“เริ่มหนาวขึ้นมากแล้วนะเนี่ย……”
ลมหายใจที่พ่นออกมาเป็นไอสีขาว ฮิคารุที่มาถึงสกาล่าซาร์ดลงจากรถม้าแล้วมุ่งหน้าไปที่บ้านของตัวเอง
หลังออกจากเมืองหลวงของจักรวรรดิควินแบรนด์ก็มุ่งตรงกลับมาโดยไม่แวะข้างทาง ที่เมืองหลวงยังคงมีความอบอุ่นหลงเหลืออยู่ แต่สกาล่าซาร์ดกลับหนาวถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าให้เลือกอยู่อาศัยก็คงเลือกที่อบอุ่นกว่า……เขาคิดอะไรเช่นนั้น
ทิวทัศน์ของเมืองสกาล่าซาร์ดยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ถึงบอเดอร์ซาร์ดจะมีมอนสเตอร์จำนวนมากบุกเข้ามา หรือจะมีการประชุม 7 ประเทศก็ตาม แต่สำหรับเมืองเมืองหนึ่งแทบจะไม่มีผลกระทบสักเท่าไร พอคิดอย่างนั้นทำให้รู้สึกเลยว่ารีกที่ต้องการ “ทำให้พรมแดนระหว่าง 7 ประเทศหายไป” หรือ “ให้ความบาดหมางระหว่างคิรีฮาลกับลูดันช่าหายไป” มันเป็นอะไรที่ยากเอาเรื่อง เพราะอย่างนั้นรีกเลยพยายามอย่างเต็มที่หรือเปล่า
“กลับมาแล้ว—-”
พอกลับเข้าไปในบ้านที่อยู่ตรงชั้น 3 ข้างๆ ศูนย์วิจัยนานาชาติ
“ฮิคารุ?”
“!!”
ลาเวียดื่มชาอยู่ตรงโต๊ะ ส่วนพอลล่าที่ทำอาหารอยู่ในห้องครัวมีการตอบสนองกลับมา
“ใช้เวลานานกว่าที่คิดไว้เยอะ โทษ……”
พอพูดไปแค่นั้นแล้วก็หยุด
“ท่านฮิคารุ!!”
จู่ๆพอลล่าก็ก้มกราบ
“ต้องขอประทานโทษด้วยคร้าาาาาา!!”
ฮิคารุแสดงความตกตะลึงและมองไปที่ลาเวีย ก่อนที่เธอจะเอ่ยออกมาอย่างลำบากใจ
“เอ่อ……ยินดีต้อนรับกลับมานะ ฮิคารุ”
เธอให้ฮิคารุที่เดินทางกลับมาเหนื่อยๆ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องนอน ถึงกระนั้นพอลล่ายังคงก้มกราบอยู่อย่างนั้น แล้วก็การก้มกราบของโลกนี้ถือเป็นการแสดงความขอโทษขั้นสูงสุด
“แล้วนี่ มันหมายความว่าไงเหรอ?”
พอลล่าอธิบายออกมารวดเดียวต่อคำถามของฮิคารุทั้งที่ยังก้มกราบอยู่
“……อืม อย่างนี้นี่เอง ผมช่วยชีวิตเธอ—-ไว้ 3 ครั้งแล้วสินะ? —-ถึงอย่างนั้นยังฝ่าฝืนสิ่งเรื่องที่บอกว่าห้ามใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูต่อหน้าคนอื่น แถมยังไร้ประโยชน์ตอนที่ลาเวียโดนลักพาตัวไปอีก”
ตอนที่ฮิคารุกลับมาหลังจากช่วยลาเวียที่โดนลักพาตัว ยังไม่ได้บอกเรื่องที่ใช้เวทมตร์ฟื้นฟูกับนักผจญภัยที่ไม่รู้จัก
หลังจากนั้น พอกลับมาถึงบ้านพร้อมบอกเรื่องนี้กับลาเวีย ทำให้สีหน้าของลาเวียตึงขึ้นพร้อมกับพูดออกมาว่า “ผิดสัญญากับฮิคารุอย่างนี้……ช่างไม่กลัวตายเลยนะ”
“ต้องขอประทานโทษจริงๆด้วยค่ะ……”
“ฮิคารุ การที่ฉันโดนลักพาไม่เกี่ยวกับพอลล่านะ”
“ตะ แต่ว่าถ้าฉันไม่ทำตัวเด่น คุณลาเวียคงไม่มีทางโดนพบตัวก็ได้นี่คะ……!”
