ตอนที่25 : แฟชั่นโชว์
“เน่ ริวสุเกะ อันนี้ดูเป็นบ้าง?”
“ก็ไม่เลวนะ”
“แล้วอันนี้อ่ะ?”
“อืมม ก็ไม่เลวเหมือนกัน”
“โธ่! นายชมแบบขอไปทีตลอดเลย! ห้ามพูดว่า ‘ก็ไม่เลว’ อีกนะ!”
“ข… ขอโทษ… มันรู้สึกเขินๆน่ะ”
“เอาเถอะ ริวสุเกะเนี่ย แค่มองหน้าก็รู้แล้วว่าคิดอะไรอยู่ ไม่ต้องพูดออกมาก็ได้แหละ เมื่อกี้กำลังคิดว่าน่ารักอยู่ใช่มั้ยล่ะ?”
“…..”
“อ๊ะ หน้าแดงอีกแล้ว! ริวสุเกะเนี่ยนะ เข้าใจง่ายจริงๆเลย”
ตอนนี้เองที่มาชิโระกำลังจัดแฟชั่นโชว์ส่วนตัวอยู่ในห้องลองเสื้อผ้าของร้าน โดยมีรอยยิ้มไร้เดียงสาประดับอยู่บนใบหน้า
ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว มาชิโระสลับชุดไปมาแล้วออกมาโชว์ให้ผมดูเรื่อยๆ พอรู้ว่าผมชอบสไตล์เรียบร้อย เธอก็หยิบชุดที่ดูบริสุทธิ์และอ่อนหวานมาให้ผมดูตลอด
ชุดที่เธอสวมใส่ตอนนี้ก็เหมือนกัน เป็นชุดเสื้อชีฟอนนุ่มๆกับกระโปรงที่ดูเรียบร้อยและสะอาดตา แต่ถึงงั้นก็ยังคงความเป็นเด็กสาวที่น่ารักเอาไว้ได้
ตั้งแต่มาชิโระไปย้อมผมดำ มันทำให้เธอดูเหมาะกับชุดเรียบร้อยมากขึ้นไปอีก ชุดที่เธอเลือกมาใส่แต่ละชุดก็น่ารักมากจนผมไม่รู้จะชมยังไงดี สุดท้ายก็ออกมาแต่คำว่า “ก็ไม่เลว” น่ะ
แต่ชุดที่ผมชอบที่สุดคือชุดเดรสสีขาวที่เธอใส่ก่อนหน้านี้ต่างหาก ชุดนั้นดูน่ารักราวกับนางฟ้า ทำเอาผมอยากจะเข้าไปกอดเธอจริงๆ
ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างก็เหลียวมองมชิโระที่สวมชุดเดรสสีขาวตัวนั้น จนผมต้องคอยขวางไม่ให้พวกผู้ชายคนอื่นเข้าไปพูดคุยกับเธออยู่หลายครั้ง
เด็กสาวที่สวยที่สุดในโลกไม่ใช่คำที่พูดส่งๆเท่านั้น
ถ้ามาชิโระเดินผ่านผู้ชายสักพันคน รับรองว่าทุกคนต้องหันมามองเธอแน่ๆ เธอสวยมากจนไม่มีใครสามารถเทียบได้ เธอคนนี้ที่น่ารักขนาดนี้ กลับเป็นของผมซึ่งเป็นตัวร้าย ไม่ใช่ของพระเอกอย่างฟูเสะคาวะ ไรโตะ น่ะสิ ทำเอารู้สึกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูกเลยแฮะ
แล้วก็ถึงเวลาที่มาชิโระซึ่งอยู่หลังม่านจะเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว
พอเปิดม่านออกมา ผมก็เห็นมาชิโระหมุนตัวไปมาหนึ่งรอบ
ผมสีดำนุ่มสลวยลอยพลิ้วไหวเบาๆ กระโปรงสีขาวบริสุทธิ์ที่ประดับด้วยระบายดูราวกับดอกไม้ที่บานสะพรั่ง ดวงตาสีฟ้าที่เปล่งประกายราวกับดวงดาวจ้องมองมาที่ผม เล่นเอาผมเผลอกลั้นหายใจไปเลย
ภาพตรงหน้ามันช่างดูเกินจริงราวกับภาพวาด มันสวยงามจนผมรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ
ชุดเดรสสีขาวที่ผมคิดว่าสวยที่สุดนั่นแหละ เธอใส่แล้วดูงดงามโดดเด่นที่สุดในสายตาผม มาชิโระในชุดนี้เปล่งประกายที่สุด
ในตอนที่ผมพูดไม่ออกเพราะความตะลึง มาชิโระก็ยิ้มอย่างซุกซน
“ว่าแล้วเชียว ริวสุเกะชอบชุดนี้มากๆเลยใช่ม้า ก็กฎิกริยาแตกต่างกับชุดอื่นนี่นา”
แม้ผมจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ดูเหมือมาชิโระจะพูดถูกซะแล้วล่ะ สีหน้าผมดูออกง่ายซะจริง แค่ถูกมาชิโระบอกว่าชุดเดรสของเธอเป็นชุดที่ผมชอบที่สุดผมก็เขินจนหน้าแดงแล้ว
พอเห็นผมทำท่าแบบนั้น มาชิโระก็ยิ้มอย่างพอใจแล้วหยิบชุดทั้งหมดที่เอามาลองใส่ลงในตะกร้า
“เหมือนว่าริวสุเกะจะชอบชุดอื่นๆเหมือนกันเนอะ งั้นซื้อไปหมดเลยก็แล้วกัน แต่ชุดเดรสตัวนี้ฉันจะเก็บไว้ใส่ตอนไปเดทกับริวสุเกะโดยเฉพาะนะ”
“จะซื้อหมดเลยเหรอ? เอ่อ… มันดูเยอะอยู่นะ”
“ก็แหม ปกติฉันใส่แต่เสื้อผ้าแนวแกลๆใช่มั้ยล่ะ? ตอนนี้ชุดที่ใส่มาเดทกับริวสุเกะได้ก็มีชุดเดียวด้วย เพราะงั้นแหละ เลยว่าจะซื้อเยอะๆเผื่อได้ออกไปไหนข้างนอกไง”
“งั้นหรอ งั้นก็แปลว่ามาชิโระก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกับฉันสินะ”
“ที่ว่าเหมือนกันน่ะ… หมายถึงเรื่องเสื้อผ้าเหรอ? จะ จริงด้วย ฉันลืมเรื่องเสื้อผ้าของนายไปเลย ริวสุเกะเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวไปนะ ความรู้สึกมันคนละแบบเลยอ่ะ”
มาชิโระใช้นิ้วม้วนผมตัวเองเล่น ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อขึ้นมา และสายตาล่อกแล่กไปมา
“ปะ ปกตินายจะแต่งตัวแนวแยงกี้ๆหน่อยใช่มั้ยล่ะ?”
