เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน 347 หน้าตาดีกว่าศิษย์พี่ใหญ่หลายเท่า

ตอนที่ 347 หน้าตาดีกว่าศิษย์พี่ใหญ่หลายเท่า

ตอนที่​ 347 หน้าตา​ดีกว่า​ศิษย์​พี่ใหญ่​หลายเท่า​

 

ทันใดนั้น​ เมื่อ​เย่​ฉางชิงเห็น​อักษร​โบราณ​ประโยค​นี้​ พลัน​หรี่ตา​ลง​อย่าง​ห้าม​มิได้​

 

ภาพ​เทพ​ปีศาจโบราณ​ !

 

หาก​มิมีสิ่งใด​ผิดพลาด​ล่ะ​ก็​ นี่​คง​เป็น​สิ่งที่​เรียก​ว่า​ภาพ​วิชชา​

 

เช่นนั้น​

 

อะไร​คือ​ภาพ​วิชชา​ ?

 

ตามที่​เย่​ฉางชิงเคย​อ่าน​คำอธิบาย​มาจาก​หอ​เก็บ​ตำรา​ของ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​

 

สิ่งที่​เรียก​ว่า​ภาพ​วิชชา​ ความจริง​แล้วก็​คือ​เคล็ด​วิชา​ที่​ถูก​พัฒนา​ขึ้น​ใน​อีก​รูปแบบ​หนึ่ง​

 

ภายใน​ภาพ​วิชชา​ จะแฝงเคล็ด​วิชา​ไร้​เทียมทาน​ใน​การ​บำเพ็ญ​เพียร​เอาไว้​มากมาย​ รวมทั้ง​เคล็ด​วิชา​จู่โจมชั้นสูง​ และ​ยังมี​เคล็ด​วิชา​ลับ​ต่าง ๆ​ รวม​อยู่​ด้วย​

 

และ​เนื่องจาก​แต่ละคน​จะมีคุณสมบัติ​ที่​มิเหมือนกัน​ เช่นนั้น​ความ​แตกฉาน​ที่​ได้​จาก​ภาพ​วิชชา​ก็​จะต่างกัน​

 

คิดถึง​ตรงนี้​เย่​ฉางชิงจึงอด​มิได้​ที่จะ​รู้สึก​กังวล​ขึ้น​มา

 

ตอน​อยู่​โลก​บำเพ็ญ​เพียร​ใบ​นั้น​ เขา​เคย​ได้รับ​การ​ตรวจสอบ​ว่า​มิมีราก​วิญญาณ​ และ​ถึงแม้ภายหลัง​จะมีราก​วิญญาณ​แล้ว​ ทว่า​ต่อให้​ใช้หิน​หุน​หยวน​ไปถึงหนึ่ง​ล้าน​ก้อน​ ก็​ยังคง​มีตบะ​บารมี​เพียง​ระดับ​รวม​ชีพจร​ขั้น​กลาง​เท่านั้น​

 

แค่​คิด​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​เขา​ใน​ตอนนั้น​ เป็น​คน​ที่​ไร้ประโยชน์​มาก​เพียงใด​ !

 

แต่​การ​ได้มา​อยู่​ใน​โลก​บำเพ็ญ​เพียร​ใบ​ใหม่​อย่าง​มิคาดฝัน​เช่นนี้​

 

อีก​ทั้ง​ยัง​ได้​พบ​สำนัก​เซียน​ลึกลับ​ที่​มีชื่อว่า​สำนัก​ชิงหยาง​ ที่​หา​ได้​สนใจ​คุณภาพ​ของ​ราก​วิญญาณ​ไม่ ทว่า​กลับ​สนใจ​เพียง​วาสนา​แค่​อย่าง​เดียว​เท่านั้น​

 

