ตอนที่33 : ช่วงเวลาหลังเลิกเรียน
ในห้องเรียนที่เงียบสงบ มีเพียงเสียงดินสอขีดเขียนบนกระดาษและเสียงพลิกหน้าหนังสือดังก้องกังวาน
เสียงหายใจเบาๆ ดังขึ้นเป็นระยะๆ นั่นเป็นเพราะในห้องนี้มีเพียงพวกเราสี่คนเท่านั้น และทุกคนกำลังตั้งใจเรียนอยู่ ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ มีเพียงเสียงปากกาขีดเขียนและการทำโจทย์ปัญหาเท่านั้น
ตัวผมเองก็สามารถตั้งใจเรียนได้มากกว่าตอนอยู่บ้านเยอะเลย
ผมคิดว่าห้องเรียนว่างๆห้องนี้อาจจะมีพลังวิเศษที่ทำให้คนตั้งใจเรียนได้มากขึ้นก็ได้นะ ในตอนที่กำลังคิดอยู่นั้น… นิชิคาว่าก็ขัดจังหวะความเงียบลงซะแล้ว
“ไม่ไหวแล้ว! ไม่เข้าใจเลย… ทำไมมันยากอย่างงี้เนี่ย!!”
“เคียวยะ เป็นอะไรไป? บอกมาสิว่าตรงไหนที่ไม่เข้าใจ”
“ไม่เข้าใจเนี่ย ไม่เข้าใจทั้งหมดของการสอบนั่นแหละ ไม่เข้าใจสักนิด”
“เคียวยะ… อ่า งั้นตรงนี้ล่ะ?”
“หืม? อ๋อ ข้อกาใช่ไหมล่ะ? นี่ไง”
นิชิคาว่าหยิบยางลบรูปลูกเต๋าออกมาจากกล่องดินสอ แล้วโยนเบาๆ ให้มันกลิ้งไปมา
แล้วเขาก็ดูหน้าที่ออกของลูกเต๋า แล้วตอบคำถามด้วยน้ำเสียงที่สดใส
“เยี่ยมเลย! ตอบ C ล่ะ!”
“เห้อ….. เคียวยะ ถึงมันจะตอบCจริงๆก็เถอะ แต่ผมว่านายแค่โชคดีเองนะ ที่อยากรู้คือความเข้าใจโจทย์ต่างหาก”
“ก็มันไม่เข้าใจนี่นา จะทำยังไงได้ ฉันไม่ถนัดเรื่องเรียนนี่”
เมื่อนิชิคาว่าโยนปากกาหมึกซึมทิ้งแล้วเอาหน้าทิ่มลงบนโต๊ะ เรโอะก็ถอนหายใจออกมาอย่างหนัก
“เคียวยะ… นายเนี่ยไม่เปลี่ยนไปเลยนะ ตอนเตรียมตัวสอบเข้าม.ปลายก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน”
เรโอะถอนหายใจพลางเอามือพาดหน้าผากแล้วส่ายหัวไปมาอย่างเหนื่อยหน่าย
ในตอนที่มองเรโอะอยู่ ผมก็พูดสิ่งที่คิดออกมา
“หมายความว่า เรโอะกับนิชิคาว่ารู้จักกันมาตั้งแต่ม.ต้นแล้วหรอ?”
“ใช่แล้วล่ะ ผมกับเคียวยะเป็นเพื่อนสมัยม.ต้น พอผมบอกว่าจะเข้าชมรมบาสที่โรงเรียนนี้เขาก็บอกว่าจะตามมาด้วย”
“งี้นี่เอง เพราะงั้นนายเลยสอนหนังสือให้กับนิชิคาว่าตั้งแต่เมื่อก่อนเพื่อให้เขาเข้าโรงเรียนนี้ได้สินะ?”
“ใช่เลยๆ เพราะเคียวยะไม่ค่อยเก่งเรื่องเรียน ผมเลยต้องคอยดูแลน่ะ ตอนปี3เนี่ย ลำบากสุดๆเลย ฮ่าๆ”
“ระ! เรโอะ สัญญาไว้แล้วว่าจะไม่พุดถึงมันนี่!!”
