ตอนที่21 : เสื้อผ้าที่มี
หลังจากนั้นจนถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับฟุเสะคาวะเลย
ถึงแม้จะระวังตัวไม่ให้เข้าใกล้มาชิโระ แต่ฟุเสะคาวะ ก็ยังใช้ชีวิตประจำวันแบบวัยรุ่นรอมคอมที่ล้อมรอบไปด้วยเหล่านางเอกสามคนเหมือนเดิม ไม่มีท่าทีอะไรที่แปลกไป
คงกำลังเตรียมตัวสำหรับอีเวนต์เที่ยวทะเลอยู่ เขาคงไม่มีเวลาว่างพอจะจัดการอะไรเพิ่มเติมแล้ว
หลังจากที่เขาบอกว่าตัวเองมองผมเป็นเพื่อน เรโอะก็ยังเข้ามาพูดคุยกับผมอย่างเป็นมิตรเหมือนเดิม และในคาบพละเขาก็ยังคอยเป็นคู่หูให้ผมอย่างตั้งใจ ท่าทางของเขาที่ไม่มีความเป็นศัตรูเลยแม้แต่น้อย กลับกันมันมีแต่ความอ่อนโยน ช่วยให้ผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากเลยล่ะ
ผมเข้าเรียนอย่างตั้งใจ ไม่มีสาย ไม่มีขาด และส่งงานที่ค้างทั้งหมด ตั้งแต่ที่ผมมาอยู่ในร่างนี้ ผมก็พยายามรักษาภาพลักษณ์ของนักเรียนตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบเอาไว้…แต่สายตาเย็นชาจากเหล่าตัวประกอบรอบข้างก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
บรรดาอาจารย์ก็ยังคงหาโอกาสแกล้งผมระหว่างคาบเรียน และเรียกตัวผมไปที่ห้องปกครองเพื่อตำหนิถึงพฤติกรรมในอดีต พวกเขาไม่เคยปฏิบัติต่อผมเหมือนเป็นนักเรียนธรรมดาคนหนึ่งเลย
แต่ถึงอย่างนั้น หัวใจของผมก็ไม่ได้ท้อแท้หรือแตกสลาย
ถ้าหากมีพระเจ้าผู้ควบคุมโลกใบนี้อยู่จริง ผมก็รู้แล้วว่ามันไม่ได้สมบูรณ์แบบ
มีวิธีที่จะหลีกเลี่ยงจุดจบที่จะนำไปสู่ความพินาศได้ ยังมีโอกาสเหลือเฟือที่ผมจะคว้าอนาคตที่แตกต่างออกไปจากเรื่องราวต้นฉบับและใช้ชีวิตวัยรุ่นให้ดีที่สุด
สิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผมไว้ได้มากที่สุดก็คือการมีอยู่ของมาชิโระ
เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะผม เธอคิดถึงผมและอยู่เคียงข้างด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนและสดใสเสมอ ความอ่อนโยนที่ของมาชิโระนั้นช่วยเหลือผมมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
ผมรู้สึกขอบคุณมากๆที่เธอคือเพื่อนสมัยเด็กของผม และเพื่อไม่ให้เธอต้องถูกพระเอกช่วงชิงไป ผมจะไม่ประมาทกับชีวิตในโรงเรียนม.ปลายนี้อย่างเด็ดขาด