ก็จริงอย่างที่เธอว่านั่นแหละ ก่อนที่ผมจะมาอยู่ในร่างนี้ การแต่งตัวสไตล์แยงกี้ก็เป็นเรื่องปกติของเขาล่ะนะ ราวกับเขาพยายามจะเป็นตัวร้ายให้สมบทบาทไม่ใช่แค่จิตใจแต่ยังรวมถึงรูปลักษณ์ภายนอกด้วย
“แต่ว่านะ! เสื้อผ้าของริวสุเกะตอนเนี้ย มันดูสดใส สะอาดตา แล้วก็… เอ่อ… แบบว่า…”
ใบหน้าของมาชิโระเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆจนถึงใบหู เธอเขินอายจนพูดติดๆขัดๆ แต่สุดท้ายก็กล้าที่จะเอ่ยความรู้สึกของตัวเองออกมา
“――มันเหมาะกับนายมากเลย ฉันคิดว่านายดูเท่มากเลยล่ะ ไม่ใช่แค่เท่ธรรมดา แต่เท่สุดๆเลย”
“……”
คำพูดของเธอทำให้ผมหน้าแดงถึงหูเหมือนกัน แต่ผมก็หลบตาเธอไม่ลง ดวงตาสีฟ้าใสของมาชิโระกำลังจับจ้องผมอยู่ นั่นทำให้ใจผมสั่นไม่หยุด
“คือว่านะ จริงๆแล้วตอนเจอกันที่จุดนัดพบ อยากจะบอกมากเลยว่า ‘ริวสุเกะเท่มากเลย!’ แต่ว่า… อะฮะฮะ เขินจนพูดไม่ออกอะ เพราะว่าเท่มากจนไม่รู้จะหาคำชมอะไรมาใช้ดี ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันว่าตัวเองพูดถูกไหม”
มาชิโระพูดเร็วขึ้นราวกับจะกลบเกลื่อนความเขินอาย แล้วเธอก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง แต่พอเห็นแบบนั้นผมก็รู้สึกดีใจที่รู้ว่าเธอรู้สึกเหมือนเขินเหมือนผม
แล้วเพราะมาชิโระกล้าบอกความรู้สึกออกมาแบบนั้น ผมเลยต้องบอกความรู้สึกของผมให้เธอฟังบ้าง
“ที่จริงแล้ว มาชิโระ…..ฉันก็เหมือนกัน ตอนเห็นเธอที่รออยู่ตรงหน้าสถานี ฉันรู้สึกว่าเธอน่ารักมากๆจนทำอะไรไม่ถูกเลยล่ะ เผลอมองเธอจนตาค้างด้วย เพราะงั้นถึงจะช้าไปหน่อย แต่…. มาชิโระในชุดเดรสสีขาวตัวนั้นน่ะ น่ารักที่สุดเลย จริงๆนะ”
ผมหน้าแดงก่ำเพราะความเขินก่อนจะยกมือขึ้นเกาแก้ม แต่อย่างน้อยก็ได้บอกคำชมให้มาชิโระได้สำเร็จ
ชิมะชิโระทำหน้าตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของผม แต่ไม่นานเธอก็ยิ้มออกมาอย่างไร้เดียงสาและน่ารัก รอยยิ้มนั้นดูสดใสที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา และผมก็ถูกความงดงามของเธอดูดเข้าไปอีกครัง
“ริวสุเกะเนี่ยน้า… แค่สีหน้าก็บอกทุกอย่างอยู่แล้วนะ เพราะงั้นเลยรู้หมดนั่นแหละว่าคิดยังไง แต่พอมาได้ยินแบบนี้มันก็รู้สึกต่างออกไปนะ เอ… แบบว่า ดีใจซะจนใจจะวายแล้วอ่ะ”
มาชิโระพูดพร้อมกับเอามือไปทาบลงบนอกเพื่อสัมผัสจังหวะหัวใจของตัวเอง ผมเองก็เอามือกดหน้าอกตัวเองเหมือนกัน เพราะตอนนี้หัวใจมันเต้นแรงจนเหมือนจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
“งั้นทีนี้ก็ถึงตาฉันเลือกเสื้อผ้าให้ริวสุเกะแล้ว! ริวสุเกะเองก็ไม่มีเสื้อผ้าจะใส่เหมือนฉันใช่มั้ยล่ะ? ไปเลือกกันเถอะ จะได้หล่อขึ้นไปอีกเยอะๆเลยไง!”
“ขอบคุณนะมาชิโระ พอได้ยินเธอพูดแบบนี้ ฉันก็รู้สึกมั่นใจขึ้นเยอะเลย เพราะงั้นก็ ฝากด้วยนะ”
“ค่าาา! จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน!”
ตั้งแต่ตอนนั้นพวกเราก็เดินจับมือกันมาตลอด หัวเราะคิกคักด้วยกันและใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข