เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) 20 ทางกลับบ้าน

ตอนที่ 20 ทางกลับบ้าน

ตอนที่20 : ทางกลับบ้าน

 

“ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะริวสุเกะ ขาหายดีแล้วล่ะ”

 

หลังจากที่แยกจากเรโอะ ผมก็เดินตรงไปยังห้องเรียนของมาชิโระ เมื่อเดินผ่านประตูที่เปิดทิ้งไว้ก็พบร่างของเธอยืนอยู่ข้างๆโต๊ะครู เธอยิ้มอย่างสดใสแล้ววิ่งตรงมาหาผม

 

ดูเหมือนว่าเธอจะเดินได้ตามปกติเหมือนที่เธอบอกไว้ อาการบาดเจ็บที่เท้าของเธอก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไร

 

“ก็ดีแล้วล่ะ แต่อาการข้อเท้าพลิกเนี่ย ถ้าไม่ดูแลให้ดีๆเดี๋ยวจะอักเสบเอานะ เพราะงั้นก็อย่าฝืนล่ะ”

 

“ฟุฟุฟุ ริวสุเกะขี้กังวลไปแล้วนะ ตอนประถมฉันซนกว่าผู้ชายหลายๆคนอีกนะ นายก็รู้ดีนี่ เนอะ?”

 

“มันคนละเรื่องกันเลยนะ เอ้า วันนี้ฉันจะช่วยถือกระเป๋าแล้วพาไปส่งบ้านให้เอง จะให้เด็กผู้หญิงที่ขาแพลงเดินกลับบ้านคนเดียวได้ยังไงล่ะ?”

 

“เอ๋? อะ….”

 

ผมหยิบกระเป๋านักเรียนจากมือของมาชิโระมาสะพายไว้บนไหล่

 

มาชิโระทำหน้าตกใจอยู่แป๊ปนึง ก่อนจะแก้มแดงขึ้นและหลบสายตาไปทางอื่น

 

ท่าทางแบบนั้นของเธอทำให้ผมเอียงคอด้วยความสงสัย

 

“เป็นอะไรไป?”

 

“บะ แบบว่า นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ริวสุเกะปฎิบัติกับฉันเหมือนเป็นผู้หญิง….น่ะสิ”

 

มาชิโระพึมพำเบาๆด้วยน้ำเสียงเขินอาย

 

พอมาคิดดูดีๆก็อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ ในความทรงจำของชินโดที่ผมได้รับมานั้น มีแต่ภาพที่ผมปฏิบัติกับมาชิโระเหมือนเพื่อนสนิทคนอื่นๆ อย่างมิตสุรุไม่ก็ทาคุยะ

 

อาจเป็นเพราะว่าเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กและเล่นด้วยกันมาตลอดก็ได้ จนถึงตอนนี้ตัวของชินโดเลยไม่เคยมองมาชิโระในฐานะเพศตรงข้ามมาก่อน

 

ก็ไม่แปลกที่มาชิโระจะรู้สึกสับสนเมื่อถูกผมปฏิบัติเหมือนผู้หญิงแบบกระทันหัน ผมเองก็อาจจะทำตัวเกินไปหน่อยก็ได้

 

“คือว่านะ ฉันอาจจะรูู้สึกดีใจอยู่หน่อยๆล่ะมั้งนะ? ขอบคุณนะริวสุเกะ”

 

มาชิโระพูดพลางยิ้มออกมา

 

ริมฝีปากสีชมพูอ่อนเป็นประกายระเรื่อ เธอยิ้มหวานอย่างน่าเอ็นดู ดวงตาสีฟ้าสดใสมองตรงมาที่ผม มันสะท้อนภาพของผมเพียงคนเดียว ร่างของมาชิโระที่ถูกอาบไว้ด้วยแสงอาทิตย์ยามเย็นที่ลอดผ่านหน้าต่าง ดูงดงามจนผมแทบจะลืมหายใจ