พอกลับถึงบ้าน ผมจะทบทวนบทที่เรียนไปวันนี้และต้องเรียนล่วงหน้า เสริมสร้างร่างกายด้วยการออกกำลังกาย และตั้งแต่เมื่อวานก็เริ่มออกไปวิ่งด้วย ผมเลิกบุหรี่และเหล้าอย่างเด็ดขาด กินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน และรักษาวินัยด้วยการนอนเร็วตื่นเช้าพร้อมดูแลสุขภาพอยู่เสมอ
ผมให้ความสำคัญกับครอบครัว ช่วยทำงานบ้าน และทำทุกอย่างเท่าที่ตัวเองจะทำได้
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดไปพร้อมกับมาชิโระ
ในโลกใบนี้ เพื่อที่จะไปถึงตอนจบที่มีความสุขที่สุด ผมก็พร้อมจะพยายามทุกอย่างโดยไม่ลังเล
และแล้วก็มาถึงวันเสาร์
ในช่วงวันหยุดนี้ คุณพระเอกจะออกไปเที่ยวพร้อมกับเหล่านางเอกเพื่อเข้าร่วมอีเวนต์เที่ยวทะเลตามเนื้อเรื่องต้นฉบับ ซึ่งก็หมายความว่าถ้าทุกอย่างเป็นไปตามเนื้อเรื่องต้นฉบับ โอกาสที่พระเอกและตัวร้ายอย่างผมจะได้เจอกันนั้นแทบจะเป็นศูนย์ สำหรับผมที่ได้มาอยู่ในโลกนี้ นี่เป็นเป็นครั้งแรก นี่แหละคือโอกาสที่จะได้ปลดปล่อยตัวเองอย่างเต็มที่
เพราะงั้นตอนนี้ ผมเลยยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องของตัวเองพลางเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อรักษาสัญญาที่จะออกไปเที่ยวกับมาชิโระ
“ไหนดูซิ๊ ใส่ชุดไหนดีหว่า?”
มีชุดลำลองจำนวนมากที่ผมหยิบออกมาดูจากตู้
ก่อนหน้านี้ผมเคยเป็นเด็กเกเรอย่างแท้จริง ชุดลำลองที่ใส่ออกไปข้างนอกแต่ละชุดจึงดูดุดันทั้งหมด
จะเรียกว่าเป็นเสื้อผ้าสไตล์แยงกี้ก็คงไม่ผิดนัก
ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแจ็คเก็ตลายมังกรตัวใหญ่ที่ด้านหลัง เสื้อยืดหรือเสื้อฮู้ดที่มีลายหัวกะโหลกเด่นชัด หรือแม้แต่ชุดวอร์มที่มีลวดลายฉูดฉาดสไตล์นักเลงทั้งตัว
มีทั้งรองเท้าบู๊ทหุ้มข้อที่ดูแข็งแรง แว่นกันแดดสีดำขนาดใหญ่ดูหรูหรา และเครื่องประดับอย่างสร้อยคอและกำไลข้อมือที่ดูสะดุดตา
ยังมีเสื้อแจ็คเก็ตยาวที่มีข้อความตัวใหญ่เขียนว่า “พร้อมลุย” อยู่ด้วย ซึ่งการที่ตัวผมในอดีตเคยสวมมันแล้วเดินอย่างไม่เกรงกลัวไปตามท้องถนน ทำเอาผมถึงกับรู้สึกกลัวตัวเองขึ้นมาเลย
แต่เพราะผมได้มาเกิดใหม่ในโลกนี้ เสื้อผ้าทั้งหมดที่เคยใส่ในช่วงที่เป็นเด็กเกเรจึงกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป
แต่เหมือนจะเป็นปัญหาแล้วสิ……ตั้งแต่มาอยู่ในร่างนี้ ผมก็ใส่ชุดเครื่องแบบตลอดเวลาจนลืมเรื่องชุดลำลองไปเลย
ไม่มีชุดที่เหมาะจะใส่ออกไปข้างนอกสักชุดเลยแฮะ
ถ้าผมต้องการหลุดพ้นจากบทบาทตัวร้าย แฟชั่นก่อนหน้านี้ก็จำเป็นต้องเก็บเข้ากรุให้หมด
