เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) 16 บทที่ถูกมอบให้

ตอนที่ 16 บทที่ถูกมอบให้

ตอนที่16 : บทที่ถูกมอบให้

 

“ขอนั่งข้างๆนะ ยังไงก็ไม่มีใครนั่นอยู่แล้วนี่นา”

 

มาชิโระถือขนมปังที่เพิ่งซื้อจากโรงอาหารไว้ในมือพลางนั่งลงข้างๆผมอย่างเป็นธรรมชาติ

 

ผมพยายามขยับร่างกายที่ยังคงเกร็งเพราะความตื่นเต้น และพยายามพูดออกมาให้ดูเหมือนเหมือนปกติที่สุด

 

“มะ มะ มากินด้วยกันไหม?”

 

“อ๊ะฮะฮะ! ริวสุเกะ อย่าเกร็งขนาดนั้นสิ! เมื่อวานเรายังคุยกันปกติอยู่เลยนะ”

 

พูดจบ มาชิโระก็หัวเราะอย่างสนุกสนาน ขณะที่ผมแม่้แต่จะสบตาเธอตรงๆได้

 

ภาพลักษณ์ของมาชิโระที่ดูเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคนยังคงทำให้ผมรู้สึกสับสน การเปลี่ยนจากสาวแลไปเป็นสาวสวยผู้เรียบร้อยที่มีผมดำสนิทนั้น ช่างน่าตกใจจนผมยังรู้สึกเหมือนกำลังฝันอยู่เลย

 

ระห่างที่ผมกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยและเหม่อลอยอยู่นั้น มาชิโระก็เอียงคอด้วยความสงสัย

 

เพียงแค่ท่าทางเล็กๆน้อยๆของเธอก็ช่างน่ารักซะเหลือเกิน การที่ตัวร้ายอย่างผมจะได้มาสนิทสนมกับสาวงามที่สุดในโลก แถมยังแย่งซีนพระเอกอย่างฟุเสะะคาวะนั้น จริงๆแล้วไม่น่าเป็นไปได้เลย แต่ในตอนนี้สิ่งนั้นกลับกลายเป็นความจริงไปแล้ว

 

“อาเร๊ะ? ริวสุเกะ วันนี้นายมีข้าวกล่องมาด้วยหรอ? หวาา กล่องข้าวน่ารักจัง ใครเป็นคนทำให้อ่ะ? คุณแม่หรอ?”

 

“มะ ไม่อ่ะ…..อันนี้ฉันทำเอง”

 

ผมตอบกลับไปด้วยความเขินอายพร้อมกับเกาแก้มของตัวเองเล็กน้อย

 

มาชิโระลดสายตาลงมองกล่องข้าวที่ผมทำเอง ก่อนที่เธอจะพ่นลมหายใจออกมาด้วยท่าทางเหมือนกำลังชื่นชมผมอย่างประทับใจ

 

“ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าริวสุเกะทำอาหารได้ด้วย น่าประหลาดใจสุดๆ เลยล่ะ!”

 

“งะ-งั้นเหรอ? จริงๆ ก็ชอบทำมาตั้งนานแล้วล่ะ…แต่ก็อย่างที่รู้อ่ะนะ ฉันโดดเรียนบ่อย แถมที่ผ่านมาก็ไม่มีโอกาสได้โชว์ให้มาชิโระดูด้วย”

 

“ก็จริงนะ ตอนที่ออกไปเที่ยวกับริวสุเกะก็ไปข้างนอกตลอดนี่นา หรือไม่ก็ ถ้าไปเล่นที่อพาร์ตเมนต์ของฉัน พอเล่นเกมเสร็จก็แค่เอนหลังพักผ่อนแล้วก็กลับเลยนี่นา”

 

มาชิโระพูดถูก ความทรงจำที่ผมได้รับมีก็มรภาพเหตุการณ์แบบนั้นลอยไปมาอยู่

 

ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว เวลาที่ผมอยู่กับเธอมักจะใช้เวลาไปเที่ยวเล่นข้างนอกมากกว่า ตอนกลางวันผมจะไปเที่ยวกับโคกาเนะและโอบายาชิ พอถึงเวลาโรงเรียนเลิก มาชิโระก็จะมาสมทบด้วย แล้วพวกเราก็ออกไปเที่ยวกันต่อ แล้วพอเที่ยวจนเหนื่อย ผมก็มักจะแวะไปที่อพาร์ตเมนต์ของเธอซึ่งอาศัยอยู่คนเดียว จากนั้นผมกับมาชิโระก็ใช้เวลาเล่นเกมด้วยกันจนดึกดื่น วันคืนแบบนั้นดำเนินซ้ำไปซ้ำมาเสมอ

 

“ก็อย่างที่ว่าไป ฉันไม่เคยทำอาหารให้มาชิโระกินเลย ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไรหรอกนะ”

 

“งั้นเหรอ~ เข้าใจแล้ว ถ้างั้น…คราวหน้าฉันอยากเห็นริวสุเกะตอนกำลังทำอาหารจังน้าา ได้ใช่ไหม?”

 

“เอ๊ะ ไม่สิ ก็ไม่ได้ติดอะไรหรอก แต่มันน่าเบื่อเอาเรื่องเลยนะ”

 

“ไม่เป็นไรๆ ฉันแค่อยากเห็นริวสุเกะในแบบที่ไม่เคยเห็นแค่นั้นเอง”

 

มาชิโระพูดด้วยรอยยิ้มไร้กังวล ผมหันไปมองเธอก่อนจะพยายามปิดความเขินด้วยการกัดไข่ม้วนคำใหญ่

 

มาชิโระมองผมที่กำลังกินไข่ม้วนพร้อมรอยยิ้มที่พึงพอใจ แล้วเธอก็เปิดห่อขนมปังของตัวเอง อ้าปากเล็กน้อย และเริ่มกัดขนมปังคำเล็กๆพอดีคำ

 

“มาชิโระ ไอเรื่องทำให้ดูน่ะได้อยู่หรอก แต่จะทำที่ไหนดีล่ะ?”

 

“ก็มาบ้านฉันเหมือนเดิมก็ได้นี่นา ห้องครัวว่างอยู่นะ”

 

“เหมือนทุกที สินะ….”

 

แย่ล่ะ ประหม่าซะแล้วสิ

 

ผมเคยทำกับข้าวให้คนอื่นที่ร้านกาแฟดูในชาติก่อน เพราะงั้นปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้น ผมแค่ ไม่กล้าไปบ้านมาชิโระแค่นั้นเอง….

 

ก่อนหน้านี้ การที่ชินโดไปเที่ยวบ้านของเธอถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับผมแล้ว นี่จะเป็นครั้งแรกที่ไปย้านเธอเนี่ยสิ

 

ในชีวิตก่อนหน้านี้ ผมไม่เคยมีประสบการณ์ไปที่บ้านผู้หญิงเลย และยิ่งกว่านั้น เจ้าของบ้านยังเป็นสาวสวยที่สุดในโลก(สำหรับผม)อีกต่างหาก การที่ผมซึ่งเป็นตัวร้ายต้องไปที่บ้านของเธอมันรู้สึกเหมือนเป็นการกระตุ้นที่แรงเกินไปแฮะ

 

แต่ถ้าผมปฏิเสธตอนนี้ อาจจะทำให้ดูแปลกไป ในฐานะชินโดกมันก็เป็นเรื่องที่คุ้นเคยและไม่น่ามีปัญหาอะไรอยู่แล้ว

 

แล้วอีกอย่าง ผมตัดสินใจแล้วว่าจะใช้ชีวิตวัยรุ่นตอนนี้กับมาชิโระ เพราะงั้น จะบ่นก็ไม่ได้หรอก

 

ผมตัดสินใจแน่วแน่ก่อนจะเคี้ยวสเต็กแแฮมเบิร์กคำใหญ่แล้วกลืนลงไป จากนั้นผมก็เปิดปากขึ้น

 

“อา เข้าใจแล้ว ไว้ฉันจะทำอาหารให้เธอกินเอง ตั้งตารอไว้ได้เลย”

 

“รับทราบค่าา ฉันจะตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อเลยล่ะ ริวสุเกะ”

 

พูดแบบนั้นแล้วมาชิโระก็ยิ้มอย่างมีความสุข รอยยิ้มของเธอทำให้หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว

 

อะไรมันจะน่ารักขนาดนี้ ยัยนี่เป็นนางฟ้ารึเปล่าเนี่ย? จะสุดยอดเกินไปแล้ว แบบนี้ก็ไร้เทียมทานเลยอ่ะดิ

 

ในใจผมคิดแบบนั้นพลางเคี้ยวไส้กรอกปลาหมึกที่มีรสชาติหวานๆในปาก

 

“แล้ว มาชิโระสะดวกวันไหนดล่ะ?”

