อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 136 มิเรกับเคธี่

ตอนที่ 136 มิเรกับเคธี่

              พอฮิคารุตื่นขึ้นมาก็รู้ตัวว่าอยู่บนเตียงของตัวเองพร้อมกับถูกห่มผ้าให้อย่างเรียบร้อย เนื่องจากหลับเยอะเกินไปเลยทำให้สมองยังตื้ออยู่ นอกหน้าต่างเป็นท้องฟ้าสีจางๆ—-ดูเหมือนเพิ่งจะผ่านรุ่งสางมาได้ไม่นาน

              “……นอนเยอะไปแล้ว”

              ต้องบอกว่ารู้สึกดีที่ลาเวียลูบศีรษะเลยหลับจนถึงเช้าของอีกวันหนึ่ง ท้องเริ่มหิว พอลุกขึ้นมาร่างกายก็รู้สึกถึงความเย็นที่อยู่ภายในห้อง ทำให้รู้สึกว่าใกล้ถึงฤดูหนาวแล้ว

              “……ลาเวียไปไหนกันนะ?”

              ลุกออกมาจากเตียงและไปเปลี่ยนชุดตรงตู้เสื้อผ้า พอออกจากห้องก็เป็นเวลาเดียวกับที่ลาเสียกลับมาจากข้างนอกพอดี

              “อรุณสวัสดิ์ฮิคารุ”

              “อรุณสวัสดิ์ ไปข้างนอกมาเหรอ?”

              “อือ—-เพราะคิดว่าฮิคารุน่าจะตื่นพอดีไง”

              มีไอร้อนลอยออกมาจากถุงกระดาษที่เธออุ้มอยู่ คงจะไปซื้ออาหารเช้ามาให้

              ขนมปังปิ้งชีส ซุบถั่วอยู่ในเหยือก เหลือแค่เอาเบค่อนออกมาจากตู้เย็นเวทมนตร์ แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับอาหารเช้าแล้ว

              “ขอบคุณนะ กำลังหิวอยู่พอดีเลย”

              “อือ……”

              “? ลาเวีย?”

              ลาเวียมีสีหน้าที่ไม่สบายใจเท่าไร

              “……ก่อนหน้านี้พอลล่าทำอาหารเช้าให้ตลอดเลย แต่สำหรับฉันคิดว่าซื้อมามันน่าจะค่อนข้างชัวร์กว่า”

              “อ้อ”

              จุดร่วมที่เหมือนกันของฮิคารุกับลาเวียคือไม่ค่อยทำอาหาร ถึงจะจุกจิกเรื่องกินแต่ไม่ชอบลงมือทำเอง

              ใกล้ๆนี้ก็มีตลาดตอนเช้า แถมมีร้านขายอาหารอยู่เยอะ ถ้าไปซื้อตั้งแต่ตอนรุ่งสางก็ไม่มีปัญหา แต่รสชาติมันจะจืดๆหน่อย

              พอรับประทานอาหารเช้าเสร็จก็อาบน้ำล้างตัวจากการเดินทาง พอฮิคารุแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็ออกจากบ้านไปพร้อมกับลาเวีย

              สถานที่ปลายทางคือโรงเรียน พอเข้าฤดูหนาวจะไม่มีคาบเรียนทั่วไป ทำให้ภายในนั้นโล่ง เลยไปทำการวิจัยหรือคลุกตัวอยู่ในห้องสมุดก็ได้

              ฮิคารุพูดคุยกับลาเวียอีกครั้งในเรื่อง “จะไปซูบร้า” ที่เซริก้าแนะนำมาเมื่อวานตอนรับประทานอาหารเช้า สำหรับลาเวียแล้วไม่มีปัญหาอะไรสักเท่าไร เขาเลยตัดสินใจจะไปทักทายเท่าที่จำเป็น เสร็จแล้วค่อยมุ่งหน้าไปซูบร้า