สิ่งที่ผมต้องการคือชุดที่ดูสะอาดสะอ้านและสดใส ไม่ใช่ชุดสไตล์เด็กเกเรหรือแบบนักเลงสักหน่อย
ตัวเลือกที่ยังเหลืออยู่ก็คือเสื้อผ้าเรียบๆที่ถูกพับไว้อย่างเรียบร้อย แม้จะไม่ค่อยได้ใส่บ่อยนักแต่ก็ยังดูเหมือนใหม่อยู่ ซึ่งในสถานการณ์แบบนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าขอบคุณล่ะนะ
โชคดีที่ ชินโด ริวสุเกะ เป็นเด็กหนุ่มที่มีรูปร่างสมส่วน กล้ามเนื้อกระชับ และมีสไตล์ที่ดูดี หลังตรง หน้าตาก็ไม่ได้แย่อะไร
เพื่อเสริมให้ตัวเอกดูโดดเด่นขึ้น ตัวละครนี้จึงถูกออกแบบมาให้มีรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างน่ามอง ถึงแม้จะดูแข็งกร้าวและน่ากลัว แต่ก็ยังสามารถเรียกได้ว่าเป็น “หนุ่มหล่อ” ได้โดยไม่ต้องลังเล
ผมตัดสินใจจะใช้รูปลักษณ์นี้ให้เป็นประโยชน์และลองเลือกชุดที่ดูเรียบง่ายและสะอาดตา
พอคิดได้แบบนั้นผมเลยใส่เสื้อผ้าที่ดูธรรมดาๆ
เสื้อที่สามารถใส่ได้มีแค่เสื้อยืดเรียบๆกับแจ็คเก็ตเท่านั้น เพราะงั้นมันเลยเป็นตัวเลือกหลัก ส่วนกางเกงที่ใส่ยังมีตัวเลือกหลายตัวให้เลือก
กางเกงที่ดูหลวมๆ ยีนส์ขาดๆ กางเกงขาสั้น… เอ๊ะ นี่อะไรหว่า?
ผมหยิบกางเกงยีนส์สีดำที่มีขนาดพอดีจากในตู้เสื้อผ้ามาและใส่ดู
กางเกงที่พอดีตัวทำให้ขาของผมดูยาวขึ้น และทำให้รูปร่างสูงโปร่งของผมดูดีขึ้นไปอีก เมื่อใส่เสื้อยืดแขนสั้นเรียบๆกับแจ็คเก็ตบางๆก็ทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นทันที
“ไม่เลวนี่หว่า….เนอะ?”
ผมหมุนตัวหน้ากระจกเพื่อเช็คตัวเอง
อืม… คิดว่ามันไม่เลวเลยนะ ส่วนรองเท้าก็ใช้รองเท้าวิ่งที่ซื้อเมื่อวานมาแทน เพราะมันเหมือนกับ “สไนเกอร์” และสีเข้ากับชุดได้ดี
ในตอนที่ผมคิดว่ามันยังขาดอะไรอยู่แล้วเดินไปเดินมาอยู่ในห้อง ผมก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดัง “ก๊อก ก๊อก”
“พี่ค้าา~ หนูเข้าไปนะ~?”
เสียงของน้องสาวผมดังขึ้น และก่อนที่จะตอบ เธอก็เปิดประตูเข้ามาแล้ว ทันทีที่เห็นผมเธอก็หยุดชะงักไป
เอ๊ะ? การตอบสนองแบบนี้มันหมายความว่าไงฟะ….?
เธอคงคิดว่ามันไม่เข้ากับผมงั้นสิ? แต่ผมก็ไม่ได้แต่งตัวแปลกอะไรขนาดนั้นนะ
ระหว่างที่ผมรู้สึกกังวลและมองน้องสาวไปด้วย เธอก็วิ่งมาหาผมด้วยสายตาที่เป็นประกาย
เธอไม่สนใจท่าทางสับสนของผม ไมตรงเข้ามาแล้วพูดกับผมด้วยความตื่นเต้น
“พะ พี่ชายแต่งตัวไม่เหมือนเดิมแล้ว!! หวาาา พี่หล่อมากเลยอ่ะ!!”
“ละ หล่อหรอ?”