 

เสียงหัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆราวกับจะระเบิดออกมา ใบหน้าผมก็เริ่มร้อนผ่าว ผมรีบหันหลังทันทีเพื่อไม่ให้เธอสังเกตเห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้

 

“ระ รีบกลับกันเถอะ ขืนอยู่ต่อเดี๋ยวก็มืดกันพอดี”

 

“ก็ได้ แต่ช่วยเดินช้าๆหน่อยนะ ก็ฉันเจ็บขาอยู่นี่นาา~”

 

“เธอซนกว่าพวกผู้ชายอีกไม่ใช่หรอ? เพราะงั้นรีบหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?”

 

“โธ่ ริวสุเกะใจร้ายชะมัดเลย”

 

มาชิโระหัวเราะคิดคักทำเอาผมเองก็เผลอหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว

 

แล้วผมก็เริ่มเดินช้าๆให้เข้ากับจังหวะการเดินของเธอ

 

บนทางกลับบ้านที่ถูกย้อมด้วยแสงอาทิตย์ยามเย็น มีเพียงผมกับมาชิกะเดินเคียงข้างกัน เธอมองมาที่ผมพร้อมรอยยิ้มสดใสที่ไม่เคยจางหายไปไหน

 

“น่าคิดถึงจังเลยเนอะ? ได้เดินกลับบ้านพร้อมกันแบบนี้น่ะ”

 

“หรอ? เมื่อวานเราก็เดินกลับพร้อมกันนะ”

 

“นั่นมันแค่กลางทางต่างหาก แต่วันนี้น่ะ เราเริ่มเดินกลับด้วยกันตั้งแต่อยู่ในห้องเลยไม่ใช่หรอ? แล้วก็นะ พอขึ้นม.ปลายได้แป๊ปเดียว อยู่ๆริวสุเกะก็หยุดมาโรงเรียนซะงั้น บอกตามตรงนะ ฉันเหงามากเลย”

 

“แต่ตอนกลางคืนเราก็เล่นด้วยกันทุกวันไม่ใช่รึไง?”

 

“มันก็ไม่เหมือนกันสักหน่อย ความรู้สึกมันคนละแบบกับตอนเล่นกันตอนกลางคืนนี่นา การมาโรงเรียน กินข้าวเที่ยงด้วยกัน แล้วก็กลับบ้านพร้อมกันแบบนี้สองคน มันรู้สึกต่างออกไปยังไงไม่รู้ แต่ฉันรู้สึกสนุกมากเลยนะ”

 

มาชิโระยิ้มร่าด้วยรอยยิ้มขี้เล่นเหมือนอย่างเคย เป็นรอยยิ้มที่สดใสจริงๆ รอยยิ้มที่ดูมีความสุขและสดใส จนสามารถทำให้คนรอบข้างรู้สึกเบิกบานใจได้

 

“เป็นอะไรไป? หรือว่าจะเจ็บขาขึ้นมา?”

 

“อื้อ ไม่ใช่แบบนั้นหรอก แบบว่า เรื่องเมื่อตอนเที่ยงน่ะ อยากจะขอบคุณริวสุเกะให้มันดีๆน่ะ”

 

“เธอขอบคุณไปตั้งหลายครั้งแล้วนี่ พอแล้วมั้ง?”

 

“แต่ฉันยังอยากพูดอยู่เลยนะ”

 

“งั้นหรอๆ งั้นก็เอาเลย พูดขอบคุณมาจนกว่าเธอจะพอใจซะ เอาสิเอาสิ~”

 

“อะไรเนี่ย! รู้สึกไม่อยากขอบคุณแล้วอ่ะ โธ่!”