และ​เมื่อ​ครู่​เขา​ก็ได้​มองหา​ตำรา​จน​ทั่ว​ทุก​ชั้น​หนังสือ​แล้ว​ แต่กลับ​มิมีเล่ม​ไหน​ที่​สามารถ​แนะนำ​เกี่ยวกับ​ระบบ​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​โลก​นี้​เลย​

 

เช่นนั้น​เขา​จึงอด​มิได้​ที่จะ​กังวล​กับ​คุณสมบัติ​ของ​ตัวเอง​ในเวลานี้​

 

หลังจาก​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ เย่​ฉางชิงก็ได้​กาง​ม้วน​หนัง​ต่อ​

 

จากนั้น​ก็ได้​มีตัวอักษร​โบราณ​อีก​หลาย​บรรทัด​ ค่อย ๆ​ ปรากฏ​ขึ้น​สู่สายตา​ของ​เย่​ฉางชิง

 

“ภาพ​เทพ​ปีศาจโบราณ​ เป็น​สุดยอด​ภาพ​ศักดิ์สิทธิ์​ที่​ข้า​ใช้เวลา​นับ​หมื่น​ปี ใน​การเฝ้า​มองดู​ตะวัน​ จันทรา​ และ​ดวง​ดารา​ เพื่อให้​รู้แจ้ง​สามพัน​มหา​มรรคา​”

 

“ภายใน​จึงแฝงไว้​ด้วย​จิต​แท้​ของ​สามพัน​มหา​มรรคา​ เจตจำนง​ของ​เหล่า​ภาพ​เทพ​ปีศาจ หาก​พิจารณา​ภาพ​ศักดิ์สิทธิ์​ที่​ไร้​เทียมทาน​ภาพ​นี้​ อย่าง​น้อย​ก็​จะสามารถ​รู้แจ้ง​หนึ่ง​ใน​สุดยอด​วิถี​บำเพ็ญ​เพียร​จาก​ที่​มากมาย​ แต่​หาก​มากกว่า​นั้น​ก็​จะสามารถ​รู้แจ้ง​วิถี​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​สุดยอด​เทพ​ปีศาจ หาก​ฝึก​วิถี​นี้​จน​สมบูรณ์​ ก็​จะอยู่​ตราบ​ชั่วฟ้าดินสลาย​ รุ่งโรจน์​ดุจดั่ง​ดวงตะวัน​และ​จันทรา​ เทียบเคียง​มหา​มรรคา​ เป็น​อมตะ​”

 

“ศิษย์​ข้า​ เจ้าพร้อม​หรือไม่​ ? ”

 

“ศิษย์​ข้า​ เจ้าพร้อม​แล้ว​จริง ๆ​ ใช่หรือไม่​ ? ”

 

“ศิษย์​ข้า​ เจ้าจะลอง​ไตร่ตรอง​ดู​สักหน่อย​หรือไม่​ การ​รู้แจ้ง​สุดยอด​ภาพ​ศักดิ์สิทธิ์​ภาพ​นี้​ เจ้าจะต้อง​บอกลา​ชีวิต​ใน​อดีต​ที่​ธรรมดา​นั้น​ซะ ! ”

 

“ศิษย์​ข้า​ ดูท่า​เจ้าคงจะ​เตรียมตัว​พร้อม​แล้ว​สินะ​ เช่นนั้น​ก็​จงเปิด​สุดยอด​ภาพ​ศักดิ์สิทธิ์​นี้​ พร้อมกับ​บอกลา​ชีวิต​ที่​ดู​ธรรมดา​ได้​เลย​”

 

เย่​ฉางชิงจดจ้อง​ตัวอักษร​โบราณ​เหล่านั้น​

 

จู่ ๆ เลือด​ลม​ภายใน​กาย​ของ​คนธรรมดา​ที่อยู่​มาสอง​โลก​เช่น​เขา​ ก็​เริ่ม​ไหลเวียน​และ​สูบฉีด​ขึ้น​โดย​มิรู้ตัว​ ทว่า​ภายในใจ​กลับ​ยิ่ง​รู้สึก​สับสน​และ​ว้าวุ่น​ไปหมด​