“ไม่มีใครรู้หรอกว่าที่ตรงนั้นจะมีหน่วยพิเศษของพอนโซเนียอยู่ด้วย”
“แต่!”
“อ้า พอได้แล้ว”
ฮิคารุสะบัดมือ เพื่อหยุดทั้งสองคน
“พอลล่า ยืนขึ้น”
“แต่……”
“ช่วยไม่ได้ เอาแต่หมอบอย่างนี้มันพูดด้วยลำบาก”
พอโดนบอกอย่างนั้นพอลล่าเลยค่อยๆยืนขึ้น
พอสังเกตสีหน้าดีๆก็รู้ได้เลยว่าเธอรู้สึกเสียใจ ลาเวียเลยเข้ามากระซิบกับฮิคารุ
(ดูเหมือนฮิคารุไม่ยอมกลับมาสักทีเลยเป็นห่วงว่าจะเข้าไปพัวพันกับปัญหาอะไรหรือเปล่าน่ะ)
(……ลาเวียล่ะ?)
(หือ?)
(ลาเวียไม่เป็นห่วงเหรอ?)
(ฮึๆ ฮิคารุของฉันไม่มีทางแพ้ให้กับปัญหาพวกนั้นอยู่แล้วนี่)
ได้รับความเชื่อใจแบบสุดๆ
อย่างนั้นมันก็น่าดีใจอยู่หรอก แต่การที่กลุ้มใจว่าอยากได้รับการเป็นห่วงมันก็ดูกระไรอยู่หรือเปล่านะ?
ลาเวียนั่งอยู่ข้างๆฮิคารุ ส่วนพอลล่านั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“เอ่อ ท่านฮิคารุ……”
“พอลล่า”
ทำการห้ามพอลล่าที่กำลังจะขอโทษ
“ผมบอกไปแล้วนี่ว่า ‘พอได้แล้ว’ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรไปมากกว่านั้น—-มนุษย์เราทำผิดพลาดกันได้ จงศึกษาจากความผิดพลาดแล้วอย่าทำอีกเป็นครั้งที่สองก็พอ”
“……ค่ะ”
“คงเศร้าสินะที่ต้องบอกลากับเพื่อนๆ? พยายามได้ดีมาก”
“ท่านฮิคารุ……”
ดวงตาของพอลล่ามีน้ำตาไหลออกมา เห็นอย่างนี้พอลล่าอายุเยอะกว่าตั้ง 2 ปี
“อะ เอ่อ ท่านฮิคารุ มีอะไรที่ฉันพอจะทำเพื่อท่านฮิคารุได้บ้างคะ? ถึงจะบอกว่าให้มอบร่างกายนี้ก็ตามที……”
“อ้อ อืม ยังไม่ได้คิดอะไรไว้เลยน่ะ”
“……เอ๊ะ?”
“ผมเองก็ยังไม่ได้ตัดสินใจเหมือนกันว่าควรจะทำอะไรที่โลกนี้ดี จนกว่าจะถึงตอนนั้นคงขอให้พอลล่าทำอะไรเป็นครั้งๆไป ดังนั้นก็ใช้ชีวิตอย่างอิสระไปก่อน จะไปเป็นนักผจญภัยต่อหรือจะไปเป็นนักเรียนก็ได้”
“แต่ว่า……มันออกจะพูดยากไปสักหน่อย……ฉันไม่มีอะไร……ติดตัวมาเลยค่ะ……”
“เงินเหรอ? ผมออกให้ก็ได้ ไม่ต้องห่วงหรอก”
“ไม่ได้ค่ะ! อย่างนี้เท่ากับว่าฉันมีแต่ได้กับได้นี่คะ!?”