 

“อืม… จะวันนี้ก็ได้ จะพรุ่งนี้ก็ได้ หรือจะมะรืนนี้ก็ได้ ฉันว่างทุกวันแหละ แต่ริวสุเกะพอกลับบ้านก็ไปนั่งเรียนในห้องใช่มั้ยล่ะ? ไมบอกว่านายขยันมากเลยนะ ฉันไม่ค่อยอยากรบกวนเวลาของนายเท่าไหร่ งั้นไปวันหยุดดีมั้ย?”

 

ที่จริงแล้ว น้องสาวของผม ‘ไม’ กับมาชิโระนั้นรู้จักกัน และพวกเธาก็มีการติดต่อกันผ่านมือถืออยู่ตลอด เมื่อวานนี้ไมก็บอกว่าได้โทรศัพท์คุยกับมาชิโระไปแล้วด้วย เพราะงั้นการกระทำของผมที่บ้านคงถูกมาชิโระรู้เพราะไมบอกไปแล้วล่ะ

 

และอย่างที่มิชิโระพูด เวลาตอนเย็นที่บ้านผมมักจะใช้ไปกับการทำการบ้านที่ค้างไว้และออกกำลังในห้องจนแทบไม่มีเวลาทำอะไรเลย ส่วนเวลาที่เหลือก็จะใช้ไปกับครอบครัว เพราะงั้นผมเลยค่อนข้างจะยุ่ง ถ้ามาชิโระบอกว่าเสาร์อาทิตย์สะดวก มันก็ถือว่าดีกับผมมาก

 

“งั้นวันเสาร์ตอนเที่ยงฉันไปหานะ”

 

“โอเค! งั้นเจอกันวันเสาร์ตอนเที่ยงนะ เอ่อ แต่แบบว่า ฉันมีเรื่องจะขอร้องหน่อยน่ะ ได้ไหม?”

 

“หืม? เรื่องอะไรล่ะ?”

 

“เพราะเราจะได้ออกไปเที่ยวกันนี่นา เลยคิดว่าการทำอาหารเอาไว้ตอนเย็น แล้วช่วงกลางวันฉันอยากออกไปข้างนอก เดินช็อปปิ้งด้วยกันบ้าง อะไรแบบนั้นน่ะ จะได้รึเปล่านะ?”

 

“ไม่เป็นไรเลย ไปเลือกวัตถุดิบก่อนกลับก็ไม่เลวเหมือนกัน แถมยังได้ฟังด้วยว่ามาชิโระอยากกินอะไรก่อนจะเริ่มทำอาหาร”

 

“สำเร็จ ขอบคุณนะริวสุเกะ”

 

ดวงตาสีฟ้าที่ส่องประกายราวกับอัญมณีจ้องมาที่ผม เพียงแค่นั้นหัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาแล้ว

 

จากนั้นเราก็พูดคุยเรื่องสัพเพเหระไปพร้อมกับกินข้าวกล่อง ส่วนมาชิโระก็กัดขนมปังด้วยปากเล็กๆ ระหว่างนั้น พวกเรามีแต่รอยยิ้ม และเวลาที่มีความสุขและสนุกสนานก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

พอใกล้ถึงเวลาพักเที่ยงจะหมดแล้ว มาชิโระก็ลุกขึ้น

 

“งั้นฉันกลับห้องก่อนนะ สู้ๆกับคาบบ่ายล่ะ ริวสุเกะ”

 

“อื้อ มาชิโระเองก็สู้ๆนะ”

 

“อื้ม!”

 

ผมโบกมือและกล่าวลาไป ขณะที่เธอยิ้มอย่างไร้เดียงสา

 

รอยยิ้มนั้นเปล่งประกายเจิดจ้า และผมก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขเช่นกัน

 

ในตอนที่เธอกลังจะเดินออกจากห้องเรียนนั้นเอง—-

 

“หวาา—!”