 

‘ใน​โลก​ใบ​นี้​ ! ’

 

‘ในที่สุด​ข้า​ก็​จะเก่ง​ขึ้น​แล้ว​ ! ’

 

คิดได้​เช่นนั้น​ เย่​ฉางชิงจึงตัดสิน​ใน​เปิด​ม้วน​หนัง​นั้น​ออก​ใน​ครา​เดียว​

 

ทันใดนั้น​ ภาพ​เทพ​ปีศาจโบราณ​ทั้ง​ภาพ​ก็​ปรากฏ​สู่สายตา​

 

ใน​ภาพ​มีร่าง​ ๆ หนึ่ง​กำลัง​นั่งสมาธิ​อยู่​กลางอากาศ​ โดย​หันหลัง​ให้​สรรพสัตว์​ทั้งหลาย​

 

บน​ศีรษะ​ของ​เขา​

 

มีดวง​ดารา​มากมาย​ลอย​ต่ำ​ลง​ ตะวัน​ และ​จันทรา​ลอย​เด่น​ ลำแสง​หลาย​สาย​ส่อง​ลงมา​กระทบ​กับ​กาย​ของ​เขา​

 

รอบกาย​ของ​เขา​นั้น​

 

มีกระแสลม​มากมาย​ลอย​วน​ โดน​เฉพาะ​กระแสลม​ขาว​ดำ​สอง​สาย​นั้น​ ที่​สามารถ​เห็น​ได้​อย่าง​ชัดเจน​มาก​ที่สุด​ พร้อม​ก่อตัว​เป็น​ภาพ​ขาว​ดำ​ขนาดใหญ่​

 

ส่วน​ด้านล่าง​ของ​เขา​

 

มีทิวเขา​ทอด​ยาว​สุดลูกหูลูกตา​ สายน้ำ​หลาย​สาย​ไหล​อย่าง​เชี่ยวกราก​ และ​ยังมี​ต้นไม้​โบราณ​รวมถึง​สัตว์​ดุร้าย​อีก​มากมาย​…

 

หลังจาก​เย่​ฉางชิงเมื่อ​ได้​เห็นภาพ​นี้​เต็ม​สอง​ตา​เป็นครั้งแรก​ สิ่งที่​เขา​สัมผัส​ได้​ก็​คือ​ผู้​ที่​วาดภาพ​นี้​ คง​มิถนัด​วาดภาพ​แนว​นี้​เท่าไร​นัก​

 

เมื่อ​ภาพ​เทพ​ปีศาจโบราณ​ภาพ​นี้​พยายาม​นำเสนอ​เนื้อหา​ที่​มากเกินไป​ เหมือน​ต้อง​การนำ​สิ่งรอบกาย​ทั้งหมด​ที่​เห็น​ มาวาด​ลง​ไปใน​ภาพ​เดียว​

 

อีก​ทั้ง​ลายเส้น​ก็​ยัง​ดู​มิละเอียด​ องค์ประกอบ​หลายอย่าง​ยัง​เป็น​เพียงแค่​โครงร่าง​เท่านั้น​

 

แต่​ด้วยเหตุนี้​

 

ภาพ​เทพ​ปีศาจโบราณ​ที่​ดู​ค่อนข้าง​โบราณ​ภาพ​นี้​ จึงให้​ความรู้สึก​ลึกลับ​น่า​ค้นหา​ขึ้น​มาอย่าง​บอก​มิถูก​

 

แต่​ขณะที่​เย่​ฉางชิงกำลัง​พิจารณา​ใคร่ครวญ​อยู่​นั้น​ ก็​เกิด​ความเข้าใจ​ใน​บางสิ่งบางอย่าง​ขึ้น​มา โดย​มิทัน​ได้​เตรียมตัว​

 

เขา​จึงดึง​สติ​ออก​มาจาก​ภาพ​เทพ​ปีศาจโบราณ​ภาพ​นี้​อย่าง​รวดเร็ว​

 