“แล้วเธอจะทำอะไรได้ เวทมนตร์ฟื้นฟูของพอลล่าห้ามใช้จนกว่าผมจะบอก ถ้าใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูไม่ได้ พอลล่าก็แทบจะไม่มีวิธีหาเงินเลยไม่ใช่เหรอ? แล้วผมเป็นคนบอกเองว่าห้ามใช้เวทมนตร์ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายหรอก”
“เรื่องนั้น—-ก็ใช่ค่ะ……”
ถึงพอลล่าจะดูซึมๆไป แต่เหมือนจะนึกอะไรออก
“ถะ ถ้าอย่างนั้นจะทำงานค่ะ!”
“เอ๊ะ?”
“เห็นอย่างนี้ก็อ่านออกและคำนวณเป็นนะคะ! จะไปทำงานที่ร้านอาหารค่ะ!”
“อะ โอ้ว……ถ้าอยากทำก็ได้อยู่หรอก”
“จะรบกวนพวกคุณไปตลอดก็ไม่ได้ด้วยค่ะ!”
ดูเหมือนก่อนที่ฮิคารุจะกลับมาจะอาศัยอยู่กับลาเวียแค่สองคน
“สำหรับฉันการที่ได้พอลล่ามาทำอาหารก็สะดวกดีอยู่หรอก”
“หือ พอลล่าทำอาหารเก่งเหรอ?”
“เก่งพอตัวเลย”
“โห”
“มะ มะ มะ มะ มะ ไม่หรอกค่ะ! แค่อาหารพื้นๆเท่านั้นค่ะ!”
คงถ่อมตัวอยู่ การที่ลาเวียชมอย่างนี้พอจะคาดหวังได้อยู่
“……ขอถามอะไรเผื่อไว้หน่อย ไม่ใช่อาหารเผ็ดใช่ไหม?”
“เอ๊ะ ท่านฮิคารุชอบอาหารเผ็ดๆหรือคะ?”
“ถ้าไม่ใช่ก็ดีไป เอาเถอะ จะไม่บังคับหรอกนะว่าพอลล่าต้องพักที่ไหน”
“ค่ะ!”
ฮิคารุตั้งใจจะเป็นนักเรียนต่อ ดังนั้นถ้าจะออกจากเมืองค่อยไปเรียกพอลล่าก็ได้ไม่มีปัญหา
(ถึงจะทำให้เวทมนตร์ฟื้นฟูอันมีค่าต้องถูกเก็บตายเอาไว้ก็ตาม เอาจริงๆไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินสักเท่าไรด้วยสิ……ถ้าคิดถึงความเสี่ยงที่อาจจะโดนพวกยุ่งยากหมายตาแล้วละก็ ให้พอลล่าไปทำงานพิเศษอาจจะดีกว่าก็ได้)
ตอนที่ฮิคารุคิดอย่างนั้น
“แล้วฮิคารุทำไมถึงกลับมาช้า มีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ?”
“อ้อ เกี่ยวกับเรื่องนั้น……”
พอลาเวียถาม ฮิคารุก็ชำเลืองมองไปที่พอลล่า
“ถะ ถ้าฉันเป็นตัวเกะกะ จะออกไปปิดหูตรงระเบียงค่ะ!”
“อ้อ ไม่หรอก ไม่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้……นั่นสินะ ถึงมีข้อมูลที่จำเป็นต้องปกปิดอยู่แต่พอลล่าเองก็ลงเรือลำเดียวกันแล้วเลยว่าจะแชร์ข้อมูลด้วย”
“จะดีหรือคะ……?”
“อืม ดังนั้นรินชาเพิ่มให้ที”
“ค่ะ มาแล้วค่ะ!”
พอลล่ารีบยืนขึ้นพร้อมกับรินน้ำชา ระหว่างนั้นฮิคารุก็พูดเกี่ยวกับโซลบอร์ดของพอลล่าให้ลาเวียฟัง
(เวทมนตร์ฟื้นฟู 8 เนี่ย!? มันระดับไหนกันนะ!!)