              ลาเวียอยากอ่านหนังสือที่ค้างอยู่ให้จบเลยไปที่ห้องสมุด ส่วนฮิคารุมุ่งหน้าไปที่ตึกเรียน C ที่ใช้เรียนวิชาดาบสั้น

              (ต้องบอกว่ามันเป็นโรงเรียนมัธยมที่ให้ความรู้สึกเหมือนมหาวิทยาลัยเลยนะเนี่ย……)

              เดิมทีถ้าจะให้พูดต้องบอกว่ามันเป็นอาวรณ์ที่ยังหลงเหลืออยู่นิดๆ—-ที่ไม่ได้ไปโรงเรียนเป็นเรื่องเป็นราวเท่าไร เพื่อที่จะสลัดอาวรณ์นั้นเลยมาเข้าเรียนที่นี่

              (ถึงจะไม่ค่อยได้ทำอะไรที่เหมือนกับนักเรียนก็เถอะ)

              พอเข้าเรียนก็มีปัญหา ไหนจะได้อาจารย์ขี้เหล้ามิลเกรป แวน ควอด ช่วยฝึกสอน “ลอบเร้น” กับให้ความช่วยเหลือในการก่อตั้งสหพันธ์นักเรียน

              ถ้าบอกว่าสิ่งที่ฮิคารุได้เรียนรู้และเอามาใช้ประโยชน์ได้ก็คือ การเคลื่อนไหวร่างกายสำหรับ “ลอบเร้น” เดิมทีสำหรับฮิคารุที่ไม่มีความรู้ด้านศิลปะการต่อสู้เลยนั้น การสอนของมิลเกรป—-มิเร ถือเป็นอะไรที่ต้องการมาก เขาดูดซับความรู้ราวกับสำลีซับน้ำ และขัดเกลา “ลอบเร้น” ที่แข็งแกร่งจนแทบจะแหกกฎอยู่แล้วให้โกงขึ้นไปอีก

              (“ลอบเร้น” ถือเป็นเส้นชีวิตของผม จะต้องไปให้สูงกว่านี้อีก)

              ถ้าอุลเค็น—-ที่ตอนนี้ฮิคารุยังไม่รู้ว่าเสียชีวิตไปแล้ว—-คงพูดออกมาว่า “เจ้าคิดจะไปให้ถึงระดับไหนกันเนี่ย……” ด้วยสีหน้าเอือมระอา แต่ฮิคารุคิดว่า “ลอบเร้น” ยังไปได้มากกว่านี้

              ดังนั้นเลยคิดว่ายังมีอะไรให้เรียนรู้ที่โรงเรียนแห่งนี้อยู่

              “…………..”

              พอฮิคารุมาถึงตึก C—-ตึกที่ถูกปรับปรุงมาจากห้องเก็บอุปกรณ์ก็พบว่าประตูเปิดอยู่ แถมข้างในเต็มไปด้วยกลิ่นของแอลกอฮอล์

              ตรงเท้าของฮิคารุมีรองเท้าที่ถูกเขวี้ยงทิ้งเอาไว้ แล้วถัดไปก็มีกางเกงวางอยู่ ถัดไปก็เป็นเสื้อสเวตเตอร์

              “เมาเละอีกแล้วเหรอเนี่ย……”

              มิเรที่สวมแค่เสื้อเชิ้ตกำลังนอนกรน ฮิคารุหาเศษหินที่มีขนาดพอๆกับเม็ดถั่ว 2 ก้อน ก่อนจะปาใส่รูจมูกของมิเร

              “อุ๊บ!? คะ ความรู้สึกนี้มัน……!?”

              “ตื่นแล้วเหรอ”

              “!?”