‘เย่​ฉางชิงเอ๋ย​เย่​ฉางชิง เจ้าใจร้อน​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​กัน​ ! ’

 

‘เวลานี้​เจ้าเข้ามา​อยู่​ใน​สำนัก​เซียน​ลึกลับ​อย่าง​สำนัก​ชิงหยาง​ได้​แล้ว​ ความสำเร็จ​ใน​ภายภาคหน้า​จะต้อง​มิอาจ​ประมาณ​ได้​อย่าง​แน่นอน​ ! ’

 

‘ยิ่งไปกว่านั้น​ ! ’

 

‘ศิษย์​พี่​เก้า​เพียงแค่​พา​เจ้ามาเลือก​เคล็ด​วิชา​บำเพ็ญ​เพียร​เท่านั้น​ เจ้าจะมาพิจารณา​ใคร่ครวญ​และ​รู้แจ้ง​ใน​ตอนนี้​ได้​เยี่ยง​ไร​ ! ’

 

‘หาก​ไปสัมผัส​โดน​ผนึก​ต้องห้าม​โบราณ​ของ​ที่นี่​เข้า​เล่า​ ? ’

 

‘มิควร​ ! ’

 

‘มิควร​เลย​จริง ๆ​ ! ’

 

ขณะที่​เย่​ฉางชิงกำลัง​พึมพำ​และ​โทษ​ตัวเอง​อยู่​นั้น​

 

จื่อ​เหยา​ก็​ปรากฏตัว​ขึ้น​ที่​ด้านหลัง​ของ​เย่​ฉางชิงอย่าง​เงียบเชียบ​

 

“ศิษย์​น้อง​เย่​ เจ้าเลือก​ได้​แล้ว​งั้น​หรือ​ ? ”

 

จื่อ​เหยา​กวาดตา​มอง​ภาพ​เทพ​ปีศาจโบราณ​ใน​มือ​ของ​เย่​ฉางชิง ก่อน​จะถามออกมา​อย่าง​โล่งใจ​

 

ต้อง​ยอมรับ​ว่า​ภาพ​เทพ​ปีศาจโบราณ​ภาพ​นี้​ก็​เป็น​ของปลอม​เช่นเดียวกัน​

 

แต่​เมื่อ​เทียบ​กับ​เคล็ด​วิชา​อื่น​ ๆ ใน​หอ​เก็บ​ตำรา​ที่​ลวงโลก​หลัง​นี้​แล้ว​

 

ภาพ​เทพ​ปีศาจโบราณ​ภาพ​นี้​นับว่า​ยัง​พอใช้ได้​อยู่​

 

ประการ​แรก​ ต่อให้​เป็น​ของปลอม​ที่​ทำ​ขึ้น​มา ทว่า​คุณภาพ​ของ​ภาพ​เทพ​ปีศาจโบราณ​ภาพ​นี้​ เมื่อ​เทียบ​กับ​เคล็ด​วิชา​อื่น​ ๆ แล้ว​ยัง​ถือว่า​ดีกว่า​มาก​

 

เพียงแค่​ตัว​ม้วน​หนัง​ หาก​เป็น​ใน​โลก​มนุษย์​ก็​สามารถ​ขาย​ได้​สอง​ถึงสามตำลึง​เงิน​แล้ว​

 

ประการ​ที่สอง​ ภาพวาด​ด้านบน​แม้จะดู​หยาบ​ไปหน่อย​ แต่​หลังจาก​ได้รับ​การ​แก้ไข​แล้ว​ กลับ​ให้​ความรู้สึก​เก่าแก่​จน​แทบจะ​แยก​มิออ​กว่า​จริง​หรือ​ปลอม​

 

มิเช่นนั้น​ตอนที่​ศิษย์​พี่ใหญ่​ห​ลี่​ซิว​หยวน​ลง​เขา​ไป คง​มิใช้เงิน​ทั้งหมด​ที่​มี ซื้อ​ภาพ​เทพ​ปีศาจโบราณ​ภาพ​นี้​กลับมา​หรอก​

 

นี่​จึงเป็น​เหตุผล​ว่า​ทำไม​ภาพ​เทพ​ปีศาจโบราณ​ภาพ​นี้​ จึงถูก​ซ่อน​เอาไว้​ใน​กล่อง​เหล็ก​ และ​มิได้​วาง​เอาไว้​บน​ชั้น​ หรือ​แขวน​เอาไว้​เหมือน​ภาพ​อื่น​ ๆ

 

เยี่ยง​ไร​เสีย​นี่​ก็​นับว่า​เป็นหนึ่ง​ใน​เรื่อง​น่าอาย​มากมาย​ของ​ศิษย์​พี่ใหญ่​

 

อีก​อย่าง​ศิษย์​น้อง​เย่​ผู้​นี้​ก็​ยัง​เป็น​เพียง​หน้าใหม่​ใน​การ​ฝึก​เซียน​

 

ภาพ​เทพ​ปีศาจโบราณ​ที่​สามารถ​หลอก​ศิษย์​พี่ใหญ่​ได้​เช่นนี้​ ก็​ย่อม​สามารถ​ทำให้​ศิษย์​น้อง​เล็ก​ผู้​นี้​ เชื่อ​ว่า​เป็น​ของจริง​ได้​เช่นกัน​

 

“ศิษย์​พี่​เก้า​”

 

ได้ยิน​เช่นนั้น​เย่​ฉางชิงก็​ได้สติ​ขึ้น​มา ก่อน​จะเอ่ย​อย่าง​ลังเล​ว่า​ “ข้า​สามารถ​นำ​ภาพ​เทพ​ปีศาจโบราณ​ภาพ​นี้​ไปได้​หรือไม่​ขอรับ​ ? ”

 

จื่อ​เหยา​ยิ้ม​ออกมา​บาง​ ๆ พลาง​พยักหน้า​ให้​น้อย​ ๆ

 

ขณะเดียวกัน​ นาง​ก็ได้​ส่งตำรา​โบราณ​เล่ม​หนึ่ง​ให้​แก่​เย่​ฉางชิงด้วย​

 

“ศิษย์​น้อง​เล็ก​ ภาพ​เทพ​ปีศาจโบราณ​ภาพ​นี้​เกรง​ว่า​อาจจะ​ลึกล้ำ​เกินไป​ เจ้าเพิ่งจะ​เริ่ม​บำเพ็ญ​เพียร​ ฉะนั้น​ใช้เคล็ด​วิชา​ของ​สำนัก​ชิงหยาง​ของ​เรา​ ใน​การ​เริ่ม​บำเพ็ญ​เพียร​ก่อน​จะดีกว่า​”

 

จื่อ​เหยา​กำชับ​ด้วย​น้ำเสียง​จริงจัง​ว่า​ “จำเอาไว้​ว่าการ​บำเพ็ญ​เพียร​นั้น​จะต้อง​ก้าว​ไปตามลำดับ​ อย่า​โลภมาก​โดย​เด็ดขาด​ มิเช่นนั้น​อาจ​เกิด​ปัญหา​ใหญ่​ขึ้น​ได้​”

 

เย่​ฉางชิงชะงัก​ไปเล็กน้อย​ ก่อน​จะสีหน้า​และ​รอยยิ้ม​ฝืด​เฝื่อน​ออกมา​

 

“ศิษย์​พี่​เก้า​พูด​ได้​ถูกต้อง​แล้ว​ เป็น​ข้า​ที่​ใจร้อน​เกินไป​”

 

เย่​ฉางชิงเอ่ย​ขึ้น​

 

จื่อ​เหยา​พยักหน้า​ให้​น้อย​ ๆ อีกครั้ง​ พร้อม​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “ศิษย์​น้อง​เล็ก​ ถ้าเช่นนั้น​พวกเรา​ไปกัน​เถอะ​”

