เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน 307 ข้าเป็นคนจริงจังนะ

ตอนที่ 307 ข้าเป็นคนจริงจังนะ

ตอนที่​ 307 ข้า​เป็น​คน​จริงจัง​นะ​

ได้ยิน​เช่นนั้น​ตู๋​กู​ชิงเฟิงก็​ชะงัก​ไป​เล็กน้อย​ ก่อน​จะเอ่ย​ตอบ​ด้วย​ถ้อย​คำหวาน​ซึ้ง

“เจ้ามิรู้จัก​ข้า​ แต่​ขอ​เพียง​ข้า​รู้จัก​เจ้าก็​พอแล้ว​”

ตู๋​กู​ชิงเฟิงรู้ดี​ว่า​

นับตั้งแต่​สมัย​บรรพกาล​มาจนถึง​บัดนี้​ ช่วงเวลา​นั้น​ได้​ล่วงเลย​มานาน​นับ​ล้าน​ปี​แล้ว​

ส่วน​นาง​เอง​ตอน​ติด​อยู่​ใน​โลง​นว​โลกา​ก็​ผ่าน​มาแล้ว​ถึงเก้า​ภพ​

เช่นนั้น​ชาย​ที่​นาง​คอย​เฝ้าถวิลหา​ตรงหน้า​ผู้​นี้​ ก็​คงจะ​เวียนว่ายตายเกิด​มาแล้ว​หลาย​ชาติ​ภพ​เช่นกัน​

จึงเป็นไป​มิได้ที่​เขา​จะสามารถ​จำเรื่อง​บุญคุณ​ความแค้น​ใน​ชาติ​นั้น​ได้​ ภายใน​ระยะเวลา​สั้น​ ๆ

แต่​อ้อมกอด​เมื่อครู่นี้​ก็​เพียง​พอที่จะ​ทำให้​ตู๋​กู​ชิงเฟิงมั่นใจ​แล้ว​ว่า​ คน​ตรงหน้า​ผู้​นี้​ก็​คือ​คน​ผู้​นั้น​ที่​กลับชาติมาเกิด​ใหม่​

หลายครั้ง​สิ่งที่​ดูเหมือน​มิตั้งใจ​ แท้จริง​แล้ว​กลับเป็น​ปฏิกิริยา​ที่​เกิดขึ้น​จาก​ส่วนลึก​ของ​จิตวิญญาณ​

เช่นนั้น​มิว่า​เวลานี้​หรือ​ภายภาคหน้า​เย่​ฉางชิงจะอธิบาย​เช่นไร​

ต่อให้​เขา​จะบอ​กว่า​มาจาก​โลก​อื่น​ ตู๋​กู​ชิงเฟิงก็​จะมิมีทาง​สงสัย​ใน​ตัว​เขา​เป็นอันขาด​

อีก​ทั้ง​รูปลักษณ์​ของ​เย่​ฉางชิงยัง​มีส่วน​คล้าย​กับ​คนใน​ความทรงจำ​ผู้​นั้น​ถึงเจ็ด​แปด​ส่วน​

แม้ภายนอก​จะดู​สุภาพอ่อนโยน​ แตกต่าง​จาก​คน​ผู้​นั้น​ที่​มีนิสัย​บุ่มบ่าม​ก็​จริง​ แต่​ตู๋​กู​ชิงเฟิงกลับ​มั่นใจ​ว่า​ ต้อง​เป็น​คน​ผู้​นั้น​กลับชาติมาเกิด​อย่าง​แน่นอน​

ตอนนั้น​เอง​ เมื่อ​ได้ยิน​หญิง​งามตรงหน้า​ตอบ​กลับมา​ด้วย​ถ้อย​คำหวาน​ซึ้ง

เย่​ฉางชิงก็​อด​มิได้​ที่จะ​นิ่งงัน​ไป​

‘ดู​จาก​ท่าทาง​ของ​นาง​แล้ว​ เหมือน​นาง​มั่นใจ​แล้ว​ว่า​ข้า​คือ​ใคร​คน​นั้น​ที่​นาง​รู้จัก​’

‘เป็นไป​มิได้​ ! ’

