อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต 158 อัศวินดำช็อปปิ้ง

ตอนที่ 158 อัศวินดำช็อปปิ้ง

 

พี่สาวชวนคัตสึมิซังออกเดตได้สำเร็จ

 

ความจริงที่เกิดขึ้นช่างเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับ

 

แต่ที่น่าแปลกกว่านั้นก็คือพี่สาวคนนั้นดันชวนฉันเข้าไปร่วมด้วยนี่แหละ

 

 

「นี่คุณพี่สาว」

 

「มีอะไรหรือคุณน้องสาว」

 

「ทำไมหนูถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ」

 

 

ว่ากันตามตรงถึงพี่สาวจะไม่ได้ชวนฉัน ฉันก็วางแผนไว้แล้วว่าจะแอบตามไปหากพวกเขาออกไปเที่ยวกัน….แต่สุดท้ายฉันก็มาอยู่กับพวกเขาที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมืองโตเกียวจนได้

 

 

 

「โห ใหญ่สุดๆ เลยวุ้ย เป็นครั้งแรกเลยที่ได้มาห้างใหญ่เบอร์นี้」

 

 

ใกล้ๆ ฉันมีคัตสึมิซังที่สวมชุดลำลองทั่วไปกำลังมองไปรอบๆ ด้วยความตื่นเต้น

 

ในขณะที่ฉันมองดูเขาเสียงกระซิบจากพี่สาว ผู้ยืนอยู่ในท่ากอดอกเหมือนรูปปั้นผู้พิทักษ์ก็พูดขึ้น

 

 

「น้องสาวเอ๋ย ในฐานะพี่สาวแล้วการแบ่งปันความสุขให้ก็ถือว่าเป็นหน้าที่ไม่ใช่หรือ?」

 

「แต่หน้าพี่แดงไปหมดแล้วนะ」

 

「ฉันไม่เคยแสดงใบหน้าแบบนั้นสักหน่อย」

 

「จะแถว่าวันนี้แดดมันแรงหรือไง」

 

「……ประมาณนั้น」

 

พี่สาวตัวดีคนนี้มันชวนทำให้คนอื่นหัวเสียกับคำพูดและการกระทำแปลกๆ ของเธอได้เสมอ แต่ในทางกลับกันพอโดนอีกฝ่ายรุกเข้าจริงๆ ก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน

 

 

แม้คัตสึมิซังจะไม่คิดว่านี่คือการออกเดต แต่สำหรับพี่แล้วมันคนละเรื่องกันเลย สภาพของเธอที่เดินเป็นวงกลมไปมารอบบ้านตลอดทั้งคืนยังติดตาฉันไม่หาย

 

 

『ฮารุจัง』

 

 

 

『นี่ ฮารุจัง』

 

 

 

『พรุ่งนี้ช่วยมาด้วยกันหน่อยสิ』

 

 

 

พี่สาวของฉันได้เอามือมาข่วนอยู่ที่หน้าประตูเพื่อเรียกฉันซึ่งอยู่ในห้อง ว่ากันตามตรงเหมือนโชคหล่นทับแปลกๆ ———แต่ก็ลืมไปว่านอกจากคัตสึมิซังแล้วก็มียัยพี่ตัวดีคนนี้ที่ต้องมาด้วยกันนี่หว่า และนั่นทำให้ฉันกังวลสุดๆ

 

สุดท้ายก็เลยพากันเดินไปมารอบบ้านจนเหมือนเป็นการทำพิธีกรรมประหลาดทั้งคืน แต่อย่างน้อยพอได้ออกไปพร้อมกันก็ไม่ต้องกลัวเรื่องสายแหละนะ

 

「ฮารุจังเอ๋ย จงคิดให้ดีๆ」

 

「หือ?」

 

 

ในขณะที่ฉันกำลังคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน พี่สาวที่สวมชุดลำลองออกมาเหมือนกันก็เรียกฉัน

 

 

 

「หากฉันกับฮารุจังร่วมมือกัน พวกเราสองพี่น้องแข็งแกร่งที่สุด」

 