              มิเรที่ยันตัวขึ้นมา มองไปยังฮิคารุที่ยืนอยู่ตรงทางเข้า

              “อาจารย์ สัญญาที่ให้ไว้กับผมล่ะ? บอกไว้แล้วใช้ว่าห้ามดื่มหนักเกินไป? ลิมิตคือ 3 แก้วไม่ใช่เหรอ? จะว่าไปนอนแก้ผ้ากลางอากาศหนาวอย่างนี้เดี๋ยวก็เป็นหวัด—-”

              “—-ฮะ ฮิคารุคุง? ฮิคารุคุง? ……ฮิคารุคุงงั้นเหรอ?”

              สภาพของมิเรที่ลุกขึ้นมามันดูแปลกๆ

              “ฮิคารุคุงงงงงงงงง!!”

              “เหวอ!?”

              มันรุนแรงมาก แถมเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายเลยหลบไม่ทัน ฮิคารุโดนมิเรเข้ามากอดอย่างแรง จนล้มลงไปกับพื้นทั้งอย่างนั้น

              “เอ๊ะ? อะ เอ่อ อาจารย์?”

              “ดีจัง ดีจังเลยยยยยย! ที่ยังมีชีวิตอยู่ ฮืออออออออออ!!”

              “ก็ต้องมีชีวิตอยู่แล้วนี่……”

              “มะ ไม่ได้รับการติดต่อตั้งแต่ไปถึงบอเดอร์ซาร์ด เลยพูดกันว่า อาจจะตายไปแล้วก็ด้ายยยยย……”

              “เอ๋!?”

              มิเรเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้า เครื่องสำอางก็เละเทะหนักแต่กลับผลักเธอไม่ออก ดูเหมือนจะเป็นห่วงตัวเขาเองมากๆ

              จากที่เธอเล่าให้ฟัง จตุรดาราแห่งบูรพาได้บอกเรื่องของฮิคารุกับพวกคลอร์ดไปแล้ว แต่คลอร์ดกับลูกะมุ่งหน้าไปที่จาราซัก ส่วนซิลเวสเตอร์กับเอคาเทริน่าก็กลับไปที่บ้านเกิด มิไฮน์เองรับหน้าที่คุ้มกันคลอร์ดเลยมุ่งหน้าไปที่จาราซักด้วย เลยมีแค่มิเรเท่านั้นที่ไม่รู้เรื่องนี้

              มิเรรู้แค่ว่า ฮิคารุมุ่งหน้าไปที่บอเดอร์ซาร์ดเพื่อเพื่อแก้ไขปัญหามอนสเตอร์ขยายพันธ์ผิดปกติที่ป่าใหญ่อูน เอล โพลตัน เนื่องจากฝูงมอนสเตอร์จำนวนมากโถมมาที่บอเดอร์ซาร์ด เลยมีการร้องขอกำลังเสริมจากกิลด์นักผจญภัยที่อยู่ใกล้เคียง ถ้าได้ยินเพียงแค่นี้ต้องคิดอยู่แล้วว่าแค่นักเรียนคนเดียวจะทำอะไรได้ แล้วคนที่เติมเชื้อไฟเข้าไปอีกคืออาจารย์คนอื่นๆ พวกเขาบอกกับมิเรว่า “นักผจญภัยที่บอเดอร์ซาร์ดโดนจัดการหมดแล้ว” ถึงผู้อำนวยการโรงเรียนจะบอกว่า “อย่าพูดอะไรที่ยังไม่ได้รับการยืนยันสิ” ออกมาก็ตาม

              “หือ……เจ้าพวกนั้น ปล่อยข่าวลือกันสนุกปากเลยนะเนี่ย”

              ฮิคารุจดชื่อของอาจารย์หลายคนลงใน “รายชื่อที่ต้องทำให้รู้สำนึก”

              ฮิคารุผลักมิเรออก ก่อนจะลุกขึ้น

              “แต่ แต่ คิดว่าตายไปแล้วซะอีกกกกกก……”

              “……ยังมีชีวิตอยู่ เชื่อใจกันหน่อยสิ”

              “แต่ว่า”

              “อ้า หน้าเลอะหมดแล้ว ไปล้างก่อนไป เดี๋ยวจะตักน้ำมาให้” 

