ตอนที่11 : ก้าวถัดไป
ที่นั่งริมหน้าต่างด้านหลังสุด วันนี้ก็ยังสดใสเหมือนเดิม
“คุณไรโตะคะ สัปดาห์นี้คุณว่างไปเที่ยวทะเลกับฉันไหมคะ? ที่จริงแล้วญาติของฉันมีหาดส่วนตัวแล้วก็ชวนให้ไปด้วยกันช่วงสุดสัปดาห์นี้น่ะค่ะ”
“ฟังดูดีเลยนะครับ รุ่นพี่มิยูกิ ช่วยนี้ยิ่งร้อนอยู่ด้วย ถ้าได้เล่นน้ำก็คงสดชื่นขึ้นมาบ้างแหละ”
“ขี้โกงนี่นา! ฉันก็ไปด้วยสิ ไรโตะ!”
“แน่นอน ฉันจะทิ้งคาเร็นไปได้ไงเล่า”
“นี่ไรโตะคุง อย่าลืมฉันสิ”
“จะลืมได้ยังไงล่ะ ยูนะก็ไปกับพวกเราสิ”
“งั้นพวกเราไปเที่ยวกันให้สนุกเลยนะ กลางวันไปเล่นน้ำทะเล ตอนเย็นก็ไปปาร์ตี้บาร์บีคิวริมทะเล แล้วก็ดูดอกไม้ไฟด้วย มันต้องสนุกแน่เลย!”
“ฟังดูดีมากเลยค่ะ งั้นทุกคนไปที่หาดส่วนตัวของญาติฉันด้วยกันนะคะ”
พระเอก ฟุเสะคาวะ ไรโตะ
สาวสวยแบบพิมพ์นิยมที่นั่งข้างๆ ฮานาซากิ ยูนะ
เพื่อนสนิทที่เป็นเด็กหญิงท่าทางกระฉับกระเฉงและเหมาะกับทรงผมทวินเทล ฮิเมะโนะ คาเร็น
ประธานนักเรียนสาวสวยลูกครึ่งอังกฤษ ซากุระมิยะ มิยุกิ
วันนี้ก็เหมือนกัน ผมที่เป็นตัวร้ายกำลังนั่งดูฉากรักโรแมนติกแบบฮาเร็มที่กำลังเกิดขึ้นในห้องเรียนอยู่จากแถวหน้าสุด
ดูท่าว่าตอนต่อไปจะเป็นตอนที่ตัวละครใส่ชุดว่ายน้ำแน่ๆ ตอนนั้นเป็นตอนที่ได้รับความนิยมมากในเวอร์ชั่นต้นฉบับ แล้วพอฉายอนิเมะซีซั่นแรกก็ได้รับเสียงชื่นชมเรื่องภาพสวยมากจนทำให้หนุ่มๆทั่วประเทศต่างหลงใหล
ตัวละครหลัก ฟูเสะคาวะ ไรโตะ จะเขินอายเมื่อเห็นเหล่าสาวสวยใส่ชุดว่ายน้ำที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ก็รู้สึกตื่นเต้นเมื่อถูกขอให้ทาครีมกันแดดและจะได้สนุกสนานบนชายหาดที่มีทะเลสีฟ้าคราม
หลังจากเล่นน้ำทะเลเสร็จ พวกเขาก็จะไปปาร์ตี้บาร์บีคิวริมชายหาด แล้วก็จุดพลุเล่นกันท่ามกลางแสงดาวอย่างมีความสุข
แต่ผมคงจะไม่มีทางได้สัมผัสช่วงเวลาแห่งความสุขแบบวัยรุ่นที่สดใสเหมือนพวกเขาหรอก
เพราะว่าผมเป็นตัวร้ายที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อมาขัดขวางความสัมพันธ์ของพวกเขาโดยเฉพาะเลยนี่นะ
ถ้าผมเข้าไปขัดขวางความรักที่กำลังเกิดขึ้นในห้องเรียนล่ะก็ ผมคงจะต้องพบจุดจบด้วยความหายนะอย่างแน่นอน
โลกใบนี้ต้องการให้เรื่องราวเป็นไปตามเนื้อเรื่องต้นฉบับ มันจะบังคับให้ผมทำหน้าที่เป็นตัวร้ายไม่ว่าจะอยากหรือไม่ก็ตาม
ดังนั้นแทนที่จะไปสร้างเรื่องราววุ่นวายในฐานะตัวร้าย ผมจะทำตัวกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของฉาก และไม่เข้าไปยุ่งอะไรกับพวกเขาเลยจะดีกว่า
(ถึงจะบอกแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะรับตัวประกอบแบบนี้ไปตลอดหรอกนะ)
นี่เป็นวันที่สองนับจากที่ผมได้เกิดใหม่ ผมจะเริ่มทำอะไรบางอย่างเพื่อจะได้ไม่ต้องกลายเป็นตัวร้ายและหลีกเลี่ยงจุดจบที่เลวร้าย
วันนี้ผมมีแผนหลายอย่างเลย เมื่อวานตอนที่กำลังออกกำลังกาย ก็คิดมาตลอดว่าจะทำยังไงดี
อันดับแรกเลยคือวันนี้ผมจะตั้งใจเรียนและตอบคำถามของอาจารย์ให้ได้ทุกข้อ ถ้าผมทำตัวไม่เหมือนตัวร้ายแบบเดิม ผมก็คิดว่าสถานะของผมในโลกใบนี้จะค่อยๆเปลี่ยนไป
อย่างที่สองคือการตัดความสัมพันธ์กับตัวร้ายคนอื่นๆในโรงเรียนนี้
ที่โรงเรียนแห่งนี้มีคนที่มีบทบาทเหมือนผมอยู่หลายคน พวกเขาเป็นเหมือนตัวประกอบที่คอยสร้างอีเวนต์ให้ตัวเอกได้โดดเด่น
ถ้าผมยังคงคบค้าสมาคมกับพวกเขา ผมก็จะไม่สามารถเลิกเป็นตัวร้ายได้อย่างถาวร เพราะงั้นการตัดความสัมพันธ์กับพวกเขาจะทำให้ผมมีสถานะที่แตกต่างออกไป
และสุดท้าย อย่างที่สาม คือการหาเพื่อนที่มีบทอื่นนอกจากตัวร้าย
ในเรื่องรอมคอมมักจะมีบทบาทของตัวละครหลากหลาย เช่น พระเอก นางเอก เพื่อนสนิทของพระเอก ตัวร้าย และตัวประกอบอื่นๆ
ผมไม่ได้แค่อยากจะหลีกเลี่ยงจุดจบที่เลวร้าย ต่อยากใช้ชีวิตในโลกนี้ให้คุ้มค่าที่สุดเหมือนวัยรุ่นคนอื่นๆ เพราะงั้นผมเลยต้องหาบทบาทที่น่าสนใจไม่แพ้เหล่าตัวเอก
ผมคิดว่าการมีเพื่อนที่มีบทเด่นนั้นค่อนข้างน่าสนใจ นั่นจะช่วยให้ผมหลุดพ้นจากบทบาทของตัวร้ายได้ดีที่สุด
ผมยึดแผนการสามอย่างนี้เป็นหลัก เพราะแบบนั้นผมเลยเตรียมตัวมาตั้งแต่ก่อนเรียนแล้ว
แผนแรกคือตั้งใจเรียน แผนที่สองคือการอยู่แต่ในห้องเรียนเพื่อจะได้ไม่ไปเจอพวกตัวร้ายเหมือนเมื่อวาน
เพราะงั้นที่ยังต้องคิดอยู่ตอนนี้คือแผนที่สาม การทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นที่ไม่ได้เป็นตัวร้าย ผมมองไปรอบๆห้องเรียนพลางดูรายชื่อนักเรียนไปด้วย
เพราะว่าผมรู้เรื่องราวในเรื่องนี้ ผมเลยพอเดาได้ว่าแต่ละคนจะมีบทอะไร
พวกนักเรียนที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างและคุยกันเป็นกลุ่มๆการไปสนิทกับตัวประกอบทั่วไปคงไม่มีประโยชน์ บทบาทของตัวร้ายนั้นสำคัญกว่าตัวประกอบทั่วไปมาก ในความคิดของผม ตัวร้ายมักจะมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว
โดยเฉพาะตัวผมที่เป็นอภิมหาตัวร้ายของเรื่อง ถ้าไปคบกับตัวประกอบทั่วไปก็จะดูเด่นเกินไป แถมการเป็นเพื่อนกับตัวประกอบก็ไม่ได้ช่วยให้ผมเลิกเป็นตัวร้ายได้ด้วย
เพราะงั้นถ้าผมเป็นเพื่อนกับคนที่บทบาทโดดเด่นพอๆกับตัวร้าย หรืออาจจะโดดเด่นกว่านั้น ผมก็อาจจะสามารถเลิกเป็นตัวร้ายได้เร็วขึ้น