「พากันเรือหายสิไม่ว่า?」

 

「ฮารุจัง ดูเหมือนวันนี้เธอจะพูดรุนแรงกว่าปกติไปหน่อยไหม?」

 

 

แค่คิดว่าจะต้องคอยมาช่วยเหลือพี่สาวคนนี้จิตใจของฉันมันก็ย่ำแย่สุดๆ แล้ว

 

 

 

「อีกอย่างดูตรงนั้นสิ」

 

「คะ?」

 

 

ฉันหันไปมองยังทิศที่นิ้วของพี่สาวชี้ไป

 

ก่อนจะพบว่ามีสายตาสองคู่กำลังจ้องมองพวกฉันมาจากมุมมืดของตรอกแห่งหนึ่ง

 

อากาเนะซังกับคิราระซัง

 

 

『『……』』

 

 

 

「เชี้ย!?」

 

「คิดซะว่ามีเพื่อนตามมาดูแลแล้วกันเนอะ?」

 

「ไอ้แบบนั้นมันไม่ได้ช่วยให้สบายใจเลยเถอะ สภาพดูไม่ต่างอะไรกับตำรวจรอรวบคนร้ายเลยสักนิด!!」

 

 

แค่เห็นร่างของพวกเธอฉันก็ขนลุกซู่ไปทั้งตัวแล้ว เหมือนกำลังจะถูกขบวนร้อยอสูรลากลงหลุมเลย

 

ฉันหันหน้าไปมองพี่สาวที่อยู่ดีๆ ก็เอามือมาคว้าไหล่ของฉันเอาไว้

 

 

「ฮารุจังรู้ตัวหรือยังว่าตัวเองก็ตกเป็นเป้าด้วย?」

 

「หนูตกเป็นเป้า?!」

 

「ฟุมุมุมุ」

 

 

ยัยพี่บ้านี่สุดท้ายก็แค่ลากฉันมาหารนี่หว่า?!

 

บ้าที่สุดดดดด อากาเนะซังกับคิราระซังตอนนี้ทำตัวเป็นวิญญาณอาฆาตใส่ฉันด้วยแล้วเหรอ?!

 

ในขณะที่ฉันบีบแก้มของพี่ด้วยมือทั้งสอง คัตสึมิซังก็เหมือนจะเห็นความผิดปกติเลยเข้ามาถาม

 

 

 

「มีอะไรกันน่ะฮารุ…ว่าแต่เมื่อกี้มองไปตรงไหนกัน?」

 

「อ่ะ เอ่อ คือ…」

 

 

เมื่อคัตสึมิซังมองไปยังตรอกที่ทั้งสองอยู่ก่อนหน้านี้ ก็ไม่พบร่องรอยของใครแล้ว

 

เป็นมือสังหารหรือยังไงกันพวกเธอสองคน?!

 

 

「……」

 

「คะ คัตสึมิซัง———」

 

 

ในขณะที่ฉันกำลังพยายามเรียกคัตสึมิซังที่จ้องมองไปยังตรอกมืด เขาก็รีบหันมาหยุดฉันเอาไว้ก่อน

 

 

「ฮารุ ตอนอยู่ข้างนอกให้เรียกฉันว่าคัตสึกิเถอะ เพราะชื่อจริงอาจจะดึงดูดคนอื่นได้」

 

「อ่ะ จริงด้วยสิ แล้วคัตสึกิซัง ไม่ปลอมตัวมาให้มากกว่านี้สักหน่อยจะดีเหรอคะ?」

 

 

พอฉันถามไปคัตสึมิซังก็พยักหน้าแล้วอ๋อราวกับเข้าใจที่ฉันอยากจะถาม

 

ฉันกับพี่ไม่จำเป็นต้องปลอมตัวก็จริง แต่คัตสึมิซังมีคนรู้จักทั้งญี่ปุ่น ไม่สิทั้งโลก ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องปลอมตัวเมื่อออกมาข้างนอก

 

แต่พอเห็นว่าสิ่งที่เขาสวมมาวันนี้มีเพียงแว่นตาดำกับหมวกอันหนึ่ง จึงแอบสงสัยว่ามันเพียงพอจริงเหรอ

