ตอนที่22 : การนัดพบ
สถานที่นัดพบคือลานกว้างหน้าสถานี
เดิมทีตั้งใจจะไปเที่ยวกันตอนบ่าย แต่มาชิโระอยากจะกินอาหารกลางวันด้วยกันเลยเปลี่ยนเวลานัดเป็น 11 โมง
พอเจอกับมาชิโระแล้ว ก็จะเดินเล่นในเมืองไปเรื่อยๆ เพื่อหาร้านอาหารอร่อยๆกินกัน
หลังจากกินอาหารกันเสร็จก็จะไปซื้อของสำหรับทำอาหารเย็นกัน แล้วก็ไปทำอาหารให้มาชิโระกินที่อพาร์ทเมนต์ของเธอก่อนจะกลับบ้าน
ถ้าเป็นผมในอดีต ชินโด ริวสุเกะ ตนก่อน คงจะนอนกลิ้งๆอยู่ในห้องของมาชิโระจนถึงเช้า แต่ตอนนี้ผมจะเลิกเป็นตัวร้ายและหลีกเลี่ยงชะตากรรมที่เลวร้าย เพราะงั้นเลยมีเรื่องที่ต้องทำอีกเยอะ
พอจัดการตารางวันนี้เสร็จแล้ว ผมก็มาถึงสถานที่นัดพบ และแล้วผมก็ได้เห็น ไม่สิ หรือจะเรียกว่าถูกดึงดูดสายตาดีล่ะ…
ที่ลานกว้างหน้าสถานี มีสาวสวยคนหนึ่งนั่งอยู่บนม้านั่งคนเดียว มาชิโระนั่นเอง
ผมยาวสีดำเงางามที่พริ้วไหวอย่างนุ่มนวล ดวงตาสีฟ้าที่มองต่ำลงทำให้รู้สึกถึงความเหงาเล็กน้อย
เธอสวมชุดเดรสแขนสั้นสีขาวยาวถึงเข่า ช่วยขับผิวสีขาวนวลของเธอโดดเด่นขึ้นมา การผสมผสานของชุดและผิวเนียนไร้ที่ติทำให้เธอดูงดงามและน่ารักแบบเด็กสาวอย่างแท้จริง ใบหน้าที่งดงามของเธอมักดึงดูดสายตาทุกคนให้มองไปที่เดียว
เด็กสาวที่ดูเงียบขรึมเงยหน้ามองท้องฟ้าด้วยแววตาเศร้าสร้อย ― เธอช่างงดงามราวกับภาพวาด
ผมถึงกับลืมหายใจไปชั่วขณะ
ตอนใส่ชุดนักเรียนก็สวยที่สุดแล้วแท้ๆ พอยิ่งมาใส่ชุดลำลองแบบนี้กลับสวยขึ้นไปอีก ไม่ยุติธรรมเลยนะ ถ้าสวยขนาดนี้ล่ะก็ ต่อให้เหล่านางเอกจากเรื่องอื่นๆมารวมกันตัวก็อาจจะสู้เธอไม่ได้เลยด้วยซ้ำ คงเพราะแบบนี้พระเจ้าถึงได้เร่งให้พระเอกกับเธอมาเจอกันเร็วๆงั้นสิ?
ผมรีบเดินไปหาเธอคนนั้น
พอจะเดินเข้าไปใกล้และจะเรียกมาชิโระ ก็มีผู้ชายสองคนเดินมาขวางตรงหน้าเธอพอดี
(เห้ย…)
ทั้งคู่ดูเหมือนจะเป็นนักศึกษามหาลัย พวกเขามองไปที่มาชิโระ ซึ่งนั่งอยู่บนม้านั่งพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ พอเห็นแบบนั้น คำว่า “มาจีบ” ก็ผุดขึ้นมาในหัว
ตอนนี้มาชิโระคือสาวสวย และเมื่อเธออยู่กลางเมือง เจ้าตัวก็ดึงดูดสายตาของผู้ชายแทบทุกคน หมายความว่ามีคนที่คิดจะจีบเธอและพยายามทำอะไรที่ไม่ดีใส่
ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป มาชิโระอาจถูกบังคับให้ตามไปก็ได้ เพราะงั้นผมเลยต้องรีบเข้าไปช่วยเธอ
เพื่อไม่ให้มาชิโระโดนสองคนนี้จีบ ผมเลยเดินไปข้างหลังพวกเขา ที่ในตอนนี้ทั้งสองคนพยายามจะหาเรื่องคุยกับมาชิโระโดยใช้ทุกวิถีทาง
ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย มองด้วยสายตาแข็งกร้าว กดเสียงให้ต่ำเล็กน้อย ยืนตัวตรงพร้อมกับมือล้วงกระเป๋า เป็นท่าทางที่ดูหาเรื่อง… โอเค สมบูรณ์แบบ
หลังของผมคงจะมีออร่าสีดำมืดล้อมรอบ พร้อมกับเสียง “โกะโกะโกะโกะโกะ” ดังขึ้นแน่ๆ เมื่อเตรียมพร้อมแล้ว ผมก็เรียกชายทั้งสองคนที่กำลังจีบมาชิโระอยู่
(TL : ไอนี่ เบียวโจโจ้นี่หว่า)
“โย่ว มีอะไรจะคุยกับเพื่อนของฉันรึเปล่า?”
ผมพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าจนตัวเองยังตกใจ
เมื่อได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง ทั้งสองคนก็หันมามองผม ตอนนั้นเอง สีหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“อี็!?”
“ว๊าก!?”
หลังจากส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ ทั้งสองคนก็หน้าซีดเผือดทันที จากนั้นพวกเขาก็ยิ้มแหยๆแล้วก้มหัวรัวๆ ก่อนจะรีบวิ่งหนีไป
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของพวกเขา ผมก็อดคิดไม่ได้ว่าน่าสมเพชจริงๆ
ถ้าเปรียบเทียบกับนิยายแฟนตาซี ก็คงเหมือนกับจอมมารที่แข็งแกร่งกำลังข่มขู่สัตว์ประหลาดตัวเล็กๆ จนพวกมันกลัวออร่าแห่งความมืดแล้วหนีกันไปหมด
(TL : หยุดเบียวทีเถอะ นี่ผมตัดช็อตเบียวตัวร้ายไปให้เยอะแล้วนะเห้ย!)
หลังจากที่พวกเขาวิ่งหนีไปจนลับสายตาไปแล้ว ผมก็เดินมาหยุดตรงหน้ามาชิโระ ตอนนั้นเองเธอก็ยิ้มออกมาอย่างสดใสราวกับดอกไม้ที่ผลิบาน จากนั้นเธอก็พูดขึ้นมาด้วยความดีใจ
“ขอบคุณที่มาช่วยน้าา ริวสุเกะ”
“โทษที ถ้าฉันมาเร็วกว่านี้สัก10นาทีคงจะดีกว่านี้แฮะ”
“ฉันก็พึ่งมาถึงเอง ไม่เป็นไรหรอก กำลังรำคาญพวกที่เข้ามาจีบอยู่พอดีเลย ดีนะที่ริวสุเกะมาช่วย”
“งั้นหรอ? แล้วขาเป็นยังไงบ้าง? ยังเจ็บอยู่รึเปล่า?”
“อื้อ ไม่เจ็บแล้วล่ะ ดูสิ ฉันแข็งแรงดีนะ!”
มาชิโระลุกขึ้นจากม้านั่งแล้วกระโดดไปมา ชุดเดรสสั้นของเธอก็ปลิวไหวเผยให้เห็นต้นขาที่ดูนุ่มนิ่ม เพราะงั้นผเลยหันหน้าหนีอย่างรวดเร็ว
“ยะ ยัยบ้า อย่าฝืนสิ”
“อะฮะฮะ โทษทีๆ แต่ฉันไม่เป็นไรแล้วจริงๆน้าา”
“ถึงงั้นก็ห้ามกระโดด ถ้าเข้าใจก็ช่วยทำตัวดีๆหน่อยสิ”
“ค่าาา~ จะระวังค่ะ!”
มาชิโรยิ้มออกมาอย่างร่าเริงพลางหัวเราะออกมา รอยยิ้มสดใสของเธอพอบวกกับชุดลำลองที่ดูน่ารักทำให้เจ้าตัวดูเปล่งประกายราวกับดวงอาทิตย์
“งั้นไปกินข้าวเที่ยงกันก่อนดีกว่า เธออยากกินอะไรล่ะ?”
“อืม… งั้นราเมงไหม? ใกล้ๆสถานีมีร้านมิโซะราเมงเด็ดๆอยู่ร้านนึง ฉันอยากไปลองมาสักพักแล้วล่ะ”
“นี่ๆ ถ้ากินราเมงกันเสื้อนั่นจะเลอะเอานะ”
“อ๊ะ….จริงด้วย ดันเผลอพูดไปเพราะความเคยชินซะได้….”
“ก็นะ เวลาออกไปเที่ยวด้วยกันเธอก็เอาแต่ใส่เสื้อฮู๊ดไม่ก็ชุดนอนนี่นา”
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นมาชิโรในชุดเดรสที่ดูเรียบร้อยและอ่อนโยนแบบนี้
มาชิโระย้อมผมให้เป็นสีดำ เปลี่ยนแต่งหน้าหนาๆมาเป็นแต่งหน้าแบบธรรมชาติ ตามที่ผมเคยบอกไปว่าชอบแบบไหน เธอใส่ชุดที่เรียบร้อยที่ไม่ค่อยได้ใส่บ่อยนักเพื่อเอาใจผม เพราะงั้นผมเลยอดไม่ได้ที่จะมองเธอไม่วางตา
“ไปนั่งที่คาเฟ่กันไหม? อย่างพวกพาสต้าหรือแพนเค้กก็อร่อยนะ มาชิโรเอาอะไรดีล่ะ?”
“อืม…ตอนนี้น่าจะอยากกินคาเฟ่โอเล่เย็นๆอ่ะ ขอแบบหวานๆเลยนะ”
“รับทราบ งั้นไปกันเถอะ”
“ค่าา!”
พวกเราเดินเคียงข้างกัน แค่เห็นมาชิโรยิ้มให้ด้วยใบหน้าที่ไร้เดียงสาอยู่ข้างๆก็ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม
เพื่อตอบแทนสิ่งที่มาชิโระทำให้มาตลอด วันนี้ผมต้องทำให้เธอมีความสุขให้ได้เลย