และด้วยความคิดนั้น ผมเลยหันไปมองที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งในห้อง
คนที่ผมกำลังมองอยู่นั้นคือคนที่ ฟุเสะคาว่า ไรโตะ ซึ่งพึ่งพูดคุยสนุกสนานกับเหล่านางเอกเมื่อกี้กำลังเดินเข้าไปหา
“เรโอะ เรโอะ นายอยากไปทะเลกับพวกฉันไหม? ยิ่งคนเยอะยิ่งสนุกนะ”
คนที่ ฟุเสะคาวะ ไรโตะ กำลังพูดด้วยคือ คิซากิ เรโอะ หนุ่มหล่อนักกีฬาที่มีเส้นผมสีเงินที่เปล่งประกายสดใส เขาต่างจากตัวร้ายอย่างผม เขามักจะทำให้เหล่าตัวละครอื่นๆดูโดดเด่นขึ้นมา
เขามีออร่าที่เปล่งประกายราวกับตัวละครหลัก และเขาคือคนที่ผมอยากจะเป็นเพื่อนด้วย
“อ๋อ ไรโตะ ผมได้ยินที่พวกนายคุยกันนะ แต่เสาร์-อาทิตย์นี้ผมติดซ้อมของชมรมน่ะสิ คงไปไม่ได้หรอก”
“เสียดายจังเฮะ… ถ้าเรโอะไปด้วยคงสนุกมากแท้ๆ”
“ขอบคุณที่ชวนนะ แต่ขอโทษจริงๆที่ไปด้วยไม่ได้ เดี๋ยวจะชดเชยให้ทีหลัง เอาไว้ครั้งหน้าชวนอีกทีนะ”
“เข้าใจแล้ว ไว้ครั้งหน้าก็แล้วกัน… เดี๋ยวฉันจะมาชวนใหม่”
“อืม จะรอนะ”
การที่ คิซากิ เรโอะ กำลังคุยกับ ฟุเสะคาวะ ไรโตะในฐานะเพื่อนสนิทที่เท่าเทียมกันได้ ตัวตนของเขาคงเดาได้ไม่ยาก ยิ่งพอมีข้อมูลจากต้นฉบับด้วยยิ่งแล้วใหญ่
คิซากิ เรโอะ เป็นเพื่อนสนิทของพระเอกไงล่ะ
เขาคือหนึ่งในตัวละครรองที่ได้รับสถานะพิเศษสูงสุดในบรรดาตัวละครรองแล้ว
รูปลักษณ์ของ ฟุเสะคาวะไรโตะที่เป็นตัวเอกนั้นเรียบง่ายและมีผลการเรียนกลางๆ ความสามารถทางกีฬาก็อยู่ในค่าเฉลี่ย ไม่มีลักษณะเด่นเป็นพิเศษ ซึ่งมันคือภาพลักษณ์ของตัวเอกที่ทำให้เหล่าผู้อ่านสามารถนำมาเปรียบเทียบกับตัวเองได้ง่าย
ในขณะเดียวกัน ตัวละครเพื่อนสนิทก็ถูกสร้างขึ้นมาให้ตรงกับภาพลักษณ์เพื่อนในอุดมคติที่เหล่าผู้อ่านที่อยากจะได้
เพื่อนคนนี้จะต้องมีนิสัยเข้ากับคนง่าย เป็นมิตรกับทุกคน ฉลาด ช่วยเหลือตัวเอกที่เรียนไม่เก่งได้ และยังเป็นคนกล้าหาญที่พร้อมจะเผชิญหน้ากับความยากลำบากร่วมกับตัวเอก นอกจากนี้ยังสูงและหล่ออีกด้วย นั่นก็เพื่อให้เห็นความแตกต่างกับตัวเอกที่ไม่ได้โดดเด่นมากนัก และ คิซากิ เรโอะ ก็คือตัวละครชายที่รวมเอาคุณสมบัติเหล่านี้ไว้ครบถ้วน
ตัวละครเพื่อนสนิทที่เก่งกาจรอบด้านคนนี้ยังทำหน้าที่ชวยเสริมให้ตัวเอกที่ธรรมดาธรรมดาดูดีขึ้น มันทำให้ผู้อ่านรู้สึกดีที่ได้ซ้อนภาพตัวเองไปในตัวเอก เพราะพระเอกที่ดูธรรมดายังมีคนมาชอบมากกว่าเพื่อนสนิทที่เก่งกว่าเขาทุกด้าน นั่นหมายความว่า แม้จะดูแตกต่างจากตัวร้ายอย่างเราๆ แต่ตัวละครเพื่อนสนิทก็มีจุดมุ่งหมายคล้ายๆกัน นั่นก็เพื่อให้ตัวเอกดูโดดเด่นขึ้นนั่นเอง