 

 

 

「ไม่เป็นไรหรอก คนปกติเขาก็ไม่คิดจะมาจ้องหน้าดึงแว่นตาชาวบ้านออกหรอก แค่นี้ก็พอแล้วแหละ」

 

「บะ แบบนี้นี่เอง」

 

「อีกอย่างในกรณีฉุกเฉิน โปรโตกับชิโระก็สามารถจัดการพลางตัวฉันด้วยแสงได้ด้วย」

 

 

 

โปรโตจังตอนนี้กลายร่างกลับเป็นนาฬิกาสีดำติดอยู่ตรงข้อมือของคัตสึมิซัง ส่วนชิโระจังในร่างหมาป่าสีขาวก็โผล่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเขา

 

ว่ากันตามตรงฉันว่าพวกเธอนี่แหละคือบอดี้การ์ดที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้

 

 

「การขอออกไปเที่ยวข้างนอกก็ง่ายจนน่าประหลาดใจจริงๆ」

 

「นั่นสินะคะ ง่ายจนน่าตกใจ……」

 

「ประธานบอกว่า นักรบก็ต้องการการพักผ่อน」

 

 

ประธานเป็นคนใจกว้างจริงๆ ด้วย

 

ทั้งการจัดการความเสี่ยงพื้นฐานและดูแลคนในองค์กรไม่ว่าจะอันไหนก็สุดยอด

 

 

「ถึงจะบอกแบบนั้นพวกเรมะก็คงคอยจับตาดูฉันเพราะเป็นห่วงจากที่ไกลๆ อยู่ดีแหละ เอาล่ะ เข้าไปข้างในห้างกันเถอะ」

 

「อื้อ」

 

「ค่ะ」

 

 

เป้าหมายคราวนี้ก็คือค้นหางานอดิเรกของคัตสึมิซัง

 

ถึงแรงกดดันจากอากาเนะซังกับคิราระซังจะน่ากลัวไปบ้าง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า

 

***

葵に誘われ、モールと呼ばれる都内のデカい建物に遊びに行くことになった。

 

หลังถูกอาโออิชวนมาเที่ยว พวกฉันก็ตัดสินใจเดินทางกันมาที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่กลางโตเกียว

 

พูดกันตามตรงห้างที่ใหญ่ขนาดนี้น่าจะเคยมาแค่ตอนกำลังเด็ก แถมความทรงจำก็เลือนลางสุดๆ

 

สำหรับฉันนั่นคือความทรงจำที่ดี ความทรงจำที่ได้ใช้เวลาร่วมกับพ่อแม่ แต่ก็เอาเถอะเรื่องมันผ่านมาแล้วตอนนี้ก็ขอสนุกกับการเที่ยวเล่นละกัน

 

 

 

「ว่าแต่ที่นี่มีพวกวิดีโอหนังขายไหมนะ?」

 

「มันก็มีอยู่หรอก แต่คัตสึ….กิคุง ทำไมนายไม่จ่ายแบบซับบนแอพเอาล่ะ?」

 

「ซับ?」

 

 

มันเป็นชื่ออาหารเสริมเหรอ?

 

อาโออิพูดเสริมเมื่อเห็นฉันทำท่าสงสัย

 

 

「สมัครสมาชิกแอพน่ะ….มันย่อมาจากSubscription」

 

「ถ้าเธอใช้คำใหม่ๆ ฉันตามไม่ทันนะเออ ว่าแต่สมัครแล้วมันได้อะไรเหรอ?」

 

 

มันเป็นการบริจาคเงินเพื่อให้เขาสร้างหนังอะไรทำนองนั้นไหมหว่า หรือมันจะเหมือนสมัครเอาหนังสือพิมพ์?