‘โลก​บำเพ็ญ​เพียร​ใบ​นี้​ เหตุ​ไฉน​ถึงมีเรื่อง​ดี ๆ​ เช่นนี้​ได้​ ? ’

‘หญิงสาว​ที่​งดงาม​เช่นนี้​ มิต่าง​อะไร​กับ​ของขวัญ​ที่​สวรรค์​ประทาน​ให้​เลย​นะ​ ! ’

‘ถูกต้อง​ ! ’

‘นี่​เป็น​ของขวัญ​จาก​สวรรค์​ ! ’

‘คิดถึง​ได้​เช่นนั้น​ ใบหน้า​อัน​หล่อเหลา​ของ​เย่​ฉางชิง ก็​เผย​รอยยิ้ม​ที่​ยาก​จะอธิบาย​ได้​ออกมา​’

“คุณหนู​ ท่าน​คง​มิคิด​จะอยู่​กับ​ข้า​ที่นี่​หรอก​ใช่หรือไม่​ ? ”

เย่​ฉางชิงเอ่ย​ถามเป็นการ​หยั่งเชิง​

ตู๋​กู​ชิงเฟิงส่งสายตา​เจ้าเล่ห์​มาให้​ พร้อมกับ​ยิ้ม​เต็ม​ใบหน้า​ “แล้ว​เจ้าอยาก​ให้​ข้า​ไป​หรือไม่​ ? ”

“หา​ ! ”

เย่​ฉางชิงมีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ทันใด​ ก่อน​จะเอ่ย​ออกมา​อย่าง​ตะกุกตะกัก​ว่า​ “เรื่อง​นี้​… เรื่อง​นี้​…”

ตู๋​กู​ชิงเฟิงกลั้น​หัวเราะ​เอาไว้​แทบ​มิอยู่​ จน​เอ่ย​ถามย้ำ​ออกมา​อีกครั้ง​ “เจ้ามิอยาก​ให้​ข้า​ไป​ใช่หรือไม่​ ? ”

เย่​ฉางชิงส่ายหน้า​ให้​ ก่อน​ยิ้มแห้ง​ ๆ ออกมา​ “ใน​โลก​บำเพ็ญ​เพียร​ใบ​นี้​ ข้า​ไร้​ที่​พึ่งพิง​ มีเพียง​เรือน​นี้​และ​ร้านขายของชำ​หลัง​หนึ่ง​อยู่​ที่​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​อัน​ห่างไกล​แห่ง​นี้​เท่านั้น​”

“คุณหนู​เช่น​ท่าน​จะมาสนใจ​คน​เช่น​ข้า​ได้​เยี่ยง​ไร​กัน​ ? ”

เอ่ยถึง​ตรงนี้​ เย่​ฉางชิงก็​เผย​สีหน้า​จริงจัง​ออกมา​ พร้อม​กล่าว​ต่อว่า​ “เช่นนั้น​เชิญคุณหนู​ไป​จาก​ที่นี่​เสียเถอะ​ พวกเรา​มิคู่ควร​กัน​หรอก​”

ประโยค​เมื่อ​ครู่​นั้น​ ล้วน​เป็น​คำพูด​ที่​มาจาก​ส่วนลึก​ใน​จิตใจ​ของ​เย่​ฉางชิงจริง ๆ​

อีก​อย่าง​เขา​เอง​มิต้องการ​ฉุด​รั้ง​อนาคต​ของ​อีก​ฝ่าย​ เพียง​เพราะ​ความปรารถนา​ของ​นาง​เท่านั้น​

ทว่า​หลังจากที่​เย่​ฉางชิงเอ่ย​จบ​

ตู๋​กู​ชิงเฟิงก็​ตอบกลับ​เย่​ฉางชิงทันควัน​ ด้วย​น้ำเสียง​จริงจัง​ว่า​ “หาก​ข้า​บอ​กว่า​ข้า​มิสนใจ​เล่า​ ? ”

เพราะ​นาง​มองว่า​เย่​ฉางชิงกำลัง​หยั่งเชิง​นาง​อยู่​เท่านั้น​

ก่อนหน้านี้​ตอนที่​นาง​เข้ามา​ใกล้​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​ ก็​พบ​ว่า​เมือง​แห่ง​นี้​ถูก​ปกคลุม​เอาไว้​ด้วย​ไอ​พลัง​อัน​บริสุทธิ์​มากมาย​