 

‘ตึง!’ มาชิโระชนเข้ากับใครสักคนที่อยู่หน้าห้องเรียนแล้วล้มลงเสียงดัง

 

เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังเดินเล่นโทรศัพท์โดยไม่สนรอบข้างกำลังยืนอยู่หน้าเธอ

 

เมื่อเห็นมาชิโระล้มลงนั่งบนพื้น ผมก็คิดจะวิ่งไปช่วยทันที… แต่ทำไมล่ะ? ทำไมร่างกายของผมถึงขยับไม่ได้ล่ะ?
 

ราวกับมือและเท้ากำลังถูกมัดอยู่ ผมไม่สามารถขยับนิ้วได้เลยแม้แต่น้อย สิ่งนี้มันไม่สมเหตุสมผลเลย เกิดอะไรขึ้นกันแน่…?

 

ผมจ้องมองไปที่มาชิโระด้วยความตกใจ

 

เพราะคนที่มาชิโระชนเข้าไป—คือพระเอกของโลกนี้ ฟุเสะคาวะ ไรโตะ

 

เพียงแค่นั้นผมก็รู้ได้ทันที รู้ได้ทันทีเลยว่า

 

มาชิโระได้กลายเป็นสาวสวยด้วยความพยายามของตัวเอง นี่คือเหตุการณ์ที่ไม่มีในเนื้อเรื่องต้นฉบับ และเป็นการเล่นนอกบทของเหล่าตัวร้าย

 

ตอนนี้ผมได้รู้ถึงผลกระทบที่มันจะเกิดขึ้นต่อไปแล้วล่ะ

 

สาวสวยที่ทิ้งห่างนางเอกทุกคนในเรื่องไปขาดลอยแบบนี้ จะเป็นแค่ตัวร้ายในเรื่องแนวรอมคอมไม่ได้เด็ดขาด

 

‘Fusekoi’ เป็นเรื่องราวฮาเร็มรอมคอม ที่เหล่าตัวเอกมีเสน่ห์จนมีสาวๆมาหลงรัก เขามีความสามารถในการดึงดูดใจสาวๆ เพราะงั้นเลยไม่ปัญหาถ้ามีนางเอกเพิ่มเข้ามา

 

หรือก็คือ โลกนี้กำลังพยายามมอบบทบาทใหม่ให้กับมาชิโระ ซึ่งกลายเป็นสาวสวย เพราะตัวร้ายไม่เหมาะสมกับเธออีกแล้ว

 

และบทบาทใหม่ที่โลกนี้กำลังจะมอบให้กับมาชิโระ ก็คือการเป็นหนึ่งในนางเอกที่อยู่รอบตัวพระเอกนั่นเอง….

 

 

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)

Score 10
Status: Completed
หลังจากทำงานหนักเกินจนสลบไป ผมก็ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองได้เกิดใหม่ในโลกของซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้เรื่องโปรดไปแล้ว ในฐานะของ ชินโด ริวสุเกะ วายร้ายผู้มีชะตากรรมอันน่าอนาถ ด้วยความหวังที่จะใช้ชีวิตในโรงเรียนที่ใฝ่ฝันและเปลี่ยนแปลงอนาคตที่น่าเศร้านี้ ผมจึงพยายามดิ้นรนเพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตด้วยความรู้ทั้งหมดที่มี ก่อนจะได้พบกับ อามานัทสึ มาชิโระ เด็กสาวที่ถูกโชคชะตากำหนดให้เป็นวายร้ายเหมือนกัน เพื่อช่วยเธอจากอนาคตบัดซบนั่น ผมต้องพยายามรักษาระยะห่างกับเธอเอาไว้ แต่ทว่า... "ถึงจะเป็นแบบนั้น ฉันก็ยังอยากอยู่ข้างๆริวสุเกะนะ" มาชิโระ เธอผู้ไม่อยากแยกจากผมไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นี่แหละนางเอกที่ดีที่สุดที่ผมจะหาได้แล้ว เพราะแบบนั้นแหละ ผมจะทำให้ยัยสุดยอดนางเอกคนนี้มีความสุขกับชีวิตวัยรุ่นให้ได้เลย

Options

not work with dark mode
Reset