 

 

「มันคือการจ่ายเงินให้กับเว็บหรือแอพที่เป็นตัวแทนฉายหนังน่ะ โดยนายสามารถดูหนังภายในนั้นได้มากเท่าที่ต้องการเลย」

 

「…….เอาจริงดิ แต่มันสะดวกขนาดนั้นเลยเหรอ แบบนี้ค่าสมัครต่อเดือนมันจะไม่ปาไปหลายหมื่นเลยหรือไง」

 

 

สามารถดูหนังได้เท่าที่ต้องการเนี่ยนะ

 

การซื้อแผ่นหนังสักเครื่องก็หลายพันเยนแล้ว

 

การจะดูแบบไม่อั้นได้ยังไงราคาสมัครสมาชิกมันก็ต้องเกินหมื่นแหง

 

 

「เปล่าเลย ไม่ถึงพันเยนด้วยซ้ำ」

 

「อ้อ มันเป็นแบบต่อวันสินะ」

 

「เดือนละพันเยน」

 

「เดือนละพันเยน!?」

 

 

ไม่จริงน่า

 

นี่มันผิดปกติสุดๆ เลยไม่ใช่หรือไง?!

 

แม้ฉันจะไม่ได้รู้จักโลกภาพยนตร์ดีนัก แต่เข้าไปดูหนังสักเรื่องอย่างน้อยในกระเป๋าก็ต้องมีสัก 1500 เยนแล้วนะ

 

 

 

「อันนี้เป็นแอพที่ฉันสมัครไว้」

 

 

อาโออิเปิดรายการหนังบางส่วนภายในโทรศัพท์ของเธอให้ฉันดู

 

 

 

ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจทำไมมันมีแต่หนังแนวฉลามก็เถอะ แต่บางเรื่องฉันรู้จักเพราะพวกพนักงานเคยแนะนำให้ดู

 

「ว่าแต่ ฮารุที่พี่สาวเธอบอกนั่นจริงเหรอ?!เราสามารถดูหนังทั้งเดือนได้แบบไม่จำกัดด้วยเงินไม่ถึงพันเยนเนี่ยนะ?!แล้วพวกเขาจะหากำไรจากที่ไหนกัน เป็นโรงงานนรกหรือไง?!」

 

「……」

 

「ฮารุจัง ยิ้มจนปากจะฉีกแล้วนะ ไหวไหมนั่น?」

 

「เอ๋ เปล่าสักหน่อย」

 

「ชักจะเริ่มกังวลเกี่ยวกับอนาคตของฮารุจังจริงๆ」

 

 

การกดสมัครสมาชิกนี่มันจะเกิดไปหน่อยไหม

 

คงต้องไปบอกให้ฮาคัวกับอัลฟ่ารู้แล้วสิ

 

 

 

「เอาเป็นว่าเลิกเคยกันเรื่องสมัครสมาชิกแล้วไปที่ร้านหนังสือกันดีกว่า」

 

「ร้านนั้นก็แล้วกัน」

 

 

ฉันเช็ดหน้าผากและชวนให้พวกเธอไปร้านหนังสือ อาโออิก็เลยชี้ไปยังร้านหนังสือแห่งหนึ่ง

 

 

「ทั้งสองคนมาที่นี่กันบ่อยเหรอ?」

 

「ก็ไม่ได้บ่อยขนาดนั้น」

 

「ของฉันมักจะไปร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อดูอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับPCมากกว่าค่ะ」

 

 

จะว่าไปตอนที่เข้าห้องของฮารุไปคราวก่อนเพราะแผนของอาโออิก็จำได้ว่ารอบห้องเธอมีแต่อุปกรณ์แปลกๆ เยอะเลยนี่เนอะ

 

แม้จะไม่เข้าใจว่ามันทำอะไรบ้างก็เถอะ

 

 

「ร้านหนังสือ ถึงแล้ว」

 

「ใหญ่เหมือนกันวุ้ย」

 

 

อาจจะเป็นเพราะวันนี้คือวันหยุด คนก็เลยอยู่กันแน่นร้านไปหมด

 

แต่อย่างน้อยก็ไม่มีใครสังเกตเห็นฉัน ฉันจึงเดินไปหาหนังสือดีๆ สักเล่มจากชั้นวาง

 

 

 

「คัตสึกิคุง…จำได้ว่าชอบแนวลี้ลับ」

 