“ไม่หรอก ถ้าได้เห็นท่าทางของเรา ทั้งริวสุเกะกับคุณมาชิโระก็คงเข้าใจได้ไม่ยากหรอก”
“ที่นายว่ามามันก็จริงนั่นแหละ…. แต่ฉันมีเทพธิดาแห่งโชคลาภคอยช่วยอยู่นะ”
“โชคอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของความสามารถ แต่การเรียนรู้ต่างหากที่สำคัญกว่า จะทิ้งไปไม่ได้หรอกนะ ลองพยายามต่อไปสิผมจะอยู่ข้างนายจนถึงที่สุดเอง”
คําพูดของเรโอะทําให้นิชิคาว่าแสดงสีหน้าโล่งใจออกมา
และตอนที่นิชิคาว่าพูดอยู่นั้น มาชิโระก็เงยหน้าขึ้นจากสมุดโน้ตของเธอ
“สุดยอดไปเลย เรโอะคุงสอบที่แล้วได้ที่สองของชั้นปีด้วยเหรอ?”
“ก็นะ ผมตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเป็นคนที่เก่งทั้งกีฬาและการเรียน ก็เลยทุ่มเทให้ทั้งสองด้านน่ะ”
“เห~ เป็นตัวจริงของชมรมบาสเกตบอลตั้งแต่ปีหนึ่ง แถมยังได้ที่สองของชั้นปีอีก น่าทึ่งสุดๆเลยอ่ะ”
ระหว่างที่ฟังทั้งสองคนคุยกัน ผมก็จำได้ว่ามันเป็นไปตามต้นฉบับเป๊ะเลย
เรโอะได้อันดับสองของชั้นเรียน หน้าตาดี กีฬาเด่น แถมเรียนเก่งอีก เพราะงั้นในต้นฉบับเลยให้เขารับบทเพื่อนผู้สนับสนุนตัวเองมาตลอด
ฉันควรจะไปหาข้อมูลเกี่ยวกับคนที่ได้คะแนนสูงๆ คนอื่นในชั้นด้วย ถ้าเกิดว่ามันไม่เหมือนกับในเรื่องต้นฉบับล่ะก็ จะแก้ไขอะไรต่อๆไปลำบากแน่
“นี่เรโอะ ได้ที่สองเนี่ย หมายความว่ายังมีคนที่ได้คะแนนดีกว่านายอีกหรอ?”
“อื้อ คะแนนรวมทุกวิชาโดนทิ้งห่างไปตั้ง10คะแนนแน่ะ”
“แล้วใครได้ที่หนึ่งล่ะ? ตอนสอบกลางภาคครั้งที่แล้ว ฉันแค่เช็คว่าตัวเองไม่ตกก็พอแล้ว ไม่ได้ไปดูอันดับคนอื่นเลย”
“ก็คนที่อยู่ในห้องเดียวกับพวกเรานั่นแหละ ฮานาซากิ ยูนะ ที่นั่งข้างๆ ไรโตะไง เธอได้ที่หนึ่งของทั้งชั้นเลยนะ”
“ว่าแล้วเชียว เธอคนนั้นเก่งสุดในชั้นปีแล้วนี่นะ”
ที่ ฮานาซากิ ยูนะ ได้อันดับหนึ่งของชั้นเรียนก็เป็นไปตามเนื้อเรื่องต้นฉบับเหมือนกัน
ผมจำได้ดีเลยว่าในเรื่องเดิม เวลาสอบทุกครั้ง เธอจะได้ที่หนึ่งเสมอ แล้วก็จะโดนฟุเสะคาวะชมอยู่บ่อยๆ
เธอมีหน้าตาสวยจนใครๆต้องเหลียวมอง และยังฉลาดอีกต่างหาก ถือว่าเป็นตัวละครนางเอกที่สมบูรณ์แบบเลย
การที่พระเอกอย่างฟุเสะคาวะ ได้รับความรักจากนางเอกที่เพียบพร้อมแบบนี้ ก็ทำให้ผู้อ่านหรือผู้ชมที่เห็นตัวเองเป็นพระเอกรู้สึกภูมิใจไปด้วยนั่นเอง
“ขอถามเพิ่มเติมนะ คุณฮานาซากิเนี่ย ก็เก่งเรื่องกีฬาด้วยใช่ไหม?”