              ฮิคารุเอาผ้าเช็ดหน้าให้กับมิเร

              ไม่นึกเลยว่ามิเรจะเป็นห่วงเขาถึงขนาดนี้ ถึงจะบอกว่าพบกันในคาบเรียน แถมฮิคารุทำตามอำเภอใจเยอะเสียด้วย บางทีอาจจะต้องการเว้นระยะห่างกับมิเรก็เป็นได้

              (……ก็ไม่ใช่คนไม่ดี ถ้าไม่ดื่มเหล้าอะนะ)

              เอาเป็นว่าเตือนไม่ให้เมาหนักเกินไปก็พอ—-ฮิคารุที่คิดอะไรอย่างนั้นลุกขึ้น

              “แหม่ๆๆ”

              ได้ยินเสียงมาจากตรงนั้น

              “คิดว่าเพื่อนร่วมอุดมการณ์กลับมาแล้วซะอีก ที่ไหนได้กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกับอาจารย์อยู่เหรอเนี่ย”

              “………….”

              ดูเหมือนจะถูกเห็นตอนโดนจับกด ฮิคารุที่ค่อยๆหมุนคอกลับไปราวกับหุ่นยนต์ที่ลืมหยอดน้ำมัน เห็นเคธี่ นักวิจัยอุปกรณ์เวทมนตร์ยืนยิ้มด้วยท่าทางน่าสนุก

              พอย้ำกับเคธี่ว่า “อย่าพูดอะไรกับลาเวียเกินความจำเป็นด้วย” เธอก็ตอบกลับมาว่า “แทนที่จะทำอย่างนั้นอยากให้การวิจัยเกี่ยวกับมานาศักดิ์สิทธิ์คืบหน้ามากกว่านี้อยู่หรอก?” คงตั้งใจจะขอความร่วมมือในการวิจัย

              “อ้อ……กำลังจะไปซูบร้าอยู่แล้วด้วย”

              “โห”

              “เอ๊ะ ฮิคารุคุงจะไปซูบร้างั้นเหรอ?”

              เคธี่กับมิเรมาถึงโรงอาหารภายในโรงเรียน

              มิเรเสื้อผ้ายังคงยับอยู่ แต่เพราะล้างเครื่องสำอางที่เลอะเทอะตรงใบหน้าไปแล้วทำให้ดูสดชื่นขึ้น เนื่องจากเธอยังเมาค้างอยู่เลยสั่งกาแฟมาดื่ม

              “เอ๋……ก็ อยากจะลองไปดูสักครั้งน่ะ”

              “นั่นสินะ อีกสักพักโรงเรียนจะปิดเทอมแล้วด้วย ฉันเองถ้าทำรายงานประจำปีแบบลวกๆเสร็จว่าจะกลับไปจาราซักอยู่”

              อย่าทำลวกๆสิ ถึงฮิคารุจะอยากบอกอย่างนั้น แต่มันเกี่ยวกับมิเรเลยไม่พูดอะไรออกไป

              เคธี่พอได้ยินว่าซูบร้าก็เข้ามาติดเบ็ด

              “หรือว่า จะไปดูโบราณสถานเหรอ?”

              “อือ ก็คิดจะทำอย่างนั้น”

              “ฉันไปด้วยสิ!”

              เคธี่ยืนขึ้นมาอย่างรุนแรงจนเก้าอี้เลื่อนดังครืด ทำให้คนจำนวนน้อยนิดที่ใช้งานโรงอาหารหันมามองว่าเกิดอะไรขึ้น

              เคธี่มีแฟนตัวยงอยู่ในห้องวิจัยของตัวเอง แถมยังค่อนข้างโด่งดังในโรงเรียนทำให้ค่อนข้างสะดุดตา โชคดีที่ตอนนี้เป็นตอนเช้า แถมโรงอาหารค่อนข้างโล่ง

              “คงไม่ปฏิเสธสินะ!?”