 

มาชิโระแก้มป่องแล้วตีแขนผมเบาๆ ผมเลยขิ้มสีข้างเธอกลับ จากนั้น เจ้าตัวก็หัวเราะไม่หยุดเพราะจั๊กจี้

 

หลังจากที่พวกเราหยอกล้อกันเสร็จ มาชิโระก็มองมาที่ผมด้วยสีหน้าจริงจัง พอเห็นว่าสีหน้าเธอเปลี่ยนไป ผมก็เตรียมตัวรับฟังคำพูดของเธอ

 

“ตอนเที่ยงน่ะ ขอบคุณนะที่พอฉันล้ม นายก็รีบพาไปห้องพยาบาลเลย”

 

“ก็เรื่องปกตินี่นา ดีแล้วที่เธอไม่เป็นอะไรมาก ล้มซะดังขนาดนั้น”

 

“อื้อ ทั้งๆที่ฉันคิดว่าตัวเองลงจอดสวยแล้วแท้ๆน้าา~”

 

“ไม่ๆ ถ้าลงจอดได้สวยจริงๆคงข้อเท้าไม่พลิกหรอกนะ”

 

“แหะแหะ… ก็จริงของนาย”

 

มาชิโระหัวเราะเขินๆ เธอสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูดออกมา

 

“แล้วก็นะ นอกจากจะขอบคุณริวสุเกะแล้ว… เอ่อ คือว่า มีเรื่องที่ฉันต้องขอโทษริวสุเกะด้วยเหมือนกัน”

 

“ขอโทษเหรอ? แต่นั่นมันเป็นความผิดของผู้ชายคนนั้นฟูเสะคาวะ ที่เดินเล่นมือถืออยู่ไม่ใช่เหรอ เธอก็ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยนี่”

 

“เปล่า ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก”

 

มาชิโระมองต่ำลงพลางใช้นิ้วเล่นผมของตัวเอง

 

“คือว่า ตอนที่ฉันล้มตอนนั้นน่ะ… ที่กระโปรงมันเปิดแล้วก็เห็นข้างใต้ได้ชัดๆน่ะ คือแบบว่า… “

 

“……อ่อ งั้นหรอ นั่นสินะ”

 

อยู่ๆมาชิโระก็รีบเอามือไปปิดกระโปรง แต่ก็ไม่ทันแล้ว ฟุเสะคาวะ ไรโตะ ที่เห็นเข้าไปก็หน้าแดงก่ำพร้อมกับยื่นจมูกออกมาพลางส่ายหัวไปมาอย่างสุดชีวิตแล้วบอกว่า “ไม่ได้มองนะ”

 

มาชิโระกลายเป็นเหยื่อของอีเวนต์หื่นๆแบบที่พระเอกในโลกรอมคอมชอบเจอกัน

 

ตอนเห็นเหตุการณ์นั้น ผมรู้สึกโมโหขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ถึงจะเป็นอุบัติเหตุก็เถอะ แต่ฟุเสะคาวะ ก็ไปเห็นข้างในกระโปรงของมาชิโระซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเด็ก มันทำให้ผมรู้สึกสูญเสียอะไรบางอย่างไปอย่างบอกไม่ถูกเลย

 

“ริวสุเกะ คงจะไม่ชอบสินะ”

 

“ช่วยไม่ได้หรอก มันเป็นอุบัติเหตุนี่นะ”

 

จริงอยู่ที่ผมรู้สึกไม่ชอบใจ แต่เพราะมันเป็นอุบัติเหตุที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมเลยพยายามบอกมาชิโระว่าไม่เป็นไร แต่ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่เข้าใจเท่าไหร่

 

“แต่ว่า ริวสุเกะดูเหมือนจะโกรธมากเลยนี่นา เพราะงั้นฉันเลยอยากอธิบายให้เข้าใจไว้ก่อน”

 

“อธิบายหรอ?”

 

“อืม คือว่านะ ฉันล้มแรงมากแล้วกระโปรงเปิดขึ้นมาก็จริง แต่จริงๆแล้ว คาบต่อไปเป็นพละไง ฉันเลยใส่กางเกงขาสั้นไว้ข้างในน่ะสิ เพราะงั้นก็เลยไม่เป็นไรหรอก”

 

“เอ๊ะ? กางเกงพละ?”

 

“ใช่ เพราะงั้นฟุสเะาวะไม่ได้เห็นอะไรของฉันหรอกนะ ถึงจะหน้าแดงตัวสั่นไปหมดก็เถอะ”

 

“งั้นหรอ? เป็นงั้นเองหรอ?”

 

“พูดจริงนะ ฉันไม่ได้โกหกสักหน่อย”

 

“แต่ตอนนั้นมาชิโระก็ดูเขินๆเหมือนกันไม่ใช่หรอ?”

 

“ฉันก็ลืมไปเลยว่าใส่กางเกงพละไว้ข้างใน ก็เพราะมันเกิดขึ้นเร็วมากด้วยแหละ พอมาคิดดูก็ตลกเนอะ ฉันใส่กระโปรงอยู่แต่ข้างในกลับใส่กางเกงขาสั้น แล้วพอกระโปรเปิดก็เขินเองซะงั้น”

 

พอเห็นมาชิโระหัวเราะเบาๆเหมือนพยายามกลบเกลื่อนความเขินอาย ผมก็เข้าใจได้ว่าเธอไม่ได้โกหก 

 

และในขณะเดียวกัน ผมก็รู้สึกว่าความรู้สึกที่อึดอัดที่อยู่ในใจค่อยๆจางหายไป 

 

ความรู้สึกที่คิดว่าแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วนั้น รู้สึกว่ามันได้รับการคลี่คลายลงแล้ว

 

ผมเคยคิดมาตลอดว่าอีเวนต์ที่ทำให้มาชิโระต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั้น เป็นเพราะโชคชะตาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่แล้วก็พบว่าเพราะความบังเอิญที่คาบต่อไปเป็นพละ ทำให้เธอหลีกเลี่ยงเหตุการณ์นั้นไปได้

 

อาจเป็นเพราะเทพเจ้าของโลกนี้กำลังตกใจกับการปรากฏตัวของสาวสวยอย่างกระทันหัน ก็เลยรีบเร่งให้พระเอกกับมาชิโระมาพบกันโดยที่ยังไม่พร้อม ทำให้แผนการทั้งหมดล้มเหลว

 

ถ้าผมไม่ได้อยู่ในห้องเรียนด้วย และถ้าทุกอย่างถูกวางแผนอย่างรอบคอบกว่านี้ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและการพบกันระหว่างฟุเสะคาวะกับมาชิโระคงจะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

 

หรือก็คือ

 

ถึงจะมีพระเจ้าที่คอยคุมเกมจากข้างบนอยู่ก็จริง แต่ไอพระเจ้าองค์นั้นก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบงั้นสิ?

 

ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า โอกาสของผมยังมีอยู่อีกมากมาย แม้ว่าคนทั้งโลกจะมองว่าฉันเป็นตัวร้ายก็ตาม แต่ถ้าคู่ต่อสู้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ผมก็ยังมีวิธีที่จะเอาชนะได้อยู่

 

เหมือนกับที่การกระทำของผมทำให้มาชิโระกลายเป็นสาวสวยที่สุดในโลก ในแบบเดียวกันเดียวกัน การตัดสินใจของผมในอนาคตก็อาจจะทำให้ผมหลีกเลี่ยงชะตากรรมที่เลวร้ายได้เหมือนกัน

 

ผมเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้ว หลังจากที่คิดว่าหนีพ้นชะตากรรมที่เลวร้ายไม่ได้มาตลอด ตอนนี้ผมเริ่มเห็นความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตแล้ว

 

พอผมชูมือแสดงความดีใจออกมา มาชิโระก็ทำหน้างงๆแล้วเอียงคอสงสัย

 

“ริวสุเกะ เป็นอะไรไป? หรือว่าดีใจขนาดนั้นเลยหรอ?”