“คุณฮานาซากิดูเป็นคนเรียบร้อย เลยไม่น่าจะเก่งกีฬาเท่าไหร่นะ จากที่ดูในวิชาพละ เธอก็ดูเป็นคนที่มีความสามารถด้านกีฬาปกติ แต่คนที่เก่งกีฬาเห็นจะเป็นฮิเมโนะ คาเร็น เพื่อนสมัยเด็กของไรโตะมากกว่า ได้ยินว่าตอนม.ต้นเป็นเอสของชมรมกรีฑาแถมยังเคยชนะเลิศระดับจังหวัดด้วย”
“โฮ่ สุดยอดเลยแฮะ”
“แต่ว่านะ คุณฮิเมโนะไม่ได้เข้าชมรมกรีฑาตอนม.ปลายหรอกนะ น่าเสียดายอยู่ แต่เธอบอกว่าอยากจะใช้เวลากับไรโตะมากกว่า”
“หมายความว่าหลงฟูเสะคาวะ หัวปักหัวปำเลยสินะ”
“คงอย่างงั้นแหละ ไรโตะเนี่ย เหมือนจะไม่รู้ว่าสาวๆรอบตัวชอบเขาอยู่ กลับกัน ถ้าดูจากปฎิกริยาของสาวๆแต่ละคน ใครดูก็คงจะรู้ได้ทันทีเลยล่ะ”
หมายความว่าเรโอะก็รู้เรื่องที่ฟุเสะคาวะเปิดฮาเร็มเหมือนกันสินะ
เนื้อหาที่เรโอะเล่าให้ฟังก็ตรงกับต้นฉบับเป๊ะเลย ผมรู้สึกสบายใจที่รู้ว่ามันไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเนื้อหาที่ผมรู้
เพราะเรโอะเลยทำให้รู้ว่า ความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวต้นฉบับที่ผมมีอยู่นั้นถูกต้องนะ สบายใจไปเปราะหนึ่งแฮะ พอผมรู้สึกโล่งใจแบบนั้น นิชิคาว่า ที่เมื่อกี้ยังตั้งใจกับหนังสือเรียนก็เงยหน้าขึ้นมา
“คาเร็นจังเก่งมากเลยนะ ฉันเคยเห็นเธอวิ่งด้วย เร็วอย่างกะลม แถมน่ารักด้วย”
นิชิคาว่าพูดพร้อมกับสายตาที่เหม่อลอย
พอเห็นท่าทางแบบนั้น ผมก็อดไม่ได้ที่จะหยอกเขาสักหน่อย
“นิชิคาว่าชอบสาวแนวเล่นกีฬาหรอเนี่ย หรือจริงๆแล้วแอบชอบอยู๋กันนะ จะว่าไปคุณฮิเมโนะก็น่ารักอยู่นา”
“มะ ไม่ได้ชอบสักหน่อย! เอ่อ ไม่สิ แบบว่า ชอบแหละ แต่ชอบแบบพวกไอดอลไม่ก็Vtubeไง!!”
“นิชิคาว่า ชอบไอดอลกับVtuberนี่เนอะ ตอนเล่นเกมกันครั้งก่อนก็รู้สึกเหมือนพวกโอตาคุเลย”
“ริวสุเกะ ก็เหมือนกันไม่หรอ? ที่เล่าเรื่องอนิเมะกับมังงะที่ชอบซะสนุกปากเนี่ย ทั้งที่คิดว่าเป็นนักเลง แต่จริงๆแล้วเป็นโอตาคุซะงั้น”
“ไม่ปฏิเสธค้าบบ คนเราชอบอะไรก็ชอบ ไม่เห็นต้องปิดบังกันเลย นิชิคาว่าก็คิดแบบเดียวกันใช่มั้ยล่ะ?”
“อ่า ใช่เลย ดีใจจังที่มีเพื่อนที่คุยกันรู้เรื่องแบบนี้ ต่อไปนี้ก็ฝากด้วยนะ!”
นิชิคาว่ายิ้มให้ผม เรโอะที่มองอยู่ก็ทำหน้าตกใจ
“เคียวยะ นายสนิทกับริวสุเกะตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย? ถึงจะคิดไว้อยู่หรอกว่าอีกเดี๋ยวก็คงรู้ตัวว่าริวสุเกะไม่ใช่คนไม่ดีก็เถอะ”
“อ๋อ ตอนที่ริวสุเกะชวนไปเล่นเกมด้วยกันวันอาทิตย์น่ะ ตอนนั้นเราปาร์ตี้เล่นเกมด้วยกันแล้วคุยกันหลายเรื่องเลย เข้าใจกันมากด้วย งานอดิเรกก็ตรงกัน คุยแล้วสนุก แล้วก็เล่นเกมเป็นทีมได้ดีมากๆเลย แถมยังเก่งจนสามารถกำจัดทีมตรงข้ามได้คนเดียวอีก เก่งจริงๆสมแล้วที่เป็นพรีเดเตอร์”
“งี้นี่เอง เข้าใจกันเพราะงานอดิเรกตรงกันสินะ แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน”
“ใช่ๆ ฉันเริ่มเข้าใจเรโอะแล้วล่ะ ที่บอกว่าเจ้านี่เป็นคนดีน่ะ”
เรโนะและนิชิคาว่าคุยกันด้วยรอยยิ้ม
“ริวสุเกะเป็นคนดีจริงๆ แล้ววันนี้พอมาที่โรงเรียนก็เห็นตัดผมแถมย้อมสีใหม่ ดูเปลี่ยนไปจนทำเอาตกใจเลยล่ะ”
“อา ผมก็แปลกใจเหมือนกัน ตอนนี้ริวสุเกะไม่ได้ดูดีแค่ข้างใน แต่ข้างนอกนอกก็กลายเป็นหนุ่มหล่อไปแล้ว”
ทั้งสองมองมาที่ผมพร้อมกับรอยยิ้ม พอเพื่อนพูดถึงการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของผมแล้ว ทำเอารู้สึกเขินนิดหน่อยเลย
“ไม่เอาน่า ฉันอายนะ แต่ก็… มีหลายๆเรื่องล่ะนะ”
“อยากรู้จังว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่รบกวนเกินไป ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิ ริวสุเกะ”
“อืม ถ้ามีโอกาสก็จะเล่าให้ฟัง เอาเป็นว่าฉันอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่ออนาคต แล้วก็…”
ผมหันไปมองมาชิโระที่กำลังตั้งใจอ่านหนังสือเรียนอยู่
เหมือนกับที่มาชิโระเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อผม ผมเองก็อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อมาชิโระเช่นกัน ผมอยากเป็นผู้ชายที่สามารถปกป้องรอยยิ้มของเธอและยืนข้างๆเธอได้
และเมื่อมาชิโระเห็นว่าผมมองอยู่ เธอก็เงยหน้าขึ้นมามองมาที่ผม
ดวงตาสีฟ้าสดใสของเธอสบตากับผมอย่างเต็มที่ มันดูงดงามจนเกือบจะถูกมันดูดเข้าไป และตอนนั้นเอง เธอก็ยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน
“มีอะไรหรอก ริวสุเกะ?”
“ปะ เปล่า….”
ผมไม่รู้จะตอบอะไรดี ตอนนั้นเองที่นิชิคาว่าส่งเสียงขึ้นมา
“ไม่ใช่ว่ามีอะไรที่ไม่เข้าใจอยากขอให้ช่วยหรอ ริวสุเกะ”
“งี้นี่เอง งั้นอาจารย์มาชิโระจะสอนริวสุเกะคุงเองค่าา~”
“ไม่ใช่ว่ามาชิโระบอกว่าไม่เก่งคณิตหรอ? ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เห็นเหลือบมองฉันอยู่เป็นพักๆไม่ใช่หรอ? แบบอยากให้สอนอะไรรึเปล่า?”
“อะฮะฮะ โดนจับได้ซะแล้ว งั้นก็ช่วยสอนตรงนี้ให้หน่อยนะคะ อาจารย์ริวสุเกะ”
“ช่วยไม่ได้น้าา จะสอนให้เป็นกรณีพิเศษก็แล้วกัน”
“ค่ะ! ขอบคุณนะค้าา อาจารย์~”
พอเห็นมาชิโระดีใจจนระเบิดหัวเราะออกมา ผมก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม โรโอะและนิชิคาว่าที่มองอยู่ก็ยิ่งให้พวกเราเช่นกัน
“เคียวยะก็เหมือนกัน ในเมื่อได้พักแล้ว ตอนนี้มาตั้งใจเรียนดีกว่า”
“อ่าา เข้าใจแล้ว ช่วยอธิบายให้ฟังทีนะ! อาจารย์เรโอะ!!”
นิชิคาว่ามองด้วยสายตาเป็นประกาย ส่วนเรโอะก็ยิ้มบางๆก่อนที่จะเริ่มกลับไปอ่านหนังสือ
เสียงดินสอกระทบกระดาษกับเสียงพลิกหน้าหนังสือ และเสียงพูดคุยของพวกเราก็ดังก้องในห้องเรียน