              “……ก็คิดอยู่แล้วว่าคงจะพูดอะไรอย่างนี้”

              “ฮึๆๆ ก็ซื่อตรงดีนี่”

              “เพราะได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์เคธี่ไง กระสุนมันมีประโยชน์มาก”

              “โอ้ว!”

              ฮิคารุมอบกระเป๋าหนังที่มีกระสุนปืนลูกโม่ใส่อยู่ให้กับเคธี่ เพราะกระสุนบรรจุเวทมนตร์ดับสูงสุดของลาเวียเอาไว้ พอยิงออกไปมันเลยพังและคิดว่าจำเป็นต้องซ่อมมัน

              ถ้าไม่มีกระสุนนี้ คงไม่มีทางปราบเอิร์ทดรากอนได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ

              “มีกระสุนให้เปลี่ยนอยู่ เดี๋ยวเอามาให้ทีหลัง”

              “……ขอบคุณมากครับ”

              “แล้วจะออกเดินทางเมื่อไรเหรอ? วันนี้? หรือว่าพรุ่งนี้?”

              “ใจร้อนนะเนี่ย ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลยงั้นเหรอ?”

              “ฉันหมกตัวอยู่ในห้องทดลองเกือบทั้งปี เรื่องสรุปรายงานประจำปีไว้ค่อยทำทีหลังก็ได้”

              พอพูดเรื่องนั้นขึ้นมา

              “……”

              มิเรจ้องมาทางนี้

              “มีอะไรเหรออาจารย์มิเร”

              “……ฮิคารุคุง”

              “ว่า”

              “……ฉันเองก็ไปด้วยสิ”

              “หาา?”

              “ฉันเองก็จะไปซูบร้าด้วย! อ้า อยากไปจังเลยนะ! ซูบร้า!”

              “หา?”

              “—-ทำไมถึงต้องตกใจอย่างนั้นด้วย!? แล้วทำไมถึงได้สนิทกับอาจารย์เคธี่ขนาดนั้น!? เธอเนี่ยถ้าเป็นพี่สาวคนสวยจะใครก็ได้งั้นเหรอ!?”

              “…………หรือว่า ‘พี่สาวคนสวย’ ที่ว่าเนี่ยรวมไปถึงอาจารย์มิเรด้วย?”

              “อย่าถามกลับมาแบบจริงจังอย่างนั้นสิ! มันน่าอายนะ!”

              ดูเหมือนมิเรจะโกรธที่ฮิคารุกับเคธี่มีความลับร่วมกัน

              “อาจารย์จะกลับบ้านเกิดไม่ใช่เหรอ? ไปให้ครอบครัวเห็นว่ายังแข็งแรงดีน่าจะดีกว่านะ”

              “พอฮิคารุพูดอะไรที่มันดูสมเหตุสมผลแล้วรู้สึกแปลกๆแฮะ”

              “ผมเองก็เป็นคนปกติสามัญนะ”

              “แล้วทำไมถึงปฏิเสธเต็มสูบอย่างนั้นล่ะ?”

              “เพราะมีคนไปด้วยไง เลยไม่อยากพาตัวปัญหาไปมากกว่านี้ ช่วยรู้ตัวด้วยสิ”

              “แล้วทำไมถึงทำเหมือนฉัน ‘เป็นตัวปัญหา’ ล่ะเนี่ย!”

              หลังจากนั้นมิเรก็ยังตื้อกับฮิคารุอีกสักพัก ซึ่งฮิคารุได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธ แต่กับเคธี่มันช่วยไม่ได้เพราะมีสัญญาว่าจะให้ความร่วมมือในการวิจัยเกี่ยวกับมานาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่โบราณสถานของซูบร้าจะมีสิ่งที่เกี่ยวข้องกับมานาศักดิ์สิทธิ์

              แล้ววันที่จะมุ่งหน้าไปซูบร้าก็มาถึง

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

Score 10
Status: Completed
ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น -------------------------------- อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

Options

not work with dark mode
Reset