และ​ทั้งหมด​นั้น​ยัง​มาจาก​เรือน​เล็ก​ ๆ หลัง​นี้​อีกด้วย​

เช่นนั้น​แม้คน​ตรงหน้า​จะมาเกิด​ใหม่​ แต่​ความสำเร็จ​ใน​ภพ​นี้​ก็​หา​ใช่ธรรมดา​ไม่

มิเช่นนั้น​จะเล่น​เพลง​ฮั่ว​ฟาน​ได้​เยี่ยง​ไร​กัน​ ?

คิดถึง​ตรงนี้​ ความสงสัย​ที่อยู่​ใน​ใจของ​ตู๋​กู​ชิงเฟิงก่อนหน้านี้​ก็​มลาย​หาย​ไป​ทันที​

และ​เพื่อ​เป็น​การป้องกัน​เหตุ​ที่​คาด​มิถึงและ​อาจจะ​เกิดขึ้น​ ขณะที่​นาง​เข้ามา​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​

นาง​จึงได้​ใช้เคล็ด​วิชา​โบราณ​ สะกด​พลัง​ทั้งหมด​ของ​ตัวเอง​เอาไว้​

โดย​เคล็ด​วิชา​โบราณ​นี้​ ยัง​เป็น​เคล็ด​วิชา​ที่​นาง​บังเอิญ​ได้​เรียนรู้​ มาจาก​โลง​นว​โลกา​อีกด้วย​

นาง​จึงมั่นใจ​ว่า​ต่อให้​เป็น​สุดยอด​ผู้​แข็งแกร่ง​ที่​มีตบะ​บารมี​สูงส่งกว่า​นาง​ ก็​มิมีทาง​ตรวจ​พบ​พิรุธ​ใด​ ๆ ได้​อย่าง​แน่นอน​

ตอนนั้น​เอง​ เย่​ฉางชิงก็​ต้อง​ตกตะลึง​อีกครั้ง​อย่าง​ห้าม​มิได้​

หลังจาก​นิ่งเงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​เขา​จึงตัดสินใจ​ว่า​ เมื่อ​หญิง​งามตรงหน้า​หลงใหล​ใน​ตัว​เขา​ถึงเพียงนี้​ เช่นนั้น​ผู้​ที่​มีหน้าตา​คล้าย​เขา​ใน​ใจของ​นาง​ คงจะ​สำคัญ​ต่อ​นาง​มาก​จริง ๆ​

ถ้าเช่นนั้น​ก็​ให้​นาง​อยู่​ที่นี่​ชั่วคราว​ก็แล้วกัน​

รอ​อีก​ฝ่าย​คิดได้​เมื่อไหร่​ก็​คงจะ​จากไป​เอง​นั่นแหละ​

หรือ​หาก​ภายภาคหน้า​พวกเขา​สอง​คน​อยู่​กัน​ไป​แล้ว​ อาจจะ​เกิด​เป็น​ความรัก​ขึ้น​มาจริง ๆ​ ก็ได้​

คิดได้​เช่นนั้น​ เย่​ฉางชิงจึงมิปริปาก​พูด​อะไร​ออกมา​อีก​ พร้อมกับ​หมุนตัว​เตรียม​จะไป​จัด​ห้อง​ให้​สตรี​นาง​นี้​ทันที​

ตอนนั้น​เอง​คิ้ว​เรียว​ยาว​ของ​ตู๋​กู​ชิงเฟิงก็​ขมวด​ขึ้น​เบา​ ๆ พร้อม​เอ่ย​ถามว่า​ “เจ้ามิคิด​จะขอ​ข้า​แต่งงาน​เลย​หรือ​ ? ”

“ห๊ะ​ ! ”

เย่​ฉางชิงชะงัก​ฝีเท้า​ลง​ทันที​ พร้อมกับ​หันไป​ถามอย่า​งอด​มิได้​ “ชื่อ​เจ้า ข้า​ยัง​มิรู้จัก​เลย​นะ​ ? ”