 

หลังจาก​จื่อ​เหยา​พา​เย่​ฉางชิงออก​มาจาก​หอ​เก็บ​ตำรา​แล้ว​ นาง​ก็ได้​ทำการ​กระตุ้น​พลัง​วิญญาณ​ เพื่อ​เปิด​ลวดลาย​ค่าย​กล​บน​หิน​สีคราม​มากมาย​อีกครั้ง​ ก่อน​จากไป​อย่าง​สบายใจ​

 

ผ่าน​ไปหนึ่ง​ก้านธูป​

 

หลังจาก​จื่อ​เหยา​แยก​กับ​เย่​ฉางชิงแล้ว​ ก็​รีบ​วิ่ง​มาที่​หน้า​ประตู​เรือน​ที่อยู่​ค่อนข้าง​ห่างไกล​หลัง​หนึ่ง​

 

“ศิษย์​พี่​รอง​ ! ”

 

“จื่อ​เหยา​ เข้ามา​ข้างใน​ก่อน​สิ”

 

หลัง​ได้ยิน​เสียง​ตอบรับ​

 

จื่อ​เหยา​ก็​ผลัก​ประตู​เข้าไป​ทันที​

 

วินาที​ต่อมา​ก็​พบ​ว่า​ศิษย์​รอง​ของ​สำนัก​ชิงหยาง​ ชวี่​เห​วิน​เซี่ย​ ที่อยู่​ใน​ชุด​สีแดง​ กำลัง​นอน​เอนกาย​อยู่​บน​เก้าอี้​อย่าง​เกียจคร้าน​ พร้อมกับ​กอด​น้ำเต้า​ที่​ใส่สุรา​เอาไว้​แนบอก​

 

ดวงตา​ของ​นาง​เริ่ม​หยาดเยิ้ม​ ใบหน้า​และ​ลำคอ​แดงก่ำ​ คอเสื้อ​คลาย​ออก​เผย​ให้​เห็น​ผิว​ที่​ขาว​ราวกับ​หิมะ​

 

ขณะเดียวกัน​เนื่องจาก​นาง​กำลัง​เอนกาย​อยู่​ จึงทำให้​อาภรณ์​ที่​สวมใส่​นั้น​หลุดลุ่ย​ และ​เผย​ให้​เห็น​เรือนร่าง​ของ​นาง​อยู่​หลาย​ส่วน​

 

เห็น​เช่นนั้น​จื่อ​เหยา​ก็​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ “ศิษย์​พี่​ อาจารย์​บอก​หลาย​ครา​แล้ว​มิใช่หรือ​เจ้าคะ​ ว่า​มิให้​ท่าน​ดื่ม​สุรา​อีก​ ? ”

 

ชวี่​เห​วิน​เซี่ย​มุมหยัก​ปาก​โค้ง​ขึ้น​ ดวงตา​หยาดเยิ้ม​ปรายตา​มอง​จื่อ​เหยา​ พลาง​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​เริงร่า​ว่า​ “จื่อ​เหยา​ เจ้าเจอ​ศิษย์​ที่มา​ใหม่​คน​นั้น​แล้ว​หรือ​ ? ”

 

จื่อ​เหยา​นิ่ง​ไปเล็กน้อย​ จากนั้น​ก็​พยักหน้า​รับ​อย่าง​ลังเล​

 

ชวี่​เห​วิน​เซี่ย​จึงเอ่ย​ถามขึ้น​อี​กว่า​ “เป็น​เช่นไร​บ้าง​ ? ”

 

จื่อ​เหยา​จึงตอบกลับ​อย่าง​ครุ่นคิด​ “หน้าตา​ดีกว่า​ศิษย์​พี่ใหญ่​หลายเท่า​เจ้าค่ะ​”

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

Score 10
Status: Completed

Options

not work with dark mode
Reset