「อ้อ…มันก็ใช่อยู่หรอก แต่เอาจริงๆ ฉันก็ไม่ได้มีแนวที่ชอบเฉพาะหรอก จะเป็นแนวอื่นก็ได้ถ้ามันน่าสนใจ….ยกเว้นพวกสยองขวัญ」

 

「รับทราบ」

 

 

แน่นอนว่าฉันก็ไม่คิดจะฝากทุกอย่างไว้กับอาโออิแล้วก็หาเองด้วย

 

การได้มาดูหนังสืออ่านเองแบบนี้ครั้งล่าสุดก็คงเป็นตอนหายืมหนังสือมาจากห้องสมุดโรงเรียนละมั้ง

 

 

「……หื้ม」

 

 

จะมีพวกหนังสือแนวแบบทดสอบสมองอะไรทำนองนั้นไหมนะ?

 

หากได้ของอย่างพวกซูโดกุสักเล่มน่าจะช่วยฆ่าเวลาได้ดี

 

「คัตสึมิน คัตสึมิน」

 

「ถึงจะไม่ใช่คัตสึมิ แต่เรียกคัตสึกิเถอะ」

 

 

อาโออิวิ่งเข้ามาหาฉันพร้อมกับหนังสือในมือ

 

 

「นิยายแนวสอบสวนซึ่งคนร้ายคือผู้พิพากษาที่สวมแว่น」

 

「นี่หล่อนเอาจริงใช่ไหม……?」

 

 

เป็นการแนะนำหนังสือที่โหดร้านเกินไปหรือเปล่า?

 

คนปกติที่ไหนเขาจะมาแนะนำหนังสือแนวสืบสวนโดยบอกตัวคนร้ายให้ตั้งแต่แรกเลยล่ะเห้ย?

 

 

 

「ล้อเล่น เรื่องนี้ไม่มีผู้พิพากษา」

 

「บางทีฉันก็ขำไม่ออกกับเธอนะ」

 

「แต่เป็นอัยการแทน」

 

「หา……?」

 

 

ไอ้แบบนี้ถ้าฉันอ่านหนังสือเล่มนี้ ทุกฉากที่มีอัยการโผล่มามันจะไม่ทำให้ฉันหลอนเลยเหรอว่าหมอนี่อาจจะเป็นคนร้าย?

 

จากนั้นฉันก็หยิบหนังสือดังกล่าวมาดู พอให้เห็นชื่อเรื่องตรงหน้าปกแก้มของฉันถึงกับกระตุก———

 

 

 

「ไซบีเรียนฮัสกี้….?」

 

 

 

……。

 

 

 

「นี่เธอใช้หลักอะไรในการเลือก!?」

 

「เห็นว่าหน้าเหมือนกัน」

 

「จะไปว่าหล่อนก็เคยบอกสินะว่าหน้าของฉันมันเหมือนหมาพันธุ์นี้…..」

 

 

การเรียกคนว่าหน้าเหมือนหมามันไม่หยาบคายไปหน่อยหรือไง?

 

อย่างไรก็ตามหนังสือเล่มนี้ก็น่าสนใจระดับหนึ่งเพราะมันติดป้ายหนังสือแนะนำเอาไว้ด้วย ดังนั้นซื้อไปละกัน

 

 

「ที่เหลือก็เล่มนั้นสินะ…」

 

「หือ?」

 

「วิธีเลี้ยงน้องหมา」

 

「นี่เธอตั้งใจจะให้ฉันเลี้ยงหมาหรือไง?」

 

「ฉันมั่นใจว่านายจะเป็นคนเลี้ยงที่ดี」

 

 

แล้วหล่อนไปเอาความมั่นใจมาจากไหนฟะ

 

「ก่อนอื่นฉันไม่มีหมาสักหน่อย」

 

『ก็พวกเราไง』

 

『โฮก……』

 

「คงนับพวกเธอไม่ได้หรอก นอกจากนี้ฉันก็มีคิโนโกะอยู่แล้วด้วยสิ」

 

『『!?』』

 

「แต่คิโนโกะมันเป็นหมาของอากาเนะไม่ใช่เหรอ?」

 

 

ช่วงนี้ฉันพาคิโนโกะไปเดินบ่อยๆ ด้วยสิ

 

ก็จริงว่าพาไปเดินข้างนอกได้ไม่บ่อยนัก แต่ถ้าเป็นภายในสำนักงานใหญ่ที่กว้างขวางก็เรียกได้ว่าประจำ

 

 

「คัตสึกิซัง」

 

「ฮารุเองก็หามาเหรอ?」

 

「ค่ะ เล่มนี้!」

 

 

หนังสือที่ฮารุนำมาให้ฉันเป็นนิยายเล่มใหญ่กว่าฝ่ามือนิดหน่อย และมีรูปตัวละครแนวอนิเมะอยู่ตรงหน้าปก

 

 

 

「มันคือไลท์โนเวลค่ะ! ฉันคิดว่าคัตสึกิซังไม่น่าจะเคยอ่านเรื่องทำนองนี้มาก่อน」

 

「เข้าใจแล้ว….ขอบคุณมาก ฉันจะลองซื้อมาอ่านดู」

 

 

ไลท์โนเวลงั้นเหรอ?

 

 

「……หือ?」

 

ระหว่างนั้นสายตาของฉันก็สังเกตเห็นหนังสือเล่มหนึ่งบนชั้นวาง

 

หนังสือปกดำ ที่ติดตัวหนังสือขนาดใหญ่ว่า 【ความลับของอัศวินดำ?!】 แค่ชื่อเรื่องมันก็สะกดสายตาของฉันเอาไว้แล้ว

 

 

「อิหยังวะเนี่ย」

 

【อัศวินดำคือเจตจำนงแห่งดาวโลก】

 

 

เพื่อจะเริ่มคุยกันถึงเรื่องนี้พวกเราคงต้องกลับไปพูดเรื่องของสัตว์ประหลาดเสียก่อน

 

สัตว์ประหลาดคืออะไรกัน

 

เมื่อทีมงามของพวกเราได้รวบรวมข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เป็นไปได้ว่าพวกสัตว์ประหลาดคือผู้รุกรานที่กำเนิดมาจากนอกโลก

 

 

หรือก็คือพวกเอเลี่ยนในอวกาศคือสัตว์ประหลาดนั่นเอง

 

แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของมันจะเป็นเหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาบนโลก แต่ระบบนิเวศของมันนั้นผิดเพี้ยนเกินไปและเป้าหมายของพวกมันที่ต้องการฆ่าล้างมนุษย์โลกก็แปลกเกินไป

 

มนุษย์โลกคือเผ่าพันธุ์ที่ได้รับการปรับแต่งพันธุกรรมโดยสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว

 

มนุษย์โลกคือตัวตนที่ได้รับการปกป้องจากสิ่งมีชีวิตต่างดาว

 

ความจริงแล้วสิ่งมีชีวิตต่างดาว หาได้มีสติปัญญาสูงกว่ามนุษย์โลก

 

สิ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในสมมติฐานมากมายที่กล่าวถึงสิ่งมีชีวิตต่างดาว แต่เป้าหมายที่ต้องการจะบอกก็คือ สิ่งมีชีวิตที่ผิดปกติทั้งหลายล้วนกำเนิดมาจากนอกโลกของเรา

ทีนี้กลับมาเข้าประเด็นก่อน

 

อัศวินดำคือนักรบแห่งดาวโลกที่กำเนิดมาเพื่อกำจัดสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่เราเรียกกันว่าสัตว์ประหลาดซึ่งหมายจะกลืนกินดาวโลก

 

เหตุผลที่เขาถือกำเนิดมาเพราะดาวโลกเห็นว่าประสิทธิภาพของอาวุธที่พวกเรามีในปัจจุบันไม่สามารถทำอะไรกับสัตว์ประหลาดได้

 

มีความเป็นไปได้สูงว่าอัศวินดำผู้สามารถต่อสู้กับเหล่าสัตว์ประหลาดได้อย่างง่ายดาย จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างออกไปจากชาวโลกปกติ ไหนจะสูทที่เขาใช้งานซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เกินความวิทยาศาสตร์ของดาวโลกในปัจจุบันจะอธิบายได้

「นี่มันบ้าอะไรฟะ」

 

 

ทำไมหนังสือเล่นนี้มันถึงได้เขียนเหมือนชักแม่น้ำทั้ง 5 มารวมกันให้ดูน่าเชื่อถือ แต่มันเป็นข้อมูลปลอมหมดเลยละเห้ย…..