 

“ปะ เปล่า ฉันแค่คิดอะไรเพลินๆอยู่น่ะ”

 

“อืมหรอ? ก็ได้ๆ แต่ว่านะ ฉันแค่อยากบอกให้ริวสุเกะเข้าใจผิดน้อยลงเฉยๆ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

 

“อ่า พอได้ยินแบบนี้แล้วก็สบายใจขึ้นเยอะเลย จริงๆแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่แหละ กลัวว่าจะ… เอ่อ จะโดนเห็นอะไรแบบนั้นน่ะ”

 

“อะฮ่าๆ ก็นะ ริวสุกเกะเป็นพวกขี้หึงนี่นา แค่มองแป๊ปเดียวก็รู้แล้วล่ะ”

 

มาชิโระพูดแซวพลางหัวเราะไปด้วย แต่ผมก็ปฎิเสธคำพูดนั้นของเธอไม่ได้เหมือกัน ในส่วนลึกของจิตใจ มีความคิดที่ว่า ‘ดีจังเลยนะ ที่ไม่มีใครเห็น’ อยู่ด้วย

 

“ฉันจะระวังตัวให้มากขึ้นนะ ต่อไปนี้จะพยายามมองรอบๆให้ดีๆด้วย”

 

“อืม ถ้าทำได้แบบนั้นก็ดีแล้วล่ะ”

 

“อืออ ขอให้สัญญาเลย คนที่จะมองตรงนั้นได้มีแค่ริวสุเกะเท่านั้นแหละ!”

 

“ห๊ะ!? เมื่อกี้เธอว่าไงนะ!?”

 

“เปล่านี่! เอาล่ะ ถ้างั้นกลับบ้านกันเถอะ!”

 

มาชิโระยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วพยายามไม่ตอบคำถาม จากนั้น เธอก็คว้ากระเป๋าที่ผมสะพายอยู่แล้ววิ่งหนีไป

 

“นะ นี่! แล้วเท้าเธอล่ะ!”

 

“ไม่เป็นไรแล้วน่า! มาเร็วๆสิ!”

 

แต่ละก้าวของมาชิโระเต็มไปด้วยความสุข ใบหน้าของเธอราวกับกำลังยิ้มร่าอย่างมีความสุข

 

ผมรีบวิ่งตามหลังเธอไป แต่น่าแปลก ที่ในใจผมกลับรู้สึกอุ่นอย่างบอกไม่ถูก มันรู้สึกดีมากๆเลยล่ะ

 

 

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)

Score 10
Status: Completed
หลังจากทำงานหนักเกินจนสลบไป ผมก็ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองได้เกิดใหม่ในโลกของซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้เรื่องโปรดไปแล้ว ในฐานะของ ชินโด ริวสุเกะ วายร้ายผู้มีชะตากรรมอันน่าอนาถ ด้วยความหวังที่จะใช้ชีวิตในโรงเรียนที่ใฝ่ฝันและเปลี่ยนแปลงอนาคตที่น่าเศร้านี้ ผมจึงพยายามดิ้นรนเพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตด้วยความรู้ทั้งหมดที่มี ก่อนจะได้พบกับ อามานัทสึ มาชิโระ เด็กสาวที่ถูกโชคชะตากำหนดให้เป็นวายร้ายเหมือนกัน เพื่อช่วยเธอจากอนาคตบัดซบนั่น ผมต้องพยายามรักษาระยะห่างกับเธอเอาไว้ แต่ทว่า... "ถึงจะเป็นแบบนั้น ฉันก็ยังอยากอยู่ข้างๆริวสุเกะนะ" มาชิโระ เธอผู้ไม่อยากแยกจากผมไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นี่แหละนางเอกที่ดีที่สุดที่ผมจะหาได้แล้ว เพราะแบบนั้นแหละ ผมจะทำให้ยัยสุดยอดนางเอกคนนี้มีความสุขกับชีวิตวัยรุ่นให้ได้เลย

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset