั่ง มาชิโระก็กำลังจับฉลากผ่านแอปในโทรศัพท์ของเธออยู่
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผมอยู่กับมาชิโระ เรโอะอยู่กับนิชิคาว่า
“ดังนั้น ทีมก็ถูกแบ่งเสร็จเรียบร้อยแล้วนะ! แบ่งกันอย่างยุติธรรมเลยล่ะ”
“ยุติธรรมงั้นเหรอ มาชิโระ… นี่มันการแข่งขันระหว่างตัวเต็งทีมบาสกับคู่หูที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายไม่ใช่รึไง…”
“น่าๆ ไหนๆก็สุ่มมาแล้ว มาพยายามกันเถอะริวสุเกะ”
“ดีเลย ริวสุเกะ ตอนเรียนพละเราอยู่ทีมเดียวกัน แต่จริงๆแล้วผมอยากจะแข่งกับนายมานานแล้วนะ”
“เหอะๆ ถ้าได้อยู่ทีมเดียวกับเรโอะฉันก็ไม่คิดจะแพ้หรอกนะ จะโชว์ให้ดูว่านักบาสตัวจริงเก่งแค่ไหน!”
เรโอะและนิชิคาวะพับแขนเสื้อขึ้นอย่างมุ่งมั่น พร้อมแสดงท่าทีเต็มที่กับการแข่งขัน ทำให้ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆออกมา
แต่ถึงอย่างนั้น ผมเองก็ไม่ได้คิดจะสู้แบบไม่มีแผนอะไรเลย ถ้ามาชิโระอยู่ฝ่ายเดียวกับผมล่ะก็ ผมก็มีวิธีปิดโอกาสของหนึ่งในสมาชิกบาสตัวจริงอยู่แล้ว
“มาชิโระ เท้าหายดีแล้วใช่มั้ย?”
“อื้อ หายเป็นปลิดทิ้งเลย!”
“ได้ยินอย่างงั้นก็สบายใจแล้วล่ะ งั้นเธอไปประกบกับนิชิคาว่าเลยนะ ไปหยุดเขาให้นิ่งๆไว้ล่ะ”
“อ๋อ งั้นนี่เอง! ไว้ใจได้เลย!”
มาชิโระยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พลางเดินไปยืนอยู่หน้านิชิคาว่าอย่างร่าเริง
“ฮิฮิฮิ ฉันจะหยุดนายเอง นิชิคาว่าคุง”
“ฮี๊! มะ มาชิโระจัง!?”
“ให้ตายสิ ฉลาดจริงนะริวสุเกะ ให้คุณมาชิโระไปประกบเคียวยะแบบนั้น”
“หึหึ อย่าโกรธกันเลยนะ เรโอะ นี่เป็นวิธีที่จะเอาชนะพวกนายได้นี่นา”
“ช่วยไม่ได้ ผมไม่ออมมือให้หรอกนะ ริวสุเกะ”
“อ่า! มาแข่งกันเถอะ!”
และแล้วช่วงเวลาแห่งการเล่นบาสหลังเลิกเรียนของพวกเราก็เริ่มต้นขึ้น
เสียงลูกบาสกระดอนกระทบพื้นดังก้องไปทั่วสวนสาธารณะที่เริ่มถูกย้อมด้วยแสงอาทิตย์ยามเย็น พวกเราทั้งสี่คนวิ่งไล่ลูกบาสเก็ตบอลอย่างเมามันจนตัวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ทำให้ลืมเวลาไปเลย พวกเราวิ่งไปทั่วสนามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ในตอนที่ที่กำลังจมดิ่งอยู่ในความทรงจำอันสดใสของวัยรุ่น– ผมก็อดนึกถึงตอนที่ผมได้มาเกิดใหม่ในโลกใบนี้ไม่ได้
ตอนแรก ผมรู้สึกสับสนมาก ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี เส้นทางข้างหน้าของผมมืดมัวเหมือนถูกหมอกหนาปกคลุม
แต่แล้วก็มีคนที่ยื่นมือมาช่วยผม คนที่ยืนอยู่ข้างๆ และเดินไปข้างหน้ากับผม
ด้วยความคาดหวังของคนที่ผมรัก ความพยายามที่ผมสั่งสมมา และความกล้าที่จะเอาชนะอุปสรรคทุกอย่าง ผมจึงตั้งใจจะคว้าอันดับหนึ่งของห้องในภาคเรียนนี้ เพื่อก้าวไปสู่ความสุข ผมได้ต่อสู้กับความคิดที่ว่า ‘พระเอกของเรื่องนี้คือความถูกต้อง’ อย่างตรงไปตรงมา
ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีหลายคนที่มองผมในแง่ลบอยู่ดี
แต่บรรยากาศรอบตัวผมก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย
ผมมองไปที่มาชิโระซึ่งกำลังยิ้มขณะถือลูกบอลอยู่ในมือ
“ริวสุเกะ พาส!”
“โอ้!”
เธอวิ่งผ่านนิชิคาว่า ก่อนจะส่งบาสมาให้ผมอย่างแม่นยำ เร็วซะจนเรโอะที่ว่าเร็วก็ยังตามไม่ทัน ลูกบอลเข้ามาอยู่ในมือผมอย่างสมบูรณ์แบบ
ผมพยักหน้าให้มาชิโระเป็นเชิงตอบรับ
เธอก็พยักหน้ากลับมาเป็นการยืนยันว่าเธอเชื่อใจผมเช่นกัน
“ขอบใจนะ มาชิโระ!”
“พยายามเข้านะ ริวสุเกะ!!”
ในชีวิตครั้งที่สองนี้ ผมจะคว้าช่วงเวลาแห่งความสุขและตอนจบที่สวยงามที่สุดมาให้ได้
เพื่อปกป้องรอยยิ้มของมาชิโระที่ผมรัก
พร้อมกับความปรารถนานั้น ลูกบาสที่ผมยิงออกไปก็พุ่งตรงเข้าสู่ห่วงอย่างแม่นยำ ไร้ซึ่งความผิดพลาดและร่วงลงตาข่ายได้อย่างสวยงาม
(TL : วันนี้ขอลงแค่สองตอนนะครับ เพราะเป็นตอนจบบท+ผมมีธุระตอนเย็น ถึงตอนนี้มันจะสั้นนิดเดียวก็เถอะ….)
(TL2 : พรุ่งนี้เดี๋ยวลงชดให้เป็น4ตอนนะครับ)