(จากที่จตุรดาราแห่งบูรพาบอก ดูเหมือนจะรักษาแขนขาที่ขาดกับรักษาอาการเป็นหินได้ ถือเป็นระดับแนวหน้าในราชอาณาจักรพอนโซเนียเลย แถมรักษาเสร็จพอลล่ายังไม่เหนื่อยอะไรด้วย แสดงว่าน่าจะเหนือกว่านั้นไปอีก แถมไม่รู้ว่าความสามารถพื้นฐานของคนบนโลกนี้มันเป็นยังไงด้วยนี่สิ)
(สุดยอดไปเลย……เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน จตุรดาราแห่งบูรพาที่ว่าเนี่ย? ใช่จตุรดาราแห่งบูรพาของกิลด์นักผจญภัยที่พบตอนพวกเราหลบหนีมางั้นเหรอ? หลังจากนั้นก็ไม่ได้พบกันอีกเลย?)
ฮิคารุเล่าเรื่องที่คุยกับจตุรดาราแห่งบูรพาหลังจากลาเวียกับพอลล่าขึ้นรถม้าไปแล้ว
“…………”
“ลาเวีย?”
“……คุยกันที่ไหนเหรอ?”
“ที่ห้องของจตุรดาราแห่งบูรพาไง?”
“………….”
“ลาเวีย?”
“……ไม่มีอะไรเหรอ……นี่เหรอความรู้สึกที่เรียกว่าหึง……ช่างซับซ้อนจัง……”
“เอ๊ะ? เมื่อกี้ว่าไงนะ?”
“ขอโทษที่ให้รอค่ะ!”
พอลล่าถือน้ำชามา ส่วนลาเวียก็กลับมาแสดงสีหน้าเหมือนทุกที มันเกิดอะไรขึ้น……ฮิคารุคิดอย่างนั้น แต่ก็ไม่มีคำตอบ
ฮิคารุดื่มน้ำชาที่รินมาให้ใหม่
“นั่นสินะ……จะเริ่มจากอะไรก่อนดี เอาเป็นว่าเป้าหมายของมาร์ควิสกล็อกชลูท—–”
ฮิคารุเล่าเรื่องที่เจอสปายของจักรวรรดิควินแบรนด์ในคฤหาสน์ของมาร์ควิส ทำให้ได้พบกับอุลเค็นอีกครั้ง
“เอ๊ะ เอ๋!? คุณอุลเค็นที่ว่าเนี่ย เป็นหัวหน้ากิลด์ของพอนด์หรือคะ!? คิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่รับซื้อวัตถุดิบซะอีก! แล้วสปายของควินแบรนด์? เอ๊ะ? เอ๊ะ?”
พอลล่าแสดงความสับสนออกมา ดูเหมือนอุลเค็นจะทำการประเมินวัตถุดิบในกิลด์นักผจญภัยของพอนด์ด้วย
“เอาเถอะ ตบมุกได้เยี่ยมมาก ยังไงก็ตาม”
“อย่าตัดจบโดยบอกว่า ‘ยังไงก็ตาม’ สิคะ……!”
“เกี่ยวกับคนที่ตามล่าลาเวียพอจะจัดการได้อยู่ แถมอุลเค็นบอกว่าจะไปจัดการกับราชาโดยตรงเองด้วย ทำให้ผมไม่ต้องไปต่อยราชาแล้วด้วย”
“ท่านฮิคารุ……นี่คิดจะไปต่อยฝ่าบาทจริงๆหรือคะ”
แน่นอนอยู่แล้ว ต้องตอบโต้ให้สาสมกับการที่กล้ามายุ่งกับลาเวีย
ที่ยอมตัดใจจากสิ่งนั้นแล้วยกให้อุลเค็นเพราะเขาตั้งใจเอาชีวิตเข้าแลกด้วย
“คนที่ไล่ล่าฉัน……จะไม่มาแล้วเหรอ?”