ถ้าผมเป็นเพื่อนกับตัวประกอบธรรมดาๆ มันก็คงดูเด่นเกินไป แต่ถ้าเป็นเพื่อนของเพื่อนสนิทที่สุดยอดแบบนั้น แม้ผมจะมีรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นแค่ไหน ก็อาจจะกลมกลืนไปกับคนอื่นได้
แต่ก็มีความเสี่ยงเหมือนกัน เพราะ คิซากิ เรโอะ เป็นตัวละครที่สนิทกับตัวเอกที่สุด ถ้าผมตีสนิทกับเขามากเกินไปอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ผมต้องกลายเป็นตัวร้ายขึ้นมาก็ได้
ถึงเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นในเรื่องเดิม แต่ผมก็ยังคอยระวังตัวอยู่ดี เพราะการที่ผมมาเกิดใหม่แบบนี้มันก็นับว่าผิดปกติอยู่แล้ว
ผมกลัวว่าการกระทำของผมจะไปทำให้เกิดอีเวนต์ที่ไม่เคยมีในเนื้อเรื่องเดิมขึ้นมาได้ เพราะงั้นเลยอยากจะลดความเสี่ยงตรงจุดนี้ให้มากที่สุด
ผมจะไม่เข้าไปยุ่งกับพระเอกและนางเอก แต่จะพยายามเข้าใกล้เพื่อนสนิทของเขาแทน ถ้าผมสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเพื่อนได้ บางทีผมอาจจะหลุดพ้นจากบทบาทตัวร้ายก็ได้
ด้วยความคิดแบบนี้ ผมจึงใช้เวลาช่วงก่อนเข้าเรียนสังเกตการสนทนาของทั้งสองคนอย่างระมัดระวัง
ฉากไปเที่ยวทะเลในเรื่องเดิมเป็นฉากที่ได้รับความนิยมมาก ผมดูซ้ำๆอยู่หลายรอบ เพราะงั้นเลยจำรายละเอียดได้แม่นยำมาก แม้กระทั่งบทสนทนาของทั้งสองคน
เท่าที่จำได้ หลังจากบทสนทนานี้จบลง คุณพระเอกจะไปคุยกับนางเอกสักพัก ก่อนที่ฉากก็จะตัดไปในวันหยุดและข้ามเรื่องราวในโรงเรียนไปทั้งหมด ฉากต่อไปก็จะเป็นตอนไปเที่ยวทะเลยทันที
จากการผมรู้เนื้อเรื่องต้นฉบับ ทำให้ผมรู้ว่าว่าหลังจากผ่านเหตุการณ์ในโรงเรียนไปแล้ว พระเอกเอกจะไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับเพื่อนสนิทของตัวเองช่วงนึงและจะไม่มีอีเวนต์สำคัญเกี่ยวกับเพื่อนสนิทคนนี้เกิดขึ้นอีก
เพราะงั้น ตอนนั้นแหละคือโอกาสที่ดีที่สุดที่ผมจะเข้าไปเป็นเพื่อนกับเขาได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอีเวนต์อะไรขึ้นระหว่างคุณพระเอกและเพื่อนสนิทของเขา ถ้าทำได้ละก็ ผมก็จะค่อยๆหลุดพ้นจากบทบาทตัวร้ายไปได้
เอาล่ะ ต้องพยายามให้ถึงที่สุดแล้วสิ
ในตอนที่ผมกำหมัดแน่นด้วยความมุ่งมั่น เสียงระฆังก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกว่าเริ่มเรียนแล้ว
โอกาสของผมคือคาบพละซึ่งเป็นคาบที่สาม เพราะ คิซากิ เรโอะ อยู่ชมรมบาสเก็ตบอล และคาบพละก็เรียนบาสเก็ตบอลด้วย ถ้าจะเข้าใกล้เขา คาบนี้แหละคือโอกาสเดียวของผม