“ตู๋​กู​ชิงเฟิง”

“อืม​ ข้า​ เย่​ฉางชิง”

“ข้า​จะไป​จัด​ห้อง​ให้​เจ้าก็แล้วกัน​…”

“ฉางชิง มิต้อง​หรอก​ข้า​นอน​กับ​เจ้าก็ได้​”

“คุณหนู​ เจ้าควร​รัก​นวล​สงวน​ตัว​หน่อย​จะดีกว่า​ เพราะ​ข้า​เป็น​คน​จริงจัง​กับ​เรื่อง​นี้​”

“ฉางชิง ชาติ​นี้​ ข้า​ ตู๋​กู​ชิงเฟิง จะอยู่​เคียงข้าง​เจ้าเพียงผู้เดียว​เท่านั้น​”

“คุณหนู​ ภายภาคหน้า​ยังอีก​ยาว​ไกล​นัก​”

“ฉางชิง เช่นนั้น​ให้​ข้า​ช่วย​เจ้าก็แล้วกัน​”

“……”

“……”

ขณะเดียวกัน​ เพราะ​การ​ปรากฏตัว​ของ​หญิง​งามที่​สวม​อาภรณ์​ม่วง​ผู้​นั้น​ จึงทำให้เกิด​เสียง​วิ​พา​กษณ์​วิจารณ์​ขึ้น​อีกครั้ง​

เวลานี้​ชาวเมือง​เสี่ยว​ฉือ​แทบจะ​ทั้งหมด​ ต่าง​มารวมตัวกัน​อยู่​ภายใน​ร้าน​สุรา​เพียง​แห่ง​เดียว​ของ​เมือง​

“เฒ่าซ่ง เจ้าดู​ดีแล้ว​หรือ​ ว่า​หญิงสาว​ที่​สวม​อาภรณ์​ม่วง​นาง​นั้น​ เข้าไป​ใน​เรือน​ของ​ท่าน​เย่​จริง ๆ​ ? ”

“ใช่ ข้า​เห็น​มากับ​ตา​เลย​”

“มิหนำซ้ำ​หญิงสาว​ที่​สวม​อาภรณ์​สีม่วง​ ยัง​งดงาม​ยิ่งกว่า​ภรรยา​ท่าน​เย่​สอง​คน​ก่อนหน้านี้​อีกด้วย​ เหมือน​จะเคย​มาที่​เรือน​ของ​ท่าน​เย่​แล้วด้วย​นะ​ เรียก​ว่า​คุ้นเคย​เส้นทาง​เป็น​อย่าง​ดี​เลย​ล่ะ​”

“ตอน​เดินทาง​ไป​เมืองหลวง​ ท่าน​เย่​ไป​เจอ​กับ​อะไร​เข้ากัน​แน่​ล่ะ​นี่​ เหตุใด​ถึงได้​มีหญิง​งามล่ม​เมือง​เช่นนี้​มาหา​มิเว้น​แต่ละวัน​ได้​”

“พวก​เจ้าว่า​หญิงสาว​สวม​อาภรณ์​สีม่วง​นาง​นี้​ จะใช่ภรรยา​คน​ที่สาม​ของ​ท่าน​เย่​หรือไม่​ ? ”

“ข้า​คิด​ว่า​ใช่ มิเช่นนั้น​เหตุใด​จึงมาหา​เขา​เพียงลำพัง​เช่นนี้​เล่า​”

“เฮ้อ​ สตรี​ที่​งดงาม​ราวกับ​เทพธิดา​ถึงสามคน​ แบบนี้​ร่างกาย​ท่าน​เย่​จะรับ​ไหว​ได้​เยี่ยง​ไร​กัน​”

“จริง​ด้วย​ ในที่สุด​ข้า​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​ เหตุใด​เพลง​ที่​ท่าน​เย่​บรรเลง​เมื่อ​ครู่​จึงได้​โศกเศร้า​เพียงนั้น​ หาก​มิมีสิ่งใด​ผิดพลาด​ล่ะ​ก็​ คง​เป็น​เพราะ​ใช้เอว​มากเกินไป​เป็นแน่​”

“อืม​ มีความเป็นไปได้​”