 

 

แล้วฉันก็กลับมาดูหน้าปกอีกรอบ ไม่ว่าจะมองมุมไหนมันก็เหมือนหนังสือล่อเป้าชัดๆ

 

 

「โอ้ เล่มนี้ฉันตามเก็บอยู่นะ」

 

 

อาโออิพูดขึ้นหลังเห็นหนังสือที่อยู่ในมือฉัน

 

 

「ไอ้นี่มัน……」

 

「หนังสือแนวให้ความบันเทิงเกี่ยวกับการไล่ตามความลับของอัศวินดำ」

 

「ความลับของฉัน……? ถามจริง……?」

 

 

แต่ไอ้ที่เขียนในนั้นมันไม่ใช่ความลับสักอย่างของฉันเลยนะเห้ย

 

เจตจำนงแห่งดาวโลกบ้านใครฟะ

 

 

「นี่คนอื่นคิดกับฉันแบบนี้จริงดิ……」

 

「หนังสือเล่มนี้ถูกตีพิมพ์ไว้นานแล้ว ดังนั้นข้อมูลก็เลยอาจจะเก่าไปสักหน่อยน่ะ」

 

「ใช่แล้วค่ะ สำหรับคนที่หลงใหลในอัศวินดำตอนนั้นฉันเดาว่าคงจะเชื่อเรื่องที่ในหนังสือเขียนแน่ๆ」

 

 

ฉันเริ่มเข้าใจแล้วว่าคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับฉันไปมากแค่ไหน

 

ฉันวางหนังสือกลับไปที่ชั้นวางพลางทำใจว่ามันไม่ใช่เรื่องของฉัน———ก่อนที่ฉันจะเหลือบไปเห็นบางสิ่งใกล้ๆ

 

 

『ความจริงเกี่ยวกับอัศวินดำ!』

 

『ใกล้ชิดกับอัศวินดำⅡ!!』

 

『วิเคราะห์! สารานุกรมอัศวินดำ!!』

 

 

 

「……」

 

 

เอาเป็นว่าฉันไม่เห็นมันก็แล้วกัน

 

ฉันเดินจากชั้นวางหนังสือตรงนั้นออกมาพร้อมกับอาการขนลุกอย่างบอกไม่ถูก

 

—จบ—

 

อาโออิต้องการคนหารหลังจบเรื่อง ซึ่งน้องสาวคือตัวเลือกที่ดี

อาโออิชอบชาร์คนาโดแหง

 

  มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ  และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

 

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

Score 10
Status: Completed
คัตสึมิ โฮมุระ วายร้ายที่รู้จักกันในนาม อัศวินดำ ชายผู้คิดว่าตัวเองคือวายร้ายแสนโฉดชั่ว เมื่อพ่ายแพ้ให้กับฝั่งฮีโร่เขาก็ถูกจับตัวไป ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ใช่คุกหรือพวกตำรวจ แต่กลับเป็นขุมนรกที่ตัวเขาเกินจะคาดฝันแทนซะอย่างงั้น โลกที่ขบวนการเซ็นไตมีอยู่จริง เรื่องราวของอัศวินดำจอมวายร้ายที่มีสามัญสำนึกผิดแปกและถูกคนธรรมดาเข้าใจผิดมาโดยเสมอ บัดนี้เขากำลังจะถูกลากเข้าขบวนการเซ็นไตเสียแล้ว ※ผลงานชิ้นนี้กาวล้วนๆไม่มีเกลือผสม

Options

not work with dark mode
Reset