“อื้ม! ปกติพี่แต่งตัวแนวแยงกี้ตลอด แต่ตอนนี้พี่ดูเท่มาก อย่างกะหนุ่มฮ็อตเลย!”
“จ…จริงเหรอ? ถ้ามาจากมุมมองของผู้หญิงก็ถือว่าประสบความสำเร็จสินะ…”
“พี่บอกว่าจะเปลี่ยนตัวเองใหม่ แล้วก็เปลี่ยนจริงๆด้วยอ่ะ สุดยอดมากเลยพี่!”
“อืม ก็ประมาณนั้นแหละ พี่ก็กำลังพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่”
“อื้มๆ อย่างน้อยสำหรับหนูก็คิดว่าพี่เท่ขึ้นนะ แล้วคนอื่นๆก็คงคิดเหมือนกันแหละ”
“พอได้ยินไมพูดแบบนี้พี่ก็ใจชื้นขึ้นแล้วล่ะ”
ผมยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่แล้วมองสำรวจตัวเองอีกครั้ง ถ้ามีอะไรที่ปรับปรุงเพิ่มได้อีกก็คงจะดี แต่ตอนนี้ถือทำดีที่สุดแล้วล่ะนะ
อย่างน้อยก็คงไม่ถูกมองว่าเป็นนักเลงเวลาออกไปข้างนอกแล้วมั้ง แล้วยังได้ยินน้องสาวชมว่าดูเท่เหมือนหนุ่มฮอตอีก ได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
พอจะตรวจดูเสื้อผ้าตัวเองในกระจกอยู่นั้น ไมก็หัวเราะคิกคักแล้วเอามือปิดปาก
“หนูได้ยินมาจากพี่มาชิโระแล้วนะ วันนี้พวกพี่จะไปเดทกันใช่มั้ย? ดูตั้งใจมากเลย หนูดีใจด้วยนะ~”
“เดี๋ยวสิ เดทเนี่ยนะ วันนี้แค่จะไปซื้อของนิดหน่อยเอง จะเรียกว่าเดทได้ยังไง…”
“เอ๋~ แต่ว่าออกไปกับผู้หญิงสองคนแบบนี้ ปกติก็ต้องเรียกว่าเดทไม่ใช่เหรอ? ถึงพี่จะคิดแบบนั้นก็เถอะ แต่พี่มาชิโระก็ดีใจมากเลยนะที่ได้ไปเดทกับพี่อ่ะ~”
“ห๊ะ!? มาชิโระก็คิดว่าเป็นเดทหรอ?”
“เอ้า เอ้า~ วันนี้ก็ตั้งใจทำตัวดีๆนะ เพื่อมาพี่มาชิโระด้วย~ หนูก็เป็นกำลังใจให้นะ”
น้องสาวของผมพูดอย่างนั้นและตบหลังผม ไมยิ้มอย่างซุกซนแล้วหันกลับไปทางประตู
“ใช่ๆ ไม่ใช่แค่หนูคนเดียวหรอกนะ แม่ก็เป็นกำลังใจให้ด้วยนะรู้มั้ย? ช่วงนี้พี่ชายช่วยทำงานบ้าน ทำการบ้าน แล้วก็ตั้งใจมากเลยใช่ไหม? แถมไปโรงเรียนทุกวันด้วย แม่บอกว่าวันนี้จะให้ค่าขนมเยอะๆแน่ะ ดีจังเลยเนอะพี่ชาย!”
“แม่ก็รู้เรื่องพี่กับมาชิโระด้วยเหรอ?”
“ก็เรื่องปกตินี่นา? สำหรับพวกเรา พี่มาชิโระเป็นเหมือนคนเดียวที่พึ่งพาได้เลยนะ ก็แบบ เหมือนเป็นคนที่ทำให้พี่ชายค่อยๆดีขึ้นเลยอ่ะ แล้วพี่มาชิโระก็คอยดูแลไม่ให้พี่ชายทำเรื่องแย่ๆด้วยไม่ใช่เหรอ?”