“จริง​สิ เฒ่าซุน​ ไต​เสือดำ​ครา​ก่อน​ เจ้ายังมี​เหลืออยู่​หรือไม่​ ? ”

“มี ๆ ไต​เสือดำ​มีสรรพคุณ​ดีมาก​จริง ๆ​ ครา​ก่อน​ข้า​กิน​ไป​มิกี่​คำ​ ทว่า​กลับ​รู้สึก​สบาย​ตัว​นาน​ถึงครึ่ง​เดือน​เชียว​ละ​”

“……”

“……”

จน​เวลา​ผ่าน​ไป​ประมาณ​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​

หลังจาก​เย่​ฉางชิงจัด​ห้อง​ให้​ตู๋​กู​ชิงเฟิงเสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ก็​เตรียม​จะลงมือ​ทำกับข้าว​ด้วยตัวเอง​ เพื่อ​เป็นการ​ต้อนรับ​ตู๋​กู​ชิงเฟิง

ทว่า​ขณะที่​ทั้งสอง​เตรียม​ชามกับ​ตะเกียบ​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ก็​มีเสียง​ของ​เปา​ต้า​เหมย​ดัง​ขึ้น​เข้ามา​

“ท่าน​เย่อ​ยู่​หรือไม่​ ? ”

เย่​ฉางชิงได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​หันไป​มองหน้า​ตู๋​กู​ชิงเฟิงเล็กน้อย​ ก่อน​จะลุกขึ้น​เดิน​ไป​เปิด​ประตู​

ทันทีที่​ประตู​เปิด​ออก​ เปา​ต้า​เหมย​ก็​ส่งยิ้ม​มาให้​อย่าง​มีเลศนัย​ สายตา​ลอบ​ชำเลือง​มอง​เข้าไป​ด้านใน​เรือน​

“ท่าน​เย่​ ได้ยิน​มาว่า​บ้าน​ท่าน​มีแขก​มาหา​อีกแล้ว​ เช่นนั้น​ข้า​จึงตั้งใจ​เอา​เนื้อ​แห้ง​มาให้​สอง​ห่อ​”

เปา​ต้า​เหมย​เอ่ย​ขึ้น​ด้วย​เสียง​อัน​ดัง​ ก่อน​จะเปลี่ยนเป็น​กระซิบกระซาบ​ถามต่อว่า​ “ท่าน​เย่​ หญิงสาว​ที่​สวม​อาภรณ์​สีม่วง​ผู้​นั้น​เป็น​ภรรยา​ของ​ท่าน​ใช่หรือไม่​ ? ”

เย่​ฉางชิงได้ยิน​เช่นนั้น​ พลัน​ใบหน้า​ถึงกับ​แดงก่ำ​ขึ้น​มาทันที​ ก่อน​จะพยักหน้า​รับ​อย่าง​ลังเล​

เปา​ต้า​เหมย​จึงยัด​ไต​เสือดำ​ที่​ตาก​จน​แห้ง​แล้ว​สอง​ห่อ​ให้​กับ​เย่​ฉางชิง พร้อม​หัวเราะ​เบา​ ๆ “ท่าน​เย่​ ภรรยา​ทั้ง​สามคน​ของ​ท่าน​ต่าง​ก็​งดงาม​ราวกับ​เทพธิดา​ แต่​ท่าน​ก็​ต้อง​ยับยั้งชั่งใจ​บ้าง​นะ​”

เย่​ฉางชิงมีสีหน้าเข้ม​ขึ้น​ทันที​ ก่อน​จะยิ้มแห้ง​ ๆ ออกมา​ “ซ้อ​เปา​ รบกวน​ท่าน​แล้ว​”

“พวกเรา​คนเมือง​เสี่ยว​ฉือ​ล้วน​เป็น​ครอบครัว​เดียวกัน​ เจ้าเกรงใจ​ข้า​เช่นนี้​ เห็น​ข้า​เป็น​คนนอก​ไป​ได้​”

เปา​ต้า​เหมย​โบกมือ​ไปมา​ “เอาล่ะ​ ข้า​กลับ​ก่อน​นะ​”

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

Score 10
Status: Completed

Options

not work with dark mode
Reset