“อือ คิดว่านะ ไหนจะมีเรื่องของอุลเค็นแถมกล็อกชลูทกับกราฟาสตี้เองก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้วด้วย ราชาคงยุ่งไปอีกสักพักเลย แล้วก็……”
จากข้อมูลที่ได้ฟังมาจากจตุรดาราแห่งบูรพา มันเป็นข้อมูลที่ความน่าเชื่อถือต่ำ เลยลังเลว่าควรจะพูดดีหรือเปล่า
โซริสบอก “ข้อมูลแลกเปลี่ยน” กับฮิคารุดังนี้
—-ดูเหมือน ฝ่าบาทจะโดนใช้ยาที่ผิดกฎหมายอยู่
โดยมันจะทำให้เห็นภาพหลอนแล้วดึงความรู้สึกเป็นสุขออกมาแล้วแทนที่ความวิตกกังวล เพราะอย่างนั้นเลยทำการบุกรุกจักรวรรดิควินแบรนด์ ส่วนช่องทางของมูลของโซริสได้มาจากคนรับใช้ที่ทำงานอยู่ภายในวัง
ทั้งฮิคารุและจตุรดาราแห่งบูรพาเองก็ไม่รู้—-ว่าการที่พระราชาตื่นตระหนกจากการที่ฮิคารุปล่อยให้หน่วยพิเศษ 1 คนมีชีวิตกลับไปก็เพราะยาตัวนั้นด้วย แต่คนที่ให้ยานั้นอย่างหัวหน้ามหาดเล็กก็คัดเลือกคนที่จะมาดูแลรักษาราชาและย้ำกำชับไม่ให้ความลับนี้หลุดออกไปข้างนอก
“แล้วไงต่อเหรอ?”
“อ้อ เปล่าหรอก ไม่ใช่ข้อมูลสำคัญสักเท่าไร ถึงอย่างนั้นคิดว่าลาเวียคงปลอดภัยแล้วแหละ”
“……เหรอ”
“ดีจังเลยนะคะ!!”
“แล้วทำไมพอลล่าถึงดีใจกว่าเจ้าตัวอย่างลาเวียล่ะ?”
พอฮิคารุคิดสงสัยอย่างนั้น ลาเวียกับพอลล่าก็สบตากันก่อนจะยิ้มเล็กยิ้มน้อยออกมา ในระหว่างที่ฮิคารุไม่อยู่ ดูเหมือนมิตรภาพระหว่างสองสาวจะแน่นแฟ้นขึ้นอยู่
“แล้วเกิดอะไรขึ้นกับฮิคารุเหรอ? ถ้าจบเรื่องได้เร็วน่าจะรีบกลับมาไม่ใช่เหรอ?”
“อ้อ จริงๆแล้วมุ่งหน้าไปที่เมืองหลวงของควินแบรนด์น่ะ”
“ควินแบรนด์?”
“อุลเค็นฝากให้ไปส่งจดหมายกับจักรพรรดิน่ะ เลยใช้เวลานานไปหน่อย”
“……หรือว่าฮิคารุ ไม่ใช่แอบย่องเข้าไปในห้องนอนของจักรพรรดิหรอกนะ?”
“เอ๊ะ? ก็แอบย่องเข้าไปอยู่หรอก?”
ลาเวียกับพอลล่าตกตะลึงกับคำตอบของฮิคารุ
“ถ้าไม่ทำอย่างนั้นมันก็ใช้เวลานานสิ แล้วไม่สามารถยืนยันได้ด้วยว่าจดหมายนี้เป็นของอุลเค็นจริงหรือเปล่า เดิมทีผมเองก็ไม่รู้ด้วยว่าต้องทำยังไงถึงจะได้เข้าพบจักรพรรดิ”
“เรื่องนั้น—-มันก็ใช่อยู่หรอก……”
“คุณลาเวีย……ท่านฮิคารุเป็นคนอย่างนี้แหละค่ะ……”
“อือ……คิดตามสามัญสำนึกไม่ค่อยได้ด้วยนี่สิ”
“อย่าบอกว่าคนอื่นมันหลุดสามัญสำนึกสิ”
ผิดคาดอยู่ ลาเวียเองน่าจะรู้อยู่แล้วว่าฮิคารุเคยแอบย่องไปพบกับราชินีของประเทศนี้โดยตรงมาแล้ว
แต่เพราะพอลล่าอยู่เลยไม่พูดออกไป
“ใช่แล้ว ได้รางวัลมาตอนเอาจดหมายกับบอกข้อมูลด้วย”
ฮิคารุหยิบกล่องจดหมายที่มีเชือกผูกเอาไว้ออกมาจากกระเป๋า
“นี่อะไรเหรอ? เป็นหนังคุณภาพดีมากเลยนะเนี่ย”
ลาเวียแกะเชือกออก พอลล่าเองก็มองของที่อยู่ในมือลาเวียด้วยความสนใจเช่นกัน
“เห็นบอกว่าเป็น ‘กล่องจดหมายมังกรมิติ’ อะไรสักอย่างนี่แหละ”
“!?”
“พรวด!!”
ลาเวียเกือบทำ “กล่องจดหมายมังกรมิติ” ร่วง ส่วนพอลล่าถึงกับพ่นน้ำชาออกมา
“สกปรก……”
“เอ๊ะ เดี๋ยว แค่ก แค่กๆ”
“เมื่อกี้ฮิคารุผิดเต็มๆเลย!”
“เอ๊ะ? ทำไมล่ะ?”
“นะ นี่เหรอ ‘กล่องจดหมายมังกรมิติ’ ที่ว่า!?
“จักรพรรดิบอกไว้อย่างนั้นน่ะ”
ลาเวียเอากล่องจดหมายวางไว้บนโต๊ะ—-ราวกับมันเป็นวัตถุระเบิด
“……ฉันคิดว่า ‘กล่องจดหมายมังกรมิติ’ จะมีอยู่แค่ในตำนานเท่านั้นไง”
“ฉันก็ด้วยค่ะ……”
“รอเดี๋ยว ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจด้วยสิ”
พอฮิคารุพูดอย่างนั้น ลาเวียก็ถอนหายใจออกมายาวๆ
“มันเป็นเรื่องเล่าการปราบมอนสเตอร์ของผู้กล้าในตำนานแห่งตะวันตก โดยของที่ได้มาดูเหมือนจะเป็น ‘กล่องจดหมายมังกรมิติ’ ไง”
“ตำนานเมืองบอกไว้ว่า ถ้า ‘กล่องจดหมายมังกรมิติ’ โผล่มาในงานประมูล คงเป็นของที่มูลค่าสูงสุดในประวัติการณ์เลยค่ะ……”
ลาเวียกับพอลล่าอธิบายออกมา
ที่ไม่รู้เรื่องดูเหมือนจะมีแค่ฮิคารุคนเดียว ช่วงนี้ฮิคารุพึ่งพาแต่แหล่งข้อมูลของเจ้าของร่างเดิมอย่างโรแลนด์ เลยไม่ได้หาข้อมูลอื่นๆนอกเหนือจาก “ศาสตร์ในการข้ามโลก” เลย
“เดี๋ยวสิ แต่มันใช้งานได้ยากอยู่นะ?”
ทำการเปิดฝาแล้วพลิกกลับ ทำให้ขนมปังที่กินค้างไว้ร่วงลงมา
“อ๊ะ ของกินเหลือเมื่อ 3 วันก่อน ลืมไว้ข้างในนี่เอง”
“ฮิคารุ……”
“ท่านฮิคารุ……สิ่งนี้เป็นสมบัติระดับประเทศเลยนะคะ……”
ทำไมถึงได้ทำหน้าเอือมอย่างนั้นกัน
ต้องพลิกของข้างในถึงจะออกมา แถมเวลายังผ่านไปตามปกติ สำหรับฮิคารุแล้วมันเป็นไอเทมที่ใช้งานได้ยาก ตามจริงแล้วจักรพรรดิคากุไรเองก็บอกอย่างนั้นเหมือนกัน
ตอนนั้นเองที่กระดิ่งดังบ่งบอกว่ามีแขกมาหา
“ดูเหมือนจะมีใครมาหาน่ะ”
“หือ……หรือว่ารีก?”
“ไม่รู้สิ ไม่กี่วันก่อนคุณคลอร์ดก็มาเหมือนกัน”
“ออกไปรับก่อนเถอะ”
ฮิคารุยืนขึ้น แล้วไปที่ประตูหน้า ตอนที่หาวเบาๆพร้อมกับเดินลงบันได—-ก็เห็นคนคุ้นหน้าตรงถนน
‘อาศัยอยู่ในเมืองแห่งการศึกษาเนี่ย—-วัยรุ่นจริงๆเลยนะ’
เซริก้า ทาโนะอุเอะ เธอพูดออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่น