“ดูแล… ก็แค่เล่นด้วยกันจนดึกดื่นแค่นั้นเองนะ”
“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย! พี่มาชิโระชวนพี่ไปที่อพาร์ทเมนต์ของตัวเองเพื่อไม่ให้พี่ไปที่แปลกๆ ตอนดึกๆต่างหากเล่า ก็พี่ไม่เคยฟังที่หนูกับแม่บอกให้กลับบ้านเลยนี่นา”
“นี่เธอชวนพี่ไปที่อพาร์ทเมนต์เพื่อไม่ให้ไปที่แปลกๆ งั้นเหรอ…”
“ใช่ๆ นั่นแหละ พี่มาชิโระคอยเตือนไม่ให้ออกไปเที่ยวกลางคืน กินเหล้ากับสูบบุหรี่ แล้วก็มาเล่าให้หนูฟังว่าพี่ชายเป็นยังไงบ้างด้วยนะ เพราะพี่มาชิโระเป็นห่วงพี่ชายมากเลยนี่นา เธอมาปรึกษาหนูตลอดเลยว่าจะทำยังไงให้พี่ชายเปลี่ยนเป็นคนดีน่ะ”
เข้าใจแล้ว… แบบนี้นี่เอง
เพราะงั้นไมกับมาชิโระเลยติดต่อกันทุกวันสินะ ก็จริงที่ก่อนผมจะมาอยู่ในร่างนี้ เจ้าชินโดคนก่อนทำเอาไว้จนอายเลยแฮะ
ที่มาชิโระมาอยู่กับผมจนดึกดื่นก็เพราะอยากจะคอยดูแลผมไม่ให้หลงผิดไปมากกว่านี้สินะ
เธอเล่าเรื่องราวของผมให้ไมฟัง ปรึกษาเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวเองของผม พยายามให้ผมเลิกเหล้าเลิกบุหรี่… แล้วเพื่อนสนิทอย่างทาคุยะกับมิตสุรุก็เคยบอกเหมือนกันว่า ตอนที่พวกเขาจะขับรถของพ่อไปโดยไม่ได้มีใบขับขี่ มาชิโระที่รู้ก็โกรธมาก
ผมไม่รู้มาก่อนว่ามาชิโระพยายามทำอะไรหลายๆอย่างเพื่อผมอยู่เบื้องหลัง แบบนี้เองสินะ เพราะงั้นตอนนี้ถึงได้รู้เหตุผลต่างๆในการกระทำของเธอมากขึ้น
“เพราะงั้น! วันนี้พี่ต้องไปขอบคุณมาพี่มาชิโระให้มากๆเลยนะ ที่ผ่านมาพี่สร้างความเดือดร้อนให้เธอไปเยอะเลยใช่ไหมล่ะ? พี่ชายบอกว่าจะทำอาหารเย็นให้เธอด้วย พี่มาชิโระดีใจมากๆเลยล่ะ!”
“นั่นสินะ พี่รู้สึกขอบคุณมาชิโระจริงๆ อยากจะตอบแทนให้มากที่สุดด้วย”
“นั่นแหละๆ สู้ๆนะพี่ชาย!”
แล้วเธอก็ออกจากห้องไปอย่างร่าเริง เธอคงจะคาดหวังกับผมอยู่
เธอกำลังเอาใจช่วยให้ผมเลกเป็นเด็กเกเรและเดินไปในทางที่ถูกต้อง
และผมเองก็อยากให้เธอกับแม่ดีใจที่เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคนดีด้วย
และที่สำคัญที่สุด… ผมอยากจะขอบคุณมาชิโระที่คอยดูแลผมมาตลอด ผมอยากจะขอบคุณเธอสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างจนถึงตอนนี้
หลังจากที่ตั้งใจแน่วแน่กับตัวเองแบบนั้น ผมก็หยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป
(TL : จะพยายามแปลให้วันละ3ตอนนะครับ แต่ถ้าวันไหนไม่มีฉากหวานก็จะเพิ่มให้)